Day 16:
“วันนี้เราจะพาไปกิน Endo Sushi”
2 วันสุดท้ายของเรา สิงสถิตย์อยู่ที่โอซาก้าค่ะ เนื่องจากไม่ได้ต้องนั่งรถไฟไปไหน วันนี้เราเลยชิลๆ ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรกันมากนัก เป้าหมายเช้านี้ พี่ปุ่นจะพาเราไปทาน Endo Sushi ร้านซูชิชื่อดังที่อยู่ในตลาดปลาโอซาก้า แค่บอกว่าอยู่ในตลาดปลาก็รู้สึกได้แล้วว่าปลาต้องสดมากๆแน่ๆ ปะ ไปกันค่ะ
เรานั่งรถไฟฟ้าจากสถานีแถวๆที่พักคือ Sakaisuji-Hommachi มาลงที่สถานี Awaza ซึ่งพี่ปุ่นบอกว่าเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดแล้ว โดยที่เราไม่รู้เลยว่า เราต้องเดินจากสถานีนี้ไปอีก 15 นาที!
เอาน่ะ อยากทานของอร่อยต้องอดทน! เรื่องกินเราสู้เสมอ! 555
พอขึ้นจากสถานีมาได้ซักพัก มองไปในซอยขวามือ ก็เจอสิ่งเตะตา ซากุระ!
โถ...สงสารเราเถอะ เราออกจะตื่นเต้นกับซากุระในทุกที่ที่ได้เจอ เพราะปีนี้ซากุระมาช้า เราเลยเกือบจะไม่ได้เห็นแล้ว เราเลยลุ้นตัวโก่งมาทั้งทริป
พอแวะเข้าไปถ่ายรูปซากุระในสนามเด็กเล่นจนพอใจแล้ว เราก็ออกเดินกันต่อ ข้ามถนนนั้น
เดินเลาะทางเดินริมสะพานข้ามแม่น้ำนี้
ดีนะที่อากาศไม่ร้อน เดินได้สบายๆ แล้วเราก็มาถึงตลาดปลา!!!!!
เดินผ่านดอกไม้สวยๆข้างทางเข้าตลาดปลา เราก็มาเจอร้าน Endo Sushi ซึ่ง โอ้...แม่เจ้า! โปรดดูคิวค่ะ!
คือจากที่ดูในรายการญี่ปุ่น เราก็พอได้เห็นมาบ้างว่าร้านอาหารในญี่ปุ่นต้องต่อคิวยาวๆ แต่ในทริปนี้ทั้งทริปเรายังไม่เคยต้องต่อคิวยาวๆอย่างนี้เลย เราเลยแอบช็อคนิดนึง แต่มาถึงนี่แล้วก็ต้องต่อค่ะ! (กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง)
จากการต่อคิวอันยาวนาน ก็ถึงคิวเราแล้วววว เย้!!!!
ภายในร้ายค่อนข้างเล็กมาก ไม่แปลกใจเลยที่คิวอาจจะเวียนกันช้าซักหน่อย เพราะที่นั่งในร้านมีน้อยมาก
เมนูที่นี่มีแค่แผ่นเดียว เป็น Set Sushi ที่ทางร้านจัดมาให้แล้ว 4 Set Set นึงจะมี 5 คำ ราคา set ละ 1,050 เยน ถ้าใครไม่พอใจ อยากเปลี่ยนปลาใน set ก็บอกเค้าได้นะ ราคาก็จะต่างไปแล้วแต่ปลาที่สั่งค่ะ
ตอนแรกเราลองสั่งมาก่อนคนละ Set มีเปลี่ยนปลาด้วย แปปเดียวเค้าก็เอามาเสิร์ฟ
แค่คำแรกที่ทานไป โอ้ยยย มันละลายในปาก ปลาสดและอร่อยมากก ฟินสุดๆ ควรค่าแต่การต่อคิวรอจริงๆค่ะ
จนเราต้องสั่งมากันอีก 1 และลองสั่งเป็นคำๆมาอีก 4 คำ ฟินมากกกก อาจจะดูเว่อร์แต่มันอร่อยจริงๆค่ะ 555
หันไปที่กำแพงร้านเค้ามีป้ายประกาศ เฮ้ย! เค้าไปเปิดสาขาที่ไทยด้วยนะ อยู่ที่ทองหล่อ ซอย 11
เราเพิ่งมีโอกาสไปลองมา ส่วนตัวเรารู้สึกว่าไม่ค่อยฟินเหมือนตอนทานที่โอซาก้า แต่บางคนก็บอกว่าดีกว่า อันนี้นานาจิตตังต้องไปลองกันดูเองนะคะ
