ด้วยความฝันอยากเป็นคุณครูตั้งแต่เด็กอยากมีอารมณ์ใส่ชุดสีกากีเด็กๆเรียกว่าครู เลยทำให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กของ 4Dekdoi เป็นโครงการค่ายอาสารับคุณครูอาสาทั่วประเทศรับจำนวนแค่ 25 คน มันจึงทำให้ความฝันเราเป็นจริง.
ใครจะคิดว่าแค่ในตัวเมืองไป หมู่บ้าน แม่ฮองกลางใช้เวลาเกือบสิบชั่วโมง เรากับครูอาสาท่านอื่นได้รวมตัวกันไป อ.อมก๋อยโดยเหมารถตู้กันไป ออกจากตัวเมืองเกือบจะแปดโมงเช้า แถึงตัวอ.อมก๋อยเกือบจะบ่ายโมง ความรู้สึกเจอเพื่อนใหม่คนแปลกหน้าแต่ทำไมมันเหมือนรู้จักกันมาก่อนนี่ก็ไม่เข้าใจ ทุกคนมากันหลายจังหวัด ต่างคน ต่างที่ เป็นรุ่นพี่บ้างรุ่นน้องบ้าง แต่จุดหมายเราปลายทางคือทีเดียวกันและความตั้งใจเดียวกัน.
ปล*ก่อนเดินทางแอบมีแจ้งว่าให้ครูอาสาเอาเสื้อแขนยาวบางๆไม่ต้องหนาเพราะมันร้อน (ไอ้เราและเพื่อนครูอาสาอีกหลายคนก็เลยเอาเสื้ออกหมดจ้าา เปิดวันมาตัวเมือง 12 องศา จ้าาาาา อิ้อิ้)
พอมาถึง ตัวอ.อมก๋อย เราได้เจอกับครูอาสาท่านอื่น คือทุกคนมาจากหลายที่หลายจังหวัดมากกกก และเราก็ต้องเปลี่ยนรถเป็นรถกระบะโฟวิลด์ เพราะทางมันโหดมากกกก (คิดในใจไม่มากหรอกมั้งแค่70กว่ากิโลเอง) ครูต้อมแอดมินเพจได้ชี้แจง และได้แยกบ้านว่าเราได้อยู่บ้านหลังไหนกันน แยกย้ายกันขึ้นรถครัชชชชชชช. (ทุกคนมีหน้ากากปิดปากเพราะฝุ่นมันรุนแรงมาก)
การเดินทางคือการเรียนรู้การเรียนรู้คือความเข้าใจ แบบพี่สุชาติบอกไว้ จริงๆๆเจ้าาาาา ทั้งฝุ่นทั้งหลุมทั้งบ่อ ตูดพัง นั่งกันแบบเบียดๆ คนข้างๆใครก็ไม่รู้มาจากไหนบ้างก็ไม่รู้จัก แต่พอไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราได้รับรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ต้องรับชะตากรรมแบบเราแน่ๆๆ ก็เหมือนที่เขาเล่ากันว่าการเดินทางมันไม้สำคัยเท่ากับระหว่างทาง ถึงมันจะลำบากแค่ไหนแต่เพื่อนใหม่ที่เราได้รู้จักรู้สึกจะสนิทกันมากๆ และข้างทางคือมันสวยมาก พวกเราได้ใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมงกว่าจะถึง หมู่บ้านที่อยู่ไหนก็ไม่รู้ นั่งแล้วนั่งนานนั่งจนบ่นจนเหนื่อย ร้องเพลงก็แล้วเต้นก็แล้ว มันก็ยังไม่ถึง ภูเขาสุดลูกหูลูกตา เรียงรายมากมาย
เราและครูอาสาหลายๆคนก็ถึง หมู่บ้าน แม่ฮองกลาง เกือบๆจะหกโมงกันแล้ว มีเด็กๆและคนในหมู่บ้านมารอรับคุณครูอาสาทุกคน
