เรื่องสั้น
แมว(ใน)บ้าน
เพทาย
ผมให้อาหารแมวพเนจรที่อยู่หน้าบ้าน ตั้งแต่มีเพียงสามตัวแล้วก็มีมาเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่เตร็ดเตร่มากินอาหารเม็ด แล้วก็ไปหากินที่อื่น ทั้งที่อยู่ประจำแล้วก็ตายไป ทั้งที่ออกลูกมาหลายครอก แล้วก็หายไปหมด เดี๋ยวนี้เหลือตัวเดียวคือตัวที่ผมเรียกมันว่า สีอ่อน เพราะตัวสีขาวมีแต้มสีน้ำตาลอ่อนเป็นแห่ง ๆ กับแมวรุ่นลูกของมันมาบ้างไม่มาบ้างอีกตัวสองตัว
ผมไม่ยอมเลี้ยงแมวในบ้านเพราะขี้เกียจดูแล เว้นแต่เจ้าซ่าตัวเดียว ที่ผมช่วยชีวิตมันไว้จากการถูกรถยนต์ถอยทับขาที่หน้าบ้าน ตั้งแต่มันยังเป็นวัยรุ่น เพราะมันเดินไม่ได้ ต้องเอามานอนใต้ร่มไม้ เอาอาหารเอาน้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ แต่มันก็หายได้เองในเวลาไม่นาน มันเดินและวิ่งได้ตามปกติ มันจึงอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลาร่วมหลายปีแล้ว จนมันตามเข้าไปนอนในห้องรับแขกบ้าง นอนบนตักผมเวลาดูทีวีบ้าง ตัดไม่ขาด เวลาให้อาหารแมวหน้าบ้าน มันก็ไม่กิน ต้องให้ในชามของมันตรงที่ประจำ จึงจะกิน มันจึงเป็นแมวเลี้ยงโดยอุบัติเหตุ แต่เวลานอนก็จะไล่ออกไปนอนนอกห้องทุกคืน เช้าจึงจะเจอหน้ากัน ตัวมันเป็นสีด่างดำขาวหางยาว เป็นตัวผู้
ผมทำดังนี้มาเป็นเวลานานพอสมควร ก็มีแมวด่างดำขาวอีกตัวหนึ่งแอบมาออกลูกทิ้งไว้สี่ตัวในพงหญ้าริมรั้วบ้าน แล้วก็หายหน้าไป ผมต้องเลี้ยงลูกแมวแรกเกิดนั้น จนตายไปทีละตัวจนถึงวันที่หกตัวสุดท้ายที่ตั้งชื่อว่าบุญรอดก็ตายจากไป ตั้งแต่นั้นเวลามีแมวท้องโย้มาเดินกรายในบ้าน ผมจะต้องใช้บทโหดไล่ออกไปเสมอ เพราะกลัวว่ามันจะมาออกลูกทิ้งไว้อีก
แต่ก็มีอยู่ตัวหนึ่งสีด่างดำขาวเหมือนกัน ไม่ทราบว่าเป็นตัวเดียวกับแม่ใจร้ายตัวนั้นหรือเปล่า มันมาเดินพุงโย้แถวหน้าบ้านหลังบ้าน ไล่ก็ออกไปแล้วก็เข้ามาอีก เวลากินอาหารก็ออกไปกินหน้าบ้านเช่นเดียวกับตัวอื่น ท้องของมันก็โตขึ้นทุกวันโตขึ้นโตขึ้น จนหนังด้านหลังยืดออก ขนที่ด่างห่างกันเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่คลอดสักที ผมจึงเรียกมันว่านังอ้วน ผมก็ไม่รู้ว่าแมวมันท้องกี่เดือน แต่รู้สึกว่านานผิดปกติเวลาไล่ออกนอกบ้าน มันก็วิ่งอุ้ยอ้ายขึ้นทุกที ความเวทนาก็เกิดขึ้นหน่อย ๆ แต่ยังยึดคติเดิม จึงต้องทำใจแข็งไว้
วันหนึ่งก็มีลูกแมวตัวนิดเดียวตายกองอยู่หลังบ้าน ดูลักษณะว่าจะคลอดก่อนกำหนด เข้าใจว่าจะเป็นลูกของนังอ้วน แต่พอเจอมันก็เห็นยังท้องป่องอยู่อย่างเดิม ทำให้ประหลาดใจว่าถ้าไม่ใช่ลูกของมันจะเป็นลูกใคร แล้วถ้ามันหลุดออกมาตัวเดียว จะเหลืออีกกี่ตัวก็ไม่รู้ แล้วทำไมมันถึงยังไม่ออกมาทั้งหมด คิดแล้วก็เสียสมองเปล่า ๆ ปล่อยมันไปตามกรรมดีกว่า