อ้าว หมดละเป้าหมายวันนี้ ยังเหลือเวลาอีกครี่งวัน ไปไหนกันดีล่ะนี่ ปะ ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ที่ Tempozan Ferris Wheel กัน ต้องบอกว่าร้าน Endo Sushi ตั้งอยู่ค่อนข้างนอกตัวเมือง เราเลยต้องเดินกันหนักมากค่ะ อย่างจากที่นี่จะไป Tempozan ขึ้นรถบัสไปน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่กว่าจะเดินไปถึงป้ายรถบัสนี่เรียกว่าเดินกันเมื่อยเท้าเลยทีเดียวค่ะ
รอไม่นานรถบัสก็มาค่ะ
เรานั่งรถสบัสแค่ต่อเดียวก็มาลงที่ Tempozan Ferris Wheel ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกับสวนน้ำชื่อดังอย่าง Kaiyukan คือมาถึงก็ได้นั่งทั้งชิงช้าสวรรค์ ทั้งเดินเที่ยวสวนน้ำเลย แต่สำหรับเรา สวนน้ำอาจจะไม่ใช่ทาง ขอนั่งแค่ชิงช้าสวรรค์ละกัน 555
เราเดินขึ้นมาซื้อตั๋วสำหรับขึ้นชิงช้าสวรรค์ ตั๋วราคา 800 เยน ต่อคนค่ะ (240 บาท)
ตู้ชิงช้าสวรรค์ที่นี่จะมี 2 แบบ คือแบบที่เป็นแก้วใส แต่มีสีทึบบางส่วน กับแบบแก้วใสทั้งตู้เห็นวิวรอบด้าน 2 แบบนี้ราคาตั๋วเท่ากันนะคะ แต่ถ้าใครอยากนั่งแบบแก้วใสทั้งตู้ต้องรอคิวนานกว่า เพราะว่าตู้แบบนี้มีน้อยกว่าค่ะ
ด้านบนเราจะวิวท่าเรือจากมุมสูงค่ะ สวยและชิลมากๆ
1 รอบชิงช้าสวรรค์ผ่านไปไวเหมือนโกหก 555 ลงมาแล้ว เราก็เดินออกไปด้านข้างของ Tempozan Ferris Wheel จะเป็นสวนซากุระ ที่คนมาเดิน มานั่งชิลล์กัน
จากนั้นเราย้ายไปยังจุดหมายถัดไปของเราคือ ปราสาทโอซาก้า นั่นเอง
เราเพิ่งรู้ว่าปราสาทโอซาก้ามีส่วนที่เป็นสวนสาธารณะที่กว้างมากกก วันนี้อากาศดี มีคนมาปูเสื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระ ตีแบด จูงหมาเดินเล่น
และเราเพิ่งรู้อีกว่าที่ปราสาทโอซาก้านี้ มีกาเยอะมาก อยู่กันเป็นฝูงเลยทีเดียว
ภายในปราสาทโอซาก้านี้จะมีของกินขายอยู่เป็นจุดๆ นี่คือจุดแรกที่เราเจอค่ะ
มีทั้งเนื้อย่าง ปลาหมึกย่าง มันเผาแบบหั่นเป็นแท่งโรยน้ำตาล เราก็เป็นเหยื่อของกินซะด้วย ก็เลยหยุดกินนู้นกินนี่อยู่ตรงนี้พักนึง 555
อิ่มแล้วเดินกันต่อ และเราก็เจอตัวปราสาท ภายในปราสาทมีคนมาเที่ยวกันอยู่เยอะจริง แต่ไม่รู้สึกแน่น อึดอัดเลย คงเพราะว่าที่นี่มันกว้างมากจริงๆ และเราก็เดินกันหนักมากกกจริงๆวันนี้ 555
เดินๆไปเรื่อยๆ
พี่ปุ่น: "ไผ่ ชิบะ"
เราเป็นคนชอบหมาชิบะมาก หน้าตามันน่ารักอ่ะ แต่เท่าที่เคยเล่นด้วย ชิบะเป็นหมาอินดี้ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก แต่ก็ชอบอยู่ดี 555
สำหรับเจ้าชิบะตัวนี้ แค่พี่ปุ่นเรียกให้เราดูแล้วเราหันไป "อึ๊ยยย...."
