สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
คนเราน่ะ เห็นดีเห็นชั่ว ไม่ยากหรอกครับ
ทำอะไร หากไม่ดีไม่งาม ไม่เหมาะ ก็แสดงความรับผิดชอบ หรือให้เหตุผล
ทำเพราะอะไร มีเหตุผลอะไร ทำไมถึงทำอย่างนั้น (อย่างผมด่าใครนี่ ผมให้เหตุผลดี ๆ ได้เสมอ)
หากอธิบายไปแล้ว เจอเหตุผลที่ดีกว่า ก็ยอมรับ แสดงความรับผิดชอบ
แบบเพื่อนสมาชิกหลายคนเขาทำกัน เช่น บางคนพักการเล่นบอร์ดสักระยะ บางคนประกาศขอโทษ ฯลฯ
แต่บางคนนั้น สำนึกผิดชอบชั่วดีไม่มี
ไม่เคยรับผิดชอบอะไร แล้วก็อย่างนี้ คือ หายหัวไปสักพัก อ้างว่าหยุดแล้ว เพื่อใช้เป็นข้ออ้างไม่ต้องรับผิดชอบ
พอโดนเรียกร้องให้รับผิดชอบมากเข้า ก็โผล่ออกมาอาละวาดอีก อ้างว่าโดนกระทำ
นี่เรียกว่า วิสัยคนพาล ไม่เคยเห็นผิดของตน หลงว่าตนดีกว่าคนอื่น ทั้งที่ไม่ได้มีดีอะไรเลย
อวดรวย ทั้งที่หนี้ท่วมหัว แสดงความเป็นอันธพาลเพื่อกลบเกลื่อนความขลาดของตัวเอง
ท้านั่นท้านี่ไปทั่ว แต่เชื่อเหอะ พอถึงวัน ไม่หายหัว ก็ป่วย
ทำอะไร หากไม่ดีไม่งาม ไม่เหมาะ ก็แสดงความรับผิดชอบ หรือให้เหตุผล
ทำเพราะอะไร มีเหตุผลอะไร ทำไมถึงทำอย่างนั้น (อย่างผมด่าใครนี่ ผมให้เหตุผลดี ๆ ได้เสมอ)
หากอธิบายไปแล้ว เจอเหตุผลที่ดีกว่า ก็ยอมรับ แสดงความรับผิดชอบ
แบบเพื่อนสมาชิกหลายคนเขาทำกัน เช่น บางคนพักการเล่นบอร์ดสักระยะ บางคนประกาศขอโทษ ฯลฯ
แต่บางคนนั้น สำนึกผิดชอบชั่วดีไม่มี
ไม่เคยรับผิดชอบอะไร แล้วก็อย่างนี้ คือ หายหัวไปสักพัก อ้างว่าหยุดแล้ว เพื่อใช้เป็นข้ออ้างไม่ต้องรับผิดชอบ
พอโดนเรียกร้องให้รับผิดชอบมากเข้า ก็โผล่ออกมาอาละวาดอีก อ้างว่าโดนกระทำ
นี่เรียกว่า วิสัยคนพาล ไม่เคยเห็นผิดของตน หลงว่าตนดีกว่าคนอื่น ทั้งที่ไม่ได้มีดีอะไรเลย
อวดรวย ทั้งที่หนี้ท่วมหัว แสดงความเป็นอันธพาลเพื่อกลบเกลื่อนความขลาดของตัวเอง
ท้านั่นท้านี่ไปทั่ว แต่เชื่อเหอะ พอถึงวัน ไม่หายหัว ก็ป่วย
ความคิดเห็นที่ 42
ขอยกเอาเม้นต์ย่อยมาแสดงในเม้นต์หลัก ให้พี่ขุนได้อ่าน เพื่อประเทืองปัญญา ขอรับ
ในสปอยล์ เป็นตัวอย่างการทำคดีของทนาย ที่ได้รับใบอนุญาตว่าความปี 2556
แต่ว่าความชนิด ทนายอาวุโส ต้องนำคำพิพากษาไปแชร์กันถล่มทลาย
ก่อนนำมาแชร์ในนี้ ผมได้ขออนุญาตท่านเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ ในเฟสบุคของท่านแล้วครับ
การทำคดีมันอยู่ที่ความรู้ สติปัญญา และพยานหลักฐาน ไม่ได้อยู่ว่าได้ใบอนุญาตมาแล้วกี่ปี หรือเป็นทนายมานานโข
ทนายใหม่ๆ หลายคน สอบเป็นเนติบัณฑิต เป็นผู้พิพากษา หรืออัยการได้ หรือว่าความได้ดี ชนิดกลับหลักคำพิพากษาฎีกา ก็มีอยู่มากมาย
ในวันสอบปากเปล่า เพื่อผ่านหลักสูตร ก่อนรับใบประกาศนียบัตร
ทนายความอาวุโส ผู้สอบปากเปล่า หลายท่านจะยิ้มและบอกกับผู้สอบ ทันทีที่สอบปากเปล่าเสร็จว่า " ตอนนี้คุณกับผมเท่ากันแล้ว"
นี่แหละ แม้แต่ทนายความอาวุโส ท่านยังให้เกียรติ และยกย่อง ทนายใหม่ ในฐานะบุคคลร่วมอาชีพอันมีเกียรติ
คนที่ไม่เป็นทนาย จะไม่มีวันเข้าใจในเรื่องนี้ได้ดียิ่งกว่าทนายอาชีพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เข้าใจว่าพี่ขุน คงจะไม่เคยพบพุทธโอวาท ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
