ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบลองครับ คือลองนั่งสายการบินต่างๆนะครับ ไม่ใช่ลองไปเรื่อย Haha
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีโอกาสไปไตหวัน แต่จริงๆ และทริปนี้เกิดจากความอยากล้วนๆ เบยครับ คืออยากไปดูพลุที่ Taipei 101 ครับ เป็นความไฝ่ฝันอย่างหนึ่งเลย แต่กิเลสเม่งก็มาเกิดตอน อีก 2 อาทิตย์ จะปีใหม่แล้วครับ แว๊บ.....แรกที่คิดมาในสมองคือ จะมีตั๋วมั๊ย...... หรือถ้ามีตั๋วจะมีปัญญาจ่ายมั๊ย ต้องโดยสายการบินขูดรีดชัวร์ Sad.........
เพ่งหาในสารพัดแอพอยู่นาน..........ในที่สุดเจอของ EVA Air แบบออกจากกรุงเทพ คืนวันที่ 28 ธ.ค. กลับวันที่ 2 ม.ค.2561 ราคาที่ได้ 12xxx แบบต้นๆนะครับ กดสิครับ กด กด กดซื้อแบบไม่ได้คิด กันไปเลย 555
เอาเข้าจริงๆ ผมมีโอกาสบินกับ EVA ตอนเดินทางไปทำงานท่ี่อเมริกา ตอนนั้นได้นั่ง Premium Economy ก็ต้องบอกว่าประทับใจ....... และผมก็คิดว่าสำหรับ EVA ถ้า Long Route แบบบินไปยุโรป หรืออเมริกา เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีงามเลย เพราะ.....ราคาไม่แพงมาก คุณภาพก็แบบเกินกว่าราคาที่จ่าย....
พร่ำเพ้อ กันไปพักหนึ่ง เริ่มกันเลยดีกว่าครับ จริงๆ ผมบินกับ EVA ทั้งหมด 4 Flights ติดๆ กัน คือไป Taipei 2 ครั้งภายใน 1-2 อาทิตย์ เอามาเล่าแบบปนๆ กันไปเลยดีฝ่า
Route : Bangkok Suvarnabhumi (BKK) - Taiwan Taoyuan Intl. (TPE) -Bangkok Suvarnabhumi (BKK)
Date/ Flight / Departure Time / Arrival Time: :
29 Dec 2017 / EVA AIR (BR 206) / 2:15 am / 6:50 am (BKK-TPE)
02 Jan 2018 / EVA AIR (BR 211) / 7:45 am / 10:40 am (TPE-BKK)
06 Jan 2018 /EVA AIR (BR 206) / 2:15 am / 6:50 am (BKK-TPE)
12 Dec 2018/ EVA AIR (BR 205) / 9:10 pm / 00:05 am (TPE-BKK)
## ข้อสังเกตุอย่างหนึ่งใครสามารถบิน BR 206 ซึ่งออกตอนตี 2 ได้จะพบตั๋วราคาถูกอยู่บ่อยๆ แต่สุดแสนทรมาน ไม่ค่อยได้นอน แต่ Flight แบบนี้เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่พลังงานเหลือ land แล้วเที่ยวเลย หรือช่วงที่ตั๋วแพงๆครับ
##ใครที่เลือก BR 211 ต้อง trade off ดีๆ นะครับเพราะมันเช้ามาก แบบเดินทางมาสนามบินยาก หรือบางทีต้องมา Taxi ซึ่งก็ประมาณ 1000 บาทไทย เพราะ รถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อสนามบินเค้าเปิดตอน 6 โมงครับ
Class: Economy Class
Fares : ครั้งแรก 12xxx ครั้งที่ 2 ได้ที่ 9xxx (ราคาแบบนี้รับได้เลยทีเดียว เผื่อใครอยากเพิ่มเติมความตื่นเต้นให้การท่องเที่ยว)
Aircraft: โดยรวม OK! OK!
