สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะคะ ขอออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้อาจจะไม่ใช่กระทู้ที่แนะนำการท่องเที่ยวได้ครบครันนัก แต่จะเป็นกระทู้บอกเล่าเรื่องราวที่คัดสรรมาตลอด7วันในการเที่ยวของผู้หญิงคนหนึ่งผ่านตัวอักษรและรูปภาพ ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีความสุขและได้รับประโยชน์จากกระทู้นี้นะคะ
ช่วงต้นปีโดยเฉพาะเดือนมกราคมจะเป็นช่วงที่เรามักจะเลือกเดินทางไปต่างประเทศ เพราะมันตรงกับช่วงหยุดยาวของมหา'ลัย และยังมีเวลาในการเก็บเงินสักพักใหญ่ๆ สำหรับเราเราจะรอปฏิทินวิชาการของเทอม2ออกแล้วดูว่ามหา'ลัยจะหยุดยาวช่วงไหน เราก็จะเลือกเดินทางช่วงนั้นแถมการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าหลายเดือนมักจะทำให้เราได้ตั๋วมาในราคาที่สบายกระเป๋าพอสมควร
ปล.เพิ่งเห็นว่า Tag เที่ยวในประเทศ ขออภัยด้วยค่ะอยากเอาออกแต่ทำไม่เป็น ฮือTT
ทำไมถึงมาญี่ปุ่น? จะบอกว่าประเทศที่เราเขียนใน New Year Resolution ปีที่แล้วเป็นเกาหลี แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นญี่ปุ่น เราหาเหตุผลที่เปลี่ยนใจดังนี้
1.เพราะเพื่อนสนิทเรามาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น ก็หาโอกาสแวะมาเยี่ยมเพื่อนและพาเพื่อนกลับไทยด้วยเลย
2.เราจะประหยัดค่าที่พักไปได้ส่วนหนึ่งโดยอาศัยหอเพื่อน
3.เราตั้งใจจะมากินอาหารญี่ปุ่นเพราะเราชอบมากรองจากอาหารไทย
4.เกาหลีตอนนี้คงหนาวไปสำหรับเรา
5.เราไม่มีเพื่อนเที่ยวเกาหลีค่ะ
เราหาตั๋วเครื่องบินไปเรื่อยๆสุดท้ายมาจบที่ Hongkong Airlines ในราคาไปกลับประมาณ 12,000 บาท ถูกหน่อยแต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง แต่ถ้าจัดดีๆเราอาจจะได้แวะเข้าไปกินเกียวกุ้งเจ้าดังก็เป็นได้
รูปแบบการเที่ยวของแต่ละคนอาจจะมีความเฉพาะตัวหรือจุดที่Check Point แตกต่างกันไป บางคนอาจจะวางแผนในแต่ละวันอย่างคร่าวๆหรืออาจจะโดยละเอียด เราเชื่อว่าแค่จัดตารางการเที่ยวมันก็เริ่มสนุกแล้ว ส่วนตัวพื้นเพคนอย่างเรามักจะไม่ค่อยได้จัดตารางเที่ยวที่ละเอียดอะไรมาก เรามักจะจัดลำดับในสถานที่ที่เราอยากไปก่อน หรือ กิจกรรมที่เราอยากไปทำ แล้ววันที่เหลือๆก็ค่อยให้เป็นไปตามที่ฟ้ากำหนด 'ถ้าใจเราอยากจะเที่ยวทุกที่มันก็เที่ยวได้'
สิ่งที่เราอยากไปทำก็คือ เที่ยว Disney ซึ่งเพื่อนแนะนำ Disney Sea ก่อนอื่นเราก็ต้องหาตั๋วเที่ยว Disney ของเราโชคดีที่เพื่อนมีบัตรนักศึกษาและตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาว เขาเลยลดราคาบัตร สนนราคาแล้ว 6400 เยน และที่อยากทำอีกอันคือ การกินเนื้อย่าง เราเป็นคนกินปิ้งย่างไม่ค่อยบ่อยเพราะที่บ้านนานๆทีจะออกไปกินหรือทำกินกัน เลยอยากกินแบบหรูๆดูสักครั้ง เราเลือกร้าน Rokkasen ดังในหมู่คนไทยและคนจีน ราคา 7700 เยน ใช่ค่ะเราเลือกคอร์สราคาที่ต่ำสุด ร้านมีหลายคอร์สให้เลือก ราคานี้ก็รวมภาษีแล้ว บวกลบคูณหารก็ นานๆทียอมจ่าย