นังอ้วนมันเดินย้ายพุงตุ๊ต๊ะอยู่อย่างนั้นอีกเป็นสัปดาห์ จนถึงคืนวันหนึ่งฝนผิดฤดูตกปรอย ๆ ก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องแง้ ๆ อยู่ริมรั้วสังกระสีผุ ก็นึกปลงในใจว่าถ้าแม่มันอยู่ด้วยก็ดูแลกันเองเถอะ เราไม่เกี่ยว ถ้าแม่มันทิ้งไปอีกก็เห็นจะเป็นกรรมของเราตามเคย แต่พอรุ่งเช้าเสียงนั้นก็เงียบไป มองหาก็ไม่เจอว่ามันอยู่ตรงไหน มันเงียบเสียงอย่างนั้นสักสองวัน จนดีใจว่ามันพากันไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว แต่ที่ไหนได้ มันดันหอบลูกเต้ามาซุกนอนอยู่ในกล่องเปล่าหลังบ้านเป็นกองโต
ก็เจ้านังอ้วนนี่แหละ นอนเงียบอยู่กับลูกที่ยังไม่ลืมตา สีมืด ๆ ทึม ๆ นับไปนับมาได้ตั้งหกตัว มีสีด่างเหมือนแม่ตัวเดียว พอมันรู้ว่าผมรู้ที่อยู่ของมัน วันนั้นมันก็คาบลูกหายไปอีก แต่มันยังมากินข้าวหน้าบ้านตามเคย ผมไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหน เที่ยวเดินหาทั่วบ้านทุกซอกทุกมุมก็ไม่เจอ จึงวางใจว่ามันไม่ชอบบ้านผมแล้ว
ในขณะเดียวกันนั้นข้างบ้านของผมรั้วติดกัน ก็มีแมวมาออกลูกอีกครอกหนึ่ง นังแม่สีน้ำตาลอ่อนทั้งตัว แต้มขาวที่ปลายเท้าทั้งสี่และจมูก หางขอดสั้นกุด ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกของนังสีอ่อน ผมเรียกมันว่านังสีเทา รายนี้ออกมานับได้หกตัวสีเทาอ่อนทั้งนั้น มีด่างขาวดำตัวเดียวเหมือนกัน ตัวแม่มันก็มากินข้าวหน้าบ้านเป็นประจำ มันก็เลี้ยงลูกของมันที่บ้านข้างเคียงเป็นปกติ ส่วนนังอ้วนคาบลูกวิ่งเข้าวิ่งออกบ้านผมกับบ้านนั้นแทบทุกวัน จนผมคิดว่าลูกมันอาจจะเปลี่ยนกันหรือรวมกันเป็นครอกใหญ่ก็ได้ แต่ความจริงแม่มันคงจะจำกลิ่นลูกของมันได้
เวลาผ่านไปจนลูกแมวทั้งหมดลืมตา แล้วเดินเตาะแตะตามแม่ของมันได้ ผมจึงเห็นมันเต็มตาว่า นังอ้วนเหลือลูกอยู่สามตัวนอกจากเจ้าด่างแล้ว อีกสองตัวมีสีดำเทาน้ำตาลปนกันเลอะเทอะ จนแยกกันไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน แล้วนอกนั้นมันหายไปไหนก็ไม่ทราบ
ส่วนนังสีเทาเหลือลูกอยู่ห้าตัว นอกจากเจ้าด่างแล้ว อีกสี่ตัวเป็นสีเทาอ่อน ปนลายเสือนิดหน่อย คล้ายกันจนแยกไม่ออกเหมือนกัน
นังอ้วนพาลูกมาอาศัยอยู่หลังบ้าน มุดเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะกองสัมภารก ไม่ย้ายไปไหนอีกแล้ว ส่วนนังสีเทาพาลูกมาอยู่ใต้ร่มไม้ใบหญ้าในสวนหน้าบ้าน
จนกระทั่งลูกมันโตขึ้นวิ่งเล่นกันเกลื่อนไปหมดทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน แต่มันก็ยังจำฝูงของมันได้ ผมจะทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ไม่ได้ จำเป็นต้องหาอาหารให้มันกินกันทั้งสองครอก ด้วยความขมขื่นที่จะต้องเลี้ยงแมวในบ้านทั้งหมดสิบเอ็ดตัว รวมทั้งเจ้าซ่าด้วย เวรกรรมแท้ ๆ ทีเดียว
ผมพยายามที่จะให้ทั้งสองครอกออกไปหากินนอกบ้านบ้าง จึงค่อย ๆ ล่อให้เจ้าครอกหลังบ้านมากินข้าวที่หน้าบ้าน แล้วก็จะได้ให้ออกไปกินนอกบ้าน มันก็ชักจะปน ๆ กันอยู่จนเราเองก็จำไม่ได้ว่าตัวไหนอยู่ครอกไหน
