ผมเป็นคนพิการทางด้านการได้ยิน(หูตึง)มีบัตรประจำตัวคนพิการ และได้สมัครเข้าทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งตามสิทธิพนักงานคนปกติ และได้ทำงานเช่นเดียวกับพนักงานคนปกติมาเป็นเวลา 4 ปี แล้ว ปัจจุบันบริษัทผมมีพนักงาน 160 คน ซึ่งตามพระราชบัญญัติ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 กำหนดให้บริษัทต้องจ้างคนพิการทำงาน 100:1 คน ดังนั้นบริษัทผมจะต้องจ้างคนพิการทำงาน 2 คน
บริษัทได้จ้างคนพิการหนึ่งคนแล้ว ยังขาดอีกหนึ่งคน และบริษัทพยายามหาคนพิการเข้าทำงานแต่หาไม่ได้ จึงเลือกส่งเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตาม มาตรา 34 ปีละ 109,500 บาท (ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท* 365 วัน) และตอนนี้ฝ่ายบุคคลได้ทราบว่าผมเป็นคนพิการ จึงจะขอสิทธิผมไปยื่นต่อกรมส่งเสริมฯ เพื่อไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ซึ่งก็เท่ากับว่าผมช่วยบริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายการส่งเงินสมทบฯ แต่ในส่วนของผมๆสามารถเรียกร้องเงินช่วยเหลือหรือเงินพิเศษอื่นจากบริษัทได้ไหม เช่น เงินช่วยเหลือรายเดือนนอกเหนือจากเงินเดือน เป็นต้น
เนื่องจากผมเข้าทำงานเงินเดือนเริ่มแรก 11,000 บาท และเงินเดือนปัจจุบัน 13,000 บาท ซึ่งเงินเดือนที่ได้รับตอนนี้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน อีกทั้งในแต่ละเดือนผมมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องช่วยฟัง เช่น แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังเดือนละ 1,000 บาท ,ค่าเครื่องช่วยฟังเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท (ราคาเครื่องช่วยฟังยี่ห้อมาตรฐานรุ่นต่ำสุดราคา ณ ปัจจุบัน ข้างละ 18,000*2 เครื่อง / อายุการใช้งาน 3 ปี) เป็นต้น ซึ่งหากผมได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทก็จะเก็บออมเงินที่ได้รับไว้สำหรับเป็นทุนซื้อเครื่องช่วยฟังใหม่ทุกๆ 3 ปี
** อยากจะถามเพื่อนสมาชิกครับว่า **
1.การที่ผมเรียกร้องเงินช่วยเหลือรายเดือนนอกเหนือจากเงินเดือนตามสาเหตุเรื่องค่าใช้จ่ายเครื่องช่วยฟังในแต่ละเดือนนั้น น่าเกลียดไหม?
2.ผมสามารถเรียกร้องเงินช่วยเหลือรายเดือนนอกเหนือจากเงินเดือนได้ไหม? หากได้ควรเรียกเงินเท่าไหร่? หากไม่ได้เพราะสาเหตุอะไร?
3.หากเรียกร้องไม่ได้ บริษัทมีสิทธิเอาสิทธิความพิการของผมไปใช้ลดหย่อนเพื่อไม่ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯไหม?
4.บริษัทของเพื่อนสมาชิกมีการจ่ายเงินช่วยเหลือนอกเหนือจากเงินเดือนให้กับพนักงานคนพิการไหม?
## ขอบคุณครับ ##
เงินช่วยเหลือสำหรับพนักงานคนพิการ
บริษัทได้จ้างคนพิการหนึ่งคนแล้ว ยังขาดอีกหนึ่งคน และบริษัทพยายามหาคนพิการเข้าทำงานแต่หาไม่ได้ จึงเลือกส่งเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตาม มาตรา 34 ปีละ 109,500 บาท (ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท* 365 วัน) และตอนนี้ฝ่ายบุคคลได้ทราบว่าผมเป็นคนพิการ จึงจะขอสิทธิผมไปยื่นต่อกรมส่งเสริมฯ เพื่อไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ซึ่งก็เท่ากับว่าผมช่วยบริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายการส่งเงินสมทบฯ แต่ในส่วนของผมๆสามารถเรียกร้องเงินช่วยเหลือหรือเงินพิเศษอื่นจากบริษัทได้ไหม เช่น เงินช่วยเหลือรายเดือนนอกเหนือจากเงินเดือน เป็นต้น
เนื่องจากผมเข้าทำงานเงินเดือนเริ่มแรก 11,000 บาท และเงินเดือนปัจจุบัน 13,000 บาท ซึ่งเงินเดือนที่ได้รับตอนนี้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน อีกทั้งในแต่ละเดือนผมมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องช่วยฟัง เช่น แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังเดือนละ 1,000 บาท ,ค่าเครื่องช่วยฟังเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท (ราคาเครื่องช่วยฟังยี่ห้อมาตรฐานรุ่นต่ำสุดราคา ณ ปัจจุบัน ข้างละ 18,000*2 เครื่อง / อายุการใช้งาน 3 ปี) เป็นต้น ซึ่งหากผมได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทก็จะเก็บออมเงินที่ได้รับไว้สำหรับเป็นทุนซื้อเครื่องช่วยฟังใหม่ทุกๆ 3 ปี
** อยากจะถามเพื่อนสมาชิกครับว่า **
1.การที่ผมเรียกร้องเงินช่วยเหลือรายเดือนนอกเหนือจากเงินเดือนตามสาเหตุเรื่องค่าใช้จ่ายเครื่องช่วยฟังในแต่ละเดือนนั้น น่าเกลียดไหม?
2.ผมสามารถเรียกร้องเงินช่วยเหลือรายเดือนนอกเหนือจากเงินเดือนได้ไหม? หากได้ควรเรียกเงินเท่าไหร่? หากไม่ได้เพราะสาเหตุอะไร?
3.หากเรียกร้องไม่ได้ บริษัทมีสิทธิเอาสิทธิความพิการของผมไปใช้ลดหย่อนเพื่อไม่ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯไหม?
4.บริษัทของเพื่อนสมาชิกมีการจ่ายเงินช่วยเหลือนอกเหนือจากเงินเดือนให้กับพนักงานคนพิการไหม?
## ขอบคุณครับ ##