เจ้าของเค้าก็หยุดแล้วเรียกให้ไปเล่นด้วยได้เลย น่ารักมากอ่ะ พอเรานั่งลงไปเล่นด้วย เจ้าชิบะตัวนี้ก็กระโดดเอาขาหน้ามาเกาะที่ตักเรา เฮ้ย ตัวนี้ก็ไม่ค่อยอินดี้นี่นา เฟรนลี่นะเราน่ะ 5555
ลูกไผ่: "ผู้หญิง ผู้ชายอ่ะคะ"
คุณเจ้าของ: "ผู้ชายครับ"
ลูกไผ่: "ชื่ออะไรเหรอคะ"
คุณเจ้าของ: "คุมะ"
ลูกไผ่: "อ๊ะ พี่ปุ่น คุมะอ่ะ เจ้าหมีๆ"
พี่ปุ่น: "bear"
คุณเจ้าของ: "อ่า ใช่แล้วๆ 555"
ลูกไผ่: "อายุเท่าไหร่แล้วคะ"
คุณเจ้าของ: "3 ขวบครับ"
เราเล่นไปด้วยซักพัก เราก็บ๊าย บายเจ้าคุมะคุง เจ้าของเค้ายังมาขอโทษเราอยู่เลยที่คุมะคุงปีนมาบนตักเรา ทำกางเกงเราเปื้อน อ๋อย คุณเจ้าของน่ารัก ใจดีมาก
ลูกไผ่: "อ๋อย อยากได้ชิบะซักตัวอ่ะค่ะ แต่แพงง่ะ"
พี่ปุ่น: "ไปหาอุปการะสิ"
ลูกไผ่: "แงะ ที่ไหนล่าาาา T^T"
แล้วเราก็เดินมาเกือบส่วนสุดท้ายของปราสาท (คิดว่านะ ไม่แน่ใจว่าเราเดินทั่วรึยัง 555)
ตรงนี้จะมีศาลเจ้า และรูปปั้นของ ท่านฮิเดะโยชิ โทโยโทมิ โชกุนผู้สร้างปราสาทโอซาก้าแห่งนี้
เดินถึงทางออกก็เย็นพอดี
เรานั่งรถไฟกลับไปย่านโดทงบุริ เพื่อหาข้าวเย็นทานกัน คือด้วยร้านที่นี่เยอะไปหมด ไอเราก็ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย ร้านไหนไม่อร่อย EP ที่แล้วก็ทานตามร้านที่รีวิวกันละ วันนี้ไม่มีข้อมูลต้องสุ่มเองละล่ะ หันไปหันมา อ๊ะ ร้านนี้ละกัน
ร้านนี้เป็นร้านโอโคโนะมิยากิ บนโต๊ะจะเป็นกระทะกว้างๆ ฝังลงไปกับโต๊ะ เราสั่งโซบะ กับโอโคโนะมิยากิมา เวลาที่เค้าเสิร์ฟ เค้าก็จะเอามาผัดให้ที่กระทะบนโต๊ะเราเลย
ร้านนี้อร่อยใช้ได้เลย เอาจริงๆ ตั้งแต่เรามาญี่ปุ่นมานี่ มีน้อยร้านมากที่จะไม่อร่อย 555
ได้เวลากลับไปพักขาที่เดินมาทั้งวันแบบแทบไม่ได้นั่งพักแล้ว
ฝากติดตามเพจเราด้วยน้า =>
https://www.facebook.com/wherewegopage/
ต่อวันสุดท้ายด้านล่างจ้า.....