เวลาผ่านไปเป็นเดือนจนลูกแมวทั้งหมดอดนม เพราะแม่มันไม่ยอมให้กิน และตัวแม่เองก็หายหัวไปทำสาวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เจ้าหลังบ้านก็หายไปอีกตัวหนึ่ง คงเหลือสองตัวด่างดำขาว มีหางสั้น และหนวดสั้นเหมือนใครเอาตะไกรไปตัดมันไว้ ผมเรียกว่าเจ้าสั้นเป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งมีลายเสือสับสนก็เลยเรียกว่านังมอมแมมเป็นตัวเมีย
ส่วนข้างหน้าบ้านเหลือสี่ตัว ตัวโตสีเทาอ่อนหางยาว แต่ปลายหางมีลายเสือและหงิกงอไปมา เหมือนงูหางกระดิ่ง จึงเรียกเจ้ากระดิ่ง ตัวรองลงมามีลายเสือชัดเจนทั้งตัว จึงเรียกเจ้าลาย สองตัวนี้เป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งด่างขาวดำเกือบจะเหมือนเจ้าสั้น แต่สังเกตได้ว่าหางยาวกว่า และที่ใต้ข้อศอกหน้ามีสีดำเหมือนคนใส่เสื้อปะ จึงเรียกว่านังปะ กับตัวสุดท้ายด่างน้ำตาลอ่อนแต่มีสีขาวมากกว่า เลยเรียกว่านังนมเย็น ทั้งสองตัวนี้เป็นตัวเมีย
ต่อมามันสามารถกินอาหารเม็ดรวมกันได้ แต่ถ้าออกไปให้หน้าบ้านมันไม่ยอมออกไป เพราะมีหมาเดินผ่านไปมา บางทีก็เข้ามาแย่งกินอาหารแมวด้วย มันเลยกลัวหัวหด นอกจากจะกินด้วยกันแล้วยังเล่นด้วยกันได้อีกด้วย ตกลงหกตัววิ่งกันทั่วไปทั้งบ้าน แล้วก็ขี้เยี่ยวเหม็นไปหมดทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ข้างหน้าบ้านเป็นสวนรก ๆ มันเข้าไปขี้เราได้กลิ่นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนทางหลังบ้านเป็นลานโล่ง มันเที่ยวขี้กองไว้ที่โน่นที่นี่ไม่เป็นประจำ
ผมพยายามเอาทรายมากลบ พอแห้งแล้วก็โกยไปใส่กระบะไว้ให้เป็นส้วม ก็มีบางตัวใช้บริการบ้าง แต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่เสมอ ต้องเก็บกวาดทุกวัน และเมื่อในกระบะแห้งดีแล้ว ก็ต้องร่อนออกจากทราย ใส่ถุงไปทิ้งถังขยะอีกทอดหนึ่ง ถ้าเมื่อไรมันพากันไปขี้นอกบ้านหมด ผมก็จะมีความสุขขึ้นมากทีเดียว
ผมใช้กรรมในการตามล้างตามเก็บขี้แมวอยู่เป็นเดือนๆ ก็ทุเลาลงมันคงจะชวนกันไปขี้ในสวนหน้าบ้านหมดแล้วก็ได้ แต่ทำอย่างไรมันก็ไม่ยอมออกไปกินอาหารหน้าบ้าน แม้แต่เจ้านมเย็นจะชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน แต่ ก็กลับเข้ามากินอาหารเม็ดอย่างเดิม คงจะคิดได้แล้วว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่มีกินอย่างในบ้านนี้ สุดท้ายเมื่อผมเอาอาหารเม็ดมาใส่จานหน้าบ้าน ก็จะมีแมวกระโดดเข้ากระโดดออก มาสุมหัวกันกินจนนับไม่ทัน
เวลาที่ผมไม่ว่างหรือลืมเอาอาหารเม็ดใส่จานตามเวลาเช้าเย็น มันก็จะพากันมาร้องประสานเสียงอยู่ทางหน้าบ้าน หลังบ้านบ้าง ตามแต่ว่าผมจะเดินไปทางไหน เมื่อผมมองเห็นดวงตาทั้งแปดเก้าคู่ที่จ้องมองรวมเป็นจุดเดียวที่ดวงตาของผมแล้ว ทำให้ผมต้องรีบไปตักอาหารมาให้โดยเร็ว ด้วยความสำนึกผิดอย่างยิ่งทีเดียว
