สวัสดีครับ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ใช้บริการสายการบิน Thai Lion Air บินไปเที่ยวภูมิภาค Chubu ประเทศญี่ปุ่นมาครับ ซึ่งเดินทางไปลงที่เมือง Nagoya ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางบินใหม่ที่ทาง Thai Lion Air เพิ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2019 ที่ผ่านมานี้เองครับ
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากทางสายการบิน เป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยตัวเองทั้งหมดครับ
เส้นทางบินวันนี้ DMK-NGO
การซื้อตั๋ว
เมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ทางสายการบิน Thai Lion Air ได้ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังเมือง Nagoya ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงเปิดตัวก็มีการจัดโปรโมชันตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ ทำให้ผมสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาประมาณ 8,100 บาท (ไป-กลับ) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากๆ ในช่วงเทศกาลแบบนี้ครับ
และช่วงที่เปิดตัวนั้นทาง Thai Lion Air ยังมีโปรโมชันให้โหลดกระเป๋าฟรี 20 kg อีกด้วยครับ แต่ถ้าใครที่จองตั๋วของ Thai Lion Air ตอนนี้
จะต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มเองแล้วนะครับ ดูอัตราค่าบริการได้
ที่นี่ครับ
การเดินทาง
Flight: SL310
Route: Bangkok (DMK) - Nagoya (NGO)
Departure Time: 7:25 AM
Arrival Time: 3:25 PM
Duration: 6 Hour (บินจริงๆ ประมาณ 5 ชม. ครับ)
Aircraft: Airbus A330–300
Registration: HS-LAH (1 year of Age)
ไฟลท์ที่จะบินไป Nagoya นั้นจะบินตั้งแต่เช้าตรู่เลยครับ ทำให้ผมต้องตื่นตั้งแต่ราวๆ ตี 3 เพื่อไปสนามบินก่อนเครื่องออก 3 ชม. ซึ่งเป็นเวลาราวๆ 4:30 AM ครับ ง่วงสุดๆ
ถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว ตั้งแต่ประมาณ 4:30 AM
เคาน์เตอร์เช็คอินไฟลท์ระหว่างประเทศอยู่ที่ Terminal 1 แถว 3 และ 8 นะครับ
หลังจากที่เช็คอินและโหลดกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้รับ Boarding Pass มาแบบนี้ครับ ในไฟลท์นี้ที่นั่งจะแบ่งเป็น 2 ชั้นคือคือ Premium Economy และ Economy ซึ่งแน่นอนครับ ว่าผมนั่งชั้น Economy แน่นอน 555
Boarding Pass ส่วนตัวผมชอบกระดาษแข็งๆ แบบนี้มากกว่า Print Slip นะครับ
หลังจากนั้นก็เดินหาข้าวเช้าทานที่บริเวณทางเชื่อม Terminal 1 และ Terminal 2 ของสนามบินดอนเมือง ซึ่งมี Food Court ราคาไม่แพงให้บริการอยู่ที่นี่นะครับ ใครบอกว่าอาหารสนามบินแพง ลองเดินมาหาอะไรทานบริเวณทางเชื่อมนี้จะได้เจออาหารราคาจับต้องได้และอร่อยด้วยครับ มีให้เลือกหลากหลายเลย
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เข้าเกทกันครับ วันนี้ไฟลท์ของเราอยู่ที่เกทหมายเลข 25 คนเยอะทีเดียวครับ
หลังจากนั่งรออยู่ซักพัก ก็เห็นเครื่องบินของเรากำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดที่งวงช้างแล้วครับ ลำใหญ่เลยทีเดียว