29 Dec 2017 / BR 206 / Airbus A330-300
02 Jan 2018 / BR 211 / Airbus A330-200
06 Jan 2018 / BR 206 / Airbus A330-300
09 Jan 2018/ BR 205 / Airbus A330-300
Seat: กว้างข้างพอควร พอเรานั่งเครื่องบินเยอะๆ มันจะทำให้รู้ว่าที่นั่ง แต่ละสายการบินแตกต่างกัน อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ในสายการบินเดียวกันก็จะมีตัวแปรมากมาก เช่น รุ่นเครื่องบิน ยี่ห้อเครื่องบิน Flight ที่บิน ตำแหน่งของ Seat ในเครื่อง แต่สรุปสำหรับ EVA ผมก็ยังให้เกรดแบบดีๆ สำหรับ Seat ของ EVA (เอาตามประสบการณ์ส่วนตัว : เรื่อง Seat นี้ผมยกให้ Singapore Airline ที่ผมมีโอกาสได้บินหลายครั้ง แบบนุ่มกว้าง รองลงมาคงเป็น Airsiana ที่บินรูทโซลด้วย Boeing 777-200 กว้างขว้างใหญ่โต กันไปครับ)
Hot Meal : Overall Not Bad นะครับ ที่ผมชอบคือข้าวกับเนื้อตุ่น อารายสักอย่าง (
เอาตามประสบการณ์ส่วนตัว ยัง rate ให้ Airsiana ที่เสริฟ ข้าวยำเกาหลีสุดประทับใจ รองลงมาคงเป็น ANA ที่เสริฟ บะหมี่เย็น ที่เกิดมาผมไม่เคยกิน และไม่เคยคิดว่าจะชอบ แต่พอกินเข้าไปแล้วแบบ ไอย่ะ หร่อยแร๊ง!! hahaha )
In-flight Service: สำหรับ EVA จากหลายๆ flight ที่บินนะครับ ก็รู้สึกว่าว่องไว ตามมาตรฐาน ไม่ได้มีอะไรพิเศษ (แต่สำหรับครั้งที่บิน premium economy ก็ดีงามนะครับ)
ตามประสบการณ์ส่วนตัว ผมยกให้ Qatar Singapore Airline และ Korean Air
หมอน ผ้าห่ม : ตาม Standard ดูสะอาดดีครับ ผ้าห่มก็กลิ่นสดชื่นสะอาดกันไป มาถึงการใช้โทนสีเทาๆ ครีมๆ มันก็ทำให้ดูสบายตา ไฮท์เอ็น กันไป
หูฟัง: ตาม Standard Eco แต่เป็นแบบ in ear
In-flight Entertainment : สำหรับ EVA AIR ผมว่ามีเยอะพอประมาณ และหลากหลายเลยครับ (
เอาตามประสบการณ์ส่วนตัว เรื่อง In-flight Entertainment ผมก็ยังให้ Thai Airways อาจเป็นเพราะบางทีก้อต้องการ Sub Thai Hahaha แบบดูหนังญี่ปุ่น Sub Eng บางทีก็เหนื่อยไปสำหรับการบิน แต่ต้องบอกว่าการบินไทย หลากหลาย เยอะแแยะ มากมาก กันเลยทีเดียว)
Overall: ผมให้ 8.5/10 เมื่อเทียบกับราคาที่ผมจ่าย และช่วงเวลาในการเดินทาง
******** ******** ******** ******** ******
เริ่มยังงัยดีหว่า จาก First Trip แล้วกันนะครับ ซึ่งขาไปไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ เอาเป็นขากลับ เทียบขาไป นะครับ
ขากลับ ผมเดินทางด้วย BR 211 เช้าโฮ้กๆ เมื่อเทียบกับสนามบิน Taoyuan ที่ค่อยข้างไกลครับ เลยต้องมา UBER ซึ่งสะดวกมากนะครับคือมารับถึงหน้า รร. และช่วงเช้าๆ ราคาไม่แตกต่างกับ TAXI เท่าไหร่ครับ
EVA Air ที่สนามบิน Taoyuan ฐานทัพเค้าอยู่ที่ Terminal 2 นะครับ ก็เช็คกันนิดหน่อยว่า Counter ที่เท่าไหร่ครับ
ซึ่งเนื่องจาก flight เช้ากลัวมาไม่ทันเลยเช็คอินผ่านอินเตอร์เน็ตมาครับ ก็มาโหลดกระเป๋าอย่างเดียว สะดวกดีครับ
ซึ่งรอบนี้ผมก็มาโหลดกระเป๋าที่ row 20 ครับ