ที่หมู่บ้าน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ โทรศัพท์พับเก็บใส่กระเป๋าให้มิดเลยนะคะ มีค่าแค่ไฟฉายตอนอาบน้ำอย่างเดียว ครูอาสาทุกคนได้แยกย้ายอยู่กับคนในหมู่บ้าน ละลายพฤติกรรมมากๆๆ สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือเด็กทุกคนในหมู่บ้านสวัสดีเราไหว้เราตั้งแต่เเรกเห็น คนนี้ก็ครูคนนั้นก็ครู พวกเราถึงกันมืด ต่างคนต่างแยกย้ายเพราะครูต้อมนัดเจอกันที่ โรวเรียนแปดโมงเช้า ทางค่ายได้จัดถุงยังชีพให้ครูอาสาบ้านละหนึ่งถุง มีทั้ง ปลากรป๋อง ไข่ไก่ ผักนานาชนิด ข้าวสาร
มีพ่อแม่ลูกอีกสองคน ที่อยู่บ้านเดียวกัน และเราอยู่กับพี่ๆครูอาสาอีก3คน มากันต่างจังหวัดมากค่ะ กรุงเทพ,หาดใหญ่,กรุงเทพ คือพี่น่ารักมากกก ส่วนตัวเราเด็กน้อยที่สุดในบ้าน ผ้าห่มก็ไมไ่ด้เอาไป เสื้อหนาวก็ไม่ได้เอาไป ไม่มีพี่ๆอาจจะเเข็งตายได้ ต่ำสุดน่าจะ 5 องศาแหะมั้งงงง อิ้อิ้
*วิวจากหน้าต่างห้องนอนกับวิวห้องครัว
หมดไปวันนึง เราได้ทำความรู้จักกับ โฮสแดด โฮสมัม
เช้าวันต่อมาของวันที่ 13.01.2018
เราได้ตื่นกันเช้ามากกกกกกพี่ๆได้ทำกับข้าวไว้ให้เพาะเราต้องรีบไป โรงเรียนเผื่อจัดกิจกรรมให้เด้กๆๆๆ ส่วนตัวเราเอา บ้านโฮสที่พักต้องเดินเท้าไปโรงเรียนเดินประมาน 20นาทีข้ามเขาไป แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจคือเด็กที่นีรักเรียนกันกันมาก ตื้นเต้นมากไปโรงเรียน
พวกครูอาสาได้ขึ้นไปทำกิจกรรมวันเด็กให้น้องๆๆ มีทั้งแจกเครื่องเขียน เสื้อผ้า รองเท้า อิจฉาเด็กที่นี้จัง อยู่กับที่ๆเงินซื้อควมสุขที่นี้ไม่ได้
*อาคารเรียนสนามกีฬาที่มีวิวหลักล้าน
วันที่สาม 14.01.2018
ครูต้อมได้พาครูอาสาทุกคนเดินชมวิถีชีวิตของชาวและได้พาไปเที่ยวน้ำตก ดูตาน้ำ แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่าครูอาสาทุกคนจะต้องเอาอาหารเที่ยงไปกินกันเอง ส่วนตัวของเรา ได้พึ่งอานิสงค์ทำอาหารอร่อยของพี่รูมเมด ทำกับข้าวอร่อยและมีโฮสมัมที่น่ารักช่วย ปิ้กนิ้กแฮมเปอร์ไปให้ น่ารักมากก
ขอบคุณน่าค่าาา
ทางเดินไปน้ำตกเดินเข้าป่า ฝ่าน้ำตก ปีนเขา ไต่เขา โหนเชือก สุดยอดเลย ออกจากหมู่บ้านแปดโมงถึงน้ำตกเที่ยง ด้วยความทุลักทุเล แต่เรามีทีม เสฟเรามาก เด็กๆคอยช่วยเราทุกอย่าง 'ระวังนะครู ลื่นนะครับ เดี่ยวหนูช่วยคะครู ระวังล้มนะครับ" คือดีย์
เซฟกว่าการ์ดพี่ตูนก็อุทัยกับสรศักดิ์นี่แหละ
ระวางทาง
พวกครูๆๆเดินเข้าไปครัชชช
ข้าวเที่ยงล้าวครับบบโผ้มม.