กิจกรรมที่อยากทำโดยหลักมีแค่นี้ แต่ไปตั้ง1 อาทิตย์ แล้วเวลาที่เหลือจะทำอะไร? เราก็อาศัยกระทู้Pantipของสมาชิกท่านอื่น ส่วนมากจะตามรอยกิน แต่เราเป็นคนไม่ค่อยเป๊ะมาก คือถ้าไม่ตรงตามที่คิดก็จะไม่เสียใจ อย่างที่บอกถ้าเราจะเที่ยวมันก็เที่ยวได้หมด ในขณะเดียวกันถ้าเราจะกินมันก็กินได้หมด
หัวข้อกระทู้เราใช้คำว่า 'เยี่ยมเยียน' แต่จริงๆมันก็คือการเที่ยวนั่นแหละ แต่เราไม่ได้รู้สึกเหมือนมาเที่ยวเลยค่ะ มันเป็นความรู้สึกว่าเรามาหา มาดู มาเยี่ยม มาชม ประเทศนี้มากกว่า จะว่าเที่ยวก็ไม่ได้เที่ยวอะไรนัก ไม่รู้จะอธิบายยังไง การเยี่ยมเยียนครั้งนี้ได้ไกด์กิติมศักดิ์มาช่วยให้การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอยู่ง่ายขึ้น นั่นก็คือเพื่อนที่เราตั้งใจมาหา
ปกติเราจะเขียนตามวันและเวลา แต่กระทู้นี้เราอยากเขียนเรื่องราวตามรูปที่แนบไป อาจจะไม่เรียงวันและเวลาแต่เรื่องราวในรูปนั้นมั่นใจว่าเราคัดสรรเพื่อมาแบ่งปันให้ทุกๆคนได้สัมผัส บางที่หลายคนอาจจะอยากไป หรือบางคนอาจจะไม่ได้คิดจะไป บางที่อาจจะเป็นที่หลายคนไม่รู้จักหรือไม่เคยไป ก็ลองนำข้อมูลของเราไปเป็นทางเลือกดูนะคะ
การเที่ยวของเราในญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น2โซนคือ ในโตเกียวและไม่ใช่โตเกียว ก็คือเพื่อนเรามาเรียนที่มหาลัย Aoyama University Sagamihara Campus ที่นี่มันอยู่ตรงไหน ถ้าอธิบายตามความรู้สึกเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างโตเกียวและโยโกฮาม่าค่ะ นั่งรถไฟไปโตเกียว สถานีชินจูกุ ใช้เวลา30นาที นั่งรถไฟไปสถานี ชิน-โยโกฮาม่า ใช้เวลา 24 นาที ทำเลดีนะคะ มหา'ลัยก็สวยด้วย แน่นอนมาแถวนี้ค่าครองชีพไม่สูงเท่าในโตเกียว แถมทำกับข้าวที่หอได้ด้วย ก็ประหยัดไปได้ระดับหนึ่งค่ะ แต่จะบอกว่าเราลองซื้อเส้นโซบะมาทำกิน สุดท้ายก็เททิ้งค่ะ เราว่ามันต้องผิดพลาดอะไรสักอย่าง แต่มันไม่อร่อยเลยค่ะ
หน้าตาเหมือนจะดูดีนะคะ แต่มันจืดมาก เส้นก็จืดไป กินแต่น้ำและเนื้อ ส่วนเส้นกินไปครึ่งหนึ่งก็ไม่ไหวมันจืดไปสำหรับเรา ต้องพึ่งใบบุญจากเกี๊ยวซ่าของเพื่อน แต่สุดท้ายคืนนั้นก็ต้องเวฟไส้กรอกกิน ประทังความหิวไป
พูดถึงเรื่องอาหารการกิน คนที่ชอบกินอย่างเราก็อยากนำเรื่องอาหารมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง สารภาพว่ารูปของกินอาจจะไม่ได้นำมาให้ดูครบทุกมื้อที่กินเพราะว่ามันหนาวมากค่ะ แค่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันเป็นนาที แต่สำหรับคนชอบอาหารญี่ปุ่นอย่างเราไปกินร้านไหนก็อร่อยหมดค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มาเอาบางเมนูมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ เริ่มได้!
