เรื่องสั้น
คิดถึงแมว (อีกแล้ว)
เพทาย
แมวหน้าบ้านตัวแรกที่เข้ามาในบ้านคือนังด่างขาวดำ มันเดินท้องโย้อยู่ไม่นาน ก็ออกลูกซุกไว้ในพุ่มไม้ ได้ยินแต่เสียงร้อง พอหามันเจอ มันก็คาบลูกย้ายไปนอนที่อื่น เจออีกก็ย้ายอีก เพราะบ้านเรามีเนื้อที่ด้านหน้าที่ไม่ได้ดูแล ปลูกต้นไม้หรือทำเป็นสนามหญ้า นอกจากต้นอะไรที่มันขึ้นเอง จึงดูรกรุงรัง ส่วนหลังบ้านก็เป็นเตียงและชั้นวางของที่เก็บสัมภาระจิปาถะ เป็นที่แมวอาศัยนอนได้สบาย
จนกระทั่งลูกแมวลืมตา และออกมานอนกินนมที่ลานหน้าบ้าน จึงนับได้ว่ามันมีลูกสี่ตัว เป็นตัวผู้ทั้งหมด มีสีขาวสลับดำแต่ไม่เหมือนกันทุกตัว เจ้าตัวโตได้ชื่อว่าเจ้าหูขาว ตัวรองชื่อเจ้าหูดำ ตัวที่สามชื่อเจ้าซ่า และตัวสุดท้ายตาบอดข้างหนึ่ง จึงได้ชื่อเจ้าเดี่ยว อยู่ต่อมาจนเลิกกินนมแม่ไม่นาน เจ้าเดี่ยวก็หายไปก่อน
ส่วนเจ้าซ่าถูกรถเก๋งที่จอดในซอยหน้าบ้าน ถอยหลังทับขาหักยืนเดินไม่ได้ จึงอุ้มเข้ามานอนใต้ร่มไม้ในบ้าน หาอาหารหาน้ำ มาวางไว้ให้กิน จนรอดตายลุกขึ้นเดินได้วิ่งได้อย่างปกติ แล้วก็อยู่ในบ้านไม่ค่อยจะออกไปไหน ส่วนนังด่างแม่ของมันก็เข้าออกนอกบ้านในบ้านตามสบาย
วันหนึ่งเจ้าหูดำกลับจากไปเที่ยวนอกบ้าน ก็เห็นว่ามันมีร่องรอยไฟไหม้ที่หน้าอกและช่วงท้อง คล้ายกับไปวิ่งข้ามกองไฟมา มันนอนเลียรักษาแผลทุกวันจนหายดี แล้วก็ออกไปหากินนอกบ้าน และไม่กลับมา คงจะเบื่อหน้าเจ้าพี่น้องสองตัวที่แย่งมันกิน ส่วนเจ้าหูขาวตัวโตออกไปติดสาวบ้านอื่น เลยไปอาศัยอยู่กับเขาที่ซอยถัดไป เจ้าซ่าจึงเป็นใหญ่ในบ้าน ไล่เจ้าทองดำไปอยู่หลังบ้าน
เจ้าหูขาวหายไปนานพอควร ก็กลับมาด้วยอาการผอมโกรก รู้สึกว่าจะมีแผลในปาก จากการต่อสู้แย่งตัวเมีย คงจะกินอาหารไม่ค่อยได้ เราก็ทนเวทนาไม่ได้ พาไปหาหมอที่คลินิก หมอก็ฉีดยาให้เข็มหนึ่ง แล้วก็ให้มาฉีดอีกสองครั้ง เมื่อกลับบ้านก็มีทีท่าว่าแข็งแรงขึ้นไม่เดินโซเซเหมือนเมื่อกลับมาใหม่ ๆ คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ฉีดเข้าไป สองเข็ม แต่ยังไม่ทันได้ฉีดเข็มที่สาม มันก็หมดแรงนอนอยู่กับที่ และไม่กินข้าว กินน้ำ แล้วก็หมดอายุขัยไปอีกตัวหนึ่ง
ทางด้านเจ้าผู้ร้ายสองตัวคือ เจ้าลายกับเจ้าเหลือง เมื่อต่อสู้แย่งชิงความเป็นใหญ่กันหลายครั้งแล้ว เจ้าลายแก่กว่าสู้ไม่ได้ เจ้าเหลืองจึงเป็นนักเลงประจำบ้าน ต่อมาก็มีเจ้าแด่นเข้ามาไล่เจ้าเหลืองไป และไล่ต้อนเจ้าซ่าวิ่งหัวซุกหัวซุน จนเจ้าซ่าเป็นหนุ่มขึ้นก็ฮึดสู้ เผอิญเจ้าแด่นเจ็บเป็นแผลที่เท้าหน้าซ้าย ต้องยอมหมอบให้เจ้าซ่าข่มขู่บ้าง และสุดท้ายก็หายไปไม่เข้ามากินอาหารอีกเลย