โหลดกระเป๋าเสร็จก็เช็คกันหน่อยว่ากระเป๋าผ่านเครื่อง scan เรียบร้อยอ่ะเปล่า
ก็ผ่านขั้นตอนของ Immigration กันไปครับ ออกมาก็จะเจอด่านสำคัญคือ Duty Free ผมใส่รูปบรรยากาศในสนามบินมาให้ดูเล่นๆ ครับ ภาพจะเบลอๆตลอด มือไม้สั่นครับ
วันนี้เรา board ที่ GATE B9 ครับ
บรรยากาศภายใน GATE
ก็ต้องบอกว่า Flight ของ EVA Air จาก Route อเมริกา มักจะมาถึงช่วงเช้าครับ คือตอนที่ผมบินไปทำงานกลับจาก Chicago ก็ถึงตี 4 และก็มาต่อเครื่องเช้าที่ไต้หวัน และก็เป้น Flight ที่ผมกลับวันนี้ ซึ่งก็มีผู้โดยสารที่มา transfer มากมายครับ
และแล้วก็ถึง Boarding Time ครับ ซึ่งปกติ EVA Air จะเรียกเป็น Zone นะครับ เริ่มจาก Business Class และ Premium Eco และ Zone 3 Zone 2 ของ Eco (มี zone 1 อะเปล่า จำไม่ได้แฮะ)
เดินบนพรมแดงกันไปครับ
ลำเพื่อบ้านข้างเคียง
บรรยากาศภายใน cabin ของ Airbus A300-200 ของ EVA Air ครับ ก็ต้องบอกว่า A300 นี้ผมชอบนะครับ แต่โดยรุ่น A300-200 นี้แอบเสียใจนิดหนึ่งครับ ดูจอสิครับ เล็กไปไหน ผมละไม่ชอบเลย ดูหนังบางที่ก็ไม่เห็น เป็นเพราะ monitor อ่ะครับ อีกอย่าง Cabin ของ Airbus จะอึดอัดนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับค่าย Boeing ซึ่งผมชอบมากกว่า
แต่จะบอกว่ามีสาวสวยนั่งข้าง (ไม่กล้าถ่ายรูปเค้า) เลยมีเรื่องดีๆ นิดหนึ่ง Hahaha
หูฟังเป็นแบบ in ear นะครับของ EVA Air พอซูมแล้วดูโทรมๆ
กลับกรุงเทพกัน ก็ต้องบอกว่าทั้งการ boarding และ flight on time นะฮะ
หมอนผ้าห่ม อย่างที่บอกครับ โทนสีทำให้สบายๆ ผมชอบผ้าห่มของ EVA Air เป็นพิเศษเพาะเป็นผ้าห่มที่มีน้ำหนักนิดหนึ่ง ความยาว OK แบบเวลาห่มแล้วไม่หลุด (ถ้าใครเคยขึ้น TG มันจะเบาๆ คือบางทีมันก็หลุดตลอดเวลา)
ก็มีรายละเอียดเครื่อง ทางออกฉุกเฉิน ตามระเบียบ และก็มี Menu เครื่องดื่มครับ
พอเครื่องไต่ระดับความสูงไปสักพัก ก็เริ่มให้บริการ Hot meal ครับ
Menu นี้ต้องบอกว่าอร่อยเหาะครับ สำหรับคนทานเนื้อต้องลองครับ
อิ่มเอมนอนหลับ และก็ถึงกรุงเทพ ครับ ทุกอย่าง in time ครับ
*** เด่วมาต่อนะครับ ว่า Seat, Cabin ของ A330-300 และ A330-200 และอาหารบนเครื่องของทั้ง 2 Trip ต่างกันอย่างไรครับ ***
[CR] รีวิวสายการบิน EVA Air ไปไทเปกับ EVA : Review EVA Air (BKK-TPE-BKK) Airbus A330-300 vs A330-200
ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบลองครับ คือลองนั่งสายการบินต่างๆนะครับ ไม่ใช่ลองไปเรื่อย Haha
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีโอกาสไปไตหวัน แต่จริงๆ และทริปนี้เกิดจากความอยากล้วนๆ เบยครับ คืออยากไปดูพลุที่ Taipei 101 ครับ เป็นความไฝ่ฝันอย่างหนึ่งเลย แต่กิเลสเม่งก็มาเกิดตอน อีก 2 อาทิตย์ จะปีใหม่แล้วครับ แว๊บ.....แรกที่คิดมาในสมองคือ จะมีตั๋วมั๊ย...... หรือถ้ามีตั๋วจะมีปัญญาจ่ายมั๊ย ต้องโดยสายการบินขูดรีดชัวร์ Sad.........
