▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่าย
เที่ยวจีนด้วยตัวเอง หังโจวสวรรค์บนดินทั้งกินทั้งช๊อป Hangzhou CHINA
หากใครไม่อยากอ่านตัวหนังสือเยอะๆ สามารถรับชมได้ทาง YouTube ครับผม ความยาว 1 ชั่วโมง 17 นาที ครับ
ประทับใจฮ่องกง หลงรักเกาหลี รู้สึกดีกับญี่ปุ่น เที่ยวแบบวุ่นๆที่เวียดนาม หังโจวนี่มีครบรสชาติเลยนะ
---- ผมนั่งพิมพ์โพสนี้ในโทรศัพท์มือถือขณะที่นั่งอยู่บนเครื่องบินขากลับประเทศไทย นอกจากกับตัน ผู้ช่วยนักบินและแอร์บนเครื่องแล้ว ผมกับภรรยาน่าจะเป็นคนไทยแค่ 2 คนบนเครื่องบินลำนี้ นอกนั้นทั้งลำน่าจะเป็นพี่น้องชาวจีนทั้งหมดเลย
---- เราวางแผนกันมาหลายเดือนว่าต้นปีนี้อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆกันซักทริปหนึ่ง ใช้เวลาไม่นานมากไม่เกิน 5 วันเพราะมีภารกิจที่จะพลาดไม่ได้ในทุกๆวันอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ นั่นทำให้เราต้องมองหาประเทศที่มีเที่ยวบินตรงจากเชียงใหม่เลยเพื่อจะไม่เป็นการเสียเวลาในการเปลี่ยนเครื่อง จะได้ใช้เวลาในการเที่ยวอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
---- เรามองไว้หลายๆประเทศ แต่เรามีความสนใจในการเที่ยวในที่ที่ใครๆไม่ค่อยได้ไปกัน ประกอบกับการที่เราพอจะสื่อสารภาษาจีนได้เล็กๆน้อยๆ เราเลยเลือกที่จะไป #เที่ยวเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง #ประเทศจีน ซึ่งมีสายการบินหลายสายที่สามารถบินตรงจาก #เชียงใหม่ ได้เลย เราคิดอยู่นานว่าจะเลือกสายการบินไหน ของจีนก็น่าลองเสี่ยงดูนะ เราลองถามชาวจีนที่บังเอิญเจอกันในร้านส้มตำว่าคุณพอจะแนะนำได้มั๊ย เค้าตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ทำไมไม่เลือกแอร์เอเชียละทั้งดีกว่าถูกกว่าด้วย จะไปเลือกสายการบินอื่นทำไม เท่านั้นแหละเราก็ไม่ลังเลอีกต่อไปตัดสินใจเลือกใช้บริการ #แอร์เอเชีย ทันที
---- เราเข้าไปหาตั๋วผ่านเว็บของแอร์เอเชียได้ช่วงเวลาที่ราคาค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เวลากำลังสวยงาม ออกจากเชียงใหม่วันจันทร์ 6 โมงเย็น ถึงหังโจว 4ทุ่มครึ่ง ขากลับออกจากหังโจว วันศุกร์ เกือบเที่ยงคืนถึงเชียงใหม่ตี3ครึ่ง แปลว่าเราจะไม่พลาดงานของเราในวันอาทิตย์และที่สำคัญวันศุกร์เราเหมือนได้เที่ยวฟรีทั้งวันโดยไม่ต้องเสียค่าที่พัก โอ้ววว มันช่างประหยัดคุ้ม ลงตัวไปซะทุกอย่างจริงๆ เดี๋ยวจะมาเฉลยทีหลังนะครับว่าทำไมตั๋วถึงได้ถูกที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่เราไปเที่ยวพอดี
จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักเสร็จสรรพ ก็ไปทำวีซ่าได้เลย ราคาคนละ 1000 บาท
---- เราพอจะรู้แหละว่า หังโจวช่วงนี้อากาศค่อนข้างหนาวเลย ไล่ๆกันอยู่ที่ -3 ถึง 5 องศา เราก็เตรียมการอย่างดีนะ เสื้อขนเป็ดฮีทเท็คที่เตรียมไว้ จะได้งัดออกมาใช้ก็คราวนี้แหละ พอเราบินไปถึงสนามบินเซี่ยวชาน รับกระเป๋าตรวจคนเข้าเมืองซึ่งไม่มีอะไรติดขัด ทางสะดวกผ่านง่ายมาก จะออกไปหารถบัสเข้าเมืองนอกอาคาร
---- พอเดินไปถึงประตูเท่านั้นแหละ ต้องรีบวิ่งถอยหลัง ลมพัดผ่านประตูเข้ามา หนาวเป็นบ้าเลย จัดแจงผ้าพันคอ หมวก เอาให้ครบ เราลากกระเป๋าออกไปตั้งใจจะไปที่ชานชาลา 16 ที่มีรถบัสเข้าเมืองได้ แต่เราก็หาไม่เจอ ระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของสนามบินเรียกเราให้ไปขึ้นแท็กซี่ เราก็ไม่ยอมเสียเชิงง่ายๆหรอก รถบัสเข้าเมืองตนละ 20 หยวนเอง แท็กซี่ตั้ง 100 หยวนแนะ ไม่ได้กินนักท่องเที่ยวชาวไทยง่ายๆหรอก เราพยายามเดินหารถบัสต่อไป หาต่อไป แต่ก็หาไม่เจอ ด้วยความหนาวเย็นเฉียบพลันขนาดนั้น และมันก็ดึกมากแล้ว มีแท็กซี่ผีมาเรียกเราคิดตั้ง 150 หยวนแนะ เราเลยเดินกลับมาที่จุดจอดรถสนามบินแท็กซี่ถูกกฎหมาย ราคา 120 หยวน (แท็กซี่ 100 ค่าทางด่วน 20) พาเรามายังหน้าโรงแรมที่เราพักในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ถ้าเราใช้บริการรถบัสจะไปจอดที่ถนนใหญ่แล้วเราต้องเดินเข้ามาโรงแรมอีกหลายร้อยเมตรเลย ก็ถือว่าเป็นการขึ้นแท็กซี่ที่คุ้มค่านะเนี่ย (คิดเข้าข้างตัวเอง)