วันหนึ่งผมไปเจอเจ้าหูดำเดินอยู่ในซอยถัดไป ตัวผอมซี่โครงขึ้น แต่พอจะจำสัญลักษณ์ของมันได้ จึงร้องเรียกชื่อ มันก็ขานรับแล้ววิ่งมาหา ไม่รู้ว่ามันอาศัยอยู่บ้านไหน แต่ก็เดินตามมารออยู่หน้าบ้าน เราก็เอาอาหารมาให้มันกิน มันก็กินและมากินเกือบทุกวัน โดยไม่ย่างกรายเข้ามาในบ้าน ที่เจ้าซ่าเป็นใหญ่อยู่ตัวเดียว แต่ไม่นานนักมันก็หายไปอีก คราวนี้ก็ไม่กลับมาให้เห็นหน้าเลย
ต่อมานังน้ำเงินคงจะแก่ตัวลงก็เข้ามานอนในบ้าน แต่ก็ไม่กินอาหารร่วมจานกับนังทองดำ เราพยายามที่จะจานวางให้ใกล้กันเข้าไปทุกที หวังจะให้มันกินนอนด้วยกัน เพราะเป็นพี่น้องท้องเดียวกันแท้ ๆ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมาน้ำเงินก็ไปนอนตายอยู่หลังบ้าน โดยไม่รู้ว่าเป็นอะไร เห็นมีเลือดไหลออกจากปากด้วย
และต่อมาอีกหลายปี นังทองดำแก่เต็มที วันหนึ่งเราออกจากบ้านไปธุระตอนเช้า เห็นมันนอนอยู่ใต้โต๊ะข้างจานข้าว ก็ไม่ได้ไปลูบหัวลูบหางอย่างเคย แต่เมื่อกลับมาในตอนกลางวัน เห็นมันนอนอยู่ในท่าเดิมก็เอะใจ ก้มลงไปจับตัวมัน ก็ปรากฏว่าแข็งเป็นแมวสต๊าฟไปเสียแล้ว
ในระหว่างนี้ก็มีลูกแมวเพิ่มขึ้นในบ้านอีกหลายตระกูล ซึ่งเป็นลูกของ นังด่าง นังสีอ่อน นางสีเทา และนังสามสี ที่อยู่หน้าบ้านทั้งสิ้น ซึ่งลืมไปแล้วว่าครอกไหนมาก่อนมาหลัง
พวกแรกมีหกตัวแม่ทิ้งไปตั้งแต่ยังไม่ลืมตา เราก็เอามาใส่กาละมังหานมมาป้อน แล้วก็เขียนกระทู้ปรึกษากับสมาชิกห้องแมวจตุจักร ก็ได้รับคำแนะนำเป็นอันดี แต่มันก็ตายไปวันละตัว จนครบหกวันก็หมดไปทั้งครอก
หลังจากนั้นก็มาอีกสองพวก กลุ่มหนึ่งมีสามตัว อีกกลุ่มหนึ่งมีห้าตัว สีด่างบ้างสีเทาบ้าง วิ่งกันรอบบ้าน ไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นลูกตัวไหน แต่พวกมันจำกันเองได้ทั้งแม่ทั้งลูก เมื่อโตถึงห้าเดือนก็เอาตัวเมียไปทำหมัน คู่หนึ่งลายไม่รู้เรื่องและเหมือนกันชื่อ เลอะเทอะ กับ มอมแมม ตัวผู้หายไป ตัวเมีย ไปทำหมันกลับมาก็เลยเรียกว่า มอมแมม
อีกคู่หนึ่งเจ้ากระดิ่ง กับ นังปะ เพราะมีสีดำปะที่ข้อศอกขาหน้า ส่งไปทำหมันเกิดท้องเสียตายไป เจ้ากระดิ่งอยู่มาอีกนานก็ป่วยตายตามไปด้วย คู่ต่อมาตัวเมียชื่อ กะดำ ตัวผู้ชื่อ กะด่าง พอเอา กะดำไปทำหมันกลับมา เจ้ากะด่างก็ออกไปหากินนอกบ้าน แล้วยังมีคู่สุดท้าย ลูกนังสีเทา ชื่อเจ้าแหลม กับเจ้าทื่อ ตัวผู้ทั้งคู่แต่ยังไม่ทันโตเท่าไร ก็ตายไปทีละตัว
จนเหลือแต่ตัวเมียที่ทำหมันแล้วสามตัวคือ นังมอมแมม นังพุงขาว ซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นลูกใคร กับนังกะดำ ส่วนแมวหน้าบ้านที่แก่ตัวลงก็เข้ามาอยู่ในบ้าน คือนังหน้าดำ นังสีอ่อน และนังสีเทา สุดท้ายนังหน้าดำ กับนังสีอ่อนก็ตายไป เหลือนังสีเทาตัวเดียว ก็กลับไปอยู่หน้าบ้าน แต่นอนที่ไหนไม่รู้ สมาชิกหน้าบ้านก็เพิ่มจากบ้านอื่น มากินอาหารด้วยอีกหลายตัว แต่โผล่เข้ามาในบ้านไม่ได้ เพราะเจ้าของบ้านทั้งสาม โดยเฉพาะ นังมอมแมม จะขับไล่ทุกครั้ง