เมนูที่1 Ryushanhai-honten ราเม็งเต้าเจี้ยวเข้มข้นน้ำซุปประเภทปลา พิกัด พิพิธภัณฑ์ราเม็ง ลงสถานี Shin Yokohama
พิพิธภัณฑ์ราเม็งเป็นสถานที่ที่เราอยากแวะมาดูเพราะว่าราเม็งก็ถือว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อีกอย่างที่นี่เขาจะรวบรวมร้านราเม็งเจ้าดังทั้งหมด 8 ร้าน (หรือป่าว?) ไม่แน่ใจค่ะ แหะๆ ที่พิพิธภัณฑ์จะมี3ชั้น เป็นลักษณะลงใต้ดิน คือเราซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ ในราคา 310 เยน พอตื๊ดบัตรเข้ามาก็จะบอกความเป็นมาของเส้นแต่ละชนิด น้ำซุปแต่ละแบบ แล้วก็มีร้านขายของฝาก พอผ่านจุดนั้นเราก็เดินลงบันไดมาชั้นล่างๆ ก็จะมีร้านราเม็งตั้งอยู่เรียงราย ที่นี่เขามีบัตรสมาชิกแบบ6เดือนและ12เดือนด้วยนะคะ ใครอยู่ญี่ปุ่นแล้วเป็น Ramen Lover ก็ลองมาดูได้
เราเลือกทานร้าน Ryushanhai-honten เพราะได้รับคำแนะนำจากพี่คนไทยที่มาเรียนที่นี่ว่า "น้องๆราเม็งร้านจีนอ่ะ อร่อยดี" คำถามต่อมาว่าราเม็งร้านจีนมันคือร้านไหนกันแน่เนี่ย ? แต่เห็นป้ายหน้าร้านมีคำว่า เซี่ยงไฮ้ ก็น่าจะเป็นร้านนี้แหละ เพราะเซี่ยงไฮ้อยู่ที่จีน ตึ่งโป๊ะ
ตอนที่เราไปถึงก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วค่ะ คนค่อนข้างจะเยอะ ร้านไหนดังๆนี่หาหางแถวไม่เจอกันเลยทีเดียว เราเดินดูหลายๆร้านแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร้านนี้เพราะรอไม่นานมาก รอไปประมาณ15นาทีก็ได้โต๊ะค่ะ ที่ร้านจะใช้การสั่งเป็นการกดตู้ คือเราใส่เงินเข้าไปก่อนแล้วก็เลือกเมนูที่เราจะสั่ง ไม่มีภาษาอังกฤษให้ แต่มีรูปภาพประกอบ แต่พวกเครื่องเคียงก็ไม่มีรูปภาพให้นะคะ แนะนำให้ถามพนักงานร้าน แต่สำหรับผู้หญิง เราแนะนำให้สั่งไซส์ mini เราสั่งไซส์ปกติกินกันไม่หมดค่ะ
รสชาติราเม็งค่อนข้างมันเยิ้มมันย่อง แต่อาจจะมีเต้าเจี้ยว (มิโสะ)มาตัดเลี่ยน แต่สิ่งที่สัมผัสได้เลยคือ ร้อนมาก เรากินไปสักพักใหญ่ก็ยังร้อนอยู่ แต่ก็อร่อยดีนะคะ ราคา 870 เยนให้เยอะอยู่กินอิ่มยันมื้อเย็น เราขอให้คะแนนที่ 7/10
ก่อนออกมาเราซื้อข้าวเกรียบรสราเม็งมาด้วย เพราะเป็นชิ้นเดียวที่แกะให้ชิม แล้วเราก็ไปชิมแผ่น2แผ่น ก็ซื้อเอามาฝากที่บ้าน ที่บ้านชอบกันนะคะ กล่องจะสีแดงๆหน่อย
เมนูที่ 2 ซูชิ 108 เยน จากร้าน Kura SuShi พิกัดสถานี Hashimoto
