70 ปีหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว Holocaust


.
รอยสักที่ยังเห็นได้จากผู้รอดตาย
จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว Holocaust
Edith (Weingarten) Fox ที่ Tucson
หลังจากอพยพมาอยู่ที่ Buffalo สหรัฐฯ
เธอได้แต่งงานกับ Joseph
และมีลูกด้วยกัน 3 คน
(Photo courtesy of Nina Trasoff)

มันเป็นเวลากว่า 70 ปีแล้ว
ที่ Edith Fox เก็บเรื่องราวการรอดตาย
จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
Holocaust ไว้เป็นความลับในใจมาตลอด
มีเพียงบางครั้ง
ที่เธอบอกกับเพื่อนสนิทบางคนว่า
เธอต้องการป้ายจารึกที่สุสานของเธอว่า
ผู้รอดตายจาก Holocaust Survivor
แต่เธอก็ไม่ยอมพูดถึงเรื่องราวในอดีตครั้งนั้น
เพราะยิ่งรำลึกถึงยิ่งเจ็บปวดใจ
และทุกข์ทรมานจิตใจมากกว่าเดิม

ตอนที่เธอยังเป็นเด็กหญิง
เธอต้องอยู่ในคุก Auschwitz เป็นเวลา 4 ปี
และเธอต้องรอคอยเป็นเวลา 2 ปี
ก่อนที่จะได้อพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
โดยได้มาอยู่ที่ Buffalo
ที่เมืองที่เธอพบเจอกับสามีของเธอ
และมีลูกด้วยกัน 3 คนที่นี่

แต่ตอนนี้ Edith Fox
พักอาศัยอยู่ที่ Tucson รัฐ Arizona
เมื่อหลายเดือนก่อน
เธอเริ่มเจ็บไข้ออดออดแอดเพราะวัยชรา
เธอจึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราว
ในอดีตตอนที่เธอวัย 90 ปีแล้ว
เธอไม่ต้องการให้เรื่องราวในอดีต
จบลงไปพร้อมกับชีวิตของเธอ
เธอหวังแต่เพียงว่าผู้คน
จะได้ไม่ลืมเลือนเรื่องราวของ Holocaust
และเป็นเรื่องที่แย่มาก
ที่ใครบางคนปฏิเสธว่า
ไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย
เธอได้แต่หวังแต่เพียงว่า
เรื่องราวครั้งนี้จะได้ย้ำเตือน
ความทรงจำของผู้คนในปัจจุบัน

ปัจจุบัน นานาชาติ
ได้จัดวันรำลึกถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ Holocaust
International Holocaust Remembrance Day

เธอได้บอกเล่าเรื่องราวของเธอ
กับ Nina Trasoff ผู้เยี่ยมเยือนฉันท์เพื่อนสนิท
ผ่านทางโครงการ
Jewish Family and Children’s Services ใน Tucson
เพื่อทำให้ผู้รอดตายจาก Holocaust
ได้มีกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน
และผู้คนที่ต่างเป็นเพื่อนกับ
ครอบครัว Sharon Price

ฉันชื่อ Edith Fox นามสกุลเดิม Weingarten
ฉันเกิดในประเทศ Czechoslovakia
ในเมือง Teplice (Teplice-Šanov ก่อนปี 1948)

แม่ฉัน Giselle Weingarten
ไม่เคยเล่าเรื่องราวพ่อแม่เธอเลย
ฉันจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตายายของฉัน
รู้แต่ว่าพี่ชายคนโตของแม่
ทำหน้าที่ดูแลแม่กับน้องสาวแม่อีก 2 คน

ในตอนนั้นที่ฉันอยู่ที่ยุโรป
พวกเราต่างไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้เลย
ตอนช่วงเวลานั้น
ฉันเพียงแค่ไปโรงเรียน
เตรียมข้าวปลาอาหาร
เล่นกับเพื่อน ๆ
แล้วทำการบ้านของโรงเรียน

แม่ของฉันแต่งงานกับพ่อ Mano Fogel
พ่อทำงานที่โรงไม้ ส่วนแม่มีร้านเสื้อผ้า
เธอเป็นนักธุรกิจสตรีคนหนึ่งในตอนนั้น

ฉันเป็นน้องสาวคนเล็กสุดในบ้าน
ฉันมีพี่ชาย 5 คน
ทุกคนต่างปกป้องและดูแลฉันเป็นอย่างดี
พี่ชายฉันชื่อว่า Heskel Ignat
Sam Harry และ Zigmant
พี่ชายฉัน 2 คนถูกเกณฑ์เป็นทหาร
ประจำในกองทัพ Czech