ส่วนเจ้าซ่าที่เคยอยู่ดูแลเจ้าพวกผู้ร้าย ก็เตร็ดเตร่ไปตามประสาแมวตัวผู้ แล้วสุดท้ายก็หายไปเลย ไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จึงมีผู้ร้ายประจำบ้านมาใหม่ สีเหลืองส้มทั้งตัว แต่เป็นเด็กหนุ่มกว่าเจ้าของบ้านหลายปี จึงไม่สามารถจะทำให้ เจ้าของบ้านกลัวเกรงได้ เพียงแต่ถอยให้กินอาหารที่เหลือก็เป็นบุญแล้ว
ทั้งหมดนี้ก็เป็นบันทึกจากความจำ ที่ผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้ว ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนสับสนไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพียงแต่อยากจะนึกถึงเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ที่ได้มีความสัมพันธ์เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมา ในชาตินี้เท่านั้น ในยามที่เพื่อนเหลือน้อยลงทุกที
โดยที่ไม่ได้หวังว่า ถ้าเราเป็นฝ่ายจากพวกมันไปบ้าง มันจะนึกถึงเราเช่นเดียวกันนี้หรือไม่.
###########
Create Date : 12 กันยายน 2553
คิดถึงแมว(อีกแล้ว) ๑๘ พ.ค.๖๐
คิดถึงแมว (อีกแล้ว)
เพทาย
แมวหน้าบ้านตัวแรกที่เข้ามาในบ้านคือนังด่างขาวดำ มันเดินท้องโย้อยู่ไม่นาน ก็ออกลูกซุกไว้ในพุ่มไม้ ได้ยินแต่เสียงร้อง พอหามันเจอ มันก็คาบลูกย้ายไปนอนที่อื่น เจออีกก็ย้ายอีก เพราะบ้านเรามีเนื้อที่ด้านหน้าที่ไม่ได้ดูแล ปลูกต้นไม้หรือทำเป็นสนามหญ้า นอกจากต้นอะไรที่มันขึ้นเอง จึงดูรกรุงรัง ส่วนหลังบ้านก็เป็นเตียงและชั้นวางของที่เก็บสัมภาระจิปาถะ เป็นที่แมวอาศัยนอนได้สบาย
จนกระทั่งลูกแมวลืมตา และออกมานอนกินนมที่ลานหน้าบ้าน จึงนับได้ว่ามันมีลูกสี่ตัว เป็นตัวผู้ทั้งหมด มีสีขาวสลับดำแต่ไม่เหมือนกันทุกตัว เจ้าตัวโตได้ชื่อว่าเจ้าหูขาว ตัวรองชื่อเจ้าหูดำ ตัวที่สามชื่อเจ้าซ่า และตัวสุดท้ายตาบอดข้างหนึ่ง จึงได้ชื่อเจ้าเดี่ยว อยู่ต่อมาจนเลิกกินนมแม่ไม่นาน เจ้าเดี่ยวก็หายไปก่อน
ส่วนเจ้าซ่าถูกรถเก๋งที่จอดในซอยหน้าบ้าน ถอยหลังทับขาหักยืนเดินไม่ได้ จึงอุ้มเข้ามานอนใต้ร่มไม้ในบ้าน หาอาหารหาน้ำ มาวางไว้ให้กิน จนรอดตายลุกขึ้นเดินได้วิ่งได้อย่างปกติ แล้วก็อยู่ในบ้านไม่ค่อยจะออกไปไหน ส่วนนังด่างแม่ของมันก็เข้าออกนอกบ้านในบ้านตามสบาย