เป็นร้านที่เราประทับใจที่สุดตั้งแต่มาที่ญี่ปุ่น มันคุ้มมากแบบมากๆแต่ถ้าจะให้พูดสำหรับนักท่องเที่ยวมันก็ไกลเกินไปที่จะถ่อตัวเองจากโตเกียวเพื่อมากินที่นี่ แต่สำหรับเราจากแถวหอพักเพื่อนเรานั่งรถไฟไป3สถานีก็ได้กินแล้วค่ะ ปลาที่นี่อร่อย สด หวาน คุ้มค่ามาก เป็นราคาที่เราประทับใจและชอบมาก จริงๆเพื่อนบอกว่ามีซูชิ100เยนตรงสถานี Machida แต่อันนั้นไม่สดเท่าที่นี่ เหมือนเป็นร้านที่คนญี่ปุ่นมากินกัน แถมเราไปหมุนกาจาปองเล่นเพลินๆ ก็สนุกดีค่ะ
ที่ร้านจะเป็นซูชิสายพาน แต่ว่าแต่ละโต๊ะจะมีหน้าจอคอยสั่งอาหารได้ มีภาษาอังกฤษให้ค่ะ เมนูส่วนใหญ่จะประมาณ100เยน แต่ถ้าเมนูพิเศษจะมีราคากำกับไว้ อย่างในรูปซุปหอย ราคา 180 เยน ราคาที่แสดงในร้านยังไม่รวมค่าภาษีอีก 8% ตอนแรกเราตั้งใจจะไปกินสัก10จาน แต่ก็จบที่8จานค่ะ ไม่ไหว แต่อร่อยนะคะแนะนำเลย ราคาสบายประหยัดเงินในกระเป๋า ที่ร้านถ้าไปกินกับเพื่อนแล้วแยกจ่าย เราจะต้องจำจำนวนของจานที่เรากินเพราะพอเรากินเสร็จเราก็ต้องหย่อนจานลงตรงช่องแล้วเครื่องก็จะนับจำนวนจานที่เรากินทั้งหมด เรากับเพื่อนกินกันทั้งหมด15จาน เรา8งาน เพื่อน 7 จาน มีซุปหอยอีก 180 เยน สนนค่าใช้จ่ายมื้อนี้ 1058 เยน เราขอให้คะแนนที่ 10/10 ไปเลยพี่
เมนูที่ 3 ข้าวหน้าปลาไหลจากย่าน Ueno จากร้าน Unatoto Unagi พิกัดสถานี Ueno
ร้านจะอยู่ในซอยข้างๆร้านUniqloออกจากสถานีJRเดินออกมาไม่ยากค่ะ ร้านจะเป็นร้านเล็กๆมีหลายชั้นเหมือนกัน เราไปกันตอน11โมงคนยังไม่เยอะเท่าไหร่ ราคาก็มีตั้งแต่ 500 เยน - 2000 เยนก็มีแล้วแต่ว่าใครจะชอบเยอะแคไหน ใหญ่แค่ไหน แต่ยังไงก็ถูกกว่าที่ไทยอยู่ดี ไปถึงถิ่นแล้วก็ลองแวะไปนะคะ เราสั่งเป็น Set มีน้ำซุปแล้วก็สลัดญี่ปุ่นให้ ข้าวเสิร์ฟมาพร้อมกับปลาชิ้นใหญ่ๆ2ชิ้น กินกันพุงปลิ้นมาก ร้านนี้เขามีไก่ย่างแบบญี่ปุ่นด้วยนะคะ แต่น่าจะเป็นมื้อเย็น เราว่าก็น่าจะอร่อยดี
เนื้อปลานุ่ม หอมอร่อยดีค่ะ แต่น้ำซอสเค็มไปหน่อย เราเคยดูรายการญี่ปุ่นเขาบอกว่าเอาน้ำชามาราดข้าวทำเป็นข้าวต้มก็จะอร่อยไปอีกแบบแต่เราใช้วิธีตักข้าวลงในถ้วยน้ำซุปกันพลาดค่ะ อร่อยดีค่ะ เราชอบกลิ่นย่างของปลาแล้วตอนกินกับข้าวร้อนๆมันดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก เราขอให้คะแนนที่ 8/10 คือไม่ได้ โอ้คุณพระคุณเจ้า แต่มันก็อร่อยอ่ะ อาจเพราะเราไม่ได้ชอบกินปลาไหลมากขนาดนั้น แต่ก็ยังถูกกว่าที่ไทยค่ะ ไปกินเถอะ!!