เรื่องที่ผมวิตกอีกอย่างหนึ่งก็คือในสองกลุ่มนี้มีตัวเมียสามตัว ถ้ามันโตขึ้นและท้องขึ้นมา มันไม่มีที่อื่น ก็คงจะหาที่ออกลูกในบ้านอีก แล้วถ้ามันออกมาอย่างน้อยครอกละสามตัว บ้านนี้ก็คงจะมีแมวยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
ผมจึงมาเขียนกระทู้หารือในห้องจตุจักร ของพันทิป ซึ่งเคยได้รับความช่วยเหลือแนะนำในการเลี้ยงลูกแมวมาแล้ว ก็มีท่านหนึ่งที่คุ้นชื่อแนะนำให้ติดต่อกับผู้อุปถัมภ์แมว ที่แถวตลาดห้วยขวาง ผมก็ไม่รอช้ารีบโทรศัพท์ไปติดต่อทันที ท่านผู้รับโทรศัพท์ฟังตามน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณานั้น ยินดีรับลูกแมวตัวเมียทั้งสามตัวไปทำหมันให้ โดยจะนัดวันพาไปส่งที่บ้านของเธอ
ผมรออยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็ได้รับโทรศัพท์จากเธอผู้นั้น ให้นำแมวไปให้เธอได้ตัวหนึ่ง เพราะมีคิวทำได้เพียงตัวเดียว ผมมีตะกร้าแมวอยู่แล้วจึงจับนังมอมแมมใส่ตะกร้า ขึ้นรถแท็กซี่ เพราะรถเมล์เขาห้ามเอาสัตว์ขึ้น ผมเคยเห็นกระปี๋ไล่ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง ที่อุ้มสุนัขตัวนิดเดียวลงจากรถเมื่อนานมาแล้ว
แท็กซี่เองก็ไม่ค่อยพอใจนัก บ่นอยู่ว่าแท็กซี่บางคันก็ไม่ยอมรับ เพราะบางทีเจ้าของไม่ระวังปล่อยหมาหรือแมวหลุดจากกล่อง มันก็ตกใจขี้เยี่ยวเลอะรถเขา ผมก็ต้องทนฟังเขาเล่าเสียดสีไปตลอดทาง ถ้าไม่ทนเดี๋ยวเขาไล่ลงเราก็ลำบาก จนกระทั่งถึงตลาดห้วยขวางมีตรอกแคบ ๆ พอจะเดินไปได้ จึงลงจากแท็กซี่ แถมเศษเงินทอนและขอบอกขอบใจเขา ซึ่งคงพอจะทำให้เขาสบายใจขึ้น แล้วก็หิ้วกรงเจ้ามอมแมม เข้าตรอกไปจนถึงบ้านของท่านผู้มีใจอารีต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งอยู่ไม่ลึกนัก
พอเจอหน้าหญิงวัยยังไม่ถึงกลางคน ผมรีบยกมือไหว้ก่อนเธอก็ทักทายเป็นอันดี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย ทั่วบ้านของเธอมีแต่แมวมากกว่ายี่สิบตัว บ้างก็นอนเล่นนั่งเล่นอย่างสงบเสงี่ยม ซึ่งเป็นแมวที่เธอเลี้ยงเอง และที่อยู่ในกรงกว้างพอตัวอีกนับสิบ ที่มีผู้เอามาฝากให้ทำหมันและรอมารับกลับ ทำให้ผมโล่งอกเหมือนยกภูเขาแสนหนักออกไปทันที ผมขอฝากเจ้ามอมแมม และเจ้าปะที่จะเอามาเป็นตัวต่อไป ให้เธอดำเนินการตามกรรมวิธีและดูแลตามสมควร แล้วผมก็จะได้มีแมวเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยเหมือนเมื่อสมัยโน้น แทนที่นางทองดำที่ตายไป หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมานับสิบปี
เมื่อผมกลับมาถึงบ้านด้วยความสบายใจ ก็พบหน้านังอ้วนตัวเก่า ซึ่งหายไปเป็นเวลานาน เข้ามายืนจ้องหน้าจะให้หาข้าวให้กิน เหมือนมันเป็นนายเรา แค่นั้นผมก็ยังไม่ว่าอะไรหรอก
แต่ที่สำคัญก็คือ มันท้องโย้เหมือนเดิมอีกแล้วน่ะซี ผมจึงต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
กรรมของผมยังไม่สิ้นอีกหรือนี่.