เพ่งหาในสารพัดแอพอยู่นาน..........ในที่สุดเจอของ EVA Air แบบออกจากกรุงเทพ คืนวันที่ 28 ธ.ค. กลับวันที่ 2 ม.ค.2561 ราคาที่ได้ 12xxx แบบต้นๆนะครับ กดสิครับ กด กด กดซื้อแบบไม่ได้คิด กันไปเลย 555
เอาเข้าจริงๆ ผมมีโอกาสบินกับ EVA ตอนเดินทางไปทำงานท่ี่อเมริกา ตอนนั้นได้นั่ง Premium Economy ก็ต้องบอกว่าประทับใจ....... และผมก็คิดว่าสำหรับ EVA ถ้า Long Route แบบบินไปยุโรป หรืออเมริกา เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีงามเลย เพราะ.....ราคาไม่แพงมาก คุณภาพก็แบบเกินกว่าราคาที่จ่าย....
พร่ำเพ้อ กันไปพักหนึ่ง เริ่มกันเลยดีกว่าครับ จริงๆ ผมบินกับ EVA ทั้งหมด 4 Flights ติดๆ กัน คือไป Taipei 2 ครั้งภายใน 1-2 อาทิตย์ เอามาเล่าแบบปนๆ กันไปเลยดีฝ่า
Route : Bangkok Suvarnabhumi (BKK) - Taiwan Taoyuan Intl. (TPE) -Bangkok Suvarnabhumi (BKK)
Date/ Flight / Departure Time / Arrival Time: :
29 Dec 2017 / EVA AIR (BR 206) / 2:15 am / 6:50 am (BKK-TPE)
02 Jan 2018 / EVA AIR (BR 211) / 7:45 am / 10:40 am (TPE-BKK)
06 Jan 2018 /EVA AIR (BR 206) / 2:15 am / 6:50 am (BKK-TPE)
12 Dec 2018/ EVA AIR (BR 205) / 9:10 pm / 00:05 am (TPE-BKK)
## ข้อสังเกตุอย่างหนึ่งใครสามารถบิน BR 206 ซึ่งออกตอนตี 2 ได้จะพบตั๋วราคาถูกอยู่บ่อยๆ แต่สุดแสนทรมาน ไม่ค่อยได้นอน แต่ Flight แบบนี้เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่พลังงานเหลือ land แล้วเที่ยวเลย หรือช่วงที่ตั๋วแพงๆครับ
##ใครที่เลือก BR 211 ต้อง trade off ดีๆ นะครับเพราะมันเช้ามาก แบบเดินทางมาสนามบินยาก หรือบางทีต้องมา Taxi ซึ่งก็ประมาณ 1000 บาทไทย เพราะ รถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อสนามบินเค้าเปิดตอน 6 โมงครับ
Class: Economy Class
Fares : ครั้งแรก 12xxx ครั้งที่ 2 ได้ที่ 9xxx (ราคาแบบนี้รับได้เลยทีเดียว เผื่อใครอยากเพิ่มเติมความตื่นเต้นให้การท่องเที่ยว)
Aircraft: โดยรวม OK! OK!
