สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ตอบให้เป็นข้อๆครับ
1.ระหว่างคุณรอรถ 4 ชั่วโมง อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณอาจโดนปล้นเงิน 30k ไปก็ได้ครับ
หรือมันอาจไม่เกิดขึ้นครับ แต่สิ่งที่คุณต้องเสียแน่ๆเลย คือเวลา ถ้าคุณถึงที่หมายเร็วคุณมีโอกาสทำสิ่งอื่นๆครับ
การรอรถราคา 9 บาท ประหยัดไป 291 บาท แลกกับ 4 ชั่วโมง ถ้าคุณมองว่าเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสที่คุ้มก็ถือว่าโอเคครับ
แต่เป็นผมผมยอมเสียค่าแท็กซี่ดีกว่า อยากนอนครับ ยกเว้นคุณมีเวลานอนเหลือๆ จะน่าอิจฉามากๆ
2.ถ้ามันไม่ไกลเกินไปสำหรับเรา ผมว่าถือเป็นการออกกำลังกายครับ ถ้าใช้เวลาไม่ต่างกันมากก็ไม่มีอะไรต้องเสีย
จักรยานก็ล็อคด้วยนะครับ ถ้าขี่ของแพงๆระวังจะหาย
3.อันนี้คุณต้องไปก่อนหมายถึงคุณเสียเวลาไป1วัน แลกกับการไปนั่งปวดเมื่อยบนรถไฟฟรี อาจได้ทิวทัศน์กับเพื่อนคุยเพิ่มเข้ามา
ก็ลองคิดดูครับว่ามันโอเคมั้ย ถ้ามันคุ้มสำหรับคุณก็ไม่ต้องแคร์อะไร ถ้าเป็นผมก็แล้วแต่ว่าไปไหน ถ้าไปที่ๆวิวสวย ไปถ่ายรูปบนรถไฟก็ไม่เลวครับ
4.การมีรถมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแหละครับ ถ้าอยู่ในเมืองเจอรถติดเข้าไป ผมไปรถตู้ รถไฟฟ้า เร็วกว่าเยอะครับ
ในกรณีอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ถ้ามีรถเราก็ไปเองได้ไม่ต้องง้อใครครับ ไม่มีรถไปได้ก็จริงแต่อาจจะไม่สะดวกบางสถานที่
5.รถต้องใช้น้ำมันขับเคลื่อน ตัวเราเองก็เช่นกันต้องดื่มน้ำต้องกินอาหาร ตัวเราเองก็มีการเสื่อมสภาพไม่ต่างจากรถเลยครับ
วันนี้คุณอาจจะยังแข็งแรงดี คุณจะกลับมาคิดว่าไม่น่าประหยัดเกินไป ก็ตอนที่คุณเดินไม่ไหวแล้วนั่นแหละครับ
บางอย่างก็ไม่ต้องประหยัดขนาดนั้นครับ สำหรับผมสุขภาพมีค่ามากกว่าเงินทอง เพราะเดี๋ยวตอนบั้นปลายก็ต้องเอาเงินมาจ่ายเรื่องสุขภาพอยู่ดี
6.อันนี้แล้วแต่คน มันแล้วแต่ว่าจะตัดสินใจยังไง ไม่ให้ยืมเราก็มีเหลือมากสบายๆ ให้ยืมเราก็จะลำบากหน่อย
ถ้าให้ยืมแล้วตอนทวงเสียเพื่อน เป็นผมจะเลิกคบคนนั้นไปเลย
เพราะถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ตอนมันมายืมเรายังให้ ตอนทวงคืนมันก็ต้องให้เราเช่นกัน
7.ก็ถูกแล้ว ซื้อของตามความต้องการของตัวเอง แต่ก็อย่าลืมซื้อของที่จำเป็นด้วย
8.เป็นวิธีออมเงินแบบนึง ก็ไม่มีอะไรกะเกณฑ์ได้ว่าดีหรือไม่ ส่วนเรื่องบัตรเครดิตผมสมัครไว้นะ คุณก็สมัครไว้ก็ได้แค่รูดไม่เกิน 10k ก็จบละ