##########
แมว(ใน)บ้าน ๒๑ ม.ค.๖๑
แมว(ใน)บ้าน
เพทาย
ผมให้อาหารแมวพเนจรที่อยู่หน้าบ้าน ตั้งแต่มีเพียงสามตัวแล้วก็มีมาเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่เตร็ดเตร่มากินอาหารเม็ด แล้วก็ไปหากินที่อื่น ทั้งที่อยู่ประจำแล้วก็ตายไป ทั้งที่ออกลูกมาหลายครอก แล้วก็หายไปหมด เดี๋ยวนี้เหลือตัวเดียวคือตัวที่ผมเรียกมันว่า สีอ่อน เพราะตัวสีขาวมีแต้มสีน้ำตาลอ่อนเป็นแห่ง ๆ กับแมวรุ่นลูกของมันมาบ้างไม่มาบ้างอีกตัวสองตัว
ผมไม่ยอมเลี้ยงแมวในบ้านเพราะขี้เกียจดูแล เว้นแต่เจ้าซ่าตัวเดียว ที่ผมช่วยชีวิตมันไว้จากการถูกรถยนต์ถอยทับขาที่หน้าบ้าน ตั้งแต่มันยังเป็นวัยรุ่น เพราะมันเดินไม่ได้ ต้องเอามานอนใต้ร่มไม้ เอาอาหารเอาน้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ แต่มันก็หายได้เองในเวลาไม่นาน มันเดินและวิ่งได้ตามปกติ มันจึงอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลาร่วมหลายปีแล้ว จนมันตามเข้าไปนอนในห้องรับแขกบ้าง นอนบนตักผมเวลาดูทีวีบ้าง ตัดไม่ขาด เวลาให้อาหารแมวหน้าบ้าน มันก็ไม่กิน ต้องให้ในชามของมันตรงที่ประจำ จึงจะกิน มันจึงเป็นแมวเลี้ยงโดยอุบัติเหตุ แต่เวลานอนก็จะไล่ออกไปนอนนอกห้องทุกคืน เช้าจึงจะเจอหน้ากัน ตัวมันเป็นสีด่างดำขาวหางยาว เป็นตัวผู้
ผมทำดังนี้มาเป็นเวลานานพอสมควร ก็มีแมวด่างดำขาวอีกตัวหนึ่งแอบมาออกลูกทิ้งไว้สี่ตัวในพงหญ้าริมรั้วบ้าน แล้วก็หายหน้าไป ผมต้องเลี้ยงลูกแมวแรกเกิดนั้น จนตายไปทีละตัวจนถึงวันที่หกตัวสุดท้ายที่ตั้งชื่อว่าบุญรอดก็ตายจากไป ตั้งแต่นั้นเวลามีแมวท้องโย้มาเดินกรายในบ้าน ผมจะต้องใช้บทโหดไล่ออกไปเสมอ เพราะกลัวว่ามันจะมาออกลูกทิ้งไว้อีก
แต่ก็มีอยู่ตัวหนึ่งสีด่างดำขาวเหมือนกัน ไม่ทราบว่าเป็นตัวเดียวกับแม่ใจร้ายตัวนั้นหรือเปล่า มันมาเดินพุงโย้แถวหน้าบ้านหลังบ้าน ไล่ก็ออกไปแล้วก็เข้ามาอีก เวลากินอาหารก็ออกไปกินหน้าบ้านเช่นเดียวกับตัวอื่น ท้องของมันก็โตขึ้นทุกวันโตขึ้นโตขึ้น จนหนังด้านหลังยืดออก ขนที่ด่างห่างกันเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่คลอดสักที ผมจึงเรียกมันว่านังอ้วน ผมก็ไม่รู้ว่าแมวมันท้องกี่เดือน แต่รู้สึกว่านานผิดปกติเวลาไล่ออกนอกบ้าน มันก็วิ่งอุ้ยอ้ายขึ้นทุกที ความเวทนาก็เกิดขึ้นหน่อย ๆ แต่ยังยึดคติเดิม จึงต้องทำใจแข็งไว้
วันหนึ่งก็มีลูกแมวตัวนิดเดียวตายกองอยู่หลังบ้าน ดูลักษณะว่าจะคลอดก่อนกำหนด เข้าใจว่าจะเป็นลูกของนังอ้วน แต่พอเจอมันก็เห็นยังท้องป่องอยู่อย่างเดิม ทำให้ประหลาดใจว่าถ้าไม่ใช่ลูกของมันจะเป็นลูกใคร แล้วถ้ามันหลุดออกมาตัวเดียว จะเหลืออีกกี่ตัวก็ไม่รู้ แล้วทำไมมันถึงยังไม่ออกมาทั้งหมด คิดแล้วก็เสียสมองเปล่า ๆ ปล่อยมันไปตามกรรมดีกว่า