29 Dec 2017 / BR 206 / Airbus A330-300
02 Jan 2018 / BR 211 / Airbus A330-200
06 Jan 2018 / BR 206 / Airbus A330-300
09 Jan 2018/ BR 205 / Airbus A330-300
Seat: กว้างข้างพอควร พอเรานั่งเครื่องบินเยอะๆ มันจะทำให้รู้ว่าที่นั่ง แต่ละสายการบินแตกต่างกัน อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ในสายการบินเดียวกันก็จะมีตัวแปรมากมาก เช่น รุ่นเครื่องบิน ยี่ห้อเครื่องบิน Flight ที่บิน ตำแหน่งของ Seat ในเครื่อง แต่สรุปสำหรับ EVA ผมก็ยังให้เกรดแบบดีๆ สำหรับ Seat ของ EVA (เอาตามประสบการณ์ส่วนตัว : เรื่อง Seat นี้ผมยกให้ Singapore Airline ที่ผมมีโอกาสได้บินหลายครั้ง แบบนุ่มกว้าง รองลงมาคงเป็น Airsiana ที่บินรูทโซลด้วย Boeing 777-200 กว้างขว้างใหญ่โต กันไปครับ)
Hot Meal : Overall Not Bad นะครับ ที่ผมชอบคือข้าวกับเนื้อตุ่น อารายสักอย่าง (เอาตามประสบการณ์ส่วนตัว ยัง rate ให้ Airsiana ที่เสริฟ ข้าวยำเกาหลีสุดประทับใจ รองลงมาคงเป็น ANA ที่เสริฟ บะหมี่เย็น ที่เกิดมาผมไม่เคยกิน และไม่เคยคิดว่าจะชอบ แต่พอกินเข้าไปแล้วแบบ ไอย่ะ หร่อยแร๊ง!! hahaha )
In-flight Service: สำหรับ EVA จากหลายๆ flight ที่บินนะครับ ก็รู้สึกว่าว่องไว ตามมาตรฐาน ไม่ได้มีอะไรพิเศษ (แต่สำหรับครั้งที่บิน premium economy ก็ดีงามนะครับ) ตามประสบการณ์ส่วนตัว ผมยกให้ Qatar Singapore Airline และ Korean Air
หมอน ผ้าห่ม : ตาม Standard ดูสะอาดดีครับ ผ้าห่มก็กลิ่นสดชื่นสะอาดกันไป มาถึงการใช้โทนสีเทาๆ ครีมๆ มันก็ทำให้ดูสบายตา ไฮท์เอ็น กันไป
หูฟัง: ตาม Standard Eco แต่เป็นแบบ in ear
In-flight Entertainment : สำหรับ EVA AIR ผมว่ามีเยอะพอประมาณ และหลากหลายเลยครับ (เอาตามประสบการณ์ส่วนตัว เรื่อง In-flight Entertainment ผมก็ยังให้ Thai Airways อาจเป็นเพราะบางทีก้อต้องการ Sub Thai Hahaha แบบดูหนังญี่ปุ่น Sub Eng บางทีก็เหนื่อยไปสำหรับการบิน แต่ต้องบอกว่าการบินไทย หลากหลาย เยอะแแยะ มากมาก กันเลยทีเดียว)
Overall: ผมให้ 8.5/10 เมื่อเทียบกับราคาที่ผมจ่าย และช่วงเวลาในการเดินทาง
******** ******** ******** ******** ******
เริ่มยังงัยดีหว่า จาก First Trip แล้วกันนะครับ ซึ่งขาไปไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ เอาเป็นขากลับ เทียบขาไป นะครับ
ขากลับ ผมเดินทางด้วย BR 211 เช้าโฮ้กๆ เมื่อเทียบกับสนามบิน Taoyuan ที่ค่อยข้างไกลครับ เลยต้องมา UBER ซึ่งสะดวกมากนะครับคือมารับถึงหน้า รร. และช่วงเช้าๆ ราคาไม่แตกต่างกับ TAXI เท่าไหร่ครับ
