สวัสดีค่ะทุกๆคน ฝากเนื้อฝากตัวกับกระทู้แรกหลังจากซุ่มอ่านอยู่นาน มีฤกษ์มาแบ่งปันกระทู้กับเขาแล้วค่ะ

เนื่องจากได้มีโอกาสไปศึกษาต่อที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษมาเป็นเวลาหนึ่งปี จนจบและกลับบ้านเกิดเมืองนอนแล้ว
คิดไปคิดมา มีหลายๆอย่างที่รวบรวมมาได้เป็นเคล็ดลับสำหรับ นักเรียนที่สนใจอยากจะไปเรียนต่อต่างแดนเหมือนเรา
และก่อนไปก็อยากรู้เคล็ดลับ การใช้ชีวิตต่างๆ การเขียนกระทู้นี้เกิดจากประสบการ์ณด้วยตนเองล้วนๆ

ผิดพลาดประการใดขออภัย และหากใครอยากเสริมอะไร คอมเม้นต์ได้เลยนะคะยินดีมากๆ (อยากใส่รูปประกอบมากๆค่ะแต่เหมือนจะใส่ไม่ได้)

.

ด้านการเรียน ไปเรียนปริญญาโท ด้าน Contemporary Curating ที่ Manchester School of Arts ค่ะ
เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ทางแถบตอนเหนือของอังกฤษดังมากๆจากสโมสรฟุตบอลอย่างที่ทุกคนรู้กัน
และคอมพิวเตอร์เครื่องแรกก็ผลิตที่นี่ อุตสาหกรรมทอผ้า และโรงงานอุตสาหกรรม ก็เกิดและเติบโตที่นี่เช่นกันค่ะ

แมนเชสเตอร์ ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยใหญ่สามแห่ง นักเรียนต่างชาติเยอะมากในแต่ละปีเพื่อมาศึกษา
เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการมาเรียน มีครบทั้งที่เที่ยว มิวเซียม
แหล่งช้อปปิ้ง สามารถใช้รถไฟเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกค่ะ เมืองอาจจะไม่ใหญ่หรือสวยเท่าลอนดอน
แต่อยู่ในระดับคอมแพค ครบครันค่ะ
(เข้าลอนดอน ประมาณ สามชั่วโมงครึ่งค่ะ)

.


เข้าเรื่องกันกับรีวิวการใช้ชีวิต การเรียนและเคล็ดลับต่างๆในการอยู่เมืองแมนเชสเตอร์ 17 ข้อ กันค่ะ

1. การอ่านสำคัญจริงๆกับการเรียนในทุกระดับ โดยเฉพาะการเรียนปริญญาโทมากๆค่ะ มันคือการตะเกียกตะกายด้วยตนเองโดยแท้ ยังไม่รวมการหาเรเฟอเรนซ์อีกด้วย การใช้ชีวิตในห้องสมุดนั้น เป็นเรื่องปกติ (ห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนมากเปิดทำการ 24 ชม.ในเวลาเปิดเทอม)
การจดเลกเชอร์ให้ทันก็สำคัญ ถ้าไม่ทัน ให้อัดเสียงอาจารย์ไปเลย ฟังใหม่อีกรอบแล้วค่อยจดจะทำให้มีเวลทบทวนมากขึ้น อาจารย์จะค่อนข้างปล่อยให้หาหัวข้อที่จะศึกษาเอง เพราะฉะนั้นต้องอ่านให้มากและจดให้เยอะ รวบรวมไว้สำหรับการ ทิวเทอเรียล (Tutorial) ส่วนตัวกับอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อปรึกษาในหัวข้อที่เรียนและโปรเจ็คที่จะทำ

.
.
.

2. ดาวน์โหลด Grammarly ไว้ในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด เป็นแอพพลิเคชั่นฟรี ช่วยเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษมากๆ ถ้าจ่ายเงิน (ตัดบัตรเดบิต)
ก็จะยิ่งสแกนภาษาได้ดีมากขึ้น จะแก้ให้รูปประโยคสวยขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบว่าจะจ่ายแบบครึ่งปี รายเดือน หรือรายปี คุ้มมากๆและเหมาะกับผู้ที่ต้องเขียนภาษาอังกฤษตลอดเวลา
.
.
.