เมนูที่ 4 เมนูรักษาสุขภาพ อาหารหลักร้อย วิวหลักร้านจากร้าน A TO Z พิกัดสถานี Omotesando
ร้าน A TO Z ร้านนี้คุณโยชิโตโมะ นาระ Artistคนดังของญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนค่ะ ร้านจะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่มและของหวาน เราชอบการตกแต่งของร้านมาก ร้านจะอยู่ที่ชั้น5ทำให้เราเห็นวิวของโตเกียวด้วย ที่สำคัญเพลงที่เปิดเพราะมากและเป็นเพลงที่เราชอบด้วย พอกลับมาฟังเพลงนั้นอีกรอบบรรยากาศของร้าน รสชาติของอาหารก็หวนกลับมาในความทรงจำเลยค่ะ
ร้านนี้พิเศษที่ว่า สามารถเติมข้าว น้ำชา น้ำซุปได้ไม่อั้น เมนูอาหารอาจจะมีไม่เยอะนัก ใครไม่ถูกใจของคาวก็ลองดูของหวานได้นะคะ ที่สำคัญพนักงานน่ารักมาก ดูแลทุกความใส่ใจเราทำตะเกียบหล่นเขาก็เดินมาเปลี่ยนตะเกียบให้เรา ประทับใจค่ะ
อันนี้เป็นมุมที่ถ่ายจากบนร้านค่ะ เราชอบบรรยากาศของร้านนี้มาก มันรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตาๆ เราขอให้คะแนนที่ 9/10
[JAPAN] ญี่ปุ่นและจิปาถะ อย่าเรียกว่า 'เที่ยว' ให้ใช้คำว่า 'เยี่ยมเยียน'
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะคะ ขอออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้อาจจะไม่ใช่กระทู้ที่แนะนำการท่องเที่ยวได้ครบครันนัก แต่จะเป็นกระทู้บอกเล่าเรื่องราวที่คัดสรรมาตลอด7วันในการเที่ยวของผู้หญิงคนหนึ่งผ่านตัวอักษรและรูปภาพ ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีความสุขและได้รับประโยชน์จากกระทู้นี้นะคะ
ช่วงต้นปีโดยเฉพาะเดือนมกราคมจะเป็นช่วงที่เรามักจะเลือกเดินทางไปต่างประเทศ เพราะมันตรงกับช่วงหยุดยาวของมหา'ลัย และยังมีเวลาในการเก็บเงินสักพักใหญ่ๆ สำหรับเราเราจะรอปฏิทินวิชาการของเทอม2ออกแล้วดูว่ามหา'ลัยจะหยุดยาวช่วงไหน เราก็จะเลือกเดินทางช่วงนั้นแถมการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าหลายเดือนมักจะทำให้เราได้ตั๋วมาในราคาที่สบายกระเป๋าพอสมควร
ปล.เพิ่งเห็นว่า Tag เที่ยวในประเทศ ขออภัยด้วยค่ะอยากเอาออกแต่ทำไม่เป็น ฮือTT
ทำไมถึงมาญี่ปุ่น? จะบอกว่าประเทศที่เราเขียนใน New Year Resolution ปีที่แล้วเป็นเกาหลี แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นญี่ปุ่น เราหาเหตุผลที่เปลี่ยนใจดังนี้
1.เพราะเพื่อนสนิทเรามาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น ก็หาโอกาสแวะมาเยี่ยมเพื่อนและพาเพื่อนกลับไทยด้วยเลย
2.เราจะประหยัดค่าที่พักไปได้ส่วนหนึ่งโดยอาศัยหอเพื่อน
3.เราตั้งใจจะมากินอาหารญี่ปุ่นเพราะเราชอบมากรองจากอาหารไทย
4.เกาหลีตอนนี้คงหนาวไปสำหรับเรา
5.เราไม่มีเพื่อนเที่ยวเกาหลีค่ะ
เราหาตั๋วเครื่องบินไปเรื่อยๆสุดท้ายมาจบที่ Hongkong Airlines ในราคาไปกลับประมาณ 12,000 บาท ถูกหน่อยแต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง แต่ถ้าจัดดีๆเราอาจจะได้แวะเข้าไปกินเกียวกุ้งเจ้าดังก็เป็นได้
รูปแบบการเที่ยวของแต่ละคนอาจจะมีความเฉพาะตัวหรือจุดที่Check Point แตกต่างกันไป บางคนอาจจะวางแผนในแต่ละวันอย่างคร่าวๆหรืออาจจะโดยละเอียด เราเชื่อว่าแค่จัดตารางการเที่ยวมันก็เริ่มสนุกแล้ว ส่วนตัวพื้นเพคนอย่างเรามักจะไม่ค่อยได้จัดตารางเที่ยวที่ละเอียดอะไรมาก เรามักจะจัดลำดับในสถานที่ที่เราอยากไปก่อน หรือ กิจกรรมที่เราอยากไปทำ แล้ววันที่เหลือๆก็ค่อยให้เป็นไปตามที่ฟ้ากำหนด 'ถ้าใจเราอยากจะเที่ยวทุกที่มันก็เที่ยวได้'
