Khan Academy และ Salman Khan หัวใจเขายิ่งใหญ่มาก.. 24/1/2561 สรายุทธ กันหลง


Khan Academy และ Salman Khan หัวใจเขายิ่งใหญ่มาก.. 24/1/2561
https://ppantip.com/topic/37311597
Cr: Paul Kridakorn

นักการศึกษาและผู้กำหนดนโยบายการศึกษาต้องอ่านครับ

การล่มสลายของ แนวคิด/รูปแบบ การศึกษาแบบดั้งเดิมมีแนวโน้มเป็นจริงแล้ว และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลายคนอาจมีเฮ เพราะคุณจะหมดสงสัยว่าเรียน 20 ปีไปรับเงินเดือนที่ไม่พอใช้ไปทำไม
.
อ้างอิงจากที่ผมเล่าเรื่อง Google มีหลักสูตรสอนไอทีของตัวเอง ออกใบรับรองสามารถนำไปประกอบการสมัครงานได้ https://www.facebook.com/paul.kridakorn/posts/10214556013031801?pnref=story
.
ล่าสุดเจอ Salman Khan เจ้าของ Kahn Academy พยากรณ์รูปแบบตลาดการศึกษา การสมัคร และการรับคนเข้าทำงานจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในอีก 10 ปีข้างหน้า
.
ก่อนไปต่อ Salman Khan คือใคร?
.
Salman Khan เป็นนักศึกษาอัจฉริยะ ผู้แตกฉานหลากหลายศาสตร์ที่มีสอนในสถาบันการศึกษาและเขานำมันมาสอนต่อแบบเร่งรัดในเว็บไซต์ของเขา ที่สำคัญเขาสอนฟรี แต่หลังจากสอนฟรีไปเป็นปี ๆ โดยไม่มีรายได้ เขาก็เริ่มจะไปต่อไม่ไหว
.
แต่เพราะสิ่งที่เขาทำมันดีมากจนปล่อยให้ตายห่าไปไม่ได้ ผู้คนจากทั่วโลกจึงเริ่มบริจาคเงินเพื่อให้แพลทฟอร์มของเขาสามารถ Operate ต่อได้
.
ผู้สนับสนุน กลุ่มแรก ๆ คือ Bill Gates แห่ง Microsoft อัดเงินให้ Khan ทันที 50 กว่าล้านบาท และตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา Bill Gates สนับสนุนเงินให้เขาแล้วกว่า 300 ล้านบาท! นอกจากนั้น Google ก็ยังเข้ามาร่วมสนับสนุนเงินและให้ใช้ระบบ Google Cloud ในการโฮสต์เว็บไซต์และข้อมูลต่าง ๆ
.
นี่คือคร่าว ๆ ของ Salman Khan ซึ่งจะเรียกว่าเป็นต้นแบบของ Online Academy กลุ่มแรก ๆ ของโลก (ไม่ใช่คอร์สออนไลน์ทั่วไปแบบ Undemy นะครับ แต่เป็น สถาบันการศึกษา เพราะเขาสอนเนื้อหาที่เป็น ศาสตร์วิชาการ และ วิทยาการ)
.
เกริ่นยาว อ่ะ ไปต่อ Salman Khan ออกมาเล่าผ่าน Quora ผมนำมาสรุปบรรยายสไตล์ CEO
.
1. การศึกษาเฉพาะทางจะมาแรง การเรียนจับฉ่ายจะหมดไป

Khan เล่าว่าระบบการศึกษาในระบบปัจจุบันยังยึดตามกฏเมื่อ 200 ปีก่อน คือ บังคับเรียนหลาย ๆ วิชา และต้องสอบให้ผ่านตามเกณฑ์ หากไม่ผ่าน ไม่ได้ไปต่อ หรือไม่มีสิทธิลงเรียนวิชานู่นนี่นนั่นอะไรก็ว่าไป
.
แต่เพราะเทคโนโลยีก่อเกิดแพลทฟอร์มการศึกษาทางเลือกมากมาย ทำให้คนสามารถมุ่งไปเรียนสิ่งที่อยากเรียน อยากรู้ และอยากเป็นได้ทันทีแล้วเอาให้สุดในจุดที่ยืน ยกตัวอย่าง ที่กูเกิ้ลประกาศหลักสูตร Google IT Support Professional Certificate เขาบอกเลยว่า ไม่ต้องมีพื้นฐานใด ๆ ก็เรียนได้ ออกใบรับรอง สมัครงานได้ เป็นต้น
.
2. วุฒิการศึกษาในระบบหมดราคา เพราะเอกชนจะออกวุฒิกันเอง