3. วิชาสัมมนา คือการลับคมฝีปากและความไวในการตอบโต้ในภาษาอังกฤษ เป็นวิชาที่อาจารย์และนักศึกษาในคลาสจะมานั่งล้อมโต๊ะกัน แล้วถกประเด็นที่เรียน ไม่มีการว่าใครยศใหญ่กว่าใคร ทุกคนสามารถเถียงกันอย่างสุภาพได้หมดเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แรกๆจะเกิดอาการสติแตก เพราะมันเกิดขึ้นไวมากและเราจะเถียงไม่ทันเพราะความไม่คล่องภาษาและนึกออกไม่ทันเท่าคนอื่นๆ แต่อยู่ไปจะเถียงไวขึ้นได้เองค่ะ และอย่าลืมจด เพราะการคุยนั่นแหละก็คือการเลคเชอร์อย่างหนึ่ง
.
.
.

4. ระหว่างเรียนให้ทำงานอาสาสมัคร ให้ตรงสาขาวิชาที่ตัวเองเรียนเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เป็นการฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยค่ะ ลองเสริชหาตำแหน่งVolunteer หรือถาม Career Hub ในมหาวิทยาลัยดูก็ได้ ถ้าหากอยากได้เงินเสริม ปกติจะมี Job for students ภายในมหาลัยให้ทำ ได้เงินรายชั่วโมง ส่วนมากจะเป็น Student Ambassador หรืองานช่วยเหลือในมหาลัยต่างๆระยะสั้น

หรือหากอยากทำงานพาร์มไทม์นอกมหาลัย สามารถสมัครได้ ทำได้ 16 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ ในช่วงเวลาเปิดเทอม และทำได้ 20 ชั่วโมงในตอนปิดเทอมค่ะ (แต่ละมหาลัยกฎไม่เหมือนกันนะคะ แต่เห็นว่าทำได้มากกว่านี้ตามกฏของ Home Office เช็คกันนะคะ) แต่ต้องขอ N I number (National Insurance Number) ทางโทรศัพท์ก่อนเพื่อเป็นการลงทะเบียนขอทำงาน โดยเลขที่ได้มาจะนำไปใช้ในการกรอกใบสมัครงานว่าเอ้อ เราทำงานได้นะ (ขอไวไวเลยก็ดี เพราะใช้เวลาเป็นเดือน นานกว่าจะได้ทางจดหมาย) วิธีขอ คือให้โทรศัพท์ไปค่ะ ตามเบอร์
National Insurance number application line
Telephone: 0800 141 2075
Textphone: 0800 141 2438
Monday to Friday, 8am to 6pm
เตรียมพาสปอร์ตเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์ว่าจะสมัครงานอะไร ตอนนี้ทำอะไร เรียนอะไรอยู่ค่ะ
.
.
.

5. อากาศมีผลต่อสภาพจิตใจอย่างยิ่งค่ะ ด้วยความที่อากาศที่นี่ฝนตกเป็นนิจ สีเทาเป็นสีโปรดของท้องฟ้าและพระอาทิตย์เล่นซ่อนแอบตลอด บางครั้งยาวเป็นอาทิตย์ ยิ่งช่วงหน้าหนาว เริ่มสว่างตอนแปดโมงครึ่ง เริ่มมืดตอนสามโมงครึ่ง จิตตกกระจุยกระจายมากๆ แต่หน้าร้อน มืดตอนสี่ทุ่มนะคะ เที่ยวกันได้อย่างสบายใจมากๆ
.
.
.

6. ความหนาวนั้นโหดร้ายจริงๆในยามหน้าหนาว Radiator หรือฮีทเตอร์นั้นสำคัญยิ่ง แต่อย่าลืมถ้าเปิดข้ามคืนให้ดื่มน้ำก่อนนอนและวางน้ำหนึ่งแก้วไว้ในห้อง ไม่งั้นคอจะแห้งตอนตื่นค่ะ เข้าใจแล้วว่าทำไมคนอังกฤษคลั่งการดื่มชา เพราะดื่มแล้วมันอุ่นค่ะคุณ ดื่มชาวันละกี่แก้วนับไม่ได้แต่มันทำให้อุ่นจากข้างใน เวลาหนาวแล้วต้องเดินไปข้างนอก ซื้อชาเทคอเวย์ใส่ถ้วย เดินถือช่วยได้มาก อุ่นมือ อุ่นท้อง
.
.
.