สิ่งที่เราอยากไปทำก็คือ เที่ยว Disney ซึ่งเพื่อนแนะนำ Disney Sea ก่อนอื่นเราก็ต้องหาตั๋วเที่ยว Disney ของเราโชคดีที่เพื่อนมีบัตรนักศึกษาและตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาว เขาเลยลดราคาบัตร สนนราคาแล้ว 6400 เยน และที่อยากทำอีกอันคือ การกินเนื้อย่าง เราเป็นคนกินปิ้งย่างไม่ค่อยบ่อยเพราะที่บ้านนานๆทีจะออกไปกินหรือทำกินกัน เลยอยากกินแบบหรูๆดูสักครั้ง เราเลือกร้าน Rokkasen ดังในหมู่คนไทยและคนจีน ราคา 7700 เยน ใช่ค่ะเราเลือกคอร์สราคาที่ต่ำสุด ร้านมีหลายคอร์สให้เลือก ราคานี้ก็รวมภาษีแล้ว บวกลบคูณหารก็ นานๆทียอมจ่าย
กิจกรรมที่อยากทำโดยหลักมีแค่นี้ แต่ไปตั้ง1 อาทิตย์ แล้วเวลาที่เหลือจะทำอะไร? เราก็อาศัยกระทู้Pantipของสมาชิกท่านอื่น ส่วนมากจะตามรอยกิน แต่เราเป็นคนไม่ค่อยเป๊ะมาก คือถ้าไม่ตรงตามที่คิดก็จะไม่เสียใจ อย่างที่บอกถ้าเราจะเที่ยวมันก็เที่ยวได้หมด ในขณะเดียวกันถ้าเราจะกินมันก็กินได้หมด
หัวข้อกระทู้เราใช้คำว่า 'เยี่ยมเยียน' แต่จริงๆมันก็คือการเที่ยวนั่นแหละ แต่เราไม่ได้รู้สึกเหมือนมาเที่ยวเลยค่ะ มันเป็นความรู้สึกว่าเรามาหา มาดู มาเยี่ยม มาชม ประเทศนี้มากกว่า จะว่าเที่ยวก็ไม่ได้เที่ยวอะไรนัก ไม่รู้จะอธิบายยังไง การเยี่ยมเยียนครั้งนี้ได้ไกด์กิติมศักดิ์มาช่วยให้การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอยู่ง่ายขึ้น นั่นก็คือเพื่อนที่เราตั้งใจมาหา
ปกติเราจะเขียนตามวันและเวลา แต่กระทู้นี้เราอยากเขียนเรื่องราวตามรูปที่แนบไป อาจจะไม่เรียงวันและเวลาแต่เรื่องราวในรูปนั้นมั่นใจว่าเราคัดสรรเพื่อมาแบ่งปันให้ทุกๆคนได้สัมผัส บางที่หลายคนอาจจะอยากไป หรือบางคนอาจจะไม่ได้คิดจะไป บางที่อาจจะเป็นที่หลายคนไม่รู้จักหรือไม่เคยไป ก็ลองนำข้อมูลของเราไปเป็นทางเลือกดูนะคะ
การเที่ยวของเราในญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น2โซนคือ ในโตเกียวและไม่ใช่โตเกียว ก็คือเพื่อนเรามาเรียนที่มหาลัย Aoyama University Sagamihara Campus ที่นี่มันอยู่ตรงไหน ถ้าอธิบายตามความรู้สึกเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างโตเกียวและโยโกฮาม่าค่ะ นั่งรถไฟไปโตเกียว สถานีชินจูกุ ใช้เวลา30นาที นั่งรถไฟไปสถานี ชิน-โยโกฮาม่า ใช้เวลา 24 นาที ทำเลดีนะคะ มหา'ลัยก็สวยด้วย แน่นอนมาแถวนี้ค่าครองชีพไม่สูงเท่าในโตเกียว แถมทำกับข้าวที่หอได้ด้วย ก็ประหยัดไปได้ระดับหนึ่งค่ะ แต่จะบอกว่าเราลองซื้อเส้นโซบะมาทำกิน สุดท้ายก็เททิ้งค่ะ เราว่ามันต้องผิดพลาดอะไรสักอย่าง แต่มันไม่อร่อยเลยค่ะ
พูดถึงเรื่องอาหารการกิน คนที่ชอบกินอย่างเราก็อยากนำเรื่องอาหารมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง สารภาพว่ารูปของกินอาจจะไม่ได้นำมาให้ดูครบทุกมื้อที่กินเพราะว่ามันหนาวมากค่ะ แค่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันเป็นนาที แต่สำหรับคนชอบอาหารญี่ปุ่นอย่างเราไปกินร้านไหนก็อร่อยหมดค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มาเอาบางเมนูมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ เริ่มได้!