ดูกรมหาบพิตร ของ ๔ อย่างเหล่านี้ ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่าเล็กน้อย ๔ อย่างเป็นไฉน ของ ๔ อย่างคือ
๑. กษัตริย์ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่ายังทรงพระเยาว์
๒. งู ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่าตัวเล็ก
๓. ไฟ ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่าเล็กน้อย
๔. ภิกษุ ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่ายังหนุ่ม
อ่านคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว ผมว่าคนคิดเป็น เขาคงไม่คิดปรามาสทนาย หรอกครับ
สำหรับผมเอง ผมเคารพและนับถือทนายความทุกท่าน กับทนายความอาวุโส ผมก็ให้ความเคารพ และกับทนายความใหม่ ผมก็ให้ความนับถือ
และถือเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ อันมีเกียรติทุกท่าน
เข้ามาแก้ไข โดยเรียงหน้าคำอุทธรณ์ และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ใน Spoil ให้ถูกต้องตามลำดับหน้าครับ
ในสปอยล์ เป็นตัวอย่างการทำคดีของทนาย ที่ได้รับใบอนุญาตว่าความปี 2556
แต่ว่าความชนิด ทนายอาวุโส ต้องนำคำพิพากษาไปแชร์กันถล่มทลาย
ก่อนนำมาแชร์ในนี้ ผมได้ขออนุญาตท่านเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ ในเฟสบุคของท่านแล้วครับ
การทำคดีมันอยู่ที่ความรู้ สติปัญญา และพยานหลักฐาน ไม่ได้อยู่ว่าได้ใบอนุญาตมาแล้วกี่ปี หรือเป็นทนายมานานโข
ทนายใหม่ๆ หลายคน สอบเป็นเนติบัณฑิต เป็นผู้พิพากษา หรืออัยการได้ หรือว่าความได้ดี ชนิดกลับหลักคำพิพากษาฎีกา ก็มีอยู่มากมาย
ในวันสอบปากเปล่า เพื่อผ่านหลักสูตร ก่อนรับใบประกาศนียบัตร
ทนายความอาวุโส ผู้สอบปากเปล่า หลายท่านจะยิ้มและบอกกับผู้สอบ ทันทีที่สอบปากเปล่าเสร็จว่า " ตอนนี้คุณกับผมเท่ากันแล้ว"
นี่แหละ แม้แต่ทนายความอาวุโส ท่านยังให้เกียรติ และยกย่อง ทนายใหม่ ในฐานะบุคคลร่วมอาชีพอันมีเกียรติ
คนที่ไม่เป็นทนาย จะไม่มีวันเข้าใจในเรื่องนี้ได้ดียิ่งกว่าทนายอาชีพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เข้าใจว่าพี่ขุน คงจะไม่เคยพบพุทธโอวาท ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
ดูกรมหาบพิตร ของ ๔ อย่างเหล่านี้ ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่าเล็กน้อย ๔ อย่างเป็นไฉน ของ ๔ อย่างคือ
๑. กษัตริย์ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่ายังทรงพระเยาว์
๒. งู ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่าตัวเล็ก
๓. ไฟ ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่าเล็กน้อย
๔. ภิกษุ ไม่ควรดูถูกดูหมิ่นว่ายังหนุ่ม
อ่านคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว ผมว่าคนคิดเป็น เขาคงไม่คิดปรามาสทนาย หรอกครับ
สำหรับผมเอง ผมเคารพและนับถือทนายความทุกท่าน กับทนายความอาวุโส ผมก็ให้ความเคารพ และกับทนายความใหม่ ผมก็ให้ความนับถือ
และถือเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ อันมีเกียรติทุกท่าน
เข้ามาแก้ไข โดยเรียงหน้าคำอุทธรณ์ และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ใน Spoil ให้ถูกต้องตามลำดับหน้าครับ
ความคิดเห็นที่ 18
มีอะไรกัน
มีเรื่องอะไรทำไมต้องมาข่มขู่กันกลางบอร์ด
ดิฉันไปทำอะไรให้คุณโมโหโมโสงั้นรึ?
