VOLUTEER TRIP IN USA – กลับไปทำงานอาสาอีกครั้งที่อเมริกา




        อยากขอพื้นที่บันทึกประสบการณ์ที่ได้ไปทริปลาพักร้อนที่อเมริกามา เราชื่อ ‘มายจัง’ เป็นพนักงานบริษัทอสังหาฯแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ช่วงที่ต้องใช้สิทธิ์ลาพักร้อนบริษัทของปี 2017 เราได้เดินทางไปที่ประเทศอเมริกามาซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้กลับไปเยี่ยมบ้านหลังจากที่ไม่ได้ไปมา 5 ปี
        ต้นเหตุคือเมื่อปลายปีที่แล้วเพื่อนที่อเมริกา(ที่รู้จักกันตอนไปเป็นอาสา) ก็ติดต่อมาว่างาน ‘Christmas cantata’ ที่อเมริกากำลังรับสมัครอาสาสมัครชาวต่างชาติให้ไปเป็น volunteer ในงาน แล้วก็อยากให้ชวนเพื่อนคนไทยไปด้วยหลายๆคนเพื่อไปเป็นStaffในงานนี้กันเยอะๆ
ตอนนั้น ตื่นเต้นมาก เพราะมายเองก็กำลังคิดอยู่ว่าช่วงพักร้อนจะไปไหนดี? วันๆนั่งอยู่แต่หน้าจอคอมก็อยากจะลุกออกไปพักยืดเส้นยืดสายบ้าง ถ้าได้ไปรอบนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ย้อนความหลังที่เคยไปเป็นอาสาสมัครที่อเมริกาสมัยเรียนด้วย พอเพื่อนชวนมามายรีบตอบตกลงเลย “ลาพักร้อน 18 วันนี้ ฉันไปช่วยงาน Christmas Cantata ที่อเมริกา”  ฮึ่ม!


ยิ้ม     เล่าที่มาที่ไป ก่อนนิดนึงกว่าสมัยเรียนตอนกำลังขึ้นปี 3 มายได้ไปเป็นอาสาสมัครกับโครงการ IYF Good News Corps ที่อเมริกา ตอนนั้นก็ไฟแรงนิดนึงเลยกล้า ‘ดรอปเรียน’ ไปนาน 1 ปี แล้วก็กลับมาเรียนปี 3-4 ต่อตามปกติ
    ซึ่งมายเองก็เป็นหนึ่งในเด็กสายวิทย์ที่ต้องคำสาปเรื่อง ‘ภาษาอังกฤษ’ เปลี้ยๆแต่เป็นโรค‘คิดว่าตัวเองก็Perfectในระดับหนึ่ง’ เพราะคะแนนเรียนในห้องมันค่อนข้างโอเค แต่พอให้ใช้จริงมันกลับสวนทาง ใครเคยเป็นบ้างคะ?        


               ตอนนั้นกระแสเรื่องไปต่างประเทศที่มหาลัยดังมากเพื่อนๆมีแต่คนไป ‘เที่ยวและทำงาน’ ที่เมกากันโครมๆ แต่มายเป็นพวกสายกิจกรรมมากกว่าไม่ชอบทำงาน ช่วงที่ลังเลก็ได้มาเจอโครงการของ IYF ซึ่งเน้นการทำกิจกรรมมันเลยค่อนข้างตอบโจทย์ อีกอย่างคือดีเรื่องค่าใช้จ่าย ถูกเพราะเราจ่ายแค่ค่าเครื่องและค่าวีซ่าตรงนี้แหละที่ชอบมากกว่าข้ออื่นๆ  ซึ่งตอนที่ IYF ให้เลือกประเทศแรกๆก็ลังเลว่าจะไปประเทศไหนดีเพราะโดยส่วนตัวไม่ได้ชอบอเมริกาอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็ได้ไปอเมริกาเพราะว่าแม่เป็นคนเลือกประเทศให้ 555

                                      
  

               ยิ้ม ตอนได้ไปถึงอเมริกาครั้งแรกตอนนั้นมันเป็นหน้าร้อนพอดี แล้วอากาศก็ร้อนมากกกกกกกกก กอไก่ล้านตัว คือนี่มันเป็นประเทศอะไรกันแน่! ทำไมไม่เห็นเหมือนในหนังเลย ตอนนั้นมายรู้สึกว่าเมกาเป็นประเทศที่มีตึกสูงอยู่เป็นกระจุกๆหนึ่งแต่พอไปรอบนอกเมืองก็จะมีเป็นที่ราบเหมือนมีแค่รถที่วิ่งไปมา มีแต่พื้นทราย พื้นดินว่างๆ ตอนนั้นในใจมันรู้สึกว่า “เนี่ยนะเมกา?” ทำไมมันดูจนๆวะ ไม่เหมือนประเทศไทยที่แบบไปทางไหนก็เจอตึกรามบ้านช่อง ชุมชน แล้วก็จำได้ว่าช่วงแรกๆ ก็คุยกับใครไม่รู้เรื่องเลยคือแบบถ้ามี 100% นะ ทักษะการฟังให้ 10% พูดก็ประมาณ 10% ไม่เกินนี้
                                        
  

      และด้วยแกรมม่าที่เรียนมาเยอะมากทำให้ตอนพูดจริงใช้จริงมันพูดไม่ได้เพราะมัวแต่เรียงแกรมม่าอยู่ในสมอง ช่วงที่เป็นอาสาสมัครเลยใช้เวลานานประมาณ 6  เดือนกว่าจะพูดกับคนอเมริกันรู้เรื่องจริงๆ ช่วง 3 เดือนแรกจะเริ่มฟังเข้าใจ แต่พอเข้าช่วง 6 เดือน จู่ๆ มันกลับพูดได้ ฟังรู้เรื่องโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องมาเรียงเป็นภาษาไทยในหัวก่อน กิจกรรมที่ได้ทำก็จะเป็น English Camp,จัดค่าย เป็น staffงานอบรม,เต้นวัฒนธรรม,Bible Seminar ,World camp, Winter camp, Youth camp  ,Seminar แล้วก็อีกหลายๆกิจกรรมซึ่งขอบอกว่าอัดแน่นมาก ใครเป็นสายกิจกรรมต้องลอง! แล้วก็จบโปรแกรมอาสาสมัครมาเราก็เรียนปี 3 ปี 4 จนจบ จนสุดท้ายตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วก็ไม่สามารถลืมความประทับใจช่วงที่เป็นอาสาสมัครที่อเมริกาได้เพราะรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากจริงๆ
                                  
    

                                       
     




พอมีโอกาสจะไปย้อนบรรยากาศเก่าๆรอบนี้ก็เลยรีบชวนเพื่อนคนอื่นด้วยเลยจ้า!


ps.วันนี้ขออัพแค่นี้ก่อนนะคะขอทำงานก่อนค่ะ อิอิอิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่