เมนูที่1 Ryushanhai-honten ราเม็งเต้าเจี้ยวเข้มข้นน้ำซุปประเภทปลา พิกัด พิพิธภัณฑ์ราเม็ง ลงสถานี Shin Yokohama
พิพิธภัณฑ์ราเม็งเป็นสถานที่ที่เราอยากแวะมาดูเพราะว่าราเม็งก็ถือว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อีกอย่างที่นี่เขาจะรวบรวมร้านราเม็งเจ้าดังทั้งหมด 8 ร้าน (หรือป่าว?) ไม่แน่ใจค่ะ แหะๆ ที่พิพิธภัณฑ์จะมี3ชั้น เป็นลักษณะลงใต้ดิน คือเราซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ ในราคา 310 เยน พอตื๊ดบัตรเข้ามาก็จะบอกความเป็นมาของเส้นแต่ละชนิด น้ำซุปแต่ละแบบ แล้วก็มีร้านขายของฝาก พอผ่านจุดนั้นเราก็เดินลงบันไดมาชั้นล่างๆ ก็จะมีร้านราเม็งตั้งอยู่เรียงราย ที่นี่เขามีบัตรสมาชิกแบบ6เดือนและ12เดือนด้วยนะคะ ใครอยู่ญี่ปุ่นแล้วเป็น Ramen Lover ก็ลองมาดูได้
เราเลือกทานร้าน Ryushanhai-honten เพราะได้รับคำแนะนำจากพี่คนไทยที่มาเรียนที่นี่ว่า "น้องๆราเม็งร้านจีนอ่ะ อร่อยดี" คำถามต่อมาว่าราเม็งร้านจีนมันคือร้านไหนกันแน่เนี่ย ? แต่เห็นป้ายหน้าร้านมีคำว่า เซี่ยงไฮ้ ก็น่าจะเป็นร้านนี้แหละ เพราะเซี่ยงไฮ้อยู่ที่จีน ตึ่งโป๊ะ
ตอนที่เราไปถึงก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วค่ะ คนค่อนข้างจะเยอะ ร้านไหนดังๆนี่หาหางแถวไม่เจอกันเลยทีเดียว เราเดินดูหลายๆร้านแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร้านนี้เพราะรอไม่นานมาก รอไปประมาณ15นาทีก็ได้โต๊ะค่ะ ที่ร้านจะใช้การสั่งเป็นการกดตู้ คือเราใส่เงินเข้าไปก่อนแล้วก็เลือกเมนูที่เราจะสั่ง ไม่มีภาษาอังกฤษให้ แต่มีรูปภาพประกอบ แต่พวกเครื่องเคียงก็ไม่มีรูปภาพให้นะคะ แนะนำให้ถามพนักงานร้าน แต่สำหรับผู้หญิง เราแนะนำให้สั่งไซส์ mini เราสั่งไซส์ปกติกินกันไม่หมดค่ะ
รสชาติราเม็งค่อนข้างมันเยิ้มมันย่อง แต่อาจจะมีเต้าเจี้ยว (มิโสะ)มาตัดเลี่ยน แต่สิ่งที่สัมผัสได้เลยคือ ร้อนมาก เรากินไปสักพักใหญ่ก็ยังร้อนอยู่ แต่ก็อร่อยดีนะคะ ราคา 870 เยนให้เยอะอยู่กินอิ่มยันมื้อเย็น เราขอให้คะแนนที่ 7/10
ก่อนออกมาเราซื้อข้าวเกรียบรสราเม็งมาด้วย เพราะเป็นชิ้นเดียวที่แกะให้ชิม แล้วเราก็ไปชิมแผ่น2แผ่น ก็ซื้อเอามาฝากที่บ้าน ที่บ้านชอบกันนะคะ กล่องจะสีแดงๆหน่อย
เมนูที่ 2 ซูชิ 108 เยน จากร้าน Kura SuShi พิกัดสถานี Hashimoto
เป็นร้านที่เราประทับใจที่สุดตั้งแต่มาที่ญี่ปุ่น มันคุ้มมากแบบมากๆแต่ถ้าจะให้พูดสำหรับนักท่องเที่ยวมันก็ไกลเกินไปที่จะถ่อตัวเองจากโตเกียวเพื่อมากินที่นี่ แต่สำหรับเราจากแถวหอพักเพื่อนเรานั่งรถไฟไป3สถานีก็ได้กินแล้วค่ะ ปลาที่นี่อร่อย สด หวาน คุ้มค่ามาก เป็นราคาที่เราประทับใจและชอบมาก จริงๆเพื่อนบอกว่ามีซูชิ100เยนตรงสถานี Machida แต่อันนั้นไม่สดเท่าที่นี่ เหมือนเป็นร้านที่คนญี่ปุ่นมากินกัน แถมเราไปหมุนกาจาปองเล่นเพลินๆ ก็สนุกดีค่ะ