7.อยู่ต่างประเทศไม่ใช่ต่างดาว ไม่ต้องกลัวค่ะ หมูสามชั้น น้ำพริก น้ำปลา ชานมไข่มุก หาได้เสมอ ยิ่งถ้าเมืองใหญ่จะมีไชน่าทาวน์ หาได้ทุกอย่างที่ต้องการ สกิลการทำอาหารจะพัฒนามากๆเวลาอยู่คนเดียวแล้วต้องทำกับข้าวให้รอด นอกจากจะอร่อยแล้วยังได้เพื่อนด้วย เพราะเป็นการชวนกันมากินข้าวที่หอพักที่บ้านค่ะ
.
.
.

8.ความเหยียดเชื้อชาติยังมีอยู่จริงค่ะ  โดยเฉพาะในเมืองเล็กที่ห่างไกล เวลาไปเที่ยวเมืองเล็กมากๆ ยิ่งในชุมชนคนสูงอายุ เขาค่อนข้างไม่อยากสนทนาด้วยและมองเราเป็นพลเมืองชั้น2 อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่และสังคมเมืองใหญ่ไม่ค่อยเกิดเรื่องแบบนี้ ทุกคนใจกว้างน่ารักและช่วยเหลือ วางตัวให้ดีและระมัดระวังเป็นเรื่องปกติค่ะ
.
.
.

9. พูดขอบคุณและขอโทษให้ติดปาก Sorry, Thank you, please เป็นคำที่พูดได้ตลอดเวลา ทุกสถานการณ์และทุกวัน ลงรถเมล์คนที่นี่ก็ขอบคุณคนขับตอนก่อนจะลงค่ะ เดินจะชนกันนิดนึง ก็พูดขอโทษแล้ว
.
.
.

10. Cheers แปลว่าขอบคุณก็ได้
Are you alright หมายถึงสวัสดีนั่นแหละ
Wee ในสกอตแลนด์แปลว่าเล็ก แต่พื้นที่อื่นๆแปลว่าฉี่
Knackered, shattered หมายถึงเหนื่อยสุดๆจนร่างพังก็ได้
ในแมนเชสเตอร์ Mint หมายถึง เด็ดมาก
Brew หมายถึงน้ำชา
และ Tea หมายถึงข้าวเย็น
Dinner กลายเป็นข้าวกลางวัน งงเอ้า งง ค่ะ
.
.
.

11. เวลาพูดว่า ผับ ที่ไทยเราจะนึกถึงผับตื้ดๆ มืดๆเต้นๆ แต่ที่นี่ Pub คือ ที่สมาคมของชาวฟุตบอล ที่เสิร์ฟอาหารอังกฤษๆ ขายเบียร์ ทุกคนพุดคุยสังสรรค์ ไม่ตื้ด ที่ตื้ดๆจะเป็น Night Club และการไปผับ เป็นความกิจวัตรในสายเลือดของชาวบริติช เวลามีแมทช์สำคัญ เวลาเย็นวันศุกร์ อาจารย์พอสอนจบคลาสก็ชวนนักศึกษาไปดื่มกัน เรื่องปกติมากๆค่ะ
.
.
.

12. สูญเสียร่มไป สี่คันถ้วน ตั้งแต่อยู่ที่นี่ค่ะ ไม่มีร่มยี่ห้อใดที่ชนะพลังลมได้เลยที่เคยเจอ สิ่งที่ชนะก็คือ ซื้อชุดกันฝนคุณภาพดี แบบมีฮู้ด กันน้ำ กันหนาว ดีงามจริงจริง (เราซื้อของซาร่ามา มีกระเป๋าสองข้างพร้อมซิบปิด หนาพอสมควร ใส่จนคุ้ม)
.
.
.