พี่สิงโตมาแล้ววว
Airbus A330 จอดเทียบเกทเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อถึงเวลาราวๆ 6:40 AM เจ้าหน้าที่ Ground ของสายการบินก็เริ่ม Board ผู้โดยสารขึ้นเครื่องกันครับ เครื่องบิน A330–300 ของ Thai Lion Air นั้นจัดที่นั่งแบบ 3–3–3 ในชั้น Economy Class ครับ
ที่น่าสนใจคือ เครื่องบินรุ่นนี้ของ Thai Lion Air มีจอสัมผัสพร้อม In Flight Entertainment (IFE) ให้เราได้ดูฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วยครับ แต่เราจะต้องพกหูฟังแบบ 35mm มาเองนะครับ ทางสายการบินไม่มีหูฟังให้บริการครับ
ที่นั่งก็ถือว่าพอๆ กับสายการบิน Low Cost เจ้าอื่นที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้นะครับ ความกว้างที่นั่ง 18 นิ้ว Seat Pitch ประมาณ 29–32 นิ้วครับ มี USB ให้สามารถใช้ชาร์จมือถือด้วยครับ ดีงาม
เมื่อถึงเวลา กัปตันก็ Push Back เครื่องออกจากหลุมจอดแล้วก็ทำการ Take Off ตามเวลาครับ เที่ยวบินนี้ทีแรกผมคิดว่าคนจะเต็ม แต่ปรากฎว่ามีที่นั่งว่างเหลือเยอะเลยครับ ผมเลยขอย้ายที่นั่งไปแถวที่ไม่มีคนนั่ง สบายเลยครับ
ที่นั่งว่างเยอะเลยครับ
มีหนังใหม่ๆ เยอะเลย
หลังจากเครื่องขึ้นแล้ว ก็ได้เวลาทำการสำรวจ In Flight Entertainment ก็มีหนัง ซีรีส์ให้ดูเยอะมากเลยครับ แต่ข้อเสียก็คือไม่มีซับไทยนะครับ มีแต่ซับอังกฤษและซับภาษา Barhasa Indonesia ครับ
ข้อดีอีกอย่างของการมีหน้าจอสัมผัสทุกที่นั่งคือเราสามารถดู Flight Path ได้นี่แหละครับ จะได้รู้ว่าตอนนี้เราบินถึงไหนแล้ว อีกกี่ชม. กี่นาทีถึงจะถึงที่หมายของเรา ชอบมากๆ ครับ
เครื่องขึ้นได้ซักพัก พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เริ่มเสิร์ฟอาหารให้ผู้โดยสารทุกท่านครับ เป็นขนมปังไส้ไก่กับน้ำเปล่า ผมว่าขนมปังมันแอบแข็งและเย็นเกินไปนิดนึงครับ
ของว่างบนเครื่อง(ฟรี)
สำหรับใครที่ไม่ได้สั่งจองอาหารล่วงหน้าไว้ บนเครื่องก็มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้สั่งได้เหมือนกันครับ แต่เมนูอาจจะมีจำกัดกว่าสั่งล่วงหน้านะครับ แนะนำให้สั่งล่วงหน้าออนไลน์มาจะดีกว่าครับ
ผมสั่งอาหารล่วงหน้าไว้ เป็นข้าวไก่เทอริยากิ รสชาติส่วนตัวผมคิดว่าธรรมดาครับ
ข้าวไก่เทอริยากิ กินแล้วไม่ค่อยอิ่มเท่าไรครับ รสชาติธรรมดา
หลังจากเดินทางไปได้อีกประมาณ 30 นาที ก่อนถึงปลายทาง กัปตันก็ค่อยๆ ลดระดับเพดานบินลงครับ
วันนี้อากาศดี ฟ้าใสทีเดียวครับ
หลังจากผ่านไป 5 ชม.นิดๆ กัปตันก็ทำการลดระดับและ Landing ที่สนามบิน Chubu Centrair International Airport อย่างปลอดภัย ตรงเวลาดีมากครับ
Landing จอดข้างๆ Air Asia Japan เลยนะครับ
สรุป
ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนะครับ นอกจากเส้นทางไปเมือง Nagoya แล้ว ทางสายการบิน Thai Lion Air ก็ยังมีเส้นทางต่างประเทศยอดฮิตอื่นๆ อีกมากมายเลยนะครับทั้ง Tokyo, Osaka, Fukuoka, Taipei ก็ไว้มีโอกาสจะลองไปใช้บริการดูนะครับ ราคาประทับใจมากมายครับ การบริการบนเครื่องก็ได้ตามมาตรฐานไม่มีที่ติครับ ไว้มีโอกาสผมจะมาเขียนรีวิวเที่ยวบินอื่นๆ ให้ได้อ่านกันอีกนะครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