นังอ้วนมันเดินย้ายพุงตุ๊ต๊ะอยู่อย่างนั้นอีกเป็นสัปดาห์ จนถึงคืนวันหนึ่งฝนผิดฤดูตกปรอย ๆ ก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องแง้ ๆ อยู่ริมรั้วสังกระสีผุ ก็นึกปลงในใจว่าถ้าแม่มันอยู่ด้วยก็ดูแลกันเองเถอะ เราไม่เกี่ยว ถ้าแม่มันทิ้งไปอีกก็เห็นจะเป็นกรรมของเราตามเคย แต่พอรุ่งเช้าเสียงนั้นก็เงียบไป มองหาก็ไม่เจอว่ามันอยู่ตรงไหน มันเงียบเสียงอย่างนั้นสักสองวัน จนดีใจว่ามันพากันไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว แต่ที่ไหนได้ มันดันหอบลูกเต้ามาซุกนอนอยู่ในกล่องเปล่าหลังบ้านเป็นกองโต
ก็เจ้านังอ้วนนี่แหละ นอนเงียบอยู่กับลูกที่ยังไม่ลืมตา สีมืด ๆ ทึม ๆ นับไปนับมาได้ตั้งหกตัว มีสีด่างเหมือนแม่ตัวเดียว พอมันรู้ว่าผมรู้ที่อยู่ของมัน วันนั้นมันก็คาบลูกหายไปอีก แต่มันยังมากินข้าวหน้าบ้านตามเคย ผมไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหน เที่ยวเดินหาทั่วบ้านทุกซอกทุกมุมก็ไม่เจอ จึงวางใจว่ามันไม่ชอบบ้านผมแล้ว
ในขณะเดียวกันนั้นข้างบ้านของผมรั้วติดกัน ก็มีแมวมาออกลูกอีกครอกหนึ่ง นังแม่สีน้ำตาลอ่อนทั้งตัว แต้มขาวที่ปลายเท้าทั้งสี่และจมูก หางขอดสั้นกุด ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกของนังสีอ่อน ผมเรียกมันว่านังสีเทา รายนี้ออกมานับได้หกตัวสีเทาอ่อนทั้งนั้น มีด่างขาวดำตัวเดียวเหมือนกัน ตัวแม่มันก็มากินข้าวหน้าบ้านเป็นประจำ มันก็เลี้ยงลูกของมันที่บ้านข้างเคียงเป็นปกติ ส่วนนังอ้วนคาบลูกวิ่งเข้าวิ่งออกบ้านผมกับบ้านนั้นแทบทุกวัน จนผมคิดว่าลูกมันอาจจะเปลี่ยนกันหรือรวมกันเป็นครอกใหญ่ก็ได้ แต่ความจริงแม่มันคงจะจำกลิ่นลูกของมันได้
เวลาผ่านไปจนลูกแมวทั้งหมดลืมตา แล้วเดินเตาะแตะตามแม่ของมันได้ ผมจึงเห็นมันเต็มตาว่า นังอ้วนเหลือลูกอยู่สามตัวนอกจากเจ้าด่างแล้ว อีกสองตัวมีสีดำเทาน้ำตาลปนกันเลอะเทอะ จนแยกกันไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน แล้วนอกนั้นมันหายไปไหนก็ไม่ทราบ
ส่วนนังสีเทาเหลือลูกอยู่ห้าตัว นอกจากเจ้าด่างแล้ว อีกสี่ตัวเป็นสีเทาอ่อน ปนลายเสือนิดหน่อย คล้ายกันจนแยกไม่ออกเหมือนกัน
นังอ้วนพาลูกมาอาศัยอยู่หลังบ้าน มุดเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะกองสัมภารก ไม่ย้ายไปไหนอีกแล้ว ส่วนนังสีเทาพาลูกมาอยู่ใต้ร่มไม้ใบหญ้าในสวนหน้าบ้าน
จนกระทั่งลูกมันโตขึ้นวิ่งเล่นกันเกลื่อนไปหมดทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน แต่มันก็ยังจำฝูงของมันได้ ผมจะทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ไม่ได้ จำเป็นต้องหาอาหารให้มันกินกันทั้งสองครอก ด้วยความขมขื่นที่จะต้องเลี้ยงแมวในบ้านทั้งหมดสิบเอ็ดตัว รวมทั้งเจ้าซ่าด้วย เวรกรรมแท้ ๆ ทีเดียว
ผมพยายามที่จะให้ทั้งสองครอกออกไปหากินนอกบ้านบ้าง จึงค่อย ๆ ล่อให้เจ้าครอกหลังบ้านมากินข้าวที่หน้าบ้าน แล้วก็จะได้ให้ออกไปกินนอกบ้าน มันก็ชักจะปน ๆ กันอยู่จนเราเองก็จำไม่ได้ว่าตัวไหนอยู่ครอกไหน