วันหนึ่งเจ้าหูดำกลับจากไปเที่ยวนอกบ้าน ก็เห็นว่ามันมีร่องรอยไฟไหม้ที่หน้าอกและช่วงท้อง คล้ายกับไปวิ่งข้ามกองไฟมา มันนอนเลียรักษาแผลทุกวันจนหายดี แล้วก็ออกไปหากินนอกบ้าน และไม่กลับมา คงจะเบื่อหน้าเจ้าพี่น้องสองตัวที่แย่งมันกิน ส่วนเจ้าหูขาวตัวโตออกไปติดสาวบ้านอื่น เลยไปอาศัยอยู่กับเขาที่ซอยถัดไป เจ้าซ่าจึงเป็นใหญ่ในบ้าน ไล่เจ้าทองดำไปอยู่หลังบ้าน
เจ้าหูขาวหายไปนานพอควร ก็กลับมาด้วยอาการผอมโกรก รู้สึกว่าจะมีแผลในปาก จากการต่อสู้แย่งตัวเมีย คงจะกินอาหารไม่ค่อยได้ เราก็ทนเวทนาไม่ได้ พาไปหาหมอที่คลินิก หมอก็ฉีดยาให้เข็มหนึ่ง แล้วก็ให้มาฉีดอีกสองครั้ง เมื่อกลับบ้านก็มีทีท่าว่าแข็งแรงขึ้นไม่เดินโซเซเหมือนเมื่อกลับมาใหม่ ๆ คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ฉีดเข้าไป สองเข็ม แต่ยังไม่ทันได้ฉีดเข็มที่สาม มันก็หมดแรงนอนอยู่กับที่ และไม่กินข้าว กินน้ำ แล้วก็หมดอายุขัยไปอีกตัวหนึ่ง
ทางด้านเจ้าผู้ร้ายสองตัวคือ เจ้าลายกับเจ้าเหลือง เมื่อต่อสู้แย่งชิงความเป็นใหญ่กันหลายครั้งแล้ว เจ้าลายแก่กว่าสู้ไม่ได้ เจ้าเหลืองจึงเป็นนักเลงประจำบ้าน ต่อมาก็มีเจ้าแด่นเข้ามาไล่เจ้าเหลืองไป และไล่ต้อนเจ้าซ่าวิ่งหัวซุกหัวซุน จนเจ้าซ่าเป็นหนุ่มขึ้นก็ฮึดสู้ เผอิญเจ้าแด่นเจ็บเป็นแผลที่เท้าหน้าซ้าย ต้องยอมหมอบให้เจ้าซ่าข่มขู่บ้าง และสุดท้ายก็หายไปไม่เข้ามากินอาหารอีกเลย
วันหนึ่งผมไปเจอเจ้าหูดำเดินอยู่ในซอยถัดไป ตัวผอมซี่โครงขึ้น แต่พอจะจำสัญลักษณ์ของมันได้ จึงร้องเรียกชื่อ มันก็ขานรับแล้ววิ่งมาหา ไม่รู้ว่ามันอาศัยอยู่บ้านไหน แต่ก็เดินตามมารออยู่หน้าบ้าน เราก็เอาอาหารมาให้มันกิน มันก็กินและมากินเกือบทุกวัน โดยไม่ย่างกรายเข้ามาในบ้าน ที่เจ้าซ่าเป็นใหญ่อยู่ตัวเดียว แต่ไม่นานนักมันก็หายไปอีก คราวนี้ก็ไม่กลับมาให้เห็นหน้าเลย
ต่อมานังน้ำเงินคงจะแก่ตัวลงก็เข้ามานอนในบ้าน แต่ก็ไม่กินอาหารร่วมจานกับนังทองดำ เราพยายามที่จะจานวางให้ใกล้กันเข้าไปทุกที หวังจะให้มันกินนอนด้วยกัน เพราะเป็นพี่น้องท้องเดียวกันแท้ ๆ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมาน้ำเงินก็ไปนอนตายอยู่หลังบ้าน โดยไม่รู้ว่าเป็นอะไร เห็นมีเลือดไหลออกจากปากด้วย
และต่อมาอีกหลายปี นังทองดำแก่เต็มที วันหนึ่งเราออกจากบ้านไปธุระตอนเช้า เห็นมันนอนอยู่ใต้โต๊ะข้างจานข้าว ก็ไม่ได้ไปลูบหัวลูบหางอย่างเคย แต่เมื่อกลับมาในตอนกลางวัน เห็นมันนอนอยู่ในท่าเดิมก็เอะใจ ก้มลงไปจับตัวมัน ก็ปรากฏว่าแข็งเป็นแมวสต๊าฟไปเสียแล้ว
ในระหว่างนี้ก็มีลูกแมวเพิ่มขึ้นในบ้านอีกหลายตระกูล ซึ่งเป็นลูกของ นังด่าง นังสีอ่อน นางสีเทา และนังสามสี ที่อยู่หน้าบ้านทั้งสิ้น ซึ่งลืมไปแล้วว่าครอกไหนมาก่อนมาหลัง