คุณก็ใช้เงินเท่าเดิม แถมได้แต้มบัตรเครดิตมาแลกของอีก บัตรบางใบยังเอาไปรับสิทธิพิเศษได้อีก สมัครไว้เถอะ ไม่เสียหาย
9.ผมมีบัตรเครดิตผ่อน 0% ไม่เสียดอกเบี้ยครับ ข้อดีได้ใช้ก่อนครับ เช่นถ้าทำงานเกี่ยวกับคอมซื้อคอมมา ทำงานสะดวกขึ้น งานเสร็จเร็ว
แบบนี้ผมโอเคนะ ถ้าเก็บเงินแล้วซื้อทีหลังก็ทำงานสะดวกขึ้นทีหลังครับ อันนี้แล้วแต่ความจำเป็นครับ
10.ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน
11.อันนี้ก็แล้วแต่คน แต่ผมวัดว่าอาหารแพงมั้ยจากคุณภาพ รสชาติ ปริมาณ
1.ระหว่างคุณรอรถ 4 ชั่วโมง อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณอาจโดนปล้นเงิน 30k ไปก็ได้ครับ
หรือมันอาจไม่เกิดขึ้นครับ แต่สิ่งที่คุณต้องเสียแน่ๆเลย คือเวลา ถ้าคุณถึงที่หมายเร็วคุณมีโอกาสทำสิ่งอื่นๆครับ
การรอรถราคา 9 บาท ประหยัดไป 291 บาท แลกกับ 4 ชั่วโมง ถ้าคุณมองว่าเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสที่คุ้มก็ถือว่าโอเคครับ
แต่เป็นผมผมยอมเสียค่าแท็กซี่ดีกว่า อยากนอนครับ ยกเว้นคุณมีเวลานอนเหลือๆ จะน่าอิจฉามากๆ
2.ถ้ามันไม่ไกลเกินไปสำหรับเรา ผมว่าถือเป็นการออกกำลังกายครับ ถ้าใช้เวลาไม่ต่างกันมากก็ไม่มีอะไรต้องเสีย
จักรยานก็ล็อคด้วยนะครับ ถ้าขี่ของแพงๆระวังจะหาย
3.อันนี้คุณต้องไปก่อนหมายถึงคุณเสียเวลาไป1วัน แลกกับการไปนั่งปวดเมื่อยบนรถไฟฟรี อาจได้ทิวทัศน์กับเพื่อนคุยเพิ่มเข้ามา
ก็ลองคิดดูครับว่ามันโอเคมั้ย ถ้ามันคุ้มสำหรับคุณก็ไม่ต้องแคร์อะไร ถ้าเป็นผมก็แล้วแต่ว่าไปไหน ถ้าไปที่ๆวิวสวย ไปถ่ายรูปบนรถไฟก็ไม่เลวครับ
4.การมีรถมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแหละครับ ถ้าอยู่ในเมืองเจอรถติดเข้าไป ผมไปรถตู้ รถไฟฟ้า เร็วกว่าเยอะครับ
ในกรณีอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ถ้ามีรถเราก็ไปเองได้ไม่ต้องง้อใครครับ ไม่มีรถไปได้ก็จริงแต่อาจจะไม่สะดวกบางสถานที่
5.รถต้องใช้น้ำมันขับเคลื่อน ตัวเราเองก็เช่นกันต้องดื่มน้ำต้องกินอาหาร ตัวเราเองก็มีการเสื่อมสภาพไม่ต่างจากรถเลยครับ
วันนี้คุณอาจจะยังแข็งแรงดี คุณจะกลับมาคิดว่าไม่น่าประหยัดเกินไป ก็ตอนที่คุณเดินไม่ไหวแล้วนั่นแหละครับ
บางอย่างก็ไม่ต้องประหยัดขนาดนั้นครับ สำหรับผมสุขภาพมีค่ามากกว่าเงินทอง เพราะเดี๋ยวตอนบั้นปลายก็ต้องเอาเงินมาจ่ายเรื่องสุขภาพอยู่ดี