เวลาผ่านไปเป็นเดือนจนลูกแมวทั้งหมดอดนม เพราะแม่มันไม่ยอมให้กิน และตัวแม่เองก็หายหัวไปทำสาวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เจ้าหลังบ้านก็หายไปอีกตัวหนึ่ง คงเหลือสองตัวด่างดำขาว มีหางสั้น และหนวดสั้นเหมือนใครเอาตะไกรไปตัดมันไว้ ผมเรียกว่าเจ้าสั้นเป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งมีลายเสือสับสนก็เลยเรียกว่านังมอมแมมเป็นตัวเมีย
ส่วนข้างหน้าบ้านเหลือสี่ตัว ตัวโตสีเทาอ่อนหางยาว แต่ปลายหางมีลายเสือและหงิกงอไปมา เหมือนงูหางกระดิ่ง จึงเรียกเจ้ากระดิ่ง ตัวรองลงมามีลายเสือชัดเจนทั้งตัว จึงเรียกเจ้าลาย สองตัวนี้เป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งด่างขาวดำเกือบจะเหมือนเจ้าสั้น แต่สังเกตได้ว่าหางยาวกว่า และที่ใต้ข้อศอกหน้ามีสีดำเหมือนคนใส่เสื้อปะ จึงเรียกว่านังปะ กับตัวสุดท้ายด่างน้ำตาลอ่อนแต่มีสีขาวมากกว่า เลยเรียกว่านังนมเย็น ทั้งสองตัวนี้เป็นตัวเมีย
ต่อมามันสามารถกินอาหารเม็ดรวมกันได้ แต่ถ้าออกไปให้หน้าบ้านมันไม่ยอมออกไป เพราะมีหมาเดินผ่านไปมา บางทีก็เข้ามาแย่งกินอาหารแมวด้วย มันเลยกลัวหัวหด นอกจากจะกินด้วยกันแล้วยังเล่นด้วยกันได้อีกด้วย ตกลงหกตัววิ่งกันทั่วไปทั้งบ้าน แล้วก็ขี้เยี่ยวเหม็นไปหมดทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ข้างหน้าบ้านเป็นสวนรก ๆ มันเข้าไปขี้เราได้กลิ่นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนทางหลังบ้านเป็นลานโล่ง มันเที่ยวขี้กองไว้ที่โน่นที่นี่ไม่เป็นประจำ
ผมพยายามเอาทรายมากลบ พอแห้งแล้วก็โกยไปใส่กระบะไว้ให้เป็นส้วม ก็มีบางตัวใช้บริการบ้าง แต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่เสมอ ต้องเก็บกวาดทุกวัน และเมื่อในกระบะแห้งดีแล้ว ก็ต้องร่อนออกจากทราย ใส่ถุงไปทิ้งถังขยะอีกทอดหนึ่ง ถ้าเมื่อไรมันพากันไปขี้นอกบ้านหมด ผมก็จะมีความสุขขึ้นมากทีเดียว
ผมใช้กรรมในการตามล้างตามเก็บขี้แมวอยู่เป็นเดือนๆ ก็ทุเลาลงมันคงจะชวนกันไปขี้ในสวนหน้าบ้านหมดแล้วก็ได้ แต่ทำอย่างไรมันก็ไม่ยอมออกไปกินอาหารหน้าบ้าน แม้แต่เจ้านมเย็นจะชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน แต่ ก็กลับเข้ามากินอาหารเม็ดอย่างเดิม คงจะคิดได้แล้วว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่มีกินอย่างในบ้านนี้ สุดท้ายเมื่อผมเอาอาหารเม็ดมาใส่จานหน้าบ้าน ก็จะมีแมวกระโดดเข้ากระโดดออก มาสุมหัวกันกินจนนับไม่ทัน
เวลาที่ผมไม่ว่างหรือลืมเอาอาหารเม็ดใส่จานตามเวลาเช้าเย็น มันก็จะพากันมาร้องประสานเสียงอยู่ทางหน้าบ้าน หลังบ้านบ้าง ตามแต่ว่าผมจะเดินไปทางไหน เมื่อผมมองเห็นดวงตาทั้งแปดเก้าคู่ที่จ้องมองรวมเป็นจุดเดียวที่ดวงตาของผมแล้ว ทำให้ผมต้องรีบไปตักอาหารมาให้โดยเร็ว ด้วยความสำนึกผิดอย่างยิ่งทีเดียว