[CR] ทริปกินตัวแตกที่โอซาก้า แล้วไปขึ้นชิงช้าที่ Tempozan
Day 16:
“วันนี้เราจะพาไปกิน Endo Sushi”
2 วันสุดท้ายของเรา สิงสถิตย์อยู่ที่โอซาก้าค่ะ เนื่องจากไม่ได้ต้องนั่งรถไฟไปไหน วันนี้เราเลยชิลๆ ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรกันมากนัก เป้าหมายเช้านี้ พี่ปุ่นจะพาเราไปทาน Endo Sushi ร้านซูชิชื่อดังที่อยู่ในตลาดปลาโอซาก้า แค่บอกว่าอยู่ในตลาดปลาก็รู้สึกได้แล้วว่าปลาต้องสดมากๆแน่ๆ ปะ ไปกันค่ะ
เรานั่งรถไฟฟ้าจากสถานีแถวๆที่พักคือ Sakaisuji-Hommachi มาลงที่สถานี Awaza ซึ่งพี่ปุ่นบอกว่าเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดแล้ว โดยที่เราไม่รู้เลยว่า เราต้องเดินจากสถานีนี้ไปอีก 15 นาที!
เอาน่ะ อยากทานของอร่อยต้องอดทน! เรื่องกินเราสู้เสมอ! 555
พอขึ้นจากสถานีมาได้ซักพัก มองไปในซอยขวามือ ก็เจอสิ่งเตะตา ซากุระ!
โถ...สงสารเราเถอะ เราออกจะตื่นเต้นกับซากุระในทุกที่ที่ได้เจอ เพราะปีนี้ซากุระมาช้า เราเลยเกือบจะไม่ได้เห็นแล้ว เราเลยลุ้นตัวโก่งมาทั้งทริป
พอแวะเข้าไปถ่ายรูปซากุระในสนามเด็กเล่นจนพอใจแล้ว เราก็ออกเดินกันต่อ ข้ามถนนนั้น
เดินเลาะทางเดินริมสะพานข้ามแม่น้ำนี้
ดีนะที่อากาศไม่ร้อน เดินได้สบายๆ แล้วเราก็มาถึงตลาดปลา!!!!!
เดินผ่านดอกไม้สวยๆข้างทางเข้าตลาดปลา เราก็มาเจอร้าน Endo Sushi ซึ่ง โอ้...แม่เจ้า! โปรดดูคิวค่ะ!
คือจากที่ดูในรายการญี่ปุ่น เราก็พอได้เห็นมาบ้างว่าร้านอาหารในญี่ปุ่นต้องต่อคิวยาวๆ แต่ในทริปนี้ทั้งทริปเรายังไม่เคยต้องต่อคิวยาวๆอย่างนี้เลย เราเลยแอบช็อคนิดนึง แต่มาถึงนี่แล้วก็ต้องต่อค่ะ! (กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง)
จากการต่อคิวอันยาวนาน ก็ถึงคิวเราแล้วววว เย้!!!!