EVA Air ที่สนามบิน Taoyuan ฐานทัพเค้าอยู่ที่ Terminal 2 นะครับ ก็เช็คกันนิดหน่อยว่า Counter ที่เท่าไหร่ครับ
ซึ่งเนื่องจาก flight เช้ากลัวมาไม่ทันเลยเช็คอินผ่านอินเตอร์เน็ตมาครับ ก็มาโหลดกระเป๋าอย่างเดียว สะดวกดีครับ
ซึ่งรอบนี้ผมก็มาโหลดกระเป๋าที่ row 20 ครับ
โหลดกระเป๋าเสร็จก็เช็คกันหน่อยว่ากระเป๋าผ่านเครื่อง scan เรียบร้อยอ่ะเปล่า
ก็ผ่านขั้นตอนของ Immigration กันไปครับ ออกมาก็จะเจอด่านสำคัญคือ Duty Free ผมใส่รูปบรรยากาศในสนามบินมาให้ดูเล่นๆ ครับ ภาพจะเบลอๆตลอด มือไม้สั่นครับ
วันนี้เรา board ที่ GATE B9 ครับ
บรรยากาศภายใน GATE
ก็ต้องบอกว่า Flight ของ EVA Air จาก Route อเมริกา มักจะมาถึงช่วงเช้าครับ คือตอนที่ผมบินไปทำงานกลับจาก Chicago ก็ถึงตี 4 และก็มาต่อเครื่องเช้าที่ไต้หวัน และก็เป้น Flight ที่ผมกลับวันนี้ ซึ่งก็มีผู้โดยสารที่มา transfer มากมายครับ
และแล้วก็ถึง Boarding Time ครับ ซึ่งปกติ EVA Air จะเรียกเป็น Zone นะครับ เริ่มจาก Business Class และ Premium Eco และ Zone 3 Zone 2 ของ Eco (มี zone 1 อะเปล่า จำไม่ได้แฮะ)
เดินบนพรมแดงกันไปครับ
ลำเพื่อบ้านข้างเคียง
บรรยากาศภายใน cabin ของ Airbus A300-200 ของ EVA Air ครับ ก็ต้องบอกว่า A300 นี้ผมชอบนะครับ แต่โดยรุ่น A300-200 นี้แอบเสียใจนิดหนึ่งครับ ดูจอสิครับ เล็กไปไหน ผมละไม่ชอบเลย ดูหนังบางที่ก็ไม่เห็น เป็นเพราะ monitor อ่ะครับ อีกอย่าง Cabin ของ Airbus จะอึดอัดนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับค่าย Boeing ซึ่งผมชอบมากกว่า
แต่จะบอกว่ามีสาวสวยนั่งข้าง (ไม่กล้าถ่ายรูปเค้า) เลยมีเรื่องดีๆ นิดหนึ่ง Hahaha
หูฟังเป็นแบบ in ear นะครับของ EVA Air พอซูมแล้วดูโทรมๆ
กลับกรุงเทพกัน ก็ต้องบอกว่าทั้งการ boarding และ flight on time นะฮะ
หมอนผ้าห่ม อย่างที่บอกครับ โทนสีทำให้สบายๆ ผมชอบผ้าห่มของ EVA Air เป็นพิเศษเพาะเป็นผ้าห่มที่มีน้ำหนักนิดหนึ่ง ความยาว OK แบบเวลาห่มแล้วไม่หลุด (ถ้าใครเคยขึ้น TG มันจะเบาๆ คือบางทีมันก็หลุดตลอดเวลา)
ก็มีรายละเอียดเครื่อง ทางออกฉุกเฉิน ตามระเบียบ และก็มี Menu เครื่องดื่มครับ
พอเครื่องไต่ระดับความสูงไปสักพัก ก็เริ่มให้บริการ Hot meal ครับ
Menu นี้ต้องบอกว่าอร่อยเหาะครับ สำหรับคนทานเนื้อต้องลองครับ
อิ่มเอมนอนหลับ และก็ถึงกรุงเทพ ครับ ทุกอย่าง in time ครับ
*** เด่วมาต่อนะครับ ว่า Seat, Cabin ของ A330-300 และ A330-200 และอาหารบนเครื่องของทั้ง 2 Trip ต่างกันอย่างไรครับ ***
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น