จะโกรธใคร ก็เชิญไปลงที่ตรงนั้น อย่ามาอาละวาด ฟาดงวงฟาดงาใส่กัน
ดิฉันรับในสิ่งที่ทำเสมอ
กรุณาอย่าอ้างถึงบุคคลที่บ้าน บุพการี หรือพี่สาวดิฉันอีก
ไม่อย่างนั้น ดิฉันจะไม่จบแค่รอ
ถ้าจะทำให้สบายใจอะไรบ้างขึ้นมา ดิฉันยังไม่ได้ค้าความกับคุณสักข้อ
หากคุณยังก้าวล่วงดิฉันมากไป ดิฉันคงต้องปรึกษาทนาย
และไม่ต้องเป็นห่วง ทนายของดิฉัน ใช้พันทิบมา 20 ปี
ว่าความเรื่องไซเบอร์มาเยอะ
ดิฉัน ไม่ได้รู้จักแค่คนรอบตัวคุณ
สำหรับ จขกท
ดิฉันไม่ค่อยกลัวด้านมืดของคน
ดิฉันกลัวการ "จนตรอก" มากกว่า
เพราะเวลา... จนตรอก .... มักจะทำอะไรแบบไม่คาดฝัน ว่าจะทำ
ทำให้บางที เสียเวลาโดยใช่เหตุ
มีเรื่องอะไรทำไมต้องมาข่มขู่กันกลางบอร์ด
ดิฉันไปทำอะไรให้คุณโมโหโมโสงั้นรึ?
จะโกรธใคร ก็เชิญไปลงที่ตรงนั้น อย่ามาอาละวาด ฟาดงวงฟาดงาใส่กัน
ดิฉันรับในสิ่งที่ทำเสมอ
กรุณาอย่าอ้างถึงบุคคลที่บ้าน บุพการี หรือพี่สาวดิฉันอีก
ไม่อย่างนั้น ดิฉันจะไม่จบแค่รอ
ถ้าจะทำให้สบายใจอะไรบ้างขึ้นมา ดิฉันยังไม่ได้ค้าความกับคุณสักข้อ
หากคุณยังก้าวล่วงดิฉันมากไป ดิฉันคงต้องปรึกษาทนาย
และไม่ต้องเป็นห่วง ทนายของดิฉัน ใช้พันทิบมา 20 ปี
ว่าความเรื่องไซเบอร์มาเยอะ
ดิฉัน ไม่ได้รู้จักแค่คนรอบตัวคุณ
สำหรับ จขกท
ดิฉันไม่ค่อยกลัวด้านมืดของคน
ดิฉันกลัวการ "จนตรอก" มากกว่า
เพราะเวลา... จนตรอก .... มักจะทำอะไรแบบไม่คาดฝัน ว่าจะทำ
ทำให้บางที เสียเวลาโดยใช่เหตุ
แสดงความคิดเห็น
้ด้านมืดของคนเรานี่ น่ากลัวครับ ................................. โดย ตระกองขวัญ
และกลัวที่สุด คือด้านมืดของตัวเอง
ผมนั่งคิดมาสองชั่วโมงแล้ว เกี่ยวกับด้านมืดของตัวเอง
ตั้งแต่บ่าย ผมได้ข่าวว่า คนที่ผมเกลียด ใกล้บ้าเต็มทีแล้ว
(ผมเป็นคนเกลียดคนยากมาก ยากสุด ๆ แต่ถ้าได้เกลียดแล้ว รับรอง ........................)