ข้าวห่อร่วมสาบาน
พักกันสักพักเราก็ต้องเดินทางกลับบ้านอีกครึ่งวัน ( ระหว่างทางมันดีที่สุดจริงๆเหนื่อยบ้างเกือยตกเขากันบ้างแต่เราก็ช่วยกันกลับมาถึงที่พัก) รอไปรอบกองไฟที่โรงเรียนกันค่ะ
หลังจากอาบน้ำกินข้าวที่บ้านโฮสกันเสร็จเรามีนัดกันที่โรงเรียนเพราะคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ที่ หมู่บ้านแม่ฮองกลาง
ครูต้อมได้ให้ครูอาสาพูดความประทับใจ ตลอดเวลาสามคืนที่อยู่ที่นี้ มันน่าแปลกใจมากนะแค่สามคืนมันทำให้เรารักทุกสิ่งทุกอย่าง บรรยากาศชาวบ้านผู้คนแม้กระทั่งเพื่อนรวมทางที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่รู้สึกและรักหวงที่นี้มาก อาจเป็นเพราะเราได้ทิ้งทุกอย่างในเมืองไม่ว่าจเป็นเรื่องอะไรเราได้อยู่กับตัวเองและทำกิจกรรมร่วมกับคนข้างๆๆๆมากขึ้น
ขอปิดท้ายด้วยรูปของครูน้ำและครูอาสาอีกหลายๆคนนะคะ นะคะ : )
ขออนุญาติครูอาสา อมก๋อย แม่ฮองน้าาาา
เจอกันใหม่ปีหน้า ครูจะไปหาใหม่น่าาาเด็กๆ
กางครั้งหนึ่ง ณ แม่ฮองกลาง
[CR][SR] วันเด็ก ณ แม่ฮองกลาง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
ใครจะคิดว่าแค่ในตัวเมืองไป หมู่บ้าน แม่ฮองกลางใช้เวลาเกือบสิบชั่วโมง เรากับครูอาสาท่านอื่นได้รวมตัวกันไป อ.อมก๋อยโดยเหมารถตู้กันไป ออกจากตัวเมืองเกือบจะแปดโมงเช้า แถึงตัวอ.อมก๋อยเกือบจะบ่ายโมง ความรู้สึกเจอเพื่อนใหม่คนแปลกหน้าแต่ทำไมมันเหมือนรู้จักกันมาก่อนนี่ก็ไม่เข้าใจ ทุกคนมากันหลายจังหวัด ต่างคน ต่างที่ เป็นรุ่นพี่บ้างรุ่นน้องบ้าง แต่จุดหมายเราปลายทางคือทีเดียวกันและความตั้งใจเดียวกัน.