ที่ร้านจะเป็นซูชิสายพาน แต่ว่าแต่ละโต๊ะจะมีหน้าจอคอยสั่งอาหารได้ มีภาษาอังกฤษให้ค่ะ เมนูส่วนใหญ่จะประมาณ100เยน แต่ถ้าเมนูพิเศษจะมีราคากำกับไว้ อย่างในรูปซุปหอย ราคา 180 เยน ราคาที่แสดงในร้านยังไม่รวมค่าภาษีอีก 8% ตอนแรกเราตั้งใจจะไปกินสัก10จาน แต่ก็จบที่8จานค่ะ ไม่ไหว แต่อร่อยนะคะแนะนำเลย ราคาสบายประหยัดเงินในกระเป๋า ที่ร้านถ้าไปกินกับเพื่อนแล้วแยกจ่าย เราจะต้องจำจำนวนของจานที่เรากินเพราะพอเรากินเสร็จเราก็ต้องหย่อนจานลงตรงช่องแล้วเครื่องก็จะนับจำนวนจานที่เรากินทั้งหมด เรากับเพื่อนกินกันทั้งหมด15จาน เรา8งาน เพื่อน 7 จาน มีซุปหอยอีก 180 เยน สนนค่าใช้จ่ายมื้อนี้ 1058 เยน เราขอให้คะแนนที่ 10/10 ไปเลยพี่
เมนูที่ 3 ข้าวหน้าปลาไหลจากย่าน Ueno จากร้าน Unatoto Unagi พิกัดสถานี Ueno
ร้านจะอยู่ในซอยข้างๆร้านUniqloออกจากสถานีJRเดินออกมาไม่ยากค่ะ ร้านจะเป็นร้านเล็กๆมีหลายชั้นเหมือนกัน เราไปกันตอน11โมงคนยังไม่เยอะเท่าไหร่ ราคาก็มีตั้งแต่ 500 เยน - 2000 เยนก็มีแล้วแต่ว่าใครจะชอบเยอะแคไหน ใหญ่แค่ไหน แต่ยังไงก็ถูกกว่าที่ไทยอยู่ดี ไปถึงถิ่นแล้วก็ลองแวะไปนะคะ เราสั่งเป็น Set มีน้ำซุปแล้วก็สลัดญี่ปุ่นให้ ข้าวเสิร์ฟมาพร้อมกับปลาชิ้นใหญ่ๆ2ชิ้น กินกันพุงปลิ้นมาก ร้านนี้เขามีไก่ย่างแบบญี่ปุ่นด้วยนะคะ แต่น่าจะเป็นมื้อเย็น เราว่าก็น่าจะอร่อยดี
เนื้อปลานุ่ม หอมอร่อยดีค่ะ แต่น้ำซอสเค็มไปหน่อย เราเคยดูรายการญี่ปุ่นเขาบอกว่าเอาน้ำชามาราดข้าวทำเป็นข้าวต้มก็จะอร่อยไปอีกแบบแต่เราใช้วิธีตักข้าวลงในถ้วยน้ำซุปกันพลาดค่ะ อร่อยดีค่ะ เราชอบกลิ่นย่างของปลาแล้วตอนกินกับข้าวร้อนๆมันดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก เราขอให้คะแนนที่ 8/10 คือไม่ได้ โอ้คุณพระคุณเจ้า แต่มันก็อร่อยอ่ะ อาจเพราะเราไม่ได้ชอบกินปลาไหลมากขนาดนั้น แต่ก็ยังถูกกว่าที่ไทยค่ะ ไปกินเถอะ!!
เมนูที่ 4 เมนูรักษาสุขภาพ อาหารหลักร้อย วิวหลักร้านจากร้าน A TO Z พิกัดสถานี Omotesando
ร้าน A TO Z ร้านนี้คุณโยชิโตโมะ นาระ Artistคนดังของญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนค่ะ ร้านจะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่มและของหวาน เราชอบการตกแต่งของร้านมาก ร้านจะอยู่ที่ชั้น5ทำให้เราเห็นวิวของโตเกียวด้วย ที่สำคัญเพลงที่เปิดเพราะมากและเป็นเพลงที่เราชอบด้วย พอกลับมาฟังเพลงนั้นอีกรอบบรรยากาศของร้าน รสชาติของอาหารก็หวนกลับมาในความทรงจำเลยค่ะ
ร้านนี้พิเศษที่ว่า สามารถเติมข้าว น้ำชา น้ำซุปได้ไม่อั้น เมนูอาหารอาจจะมีไม่เยอะนัก ใครไม่ถูกใจของคาวก็ลองดูของหวานได้นะคะ ที่สำคัญพนักงานน่ารักมาก ดูแลทุกความใส่ใจเราทำตะเกียบหล่นเขาก็เดินมาเปลี่ยนตะเกียบให้เรา ประทับใจค่ะ
อันนี้เป็นมุมที่ถ่ายจากบนร้านค่ะ เราชอบบรรยากาศของร้านนี้มาก มันรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตาๆ เราขอให้คะแนนที่ 9/10