ภายในร้ายค่อนข้างเล็กมาก ไม่แปลกใจเลยที่คิวอาจจะเวียนกันช้าซักหน่อย เพราะที่นั่งในร้านมีน้อยมาก
เมนูที่นี่มีแค่แผ่นเดียว เป็น Set Sushi ที่ทางร้านจัดมาให้แล้ว 4 Set Set นึงจะมี 5 คำ ราคา set ละ 1,050 เยน ถ้าใครไม่พอใจ อยากเปลี่ยนปลาใน set ก็บอกเค้าได้นะ ราคาก็จะต่างไปแล้วแต่ปลาที่สั่งค่ะ
ตอนแรกเราลองสั่งมาก่อนคนละ Set มีเปลี่ยนปลาด้วย แปปเดียวเค้าก็เอามาเสิร์ฟ
แค่คำแรกที่ทานไป โอ้ยยย มันละลายในปาก ปลาสดและอร่อยมากก ฟินสุดๆ ควรค่าแต่การต่อคิวรอจริงๆค่ะ
จนเราต้องสั่งมากันอีก 1 และลองสั่งเป็นคำๆมาอีก 4 คำ ฟินมากกกก อาจจะดูเว่อร์แต่มันอร่อยจริงๆค่ะ 555
หันไปที่กำแพงร้านเค้ามีป้ายประกาศ เฮ้ย! เค้าไปเปิดสาขาที่ไทยด้วยนะ อยู่ที่ทองหล่อ ซอย 11
เราเพิ่งมีโอกาสไปลองมา ส่วนตัวเรารู้สึกว่าไม่ค่อยฟินเหมือนตอนทานที่โอซาก้า แต่บางคนก็บอกว่าดีกว่า อันนี้นานาจิตตังต้องไปลองกันดูเองนะคะ
อ้าว หมดละเป้าหมายวันนี้ ยังเหลือเวลาอีกครี่งวัน ไปไหนกันดีล่ะนี่ ปะ ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ที่ Tempozan Ferris Wheel กัน ต้องบอกว่าร้าน Endo Sushi ตั้งอยู่ค่อนข้างนอกตัวเมือง เราเลยต้องเดินกันหนักมากค่ะ อย่างจากที่นี่จะไป Tempozan ขึ้นรถบัสไปน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่กว่าจะเดินไปถึงป้ายรถบัสนี่เรียกว่าเดินกันเมื่อยเท้าเลยทีเดียวค่ะ
รอไม่นานรถบัสก็มาค่ะ
เรานั่งรถสบัสแค่ต่อเดียวก็มาลงที่ Tempozan Ferris Wheel ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกับสวนน้ำชื่อดังอย่าง Kaiyukan คือมาถึงก็ได้นั่งทั้งชิงช้าสวรรค์ ทั้งเดินเที่ยวสวนน้ำเลย แต่สำหรับเรา สวนน้ำอาจจะไม่ใช่ทาง ขอนั่งแค่ชิงช้าสวรรค์ละกัน 555
เราเดินขึ้นมาซื้อตั๋วสำหรับขึ้นชิงช้าสวรรค์ ตั๋วราคา 800 เยน ต่อคนค่ะ (240 บาท)
ตู้ชิงช้าสวรรค์ที่นี่จะมี 2 แบบ คือแบบที่เป็นแก้วใส แต่มีสีทึบบางส่วน กับแบบแก้วใสทั้งตู้เห็นวิวรอบด้าน 2 แบบนี้ราคาตั๋วเท่ากันนะคะ แต่ถ้าใครอยากนั่งแบบแก้วใสทั้งตู้ต้องรอคิวนานกว่า เพราะว่าตู้แบบนี้มีน้อยกว่าค่ะ
ด้านบนเราจะวิวท่าเรือจากมุมสูงค่ะ สวยและชิลมากๆ
1 รอบชิงช้าสวรรค์ผ่านไปไวเหมือนโกหก 555 ลงมาแล้ว เราก็เดินออกไปด้านข้างของ Tempozan Ferris Wheel จะเป็นสวนซากุระ ที่คนมาเดิน มานั่งชิลล์กัน
จากนั้นเราย้ายไปยังจุดหมายถัดไปของเราคือ ปราสาทโอซาก้า นั่นเอง
เราเพิ่งรู้ว่าปราสาทโอซาก้ามีส่วนที่เป็นสวนสาธารณะที่กว้างมากกก วันนี้อากาศดี มีคนมาปูเสื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระ ตีแบด จูงหมาเดินเล่น
และเราเพิ่งรู้อีกว่าที่ปราสาทโอซาก้านี้ มีกาเยอะมาก อยู่กันเป็นฝูงเลยทีเดียว
ภายในปราสาทโอซาก้านี้จะมีของกินขายอยู่เป็นจุดๆ นี่คือจุดแรกที่เราเจอค่ะ
มีทั้งเนื้อย่าง ปลาหมึกย่าง มันเผาแบบหั่นเป็นแท่งโรยน้ำตาล เราก็เป็นเหยื่อของกินซะด้วย ก็เลยหยุดกินนู้นกินนี่อยู่ตรงนี้พักนึง 555
อิ่มแล้วเดินกันต่อ และเราก็เจอตัวปราสาท ภายในปราสาทมีคนมาเที่ยวกันอยู่เยอะจริง แต่ไม่รู้สึกแน่น อึดอัดเลย คงเพราะว่าที่นี่มันกว้างมากจริงๆ และเราก็เดินกันหนักมากกกจริงๆวันนี้ 555
เดินๆไปเรื่อยๆ
พี่ปุ่น: "ไผ่ ชิบะ"
เราเป็นคนชอบหมาชิบะมาก หน้าตามันน่ารักอ่ะ แต่เท่าที่เคยเล่นด้วย ชิบะเป็นหมาอินดี้ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก แต่ก็ชอบอยู่ดี 555
สำหรับเจ้าชิบะตัวนี้ แค่พี่ปุ่นเรียกให้เราดูแล้วเราหันไป "อึ๊ยยย...."
