เรื่องแมวแมว ๒๑ ก.พ.๖๐

เรื่องสั้น

เรื่องแมวแมว

เพทาย

เมื่อผมเริ่มอุปการะแมวหน้าบ้านนั้น มันมีอยู่ด้วยกันสามตัวเท่านั้น ตัวแรกเป็นสีขาวเหลืองดำ ผมเรียกไอ้สามสี ต่อมามีสีด่างดำขาว ผมเรียกไอ้ด่าง และตัวหลังสีด่างขาวกับน้ำตาลอ่อน ผมเรียกไอ้สีอ่อน ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวเมียทั้งสามตัว

สามสีนั้นเป็นแมวขี้อายหวงตัว เมื่อเอาอาหารออกมาใส่จานกระดาษหน้าบ้าน มันจะนั่งรออยู่ห่าง ๆ ถ้าจานไหนมีผู้เข้ามากินแล้ว มันก็จะไม่เข้ามา ต้องหาจานใหม่มาใส่ให้ต่างหาก และถ้าเราเอ็นดูเอามือไปแตะต้องตัว ยังไม่ทันจะลูบหัว มันจะตวัดเล็บตบทันที นังนี่ถนัดซ้าย

ด่างนั้นหางกุดถึงก้น หน้าตาสวยดีแต่ขี้กลัวและงก เราเอาอาหารใส่จานแล้ว ถ้าจานยังอยู่ใกล้เรา มันจะถอยหน้าถอยหลังไม่กล้าเข้ามากิน ต้องเลื่อนจานไปให้ใกล้ตัวจึงจะกิน และกินอย่างเร่งรีบกลัวใครจะเข้ามาแย่ง ขณะกำลังกินถ้าใครมาร่วมวงด้วยก็จะฮื่อฮ่าใส่ ใครกลัวก็ถอยไป ถ้าไม่กลัวก็กินได้ไม่ถึงกับตบตีกัน

สีอ่อนเป็นแมวสุภาพเรียบร้อย ทำอะไรชักช้าค่อย ๆ เล็มกินทีละนิด เลยโดนเจ้าด่างแย่งกินจนหมดก่อนที่จะอิ่ม แล้วนั่งมองทำตาซึ้ง ต้องเติมอาหารให้อีก

อยู่มาไม่นานนังสามสีก็มีลูกตัวหนึ่ง แต่เลี้ยงไม่เป็นเกิดมาไม่กี่วันก็ตาย ต่อมาก็มีลูกแมวตัวน้อยสีด่างดำขาว เพิ่มขึ้นมาอีกสี่ตัว ผมคิดว่ามันเป็นลูกนังด่างแต่มันกินนมนังสีอ่อน โดยไม่รู้ว่าลูกของนังสีอ่อนหายไปไหน เจ้าสี่ตัวนี้เป็นตัวผู้ทั้งหมด หางขอดสองตัวหางตรงสองตัว ต้องสังเกตที่หู ตัวที่โตกว่าเพื่อนหูขาว ตัวรองหูดำ ตัวที่สามหางตรงมีสนับสีดำที่ข้อศอกขาหน้าทั้งสองข้าง ดูท่าจะเก่งกว่าเพื่อนเรียกไอ้ซ่า ตัวสุดท้ายหางตรงแต่ตาขวาบอด เลยชื่อไอ้เดี่ยว

อยู่มาอีกไม่นานไอ้เดี่ยวหากินไม่ทันพี่น้องก็ตายไป และไอ้ซ่าถูกรถยนต์ถอยมาทับขาหลังขวา นอนแบ็บไปไหนไม่ได้ ผมสงสารมันจึงเอามาไว้ในบ้านให้นอนใต้ร่มไม้ แล้วก็เอาอาหารเม็ดและขันน้ำเล็ก ๆ มาวางให้กิน ไม่ช้าไม่นานก็ลุกขึ้นเขยกไปได้ แล้วก็เลยอยู่ในรั้วบ้านเป็นแมวเลี้ยงไปโดยไม่เจตนา ขณะนั้นทองดำเป็นเจ้าของบ้านอยู่ แต่เป็นแมวตัวเมียและเจ้าของเก่าเขาคุมกำเนิดแล้ว มันจึงไม่สามารถขับไล่ไอ้ซ่าให้ออกจากบ้านไปได้ ต้องทนให้ไอ้ซ่าตื๊อทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน จนตายจากไปเอง

ส่วนเจ้าหูดำวันหนึ่งก็ป่วยเหมือนกัน ขนที่ขาและแผ่นท้องเกรียนไป เป็นรอยเหมือนไฟไหม้ คล้าย ๆ จะแสดงกายกรรมกระโดดข้ามเตาถ่านมายังงั้น แต่มันไม่ยอมให้รักษาเพราะเลียถึงทุกแห่ง เลียไปเลียมาขนก็ขึ้นแทนที่มีสีเหมือนเดิม ไม่มีใครรู้ว่ามันไปโดนอะไรมา

