ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังภาคจบของไตรภาค Maze Runner เพราะด้วยธุระที่ต้องทำและความยาวของหนังสองชั่วโมงครึ่ง มันทำให้ไม่มีเวลาพอจะดูตั้งแต่วันแรกๆ ที่หนังเข้า แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วแหละว่าต้องดู เพราะผมชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรกที่ทำได้สนุกและน่าติดตาม ส่วนภาคสองตอนที่ดูก็รู้สึกว่าหนังมันยืดยาดไหน่อย แต่พอมาดูภาคสามถึงได้รู้ว่า ทำไมภาคสองถึงต้องปูอะไรเยอะแยะมากมายขนาดนั้น
ในภาคนี้ โทมัส ต้องนำทีมหนีเกลดเดอร์ในภารกิจสุดท้ายที่เสี่ยงตายที่สุด ในการช่วยชีวิตเพื่อนๆ พวกเขาต้องฝ่าเข้าไปใน Last City แห่งตำนานซึ่งเป็นวงกตที่ WCKD เป็นผู้ควบคุม ซึ่งอาจเป็นวงกตที่เสี่ยงตายที่สุดก็ว่าได้ ผู้ใดที่สามารถรอดชีวิตออกมาได้จะพบกับคำตอบที่เดอะ เกลดเดอร์เคยถามเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขามาเยือนวงกต
หนังเปิดมาภาคนี้อย่างมันส์ ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง แอ็คชั่นจัดมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยไม่ต้องเกริ่นอะไรเลย (อ้อ...ต้องบอกก่อนว่า ควรจะต้องดูหนังภาค 1 และ 2 มาก่อนนะครับ ไม่งั้นมาดูภาคนี้เลย งงแน่นอน) หนังลุยกันตั้งแต่ต้นเรื่องเกือบๆ ยี่สิบนาที ดูต้นเรื่องผมก็คิดแล้วว่า มันต้องมันส์แน่ๆ แล้วมันก็สนุกและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องจริงๆ
ผลของการปูเรื่องด้วยเนื้อหาเยอะแยะมากมายในภาคสอง มันมาเห็นผลในภาคนี้แหละ เพราะสิ่งที่หนังกล่าวถึงมันมีความสำคัญกับภาคนี้ทั้งหมดเลยล่ะ หนังเข้มข้นตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ ตลอดสองชั่วโมงครึ่งหนังน่าติดตามตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงกลางเรื่องจะมีบ้างที่แอบเนิบไปนิดนึง แต่นิดเดียวจริงๆ หลังจากนั้นก็มันส์ยาวเลย
ถ้าถามหาความสมเหตุสมผลของหนัง สำหรับผมมันไม่มีความสมเหตุสมผลเลยล่ะ เพราะหลายๆ ฉากหนังอวยฝ่ายพระเอกจนเกินงาม ดูอะไรอะไรมันง่ายผ่านได้ไปหมด เรียกว่าเอาใจช่วยกันแค่เบาๆ ก็ผ่านได้ละ แต่ถึงจะไม่สมเหตุสมผล แต่หนังก็ยังใส่เซอร์ไพร์สมาให้คนดูได้ลุ้นได้มันส์กันตลอด
ภาคนี้หนังใส่ดราม่าเข้ามาเยอะเหลือเกิน หลายคนชอบ แต่ส่วนตัวผมว่ามันเยอะไปนิด เอะอะซึ้งเอะอะเศร้า แต่ก็นะอย่างว่า หนังมันปูเรื่องความรักพวกพ้อง ความรักของหนุ่มสาวเอาไว้เยอะตั้งแต่สองภาคแรก พอมันมีอะไรมากระทบตรงจุดนี้ หนังก็เลยขยี้มันซะออกมาน้ำตาซึมเลยทีเดียว
สิ่งที่ผมชอบในหนังซีร่ย์นี้คือเรื่องของการกระจายความสำคัญให้ตัวละคร จากภาคแรกมาถึงภาคนี้ หนังก็ยังกระจายความสำคัญให้กับตัวละครได้ดีเหมือนเดิม ภาคนี้ถึง โทมัส จะเด่นจริง แต่ นิ๊วต์ กลับเด่นไม่เป็นรองกัน มินโฮ อาจจะไม่ได้เด่นเท่าไหร่ แต่โผล่มาในภาคนี้ ทำได้ดีทุกฉาก เทรีซ่า กับ เบรนด้า ก็มีบทบาทเด่นกันไปคนละด้าน และที่สำคัญ แกลลี่ กลับมาภาคนี้ก็มีความสำคัญกับทีมมาก ซึ่งเรียกว่าแทบจะทุกตัวละคคร มีบทบาทหมด ไม่มีคนไหนถูกลืม