[CR] รีวิวสายการบิน Thai Lion Air บินไป Nagoya ด้วย Airbus A330–300
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากทางสายการบิน เป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยตัวเองทั้งหมดครับ
เส้นทางบินวันนี้ DMK-NGO
การซื้อตั๋ว
เมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ทางสายการบิน Thai Lion Air ได้ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังเมือง Nagoya ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงเปิดตัวก็มีการจัดโปรโมชันตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ ทำให้ผมสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาประมาณ 8,100 บาท (ไป-กลับ) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากๆ ในช่วงเทศกาลแบบนี้ครับ
และช่วงที่เปิดตัวนั้นทาง Thai Lion Air ยังมีโปรโมชันให้โหลดกระเป๋าฟรี 20 kg อีกด้วยครับ แต่ถ้าใครที่จองตั๋วของ Thai Lion Air ตอนนี้จะต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มเองแล้วนะครับ ดูอัตราค่าบริการได้ที่นี่ครับ
การเดินทาง
Flight: SL310
Route: Bangkok (DMK) - Nagoya (NGO)
Departure Time: 7:25 AM
Arrival Time: 3:25 PM
Duration: 6 Hour (บินจริงๆ ประมาณ 5 ชม. ครับ)
Aircraft: Airbus A330–300
Registration: HS-LAH (1 year of Age)
ไฟลท์ที่จะบินไป Nagoya นั้นจะบินตั้งแต่เช้าตรู่เลยครับ ทำให้ผมต้องตื่นตั้งแต่ราวๆ ตี 3 เพื่อไปสนามบินก่อนเครื่องออก 3 ชม. ซึ่งเป็นเวลาราวๆ 4:30 AM ครับ ง่วงสุดๆ
ถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว ตั้งแต่ประมาณ 4:30 AM
เคาน์เตอร์เช็คอินไฟลท์ระหว่างประเทศอยู่ที่ Terminal 1 แถว 3 และ 8 นะครับ
หลังจากที่เช็คอินและโหลดกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้รับ Boarding Pass มาแบบนี้ครับ ในไฟลท์นี้ที่นั่งจะแบ่งเป็น 2 ชั้นคือคือ Premium Economy และ Economy ซึ่งแน่นอนครับ ว่าผมนั่งชั้น Economy แน่นอน 555
Boarding Pass ส่วนตัวผมชอบกระดาษแข็งๆ แบบนี้มากกว่า Print Slip นะครับ
หลังจากนั้นก็เดินหาข้าวเช้าทานที่บริเวณทางเชื่อม Terminal 1 และ Terminal 2 ของสนามบินดอนเมือง ซึ่งมี Food Court ราคาไม่แพงให้บริการอยู่ที่นี่นะครับ ใครบอกว่าอาหารสนามบินแพง ลองเดินมาหาอะไรทานบริเวณทางเชื่อมนี้จะได้เจออาหารราคาจับต้องได้และอร่อยด้วยครับ มีให้เลือกหลากหลายเลย
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เข้าเกทกันครับ วันนี้ไฟลท์ของเราอยู่ที่เกทหมายเลข 25 คนเยอะทีเดียวครับ
หลังจากนั่งรออยู่ซักพัก ก็เห็นเครื่องบินของเรากำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดที่งวงช้างแล้วครับ ลำใหญ่เลยทีเดียว
พี่สิงโตมาแล้ววว