13. รถเมล์ ขนส่งสาธารณะ รถเมล์ประทับใจศรีที่สุดตรงที่ ส่วนมากตรงเวลา และขับนิ่ม คนชราในวีลแชร์หรือหญิงลูกอ่อนกับรถเข็นสามารถเอาขึ้นรถเมล์ได้ เพราะรถเมล์เตี้ยและสามารถปรับให้เตี้ยลงได้อีก และมีแผ่นพื้นดึงออกเพื่อเทียบกับฟุตบาทให้เลื่อนวีลแชร์ขึ้นลงได้สะดวก คนขับสุภาพ Uber ถูกกว่าแท็กซี่ดำทั่วไป โหลดแอพแล้วจ่ายด้วยการตัดบัตรเดบิตเอาค่ะ สะดวกมาก
สำหรับเมืองแมนเชสเตอร์ บางบริการรถเมล์สามารถโหลดแอพได้ เช่นของ First Bus แล้วซื้อตั๋วรายเดือนรายปีล่วงหน้า Unlimit รอบ แบบราคาเหมา เช่น 50 ปอนด์รายเดือน นั่งได้กี่รอบก็ได้ค่ะ คุ้มมาก  และรถเมล์เกือบทุกคันจะมี Free Wi-fi ให้ใช้กันค่ะ
.
.
.

14. เที่ยวต่างเมือง โหลดแอพพลิเคชั่น Airbnb สะดวกและถูกมากๆ คือไปนอนบ้านคนอื่นที่เขาปล่อยให้เช่าน่ะแหละค่ะ ก็อ่านรีวิวและดูย่านให้ปลอดภัยนะคะ ลองมาสองสามครั้ง ยังไม่เคยเจออะไรน่ากลัวค่ะ
และอย่าลืมซื้อ Railcard  หรือตั๋วลดราคาสำหรับรถไฟ แบบ 16-25 (ราคา30 ปอนด์ อายุหนึ่งปี) สำหรับนร. จะได้ตั๋วรถไฟราคาถูกมากมากค่ะ
เช่น จาก 80 ปอนด์ ลดเหลือ 35-40 ปอนด์ได้เลยนะ
.
.
.

15. อยากได้ของถูก ไป Pound Land, Pound Stretcher มันคือร้านไดโซะ หกสิบบาทบ้านเราน่ะแหละ มีทุกอย่าง ในราคาแค่หนึ่งปอนด์ (43+บาท ผันผวนตามค่าเงิน) ส่วนตามซูเปอร์มาเก็ตต่างๆให้ไปในส่วน Reduced ก่อนที่ติดป้ายสีเหลือง เพราะราคาลดกระจุย หมู ไก่ ขนม ลดเยอะมากๆค่ะ เคยได้ผักและหมูมาในราคาที่ถูกเกินครึ่ง (แต่มันจะหมดอายุวันนั้น ก็ต้องทานเลยค่ะ)
.
.
.

16. พอเรียนจบ ก่อนกลับประเทศ ให้แบ่งของพวกหนังสือเสื้อผ้า ส่งกล่องกลับไทยกับบริษัท shipping ก่อน จะได้กระเป๋าน้ำหนักไม่เกินนะคะ ในเมืองแมน เราใช้ Smileruk บริษัทจีน ตั้งอยู่ หลังมหาลัยเลย โดนไป 4,300 บาท กับ 15 กิโลกรัม ราคาไม่เบา แต่อาทิตย์เดียวถึงบ้านค่ะ เป็น UPS มาส่ง
*** แต่ต้องระวัง หากส่งเสื้อผ้า ถึงแม้จะเป็นของตนเองและใส่แล้ว จะโดนค่าภาษีนะคะ *** เราส่งกลับไทยมา ประมาณ เจ็ดกิโล โดนไปเกือบสามพันบาทค่ะ กระเป๋าตังค์แฟ่บเลย
.
.
.

17. ใครอยากทดสอบสุขภาพจิตตัวเอง อยากโตขึ้น อยากออกจากคอมฟอร์ทโซนของชีวิต ต้องลองอยู่ต่างบ้านต่างแดนเช่นนี้สักครั้ง แล้วจะรู้จักตัวเองมากขึ้นในแบบที่ไม่เคยมาก่อน จริงๆค่ะ แนะนำเลย การไปอยู่ต่างจากการไปเที่ยวมากๆ เพราะต้องลงหลักปักฐานและปรับตัว ใครมีโอกาสลองดูนะคะ




ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะทุกคน ฝากกระทู้ไว้ด้วยและมาร่วมพูดคุยกันได้นะคะ
ท่านใดมีอะไรเสริมสามารถร่วมกันคอมเม้นต์ได้เลยค่า