ผมรู้สึกสะใจ อยากขยี้ซ้ำ จนรู้สึกขนลุกในความคิดด้านมืดของตัวเอง
แต่อีกด้าน คนที่ผมเกลียดนั้น ก็สไตล์เดิม ๆ คือแสดงท่าทีเรื่องความรุนแรง
เฮ้อออ....
อยากบอกว่า แค่คิดก็อย่าคิดเลย
ทุกวันนี้ ก็เหมือนหลงในซอยตันหาทางออกไม่เจอแล้ว อย่าให้ชีวิตตัวเองตีบตันไปกว่านี้เลย
เตือนด้วยความหวังดี
คนเรา เวลาเจอปัญหา มีปัญหา เขามีหลักอยู่ว่า อย่าให้ด้านมืดมีอิทธิพลทางความคิด
เพราะจะยิ่งมีปัญหามากกว่าเดิม
ให้ใช้ด้านสว่าง นั่นคือ สติปัญญา เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา
คนเรา ด้านมืดแบบจิ๊กโก๋ปากซอย แบบ "จุ๊ย" ข้างถนน นักเลงหัวไม้
ไม่น่ากลัวหรอกครับ และไม่มีใครเขากลัว
ที่น่ากลัวคือ ด้านมืดแบบที่ผมกลัวด้านมืดตัวเองอยู่นี่แหละ
คนเรานั้น ทุกคนครับ จะมีกลไกป้องกันตัวเอง
รู้ว่าใครคิดอะไรกับเราไม่ดี รู้ว่าใครจะทำอะไรกับเราไม่ดี กลไกการป้องกันตัวก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ
คนที่มีด้านมืดอ่อน ๆ ก็ไม่เท่าไร อาจป้องกันตนเองด้วยการพูดจา ไกล่เกลี่ย ไม่ถือสา จบ ๆ กันไป
แต่คนที่มีด้านมืดแรง ๆ นี่ แค่เขารู้ว่าใครคิดไม่ดีกับเขานี่ เขาก็ถือว่าหยามแล้วครับ
ความคิดที่ว่า คนเรา ฆ่าได้ หยามไม่ได้ เป็นด้านมืดที่น่ากลัว
จึงอยากบอกว่า อย่าโม้อะไรที่มันเกินเลย อย่าแสดงท่าทีข่มขู่เกินงาม
อย่าเคยตัว เพราะคนบางคนเขาอาจกลัวคำขู่ คนบางคนอาจไม่ถือสา แต่คนบางคนเขาจะมองว่า ขู่แบบนี้ยอมไม่ได้
ถามจริงเหอะ มีศักยภาพจะไปทำอะไรใครเขาได้เหรอ
ทำแล้ว คิดว่าตัวเองจะลอยนวลเฉิบ ๆ ได้เหรอ โม้ว่าเป็นเสือซะจนเห็นลายแมว
รู้ตัวซะบ้าง
คิดได้ไง จะใช้ความรุนแรงกับคนอื่น
เพ้อหนัก นึกว่าตัวเองเป็นอัล คาโปน รึไง
อย่าคิดเลย ไม่ต้องว่าถึงเรื่องทำ แค่คิดก็อย่าคิด เลิกคิด
อย่าให้ชีวิตเจอทางตันกว่านี้
ลองคิดดูให้ดี
ด้านมืดตัวเองน่ะแค่ไหน แค่ทำชั่วทำเลวไปวัน ๆ แบบคนไม่รับผิดชอบ ใช่ไหม ?
แล้วเคยรู้ไหม ว่าคนอื่นเขามีด้านมืดอย่างไร
คิดให้มาก ๆ
อย่าดีแต่โม้ อย่าอวดแต่กร่าง
งดรณรงค์เรื่องหยาบคายหนึ่งวันครับ
เพราะสงสารคนใกล้บ้า