Airbus A330 จอดเทียบเกทเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อถึงเวลาราวๆ 6:40 AM เจ้าหน้าที่ Ground ของสายการบินก็เริ่ม Board ผู้โดยสารขึ้นเครื่องกันครับ เครื่องบิน A330–300 ของ Thai Lion Air นั้นจัดที่นั่งแบบ 3–3–3 ในชั้น Economy Class ครับ
ที่น่าสนใจคือ เครื่องบินรุ่นนี้ของ Thai Lion Air มีจอสัมผัสพร้อม In Flight Entertainment (IFE) ให้เราได้ดูฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วยครับ แต่เราจะต้องพกหูฟังแบบ 35mm มาเองนะครับ ทางสายการบินไม่มีหูฟังให้บริการครับ
ที่นั่งก็ถือว่าพอๆ กับสายการบิน Low Cost เจ้าอื่นที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้นะครับ ความกว้างที่นั่ง 18 นิ้ว Seat Pitch ประมาณ 29–32 นิ้วครับ มี USB ให้สามารถใช้ชาร์จมือถือด้วยครับ ดีงาม
เมื่อถึงเวลา กัปตันก็ Push Back เครื่องออกจากหลุมจอดแล้วก็ทำการ Take Off ตามเวลาครับ เที่ยวบินนี้ทีแรกผมคิดว่าคนจะเต็ม แต่ปรากฎว่ามีที่นั่งว่างเหลือเยอะเลยครับ ผมเลยขอย้ายที่นั่งไปแถวที่ไม่มีคนนั่ง สบายเลยครับ
ที่นั่งว่างเยอะเลยครับ
มีหนังใหม่ๆ เยอะเลย
หลังจากเครื่องขึ้นแล้ว ก็ได้เวลาทำการสำรวจ In Flight Entertainment ก็มีหนัง ซีรีส์ให้ดูเยอะมากเลยครับ แต่ข้อเสียก็คือไม่มีซับไทยนะครับ มีแต่ซับอังกฤษและซับภาษา Barhasa Indonesia ครับ
ข้อดีอีกอย่างของการมีหน้าจอสัมผัสทุกที่นั่งคือเราสามารถดู Flight Path ได้นี่แหละครับ จะได้รู้ว่าตอนนี้เราบินถึงไหนแล้ว อีกกี่ชม. กี่นาทีถึงจะถึงที่หมายของเรา ชอบมากๆ ครับ
เครื่องขึ้นได้ซักพัก พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เริ่มเสิร์ฟอาหารให้ผู้โดยสารทุกท่านครับ เป็นขนมปังไส้ไก่กับน้ำเปล่า ผมว่าขนมปังมันแอบแข็งและเย็นเกินไปนิดนึงครับ
ของว่างบนเครื่อง(ฟรี)
สำหรับใครที่ไม่ได้สั่งจองอาหารล่วงหน้าไว้ บนเครื่องก็มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้สั่งได้เหมือนกันครับ แต่เมนูอาจจะมีจำกัดกว่าสั่งล่วงหน้านะครับ แนะนำให้สั่งล่วงหน้าออนไลน์มาจะดีกว่าครับ
ผมสั่งอาหารล่วงหน้าไว้ เป็นข้าวไก่เทอริยากิ รสชาติส่วนตัวผมคิดว่าธรรมดาครับ
ข้าวไก่เทอริยากิ กินแล้วไม่ค่อยอิ่มเท่าไรครับ รสชาติธรรมดา
หลังจากเดินทางไปได้อีกประมาณ 30 นาที ก่อนถึงปลายทาง กัปตันก็ค่อยๆ ลดระดับเพดานบินลงครับ
วันนี้อากาศดี ฟ้าใสทีเดียวครับ
หลังจากผ่านไป 5 ชม.นิดๆ กัปตันก็ทำการลดระดับและ Landing ที่สนามบิน Chubu Centrair International Airport อย่างปลอดภัย ตรงเวลาดีมากครับ
Landing จอดข้างๆ Air Asia Japan เลยนะครับ
สรุป
ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนะครับ นอกจากเส้นทางไปเมือง Nagoya แล้ว ทางสายการบิน Thai Lion Air ก็ยังมีเส้นทางต่างประเทศยอดฮิตอื่นๆ อีกมากมายเลยนะครับทั้ง Tokyo, Osaka, Fukuoka, Taipei ก็ไว้มีโอกาสจะลองไปใช้บริการดูนะครับ ราคาประทับใจมากมายครับ การบริการบนเครื่องก็ได้ตามมาตรฐานไม่มีที่ติครับ ไว้มีโอกาสผมจะมาเขียนรีวิวเที่ยวบินอื่นๆ ให้ได้อ่านกันอีกนะครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้