6.อันนี้แล้วแต่คน มันแล้วแต่ว่าจะตัดสินใจยังไง ไม่ให้ยืมเราก็มีเหลือมากสบายๆ ให้ยืมเราก็จะลำบากหน่อย
ถ้าให้ยืมแล้วตอนทวงเสียเพื่อน เป็นผมจะเลิกคบคนนั้นไปเลย
เพราะถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ตอนมันมายืมเรายังให้ ตอนทวงคืนมันก็ต้องให้เราเช่นกัน
7.ก็ถูกแล้ว ซื้อของตามความต้องการของตัวเอง แต่ก็อย่าลืมซื้อของที่จำเป็นด้วย
8.เป็นวิธีออมเงินแบบนึง ก็ไม่มีอะไรกะเกณฑ์ได้ว่าดีหรือไม่ ส่วนเรื่องบัตรเครดิตผมสมัครไว้นะ คุณก็สมัครไว้ก็ได้แค่รูดไม่เกิน 10k ก็จบละ
คุณก็ใช้เงินเท่าเดิม แถมได้แต้มบัตรเครดิตมาแลกของอีก บัตรบางใบยังเอาไปรับสิทธิพิเศษได้อีก สมัครไว้เถอะ ไม่เสียหาย
9.ผมมีบัตรเครดิตผ่อน 0% ไม่เสียดอกเบี้ยครับ ข้อดีได้ใช้ก่อนครับ เช่นถ้าทำงานเกี่ยวกับคอมซื้อคอมมา ทำงานสะดวกขึ้น งานเสร็จเร็ว
แบบนี้ผมโอเคนะ ถ้าเก็บเงินแล้วซื้อทีหลังก็ทำงานสะดวกขึ้นทีหลังครับ อันนี้แล้วแต่ความจำเป็นครับ
10.ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน
11.อันนี้ก็แล้วแต่คน แต่ผมวัดว่าอาหารแพงมั้ยจากคุณภาพ รสชาติ ปริมาณ
ความคิดเห็นที่ 43
คนที่ขี้เหนียว คือคนที่ ไร้ความสามารถในการหาเงินครับ
อาจจะมีเงินเพราะ จังหวะชีวิตดี หรือมีญาติมีคนในครอบครัวสนับสนุน หรือได้กินบุญเก่าจากพ่อแม่ บางคนได้ ผัวรวย เมียรวย
คนพวกนี้จะขี้เหนียว เพราะในจิดใต้สำนึก กลัวว่าถ้าใช้เงินหมด จะไม่มีปัญญาหาได้เท่าเดิม
ส่วนคนที่เก่งจริง เขาไม่กลัวเงินหมดครับ...บางคนบอกว่า ฟุ่มเฟือย หรือใช้เงินไม่คิด ต้องไปดูด้วยว่า สกิลหรือทักษะส่วนตัวเขาเป็นยังไงด้วย
อาจจะมีเงินเพราะ จังหวะชีวิตดี หรือมีญาติมีคนในครอบครัวสนับสนุน หรือได้กินบุญเก่าจากพ่อแม่ บางคนได้ ผัวรวย เมียรวย
คนพวกนี้จะขี้เหนียว เพราะในจิดใต้สำนึก กลัวว่าถ้าใช้เงินหมด จะไม่มีปัญญาหาได้เท่าเดิม
ส่วนคนที่เก่งจริง เขาไม่กลัวเงินหมดครับ...บางคนบอกว่า ฟุ่มเฟือย หรือใช้เงินไม่คิด ต้องไปดูด้วยว่า สกิลหรือทักษะส่วนตัวเขาเป็นยังไงด้วย
ความคิดเห็นที่ 21
คนเรารู้จักประหยัดได้เป็นเรื่องที่ดีแต่ถึงขนาดงก
เกินไปก้อไม่ไหวอ่ะ แต่เราเป็นเพื่อนคุณเราคง
ไม่คบคุณต่ออ่ะ การนั่งรถไปเที่ยวกับเพื่ิอนไม่
ใช่แค่หารค่าน้ำมันแต่มันเป็นการเอ็นจอยกันระหว่าง
ทาง เราชอบคนที่บาลานซ์ชีวิตสมดุล
แต่ถ้าคุณมีความสุขคนรอบข้างมีความสุขเพื่อนคุณแฟนคุณแฮปปี้กะคุณก้อโอเคแล้ว
เกินไปก้อไม่ไหวอ่ะ แต่เราเป็นเพื่อนคุณเราคง