ฉันอายุ 13 ปี
ตอนที่สงครามโลกครั้งที่ 2
เริ่มต้นขึ้นในปี 1941
พวกนาซีเยอรมันนี  Nazi
ได้บุกเข้ามาและล้อมรอบบ้านเรา
ฉัน พ่อแม่ พี่ชายของฉันทั้ง 3 คน
ถูกบอกให้เก็บข้าวของติดตัวออกไป
พวกมันบอกเราว่า
จะพาพวกเราไปอยู่ที่ Poland
ซึ่งตอนนั้นถูกยึดครองโดย
Germans กับ Russians
พวกมันบอกเราว่า
เราจะมีบ้านมีร้านค้าที่นั่น
ทุกอย่างฟรีหมด

แต่แล้ว ตอนที่เราไปถึง Poland
พวกนาซีเยอรมันนีได้สั่งให้
พวกเราวิ่งให้เร็วที่สุด
ใครวิ่งไม่ทันจะถูกยิงทิ้งทันที
พวกมันฆ่าแม่ฉันต่อหน้าต่อตาฉัน
เพราะเธอวิ่งไม่เร็วพอ
ฉันกอดตัวแม่ไว้
มันมากเกินไปสำหรับเด็กที่เห็นเรื่องแบบนี้
และต้องทุนทุกข์ทรมานกับเรื่องแบบนี้

ฉันบอกพวกมันว่า
ยิงฉันให้ตายไปด้วยเลย
แต่พวกมันบอกว่า  ไม่
แต่ต้องไปใช้แรงงาน
มีคนหลายคนตายตรงหน้าฉัน
ฉันเห็นแรบไบ Rabbi
ครูสอนศาสนาชาวยิวคนหนึ่ง
นอนตายจมกองเลือดอยู่ที่มุมถนน
ขาทั้งสองข้างของท่านถูกยิงจนขาด
แต่ท่านยังหายใจรวยริน
ท่านนอนตายจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
มันเหลือเชื่อมาก
กับเรื่องที่พวกมันทำกับชาวบ้าน


แล้วพวกมันก็แยก
ผู้ชายกับผู้หญิงออกจากกัน
ฉันจึงไม่เจอพ่อกับพี่ชายฉัน
อีกเลยจนถึงทุกวันนี้

พวกมันบังคับฉันกับ Leah เพื่อนฉัน
ไปยังชุมชนแออัด/สลัม Ghetto
ที่ Stanislau ใน Poland
สถานที่เลี้ยงดูเด็กวัยหัดเดิน
ของครอบครัวชาวยิว
เราทั้งสองคนต้อง
ซักผ้าอ้อมเด็กกว่า 300 คน

และตอนที่เรารู้ว่า
พวกนาซีเยอรมันนีกำลังจะ
มาจับพวกเราอีกครั้ง
เราได้ขอให้เด็กโตกว่า
ช่วยดูแลพวกเด็ก ๆ
พาไปหลบซ่อนในที่ปลอดภัย/ที่กำบัง

แต่มันไม่มีห้องว่างสักหลังเลยแถวนั้น
ดังนั้น Leah กับฉัน
จึงวิ่งลงไปที่ห้องใต้ดิน
ซึ่งมีเตาให้ความร้อนภายในบ้าน
แล้วปีนซ่อนตัวในปล่องไฟ

พวกนาซีเยอรมันมาถึงแล้ว
ต่างฆ่าเด็กวัยหัดเดินทุกคน
แล้วโยนศพขึ้นรถบรรทุกเหมือนกองขยะ
พร้อมกับจัดการยิงทิ้งทุกคน
ที่หลบซ่อนอยู่ในที่กำบัง

Leah กับฉันต้องหลบซ่อนตัว
อยู่ในปล่องไฟสองถึง 3 วัน
ก่อนที่พวกเราจะปีนออกมา
แล้วเดินและเดินอย่างเดียว
พวกเราพยายามจะไปที่
ชายแดน Czech ที่ติดกับ Hungary
เราเจอทหาร Czech คนหนึ่ง
ที่เราคิดว่าจะช่วยเราได้
แต่เขาอยู่ใต้การบังคับบัญชา
ของพวกนาซีเยอรมันนีแล้ว
เขาจึงคิดว่าจะพาพวกเราไปยัง
ค่ายทหารใกล้กับ Auschwitz

แล้วในนาทีสุดท้าย
เขาเกิดเปลี่ยนใจ
ปล่อยพวกเราไป
พร้อมกับบอกว่า
ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกเธอ

เราต่างไปแอบซ่อนตัวอยู่ตามคูน้ำ
และแล้ว Leah อยากกลับบ้าน
แต่เธอถูกยิงตายในคราวนั้น
ในเวลาต่อมาอีกไม่นาน
.