ปล*ก่อนเดินทางแอบมีแจ้งว่าให้ครูอาสาเอาเสื้อแขนยาวบางๆไม่ต้องหนาเพราะมันร้อน (ไอ้เราและเพื่อนครูอาสาอีกหลายคนก็เลยเอาเสื้ออกหมดจ้าา เปิดวันมาตัวเมือง 12 องศา จ้าาาาา อิ้อิ้)
พอมาถึง ตัวอ.อมก๋อย เราได้เจอกับครูอาสาท่านอื่น คือทุกคนมาจากหลายที่หลายจังหวัดมากกกก และเราก็ต้องเปลี่ยนรถเป็นรถกระบะโฟวิลด์ เพราะทางมันโหดมากกกก (คิดในใจไม่มากหรอกมั้งแค่70กว่ากิโลเอง) ครูต้อมแอดมินเพจได้ชี้แจง และได้แยกบ้านว่าเราได้อยู่บ้านหลังไหนกันน แยกย้ายกันขึ้นรถครัชชชชชชช. (ทุกคนมีหน้ากากปิดปากเพราะฝุ่นมันรุนแรงมาก)
การเดินทางคือการเรียนรู้การเรียนรู้คือความเข้าใจ แบบพี่สุชาติบอกไว้ จริงๆๆเจ้าาาาา ทั้งฝุ่นทั้งหลุมทั้งบ่อ ตูดพัง นั่งกันแบบเบียดๆ คนข้างๆใครก็ไม่รู้มาจากไหนบ้างก็ไม่รู้จัก แต่พอไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราได้รับรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ต้องรับชะตากรรมแบบเราแน่ๆๆ ก็เหมือนที่เขาเล่ากันว่าการเดินทางมันไม้สำคัยเท่ากับระหว่างทาง ถึงมันจะลำบากแค่ไหนแต่เพื่อนใหม่ที่เราได้รู้จักรู้สึกจะสนิทกันมากๆ และข้างทางคือมันสวยมาก พวกเราได้ใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมงกว่าจะถึง หมู่บ้านที่อยู่ไหนก็ไม่รู้ นั่งแล้วนั่งนานนั่งจนบ่นจนเหนื่อย ร้องเพลงก็แล้วเต้นก็แล้ว มันก็ยังไม่ถึง ภูเขาสุดลูกหูลูกตา เรียงรายมากมาย
เราและครูอาสาหลายๆคนก็ถึง หมู่บ้าน แม่ฮองกลาง เกือบๆจะหกโมงกันแล้ว มีเด็กๆและคนในหมู่บ้านมารอรับคุณครูอาสาทุกคน
ที่หมู่บ้าน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ โทรศัพท์พับเก็บใส่กระเป๋าให้มิดเลยนะคะ มีค่าแค่ไฟฉายตอนอาบน้ำอย่างเดียว ครูอาสาทุกคนได้แยกย้ายอยู่กับคนในหมู่บ้าน ละลายพฤติกรรมมากๆๆ สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือเด็กทุกคนในหมู่บ้านสวัสดีเราไหว้เราตั้งแต่เเรกเห็น คนนี้ก็ครูคนนั้นก็ครู พวกเราถึงกันมืด ต่างคนต่างแยกย้ายเพราะครูต้อมนัดเจอกันที่ โรวเรียนแปดโมงเช้า ทางค่ายได้จัดถุงยังชีพให้ครูอาสาบ้านละหนึ่งถุง มีทั้ง ปลากรป๋อง ไข่ไก่ ผักนานาชนิด ข้าวสาร
มีพ่อแม่ลูกอีกสองคน ที่อยู่บ้านเดียวกัน และเราอยู่กับพี่ๆครูอาสาอีก3คน มากันต่างจังหวัดมากค่ะ กรุงเทพ,หาดใหญ่,กรุงเทพ คือพี่น่ารักมากกก ส่วนตัวเราเด็กน้อยที่สุดในบ้าน ผ้าห่มก็ไมไ่ด้เอาไป เสื้อหนาวก็ไม่ได้เอาไป ไม่มีพี่ๆอาจจะเเข็งตายได้ ต่ำสุดน่าจะ 5 องศาแหะมั้งงงง อิ้อิ้
*วิวจากหน้าต่างห้องนอนกับวิวห้องครัว