ไม่คบคุณต่ออ่ะ การนั่งรถไปเที่ยวกับเพื่ิอนไม่
ใช่แค่หารค่าน้ำมันแต่มันเป็นการเอ็นจอยกันระหว่าง
ทาง เราชอบคนที่บาลานซ์ชีวิตสมดุล
แต่ถ้าคุณมีความสุขคนรอบข้างมีความสุขเพื่อนคุณแฟนคุณแฮปปี้กะคุณก้อโอเคแล้ว
แสดงความคิดเห็น
มีใครที่ก็มีเงิน แต่ก็ขี้เหนียวกับเรื่องเล็กๆน้อยๆบ้างครับ
แต่ก็ยังงกอยู่ และ ไม่ยอมเสียเงินอะไรง่ายๆ กับ สิ่งที่ไม่จำเป็น
เช่น
1.ผมจะไม่ขึ้นแท๊กซี่ ผมมีอยู่หลายที มีอยู่ครั้งนึง ไปบ้านเพื่อน กลับบ้านดึกอยู่ปากเกร็ด ทั้งที่ในตัววันนั้นมีเงินอยู่สามหมื่นกว่า
เวลาตอนนั้นก็ตี1 รถเมล์ไม่มีแน่ ผมเดินกลับไปบ้านเพื่อนอีกรอบ แล้วนั่งรอจนตี5 รถ 33 คันแรกมา เพราะผมคิดเรื่องอะไรจะเสียเงิน300 ในเมื่อรออีก4ชม. ค่ารถจะเหลือแค่9บาท หรือ ถ้าเวลาปกติ ผมไม่ซีเรียสเรื่องรอรถ
เคยนั่งรอ2-3ชม. รถไม่มาก็ยอมรอ อะ
2.บางทีก็งกไม่เข้าเรื่อง เช่น ผมเคยปั่นจักรยานอ้อมเกาะเกร็ด เพื่อไปเมืองทอง เหตุผลเพราะ ไม่อยากเสียค่าเรือข้ามฟากสองต่อ(งกเงินประมาณ20บาท)
3.เพื่อนผมเคยขับรถไปเที่ยวใต้ ชวนผมไปด้วย ซึ่งแน่นอน ไปก็ต้องช่วยมันหารค่าน้ำมัน ต้องมี 2 -3000 ผมบอก เอ็งไปวันไหน โอเค และ ผมออกก่อน1วัน ขึ้นรถไฟฟรีไป เอาจักรยานผมระวางขึ้นรถไฟ ไปถึงก็พร้อมๆกัน เพื่อนผมมันยังบอก แม่--โครตระเหนียวเลย(แต่ผมชอบคำนี้ ผมถือว่าเป้นคำชม)
4.ทั้งที่ผมมีศักยภาพในการซื้อรถได้สบายๆ แต่ไม่เคยมีความคิดนี้ในหัว เพราะค่าน้ำมัน ต่อให้ค่าแก๊สก็เหอะ ผมคำนวนดูไหนจะค่าซ่อมบำรุงอีก แล้วรถมันค่าเสื่อมถอย นั่งรถสาธารณะ หรือ ปั่นจักรยานเองดีกว่า
5.ไม่ใช่แค่รถเก๋ง ขนาดมอเตอร์ไซค์ราคาไม่กี่หมื่น ก็ไม่คิดซื้อ เพราะคำว่าค่าน้ำมัน ผมซื้อจักรยานมาขี่แทน แต่ผมขี่ไปทั่วนะ บ้านอยู่เขตพระนคร แต่ รังสิต สมุทรปราการ ปากเกร็ด นครปฐม ราชบุรี ปากน้ำ ราม ผมปั่นไปหมดแล้ว ไปโดยไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ผมว่าใช้เวลาก็จริง แต่ก็ถึงเหมือนกัน ผมมองว่าคุ้ม ถ้าไม่รีบไปเรื่อยๆนะ (แต่ถ้ารีบก็ใช้รถสาธารณะ)
6.ผมไม่เคยให้ใครยืมเงิน ขนาดแฟนเก่าผม แฟนเก่าผมเคยแบกหนี้ที่แม่ตัวเองสร้างไว้ มาขอร้องผม ขอยืมหน่อย ช่วยค้ำหน่อย บ้าเหรอช่วยค้ำ หนี้ก็ตกที่ผมสิ ผมปฏิเสธอย่างเดียว ผมบอก เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนมได้ แต่อุ้มหนี้มันไม่ใช่หน้าที่แฟน สรุปว่า ไม่นานหลังจากนั้นประมาณครึ่งปี เธอขอเลิก สำหรับผม เลิกก็เลิกสิ ผมเป็นคนที่ไม่ได้เห็นความรักสำคัญขนาดนั้น ไม่เคยรักใครขนาดยอมได้ทุกอย่าง ผมอยู่คนเดียวได้ มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี ผมเป็นคนที่มีความคิดว่า คนเราเกิดมาเจอคนตั้งมากมาย ทำไมต้องเอาชีวิตไปผูกติดกับใครสักคน