เรื่องที่ผมวิตกอีกอย่างหนึ่งก็คือในสองกลุ่มนี้มีตัวเมียสามตัว ถ้ามันโตขึ้นและท้องขึ้นมา มันไม่มีที่อื่น ก็คงจะหาที่ออกลูกในบ้านอีก แล้วถ้ามันออกมาอย่างน้อยครอกละสามตัว บ้านนี้ก็คงจะมีแมวยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
ผมจึงมาเขียนกระทู้หารือในห้องจตุจักร ของพันทิป ซึ่งเคยได้รับความช่วยเหลือแนะนำในการเลี้ยงลูกแมวมาแล้ว ก็มีท่านหนึ่งที่คุ้นชื่อแนะนำให้ติดต่อกับผู้อุปถัมภ์แมว ที่แถวตลาดห้วยขวาง ผมก็ไม่รอช้ารีบโทรศัพท์ไปติดต่อทันที ท่านผู้รับโทรศัพท์ฟังตามน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณานั้น ยินดีรับลูกแมวตัวเมียทั้งสามตัวไปทำหมันให้ โดยจะนัดวันพาไปส่งที่บ้านของเธอ
ผมรออยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็ได้รับโทรศัพท์จากเธอผู้นั้น ให้นำแมวไปให้เธอได้ตัวหนึ่ง เพราะมีคิวทำได้เพียงตัวเดียว ผมมีตะกร้าแมวอยู่แล้วจึงจับนังมอมแมมใส่ตะกร้า ขึ้นรถแท็กซี่ เพราะรถเมล์เขาห้ามเอาสัตว์ขึ้น ผมเคยเห็นกระปี๋ไล่ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง ที่อุ้มสุนัขตัวนิดเดียวลงจากรถเมื่อนานมาแล้ว
แท็กซี่เองก็ไม่ค่อยพอใจนัก บ่นอยู่ว่าแท็กซี่บางคันก็ไม่ยอมรับ เพราะบางทีเจ้าของไม่ระวังปล่อยหมาหรือแมวหลุดจากกล่อง มันก็ตกใจขี้เยี่ยวเลอะรถเขา ผมก็ต้องทนฟังเขาเล่าเสียดสีไปตลอดทาง ถ้าไม่ทนเดี๋ยวเขาไล่ลงเราก็ลำบาก จนกระทั่งถึงตลาดห้วยขวางมีตรอกแคบ ๆ พอจะเดินไปได้ จึงลงจากแท็กซี่ แถมเศษเงินทอนและขอบอกขอบใจเขา ซึ่งคงพอจะทำให้เขาสบายใจขึ้น แล้วก็หิ้วกรงเจ้ามอมแมม เข้าตรอกไปจนถึงบ้านของท่านผู้มีใจอารีต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งอยู่ไม่ลึกนัก
พอเจอหน้าหญิงวัยยังไม่ถึงกลางคน ผมรีบยกมือไหว้ก่อนเธอก็ทักทายเป็นอันดี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย ทั่วบ้านของเธอมีแต่แมวมากกว่ายี่สิบตัว บ้างก็นอนเล่นนั่งเล่นอย่างสงบเสงี่ยม ซึ่งเป็นแมวที่เธอเลี้ยงเอง และที่อยู่ในกรงกว้างพอตัวอีกนับสิบ ที่มีผู้เอามาฝากให้ทำหมันและรอมารับกลับ ทำให้ผมโล่งอกเหมือนยกภูเขาแสนหนักออกไปทันที ผมขอฝากเจ้ามอมแมม และเจ้าปะที่จะเอามาเป็นตัวต่อไป ให้เธอดำเนินการตามกรรมวิธีและดูแลตามสมควร แล้วผมก็จะได้มีแมวเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยเหมือนเมื่อสมัยโน้น แทนที่นางทองดำที่ตายไป หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมานับสิบปี
เมื่อผมกลับมาถึงบ้านด้วยความสบายใจ ก็พบหน้านังอ้วนตัวเก่า ซึ่งหายไปเป็นเวลานาน เข้ามายืนจ้องหน้าจะให้หาข้าวให้กิน เหมือนมันเป็นนายเรา แค่นั้นผมก็ยังไม่ว่าอะไรหรอก
แต่ที่สำคัญก็คือ มันท้องโย้เหมือนเดิมอีกแล้วน่ะซี ผมจึงต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
กรรมของผมยังไม่สิ้นอีกหรือนี่.
##########