หมดไปวันนึง เราได้ทำความรู้จักกับ โฮสแดด โฮสมัม
เช้าวันต่อมาของวันที่ 13.01.2018
เราได้ตื่นกันเช้ามากกกกกกพี่ๆได้ทำกับข้าวไว้ให้เพาะเราต้องรีบไป โรงเรียนเผื่อจัดกิจกรรมให้เด้กๆๆๆ ส่วนตัวเราเอา บ้านโฮสที่พักต้องเดินเท้าไปโรงเรียนเดินประมาน 20นาทีข้ามเขาไป แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจคือเด็กที่นีรักเรียนกันกันมาก ตื้นเต้นมากไปโรงเรียน
พวกครูอาสาได้ขึ้นไปทำกิจกรรมวันเด็กให้น้องๆๆ มีทั้งแจกเครื่องเขียน เสื้อผ้า รองเท้า อิจฉาเด็กที่นี้จัง อยู่กับที่ๆเงินซื้อควมสุขที่นี้ไม่ได้
*อาคารเรียนสนามกีฬาที่มีวิวหลักล้าน
วันที่สาม 14.01.2018
ครูต้อมได้พาครูอาสาทุกคนเดินชมวิถีชีวิตของชาวและได้พาไปเที่ยวน้ำตก ดูตาน้ำ แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่าครูอาสาทุกคนจะต้องเอาอาหารเที่ยงไปกินกันเอง ส่วนตัวของเรา ได้พึ่งอานิสงค์ทำอาหารอร่อยของพี่รูมเมด ทำกับข้าวอร่อยและมีโฮสมัมที่น่ารักช่วย ปิ้กนิ้กแฮมเปอร์ไปให้ น่ารักมากก
ขอบคุณน่าค่าาา
ทางเดินไปน้ำตกเดินเข้าป่า ฝ่าน้ำตก ปีนเขา ไต่เขา โหนเชือก สุดยอดเลย ออกจากหมู่บ้านแปดโมงถึงน้ำตกเที่ยง ด้วยความทุลักทุเล แต่เรามีทีม เสฟเรามาก เด็กๆคอยช่วยเราทุกอย่าง 'ระวังนะครู ลื่นนะครับ เดี่ยวหนูช่วยคะครู ระวังล้มนะครับ" คือดีย์
เซฟกว่าการ์ดพี่ตูนก็อุทัยกับสรศักดิ์นี่แหละ
ระวางทาง พวกครูๆๆเดินเข้าไปครัชชช
ข้าวเที่ยงล้าวครับบบโผ้มม.
ข้าวห่อร่วมสาบาน
พักกันสักพักเราก็ต้องเดินทางกลับบ้านอีกครึ่งวัน ( ระหว่างทางมันดีที่สุดจริงๆเหนื่อยบ้างเกือยตกเขากันบ้างแต่เราก็ช่วยกันกลับมาถึงที่พัก) รอไปรอบกองไฟที่โรงเรียนกันค่ะ
หลังจากอาบน้ำกินข้าวที่บ้านโฮสกันเสร็จเรามีนัดกันที่โรงเรียนเพราะคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ที่ หมู่บ้านแม่ฮองกลาง
ครูต้อมได้ให้ครูอาสาพูดความประทับใจ ตลอดเวลาสามคืนที่อยู่ที่นี้ มันน่าแปลกใจมากนะแค่สามคืนมันทำให้เรารักทุกสิ่งทุกอย่าง บรรยากาศชาวบ้านผู้คนแม้กระทั่งเพื่อนรวมทางที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่รู้สึกและรักหวงที่นี้มาก อาจเป็นเพราะเราได้ทิ้งทุกอย่างในเมืองไม่ว่าจเป็นเรื่องอะไรเราได้อยู่กับตัวเองและทำกิจกรรมร่วมกับคนข้างๆๆๆมากขึ้น
ขอปิดท้ายด้วยรูปของครูน้ำและครูอาสาอีกหลายๆคนนะคะ นะคะ : )
ขออนุญาติครูอาสา อมก๋อย แม่ฮองน้าาาา
เจอกันใหม่ปีหน้า ครูจะไปหาใหม่น่าาาเด็กๆ
กางครั้งหนึ่ง ณ แม่ฮองกลาง
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น