.

ป้ายทางเข้าค่ายกักกัน Auschwitz เขียนว่า
Arbeit macht frei = Work sets you free


.
ฉันถูกจับได้ในเวลาต่อมา
แล้วพวกมันก็พาฉัน
ไปที่ค่ายกักกัน Auschwitz
ฉันอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวที่นั่น
ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ
ครอบครัวของฉันบ้าง
ฉันถูกเรียกตัวให้เข้าแถว
ตามคำสั่งของ Josef Mengele
ที่แยกชาวยิวออกเป็น 2 แถว
แถวซ้ายกับแถวขวา
แถวซ้ายจะถูกฆ่าตายทั้งหมด
แถวขวาจะถูกส่งตัวไปทำงาน


วันหนึ่ง พวกมันเข้ามาแล้ว
ควบคุมพวกเราผุ้หญิง 50 คน
พวกเราต่างคิดว่า
พวกมันกำลังจะฆ่าพวกเราทุกคน
แต่พวกมันกลับส่งเราไปที่ Gleiwitz
ใกล้กับค่ายกักกัน Auschwitz
แล้วให้พวกเราทำงานที่
โรงงานผลิตลูกกระสุนปืน

พวกเราทุกคนต้องยืนทำงาน
บนสายพานการผลิตวันละ 8 ชั่วโมง
ห้ามพูดคุยกับใคร
หรือกับคนรอบข้างตัวพวกเรา
พวกเราต้องทำความสะอาด
ลูกกระสุนปืนที่เปื้อนเขม่าดำ
พวกมันผลิตลูกกระสุนปืนที่นี่
ฉันทำงานที่นั่นราว 3 ปีหรือมากกว่านั้น


ตอนที่ฉันอยู่ที่  Auschwitz  
ฉันพบเห็นเรื่องราวสลดใจมากมาย
ฉันเห็นบางคนทนไม่ไหวแล้ว
วิ่งชนรั้วไฟฟ้าแรงสูงเพื่อฆ่าตัวตาย
ฉันเห็นประกายไฟฟ้าแลบขึ้นมา
ตามร่างของพวกเขายอมฆ่าตัวตาย

ฉันเห็นผุ้คนจำนวนมาก
มาที่ Auschwitz จากสถานที่ต่าง ๆ กัน
พวกเขาจะถูกส่งตัวให้
ไปอาบน้ำในห้องน้ำรวม
แล้วประตูห้องน้ำจะปิดตายลง
ทุกคนต่างถูกฆ่าตาย
ในห้องน้ำด้วยแก๊สพิษ
Hydrogen cyanide

หลังจากนั้นพวกมันจะพาศพไปเผาทิ้ง
โดยจะถอดเสื้อผ้าและยึดทรัพย์สิน
ทุกอย่างทั้งหมดของคนตาย
นำไปคัดแยกเพื่อใช้ในกองทัพ
หรือขายหารายได้ให้กองทัพนาซีเยอรมัน

ฉันรู้จักกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
ที่กำลังดูเตาเผาศพในค่าย
เตาเผาศพที่เคยเผาศพพ่อแม่ของเขาเอง
เขาได้แต่ฝันว่า พ่อแม่ของเขา
จะฟื้นคืนชีพแล้วมาทำลายที่นี่เสีย

เขาบอกกับฉันว่า
เขาแอบมาสถานที่นี่อาทิตย์ละครั้ง
แล้วเขาก็ให้ข้าวของกับฉันกล่องหนึ่ง
เป็นรองเท้ากับเสื้อผ้า
ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
เป็นของผู้ตายในห้องรมแก๊สพิษคนไหนบ้าง

เรื่องที่เหลือเชื่อคือ
พวกมันทำงานกันอย่างเป็นระบบ
พวกมันบอกเองว่า
พวกมันต้องฆ่าชาวยิว
วันละ 10,000 คนทุกวัน
.

Holocaust survivor
Edith (Weingarten) Fox
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่