ถ้าให้แนะนำว่าควรดูมั๊ย ของบอว่า คนที่ดูสองภาคแรกมา ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ภาคนี้เป็นภาคที่ปิดฉากทุกสิ่งอย่างด้วยบทสรุปที่ดีเลยทีเดียว ส่วนคนที่ไม่เคยดู ไปดูภาค 1-2 ก่อนแล้วจะอยากดูภาคนี้
ฝากเพจด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] The Maze Runner 3: The Death Cure ไข้มรณะ มันต้องอย่างงี้สิ ปิดฉากไตรภาคอย่างสวยงาม
ในภาคนี้ โทมัส ต้องนำทีมหนีเกลดเดอร์ในภารกิจสุดท้ายที่เสี่ยงตายที่สุด ในการช่วยชีวิตเพื่อนๆ พวกเขาต้องฝ่าเข้าไปใน Last City แห่งตำนานซึ่งเป็นวงกตที่ WCKD เป็นผู้ควบคุม ซึ่งอาจเป็นวงกตที่เสี่ยงตายที่สุดก็ว่าได้ ผู้ใดที่สามารถรอดชีวิตออกมาได้จะพบกับคำตอบที่เดอะ เกลดเดอร์เคยถามเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขามาเยือนวงกต
หนังเปิดมาภาคนี้อย่างมันส์ ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง แอ็คชั่นจัดมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยไม่ต้องเกริ่นอะไรเลย (อ้อ...ต้องบอกก่อนว่า ควรจะต้องดูหนังภาค 1 และ 2 มาก่อนนะครับ ไม่งั้นมาดูภาคนี้เลย งงแน่นอน) หนังลุยกันตั้งแต่ต้นเรื่องเกือบๆ ยี่สิบนาที ดูต้นเรื่องผมก็คิดแล้วว่า มันต้องมันส์แน่ๆ แล้วมันก็สนุกและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องจริงๆ
ผลของการปูเรื่องด้วยเนื้อหาเยอะแยะมากมายในภาคสอง มันมาเห็นผลในภาคนี้แหละ เพราะสิ่งที่หนังกล่าวถึงมันมีความสำคัญกับภาคนี้ทั้งหมดเลยล่ะ หนังเข้มข้นตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ ตลอดสองชั่วโมงครึ่งหนังน่าติดตามตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงกลางเรื่องจะมีบ้างที่แอบเนิบไปนิดนึง แต่นิดเดียวจริงๆ หลังจากนั้นก็มันส์ยาวเลย
ถ้าถามหาความสมเหตุสมผลของหนัง สำหรับผมมันไม่มีความสมเหตุสมผลเลยล่ะ เพราะหลายๆ ฉากหนังอวยฝ่ายพระเอกจนเกินงาม ดูอะไรอะไรมันง่ายผ่านได้ไปหมด เรียกว่าเอาใจช่วยกันแค่เบาๆ ก็ผ่านได้ละ แต่ถึงจะไม่สมเหตุสมผล แต่หนังก็ยังใส่เซอร์ไพร์สมาให้คนดูได้ลุ้นได้มันส์กันตลอด
ภาคนี้หนังใส่ดราม่าเข้ามาเยอะเหลือเกิน หลายคนชอบ แต่ส่วนตัวผมว่ามันเยอะไปนิด เอะอะซึ้งเอะอะเศร้า แต่ก็นะอย่างว่า หนังมันปูเรื่องความรักพวกพ้อง ความรักของหนุ่มสาวเอาไว้เยอะตั้งแต่สองภาคแรก พอมันมีอะไรมากระทบตรงจุดนี้ หนังก็เลยขยี้มันซะออกมาน้ำตาซึมเลยทีเดียว
สิ่งที่ผมชอบในหนังซีร่ย์นี้คือเรื่องของการกระจายความสำคัญให้ตัวละคร จากภาคแรกมาถึงภาคนี้ หนังก็ยังกระจายความสำคัญให้กับตัวละครได้ดีเหมือนเดิม ภาคนี้ถึง โทมัส จะเด่นจริง แต่ นิ๊วต์ กลับเด่นไม่เป็นรองกัน มินโฮ อาจจะไม่ได้เด่นเท่าไหร่ แต่โผล่มาในภาคนี้ ทำได้ดีทุกฉาก เทรีซ่า กับ เบรนด้า ก็มีบทบาทเด่นกันไปคนละด้าน และที่สำคัญ แกลลี่ กลับมาภาคนี้ก็มีความสำคัญกับทีมมาก ซึ่งเรียกว่าแทบจะทุกตัวละคคร มีบทบาทหมด ไม่มีคนไหนถูกลืม
ถ้าให้แนะนำว่าควรดูมั๊ย ของบอว่า คนที่ดูสองภาคแรกมา ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ภาคนี้เป็นภาคที่ปิดฉากทุกสิ่งอย่างด้วยบทสรุปที่ดีเลยทีเดียว ส่วนคนที่ไม่เคยดู ไปดูภาค 1-2 ก่อนแล้วจะอยากดูภาคนี้
ฝากเพจด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/