ในขณะเดียวกันก็มีแมวประเภทผู้ร้ายอยู่สามตัว เป็นตัวผู้ทั้งหมด เจ้าพวกนี้จะตัวโตหน้าดุลูกคางเหลี่ยมมองแล้วไม่มีความน่ารัก ตัวแรกลายเสือคอยแย่งอาหารแมวเด็กกิน หรือไม่ก็มานอนหมอบอยู่ในมุมมืด จะแบ่งอาหารให้ก็ไม่ออกมากิน แต่พอเราเดินลับตาไปแล้วจึงจะกิน เมื่อเรากลับมาเห็นมันก็จะวิ่งหนีไปทุกครั้ง

ต่อมาก็มีเจ้าลายเหลืองเข้ามาแย่งพื้นที่ เจ้าลายเสือก็หายไป เจ้าลายเหลืองนี้มีพฤติกรรมเลวร้ายกว่าลายเสือ คือจะไม่ยอมรอขออาหารที่เราจะให้ แต่จะแอบเข้ามาในบ้านทุกเวลาที่เผลอเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อหาอาหารตามถังขยะ และหาที่วางถุงหรือกล่องใส่อาหารเม็ดที่เราซุกซ่อนไว้ ถ้าเป็นถังพลาสติก ก็จะทำให้ล้มจนฝาเปิด แล้วก็ขโมยกิน ถ้ายังไม่เอาออกจากถุงที่ซื้อมาจากร้าน ก็ลงแรงกัดแทะให้ถุงขาด แล้วก็ล้วงอาหารเม็ดออกมากิน จับได้ก็ไล่ตีกันทุกครั้ง แต่ไม่เข็ดไม่ยอมแพ้ แม้จะหาก้อนอิฐบล็อคมาทับ ก็ยังเห็นร่องรอยของความพยายามที่จะขโมยได้บ่อย ๆ

หลังจากไล่ฟาดกันอยู่ไม่นาน ก็มีผู้ร้ายอีกตัวเข้ามาขวาง ตัวโตเท่ากันสีขาวแต้มน้ำตาลแต่ยังโตไม่เต็มที่ เจอหน้ากันเป็นต้องลองกำลังฟัดกันอยู่เสมอ ทั้งในบ้านนอกบ้าน ทั้งกลางวันกลางคืน เสียงเจี๊ยวจ๊าวหนวกหู เพราะกว่าจะลงมือได้ต้องข่มขู่กันอยู่นาน ถ้าเป็นกลางวันเราเอาขันตักน้ำไปสาด มันก็ยังไม่เลิก ตัวไหนกระโดดก่อน อีกตัวเป็นพุ่งเข้าชาร์ตทันที เรียกว่าตัวไหนขยับก่อนเป็นแพ้ แม้ฝีปากฝีตีนจะพอกันก็ตาม ลงท้ายเจ้าเหลืองเป็นฝ่ายหายหน้าไป เหลือแต่ตัวด่างน้ำตาลที่มีสีขาวอยู่กลางสันจมูกจึงเรียกว่าเจ้าแด่น

ก่อนเจ้าเหลืองจะหายไป เจ้าแด่นได้แผลที่คอด้านหลังเหวอะหวะเลียไม่ถึง ดูอาการจะลุกลามแบบอีแหว่ง ผมจึงจับเอายาเบตาดีนของคนหยอดแผลให้ มันก็นอนให้หยอดโดยดี ไม่ช้าก็หายดี เลยทำท่าจะเลิกเป็นผู้ร้ายอาศัยกินอาหาร แต่กินจุกว่าตัวอื่น

เจ้าแด่นพยายามทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อย หมอบคอยรับอาหารเป็นตัวสุดท้าย ถ้ายังไม่ถึงคิวก็จะร้องอิ๊ ๆ เบา ๆ เป็นเชิงเตือน เวลานอนเล่นในบ้าน พวกเจ้าด่างดำตัวเล็ก มาหยอกล้อด้วยก็ไม่ทำอะไร

วันหนึ่งเกิดบ้าอะไรขึ้นมาไม่ทราบ อยู่ดี ๆ วิ่งเข้าฟัดเจ้าซ่าซึ่งตัวเล็กกว่า และไม่มีทางสู้แต่วิ่งหนีแล้วเจ้าแด่นก็ยังไล่ตาม ผมก็ฉวยไม้อาญาสิทธิ์ ตามไปจะตีสั่งสอน แต่มันไม่ยอมหมอบให้ตีเหมือนทุกครั้ง มันเดินหนีไปเรื่อย ๆ พอเราเร่งฝีเท้ามันก็วิ่ง เหมือนจะรู้ว่าตัวผิดคงจะโดนหนักแน่ เลยไม่ยอมให้ทำโทษ มุดรั้วหนีหายเงียบไป