เจ้าของเค้าก็หยุดแล้วเรียกให้ไปเล่นด้วยได้เลย น่ารักมากอ่ะ พอเรานั่งลงไปเล่นด้วย เจ้าชิบะตัวนี้ก็กระโดดเอาขาหน้ามาเกาะที่ตักเรา เฮ้ย ตัวนี้ก็ไม่ค่อยอินดี้นี่นา เฟรนลี่นะเราน่ะ 5555
ลูกไผ่: "ผู้หญิง ผู้ชายอ่ะคะ"
คุณเจ้าของ: "ผู้ชายครับ"
ลูกไผ่: "ชื่ออะไรเหรอคะ"
คุณเจ้าของ: "คุมะ"
ลูกไผ่: "อ๊ะ พี่ปุ่น คุมะอ่ะ เจ้าหมีๆ"
พี่ปุ่น: "bear"
คุณเจ้าของ: "อ่า ใช่แล้วๆ 555"
ลูกไผ่: "อายุเท่าไหร่แล้วคะ"
คุณเจ้าของ: "3 ขวบครับ"
เราเล่นไปด้วยซักพัก เราก็บ๊าย บายเจ้าคุมะคุง เจ้าของเค้ายังมาขอโทษเราอยู่เลยที่คุมะคุงปีนมาบนตักเรา ทำกางเกงเราเปื้อน อ๋อย คุณเจ้าของน่ารัก ใจดีมาก
ลูกไผ่: "อ๋อย อยากได้ชิบะซักตัวอ่ะค่ะ แต่แพงง่ะ"
พี่ปุ่น: "ไปหาอุปการะสิ"
ลูกไผ่: "แงะ ที่ไหนล่าาาา T^T"
แล้วเราก็เดินมาเกือบส่วนสุดท้ายของปราสาท (คิดว่านะ ไม่แน่ใจว่าเราเดินทั่วรึยัง 555)
ตรงนี้จะมีศาลเจ้า และรูปปั้นของ ท่านฮิเดะโยชิ โทโยโทมิ โชกุนผู้สร้างปราสาทโอซาก้าแห่งนี้
เดินถึงทางออกก็เย็นพอดี
เรานั่งรถไฟกลับไปย่านโดทงบุริ เพื่อหาข้าวเย็นทานกัน คือด้วยร้านที่นี่เยอะไปหมด ไอเราก็ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย ร้านไหนไม่อร่อย EP ที่แล้วก็ทานตามร้านที่รีวิวกันละ วันนี้ไม่มีข้อมูลต้องสุ่มเองละล่ะ หันไปหันมา อ๊ะ ร้านนี้ละกัน
ร้านนี้เป็นร้านโอโคโนะมิยากิ บนโต๊ะจะเป็นกระทะกว้างๆ ฝังลงไปกับโต๊ะ เราสั่งโซบะ กับโอโคโนะมิยากิมา เวลาที่เค้าเสิร์ฟ เค้าก็จะเอามาผัดให้ที่กระทะบนโต๊ะเราเลย
ร้านนี้อร่อยใช้ได้เลย เอาจริงๆ ตั้งแต่เรามาญี่ปุ่นมานี่ มีน้อยร้านมากที่จะไม่อร่อย 555
ได้เวลากลับไปพักขาที่เดินมาทั้งวันแบบแทบไม่ได้นั่งพักแล้ว
ฝากติดตามเพจเราด้วยน้า => https://www.facebook.com/wherewegopage/
ต่อวันสุดท้ายด้านล่างจ้า.....