6.1สาเหตุที่ไม่ให้ยืมตัง เพราะผมเป็นคนขี้เกียจทวง พอมีคนมายืมปุ๊บ พอเราให้ตังไปปั๊บ ทุกข์ของเขา กลายเป็นทุกข์ของเรา ทุกข์ตรงที่ว่า เขาจะเอามาคืนเรารึปล่าว ทวงเสียเพื่อน เสียญาติอีก ปฏิเสธไปเลยดีกว่า แต่ถ้าเดือดร้อน ไม่มีตังกินข้าว ผมให้เพื่อนเลยสองร้อยสามร้อย ห้าร้อยให้ได้ ให้ไปเลย แต่เกินกว่านี้ก็ไม่ให้
7.แต่ผมชอบเดินตลาดต่างๆนะ แต่ผมลักษณะ ชอบเดินเพราะบรรยากาศ บางที ไม่ใช่บางที ทุกทีเลยล่ะ ไปเดินตลาด ไม่เคยมีของติดมือ คือ ถ้าผมไม่อยากได้จริงๆ ไม่เคยซื้อ ดังนั้นเซลล์ หรือ แม่ค้า ไม่เคยหว่านล้อมผมได้
8.ผมไม่สมัครบัตรเครดิต มีบัญชีสองบัญชี บัญชีแรกมีเอทีเอ็ม อีกบัญชีมีแต่สมุด เงินในบัญชีที่มีเอทีเอ็ม จะไว้ใช้ แต่จะมีเงินไม่เกินหมื่น ส่วนบัญชีที่มีแต่สมุด เก็บยาว ไม่จำเป็นไม่เบิก
9.ผมจะไม่ยืม ไม่ผ่อน ไม่กู้ เด็ดขาด กู้ทำไม ผ่อนทำไมให้มันกินดอก อยากได้เก็บเงิน ยังเก็บไม่ได้ก็ยังไม่ต้องซื้อ ก็เห็นเก็บตังซื้อได้ทุกที บางทีระหว่างเก็บเงินมีอะไรฉุกเฉินก็เอาเงินก้อนนี้ไปใช้ได้ แต่ถ้าผ่อนล่ะ สร้างหนี้ไปและ ฉุกเฉินขึ้นมาไม่มีเงินสด จะทำยังไงล่ะ
10.แต่ก็แปลก ถ้าผมชอบ อยากได้จริงๆ แพงแค่ไหนก็ซื้อ ผมซื้อกีตาร์เฟนเดอร์ตัวละ4หมื่น แอมป์หลอดมาแชล2หมื่น ซื้อกล้องsonyสามหมื่น จักรยานที่ผมขี่ประจำคือ Bianchi Jab ผมอยากได้ผมจะเก็บเงิน ไปเรื่อยๆ พอมีครบ ก็กำเงินสดไปซื้อเลย ไม่ต่อด้วย เพื่อนผมบางคนบอก มีตังซื้อของใหญ่ได้ รวยนี่หว่า ป่าว ข้าก็รายได้เท่าเอ็งแหละ แต่ข้าเก็บนี่หว่า และกว่าจะได้ก็เก็บหลายเดือน ไม่ใช่เงินเดือนออกก็ถลุงหมด พอสิ้นเดือนก็หน้าแห้ง
11.ผมไม่มีเงินก็กินง่าย ข้าวแกง ข้าวไข่เจียว มีเงินก็กินง่าย กินเหมือนเดิม ข้าวแกง ข้าวกะเพรา ข้าวไข่เจียว และ ผมค่อยข้างเซ้นซิทีฟเรื่องค่าอาหาร บางร้านไปกิน แพงน้อย ถึงไม่แพงมาก แต่เราวัดปริมาณราคาขนาดนี้ กับเจ้านั้นที่เราเคยกิน ผมก็กินแค่ครั้งเดียว จบ ต่อให้ช่วงนั้นมีตังเยอะแค่ไหนก็ตาม บางทีเจอข้าวเหมือนกัน แพงกว่าที่ผมเคยกิน 10บาท 20บาท ผมก็ยังรู้สึกแพง เออ เป็นยังงี้จริงๆ
ใครมีนิสัยเป็นแบบผมบ้างครับ ยกมือหน่อย