---- เราจองโรงแรมไว้ที่ seven service apartments Xihu ตั้งอยู่บนถนนปิงให่ เป็นย่านที่จะเดินไปแหล่งช้อปปิ้ง หลงเสียงเฉียวก็สะดวก ร้านอาหาร มินิมาร์ท ครบครัน ที่จริงก็ตามรีวิวใน #Pantip นี่แหละฮะ ช่วยในเรื่องข้อมูลเราได้เยอะจริงๆ การจะเช็คออนห้องพักต้องขึ้นไปที่ชั้น 7 จะมีห้องเป็นออฟฟิศอยู่ เรายื่นเอกสารที่จองจากทางอโกดาให้พนักงาน แล้วก็จ่ายเงิน ณ วันเข้าพักผ่านบัตรเครดิต 4 คืน ประมาณ 6000 กว่าบาท พนักงานพาเราไปห้องพัก เปิดเข้าไป ประทับใจทันทีเลย ห้องกว้างมาก เตียงใหญ่ มีเตียงนอนชั้นลอยให้อีก โต๊ะทำงาน โซฟา ใหญ่โต มีซิ้งค์ล้างจานให้ด้วย เห็นบางห้องเหมือนจะมีไมโครเวฟให้ด้วยนะฮะ คุ้มสุดคุ้มอะโรงแรมนี้ ต้องขอบคุณสังคมพันธิปที่มีผู้มารีวิวไว้เป็นอย่างดี
---- คืนนี้ดึกมากแล้วเราลงไปมินิมาร์ทใต้อาคารหาอาหารสำเร็จรูปง่ายๆมาทานแล้วรีบเข้านอนเอาแรงพร้อมที่จะเที่ยววันพรุ่งนี้อย่างเต็มที่
---- เราเที่ยวกันแบบวางแผนกันหลวม ไม่กำหนดเวลาตายตัว ค่อยๆไปแบบเนิบๆ ช้าๆ วันแรกเราไปกันที่ วัดลิ่งหยิน ที่มีหินแกะสลักสวยงามตระการตาท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีวัดรายล้อม มีสายน้ำภูเขาหินแกะสลักเราใช้เวลาในลิ่งหยินซื่อค่อนข้างนานเพราะเกินเล่นถ่ายรูปกันเพลินมากจริงๆ เอาภาพบรรยากาศในวัดมาฝากฮะ
ร้านอาหารหน้าวัด เป็นบะหมี่หังโจวแท้ๆ ราคาชามละ 20 หยวน ชามใหญ่มาก
จุดซื้อบัตรผ่านประตู
บัตรผ่านประตูคลนะ 40 หยวน
ภายในวัด ทางเดิน ศาลาต่างๆสะอาดมาก มีถังขยะตลอดทาง มีห้องน้ำสาธารณะให้บริการฟรี ที่สำคัญคือห้องน้ำสะอาดมากๆครับ สบายใจหายห่วง
---- จากนั้นเราออกเดินทางจากลิ่งหยินซื่เพื่อจะไปเที่ยวริม #ทะเลสาบซีหู่ ฝั่ง #สะพานขาด #นางพญางูขาว เราพยายามเดินหารถบัสอยู่นานเป็นความพยายามอีกครั้งในการที่จะหระยัดเงินด้วยการใช้รถบัส แต่ก็ไม่สำเร็จอีกตามเคยเลยใช้แท็กซี่ในการเดินทาง เราใช้เวลาไม่นานแล้วเราก็ถึงทะเลสาบซีหู่ ตอนนี้หิวมากเลย ร้านอาหารตามข้างทางก็ดูน่ากินเยอะแยะเลยนะ แต่เราอยากมีประสบการณ์แปลกใหม่ในการกิาน #McDonalds ที่ประเทศจีนดู เราจัดชุดไก่แม็คราคา 60 หยวน ทานกัน 2 คนอิ่มพอดี รสชาติดีนะ มีไก่ทั้งหมด 5 แบบ หนึ่งในนั้นมีปีกไก่ย่างด้วยหมักเครื่องเทศแบบจีนหอมอร่อยไปอีกแบบ
---- อิ่มกันแล้วก็ลุยทะเลสาบกันเวลาประมาณบ่ายๆ 3 - 4 โมง ประอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำใกล้จะตกดิน ทำให้บรรยากาศที่สะบานขาดสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีก ผู้คนมากมาออกมาเสพบรรยากาศ ออกกำลังกาย ใช้เวลากลางแจ้งกันอย่างมีความสุข เกือบทั้งหมดเป็นชาวจีนเจ้าถิ่นจะหานักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราก็หาได้ยากเต็มที เดินไปเดินมาขอให้ชาวจีนช่วยถ่ายรูปให้ จะบอกว่าชาวจีนที่ช่วยถ่ายรูปให้ฝีมือดีกันทั้งนั้น เลยทำให้เราได้รูปคู่สวยๆมาเพียบเลย เดินไปเดินมาเริ่มหนาวแฮะหาชาอุ่นๆกินจากร้านขายของชำแถวๆนั้น จิบชาร้อนๆท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ทะเลสาบซีหู่มันช่างมีความสุขจริงๆฮะ
ที่ไม่พอ ไปต่อกันข้างล่างนะฮะ