ระบบการศึกษาตลอด 200 ปีที่ผ่านมาโฟกัสที่การยัดเยียดการเรียนรู้ให้มากที่สุด เน้นจำนวนชั่วโมงเรียนเยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ไม่ได้ห่าอะไรที่จะเอาไปทำงานได้ และ Khan บอกนี่คือเหตุผลที่ บริษัทในอเมริกา (รวมถึงไทย) ต้องจัดให้มีการสอบเข้าสมัครทำงานด้วยข้อสอบและวิธีวัดผลของบริษัทนั้น ๆ แยกต่างหาก เพราะวุฒิจากการศึกษาในระบบมันวัดผลไม่ได้
.
Khan พยากรณ์ว่าในอีก 10 ปี บริษัทเอกชนที่ได้รับการนับถือระดับสากล (อาทิ Google, Microsoft เป็นต้น) จะกลายเป็นสถาบันการศึกษาเสียเอง พวกเขาสร้างหลักสูตร และออกใบวุฒิบัตรได้ และไม่ใช่แค่นั้น วุฒิบัตร จากเอกชนจะได้รับการยอมรับจากเอกชนด้วยกันมากกว่าจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม (ส่วนปรากฏการณ์นี้ในไทยอาจต้องบวกเพิ่มไปอีก 5-10 ปีกว่าจะแพร่หลาย)
.
3. ในอนาคต คนจะทำงานก่อนเรียนทีหลัง

Khan บอกว่าปัจจุบัน (ในอเมริกา) คนจบจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิมตกงานเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง วุฒิการศึกษาอย่างเดียวไมพอ แต่ประวัติผลงาน หรือ พอร์ตโฟลิโอในการทำงานจริงเป็นสิ่งสำคัญ
.
จริง ๆ ปัญหานี้เป็นกันหลายประเทศรวมถึงไทย วุติเป็นเอกสารประกอบการสมัครงาน แต่ถามว่าบอกอะไรนายจ้างเกี่ยวกับผู้สมัครได้ไหม... ก็ไม่ค่อยได้ --- ส่วนบริษัทขนาดเล็กนิยมดึงตัวคนรู้จักมาทำงานเพราะมีข้อมูลและรู้ว่าคนนี้ทำได้จริง เป็นต้น ฯลฯ
.
ฉะนั้น หากใบรับรองเฉพาะทางจากเอกชนสามารถใช้สมัครเข้าทำงานได้ ผู้เรียนจะสามารถเรียนจบหลักสูตรใน 1 ปี (แทนที่จะเรียน 4 ปีรวด) แล้วทำงานเพื่อสร้างพอร์ตประสบการณ์ แล้วเก็บหลักสูตรขั้นสูง (ในสาขาที่ตนทำงาน) คู่กันไป ทำให้ คุณวุติ และ ประสบการณ์ ทำงานจริงโตคู่กันไปและอัพ Career path และฐานเงินเดือนอย่างเป็นรูปธรรม
.
สรุป
.
วันนี้เราเริ่มได้ยินคนจบปริญญาตรี ทำงานวุติ ปวช ปวส หรือจบโท เอาวุติตรีไปสมัครงาน ส่วนตัวผมเป็นคนหนึ่งที่สมัย จบ ม.6 แต่ได้ทำงานในตำแหน่งที่รับคนจบ MBA เป็นต้น เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ
.
หากแนวโน้มของอนาคตเริ่มจะเป็นเช่นนี้ ธุรกิจการศึกษาใดไม่ว่าจะเปิดมากี่ 100 ปี หากไม่ปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์คนในอนาคตก็น่าจะเสื่อมความนิยมใน 10-20 ข้างหน้า
.
ส่วนคนที่ยังยึดติดอยู่กับความเชื่อทางการศึกษาแบบเดิม ๆ เรียนเยอะ ๆ เรียนสูง ๆ เรียนไปเรื่อย ๆ สุดท้ายพวกเขาก็จะคอยถามตัวเองว่า เรียนตั้งนาน เรียนก็เก่ง ทำไมไม่มีใครรับกูเข้าทำงานเลย

https://www.facebook.com/paul.kridakorn/posts/10214611994871312
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่