พวกแรกมีหกตัวแม่ทิ้งไปตั้งแต่ยังไม่ลืมตา เราก็เอามาใส่กาละมังหานมมาป้อน แล้วก็เขียนกระทู้ปรึกษากับสมาชิกห้องแมวจตุจักร ก็ได้รับคำแนะนำเป็นอันดี แต่มันก็ตายไปวันละตัว จนครบหกวันก็หมดไปทั้งครอก
หลังจากนั้นก็มาอีกสองพวก กลุ่มหนึ่งมีสามตัว อีกกลุ่มหนึ่งมีห้าตัว สีด่างบ้างสีเทาบ้าง วิ่งกันรอบบ้าน ไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นลูกตัวไหน แต่พวกมันจำกันเองได้ทั้งแม่ทั้งลูก เมื่อโตถึงห้าเดือนก็เอาตัวเมียไปทำหมัน คู่หนึ่งลายไม่รู้เรื่องและเหมือนกันชื่อ เลอะเทอะ กับ มอมแมม ตัวผู้หายไป ตัวเมีย ไปทำหมันกลับมาก็เลยเรียกว่า มอมแมม
อีกคู่หนึ่งเจ้ากระดิ่ง กับ นังปะ เพราะมีสีดำปะที่ข้อศอกขาหน้า ส่งไปทำหมันเกิดท้องเสียตายไป เจ้ากระดิ่งอยู่มาอีกนานก็ป่วยตายตามไปด้วย คู่ต่อมาตัวเมียชื่อ กะดำ ตัวผู้ชื่อ กะด่าง พอเอา กะดำไปทำหมันกลับมา เจ้ากะด่างก็ออกไปหากินนอกบ้าน แล้วยังมีคู่สุดท้าย ลูกนังสีเทา ชื่อเจ้าแหลม กับเจ้าทื่อ ตัวผู้ทั้งคู่แต่ยังไม่ทันโตเท่าไร ก็ตายไปทีละตัว
จนเหลือแต่ตัวเมียที่ทำหมันแล้วสามตัวคือ นังมอมแมม นังพุงขาว ซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นลูกใคร กับนังกะดำ ส่วนแมวหน้าบ้านที่แก่ตัวลงก็เข้ามาอยู่ในบ้าน คือนังหน้าดำ นังสีอ่อน และนังสีเทา สุดท้ายนังหน้าดำ กับนังสีอ่อนก็ตายไป เหลือนังสีเทาตัวเดียว ก็กลับไปอยู่หน้าบ้าน แต่นอนที่ไหนไม่รู้ สมาชิกหน้าบ้านก็เพิ่มจากบ้านอื่น มากินอาหารด้วยอีกหลายตัว แต่โผล่เข้ามาในบ้านไม่ได้ เพราะเจ้าของบ้านทั้งสาม โดยเฉพาะ นังมอมแมม จะขับไล่ทุกครั้ง
ส่วนเจ้าซ่าที่เคยอยู่ดูแลเจ้าพวกผู้ร้าย ก็เตร็ดเตร่ไปตามประสาแมวตัวผู้ แล้วสุดท้ายก็หายไปเลย ไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จึงมีผู้ร้ายประจำบ้านมาใหม่ สีเหลืองส้มทั้งตัว แต่เป็นเด็กหนุ่มกว่าเจ้าของบ้านหลายปี จึงไม่สามารถจะทำให้ เจ้าของบ้านกลัวเกรงได้ เพียงแต่ถอยให้กินอาหารที่เหลือก็เป็นบุญแล้ว
ทั้งหมดนี้ก็เป็นบันทึกจากความจำ ที่ผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้ว ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนสับสนไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพียงแต่อยากจะนึกถึงเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ที่ได้มีความสัมพันธ์เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมา ในชาตินี้เท่านั้น ในยามที่เพื่อนเหลือน้อยลงทุกที
โดยที่ไม่ได้หวังว่า ถ้าเราเป็นฝ่ายจากพวกมันไปบ้าง มันจะนึกถึงเราเช่นเดียวกันนี้หรือไม่.
###########
Create Date : 12 กันยายน 2553