ตั้งแต่บัดนั้นเมื่อมันโผล่มาเจอหน้าผม เป็นต้องหันหนีผมก็ร้องตามไปว่า ไอ้อันธพาลรังแกเด็ก หนีได้หนีไปอย่าเข้ามากินข้าวก็แล้วกัน ไม่ทราบว่ามันจะเข้าใจหรือเปล่า แล้วผมก็ตั้งหน้าจะฟาดมันทุกครั้งที่เห็น มันก็เลยอดได้รับเลี้ยงต้องคอยแอบกินตามจานที่พวกตัวเล็กเหลือไว้

จนกระทั่งเจ้าด่างดำทั้งสามโตขึ้นเต็มที่ และเจ้าหูขาวก็หายไปหากินที่อื่น เหลือแต่เจ้าหูดำกับเจ้าซ่า อยู่หน้าบ้านตัวหนึ่งหลังบ้านตัวหนึ่ง คราวนี้เจ้าแด่นคงจะแก่ตัวลง ก็โดนเจ้าสองตัวนี้ไล่ต้อนเอาบ้าง ผมก็ต้องเป็นกรรมการห้ามปรามอีก มันฟัดกันทั้งในบ้านและนอกบ้านอย่างเคย

ผมคิดดูแล้วก็เห็นสัจธรรมอย่างชัดแจ้ง ในบรรดาสัตว์โลกนี้ ผู้ที่แข็งแรงจึงจะอยู่ได้ ผู้ที่อ่อนแอถ้าไม่หนีไปหากินถิ่นอื่น ก็ต้องยอมเป็นลูกน้องของตัวที่แข็งแรงไป จึงจะอยู่ในถิ่นเดียวกันได้ และเมื่อตัวเก่งเฒ่าชราลง ก็มีตัวอื่นเก่งขึ้นมาแทนที่ เป็นวัฏจักรต่อไป

เดี๋ยวนี้ผมมีแมวให้เลี้ยงอยู่หน้าบ้านถึงเจ็ดแปดตัว เจ้าสามสีและเจ้าด่างกับเจ้าสีอ่อนก็ยังอยู่เพราะเป็นตัวเมีย แล้วก็ผลิตทายาทออกมาครั้งละสองตัวสามตัว พอโตขึ้นก็อยู่บ้างหายไปบ้าง จนไม่ถึงสิบตัวสักที ส่วนในบ้านก็เหลือตัวเดียวคือเจ้าซ่า เจ้าหูดำก็มาบ้างหายไปบ้าง

ผมต้องใช้อาหารเม็ดเดือนละกว่าสี่ถุง บางครั้งถ้ามีอาหารพิเศษเช่นข้าวคลุกปลาทู หรือหนังปลาช่อนหุ้มเกลือเอามาล้างเกลือออก มันจะเข้ามารุมแทะทึ้งพร้อมกับส่งเสียงงึมงำด้วยความชื่นชมยินดี จนผมต้องทำหน้าตายขอเศษอาหารที่เหลือกินจากร้าน เอากลับมาบ้านบ่อย ๆ จนคนขายเชื่อใจว่าเอาไปฝากแมว ไม่ได้เอาไปกินเอง จึงไม่ต้องเพิ่มน้ำจิ้มมาให้เปลืองไปอีก

แล้วก็ถึงวาระที่เจ้าแด่นจะต้องยอม ให้เจ้าซ่าข่มขู่เอาบ้าง มันจะนอนหมอบนิ่ง เจ้าซ่าก็จะดม ๆ ส่วนเจ้าแด่นคงจะส่งกลิ่นว่ายอมแพ้แล้ว เจ้าซ่าจึงไม่ทำอะไร เมื่อผมเดินเข้าไปหามันก็ไม่ลุกหนีเหมือนอย่างเคย แต่ผมก็อภัยให้มันแล้ว เพราะแมวมันก็คงไม่จำเรื่องเก่าได้ยาวนานเท่าไรนัก ผมจึงเอาจอกตักอาหารเม็ดใส่จานที่มันเคยกิน มันก็เดินโขยกเขยกเข้ามาโดยยกขาหน้าซ้ายไว้ไม่ให้แตะพื้น

เมื่อมันก้มลงกินอาหาร ผมก็เอามือลูบหัวมันแล้วก็หยิบขาที่เจ็บขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแผลในซอกกลางอุ้งเท้า ไม่ทราบว่าลึกหรือเปล่า ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมา ผมจึงต้องเอาทิงเจอร์ของคนใส่แผลให้มันอีกตามเคย

ไม่รู้ว่าชาติก่อนผมไปทำบาปอะไรไว้กับไอ้เจ้าพวกนี้ ชาตินี้จึงต้องมีกรรมคอยเลี้ยงดู ปรนนิบัติวัฏฐากมันอยู่เป็นประจำ โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นเวรลงเมื่อไรแน่

#######
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่