[CR] แพรตามฝันไปเป็นครูดอย 4วัน 3คืน ที่บ้านแม่ฮองใหม่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

สวัสดีค่ะ นี่คือประสบการณ์ที่ได้ไปเป็น "ครูอาสา" บนดอย ที่หมู่บ้านแม่ฮองใหม่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กิจกรรมนี้เริ่มต้นจากพี่ที่รู้จักกดถูกใจเพจกิจกรรมที่มีชื่อว่า " ลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย " ใน Facebook ชื่อเพจ 4DekDoi

จากเดิมที่มีความตั้งใจว่าอยากจะไปเป็นครูอาสาบนดอยสักครั้งหนึ่งในชีวิตอยู่แล้ว เช็ควันว่าง ขออนุญาตผู้ปกครอง  พอทุกอย่างลงตัวก็ทำการลงทะเบียนค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าลงทะเบียนแล้วก็ได้ไปแล้วนะ ต้องชำระค่ากิจกรรมเพื่อเป็นการยืนยันก่อนค่ะ ค่ากิจกรรมนี้รวมค่ารถเข้าหมู่บ้าน และวัตถุดิบอาหารการกินทุกมื้อที่เราไปดอย ซึ่งปีนี่มีคนให้ความสนใจกิจกรรมนี้มาก จนเกือบยืนยันไม่ทัน!...แต่ก็ทัน

พอยืนยันเสร็จก็จัดกระเป๋าค่ะ  เราเอากระเป๋าเป้ไปหนึ่งใบและถุงฝ้าใส่ของเอาไปให้เด็กๆอีกหนึ่งถุง สิ่งที่ต้องเตรียมไปเลยก็มี: ไฟถาย(สำคัญมากกก) เครื่องอาบน้ำต่างๆ(พวกสบู่ แปลงฟัน บลาๆๆ) แผ่นรองนอน(ควรเอาไป เราไม่ได้เอาไป..ปวดไปหมด) รองเท้าที่มีดอกยางดีๆ (เราพลาด ใส่ Converse Jackไป ไม่มีซักดอก!) ผ้าห่มหรือถุงนอน และ เสื้อผ้า



วันแรก: ออกเดินทาง
จุดนัดพบของกิจกรรมอยู่ที่อำเภออมก๋อย โดยที่เราจะต้องเดินทางไปที่จุดนัดพบด้วยตนเอง ซึ่งเราอยู่เชียงใหม่อยู่แล้วแต่ไม่ได้อยู่ อ.อมก๋อยนะ! เราเลือกโดยสารรถฟ้า ต้องไปขึ้นคิวรถที่สถานีช้างเผือก รถเป็นระบบพัดลมรอบทิศทาง วิ่งแบบใจเย็น และประตูเปิดตลอดเวลา! ถ้าของกลิ้งกรุบๆลงไปก็โบกมือลาได้เลย ค่าโดยสารไปลงอมก๋อย 113บาท รถออกตรงเวลามากก แต่ไม่ถึงตรงเวลาเลยเค้าบอกถึง 12.30 ที่ไหนได้ถึงบ่ายสองนู้นค่ะ



บ่ายสองก็มาถึงจุดนัดพบ เรามาสาย! คนอื่นๆทยอยขึ้นรถกระบะกันไปแล้ว เมื่อมาถึงก็เจอกับครูต้อมค่ะ ผู้ดูแลโครงการ โชคดีที่ไม่ได้มาสายสุด ซักพักก็มีพี่ๆมาอีกกลุ่มหนึ่งมาจากภาคใต้กันเลยทีเดียว ครูต้อมก็ให้พวกเรากินข้าวกันก่อน รูปข้างล่างเป็นรถที่เราจะใช้เดินทางเข้าหมู่บ้านกันค่ะ ครูต้อมบอกใช้เวลาประมาณ 3ชม. โอเค..ไม่มีปัญหา! กินข้าวกล่องกันเสร็จก็ ออกเดินทางค่ะ


ทางเป็นทางดินลูกรังซะส่วนใหญ่ ดีนะที่ฝนไม่ตกค่ะ ไม่งั้นแย่ มีบ้างส่วนนั่งข้างหน้าและบางส่วนมาโยกๆอยู่หลังกระบะ หนึ่งในนั้นคือเราเอง555 เราอยากมาอยู่ท้ายกระบะเองแหละ สำหรับเราถึงมันจะทรมานแต่ก็สนุกดี สนุกกว่าเล่นเครื่องเล่นบางอันอีกนะ ตัวระบบกันไป

และแล้วก็ตามรถที่มาก่อนทันค่ะ ที่ทันไม่ใช่เพราะซิ่งอะไรขนาดนั้นนะ แต่รถที่มาก่อนติดหล่ม เท้าเปี้อนโคลนกันไป หลังจากถ่ายภาพนี้แบตมือถือก็หมดค่ะ ถ่ายเยอะเกิน พอถึงที่พักก็ดึกแล้วค่ะ จากนั้นก็แยกย้ายตามบ้านที่ครูต้อมจัดไว้ให้ ความจริงครูเค้าสุ่มไม่ให้คนที่จ่ายเงินใกล้กันนอนด้วยกัน เราไม่ได้จ่ายเงินพร้อมกับพี่ที่มาด้วย(พี่นกกี้) ปรากฎว่าได้นอนบ้านเดียวกันเฉย มีบ้านสิบกว่าหลังค่ะ ชื่อบ้านก็เป็นชื่อตัวเลขเลย เราได้นอนบ้าน 6 และมื้อแรกที่เจ้าของบ้านทำให้เรากินก็คือ...

แกงหนูใส่ผักเผ็ดใส่พริกกระเหรี่ยง ใช่ค่ะ หนู! ถามว่ากินไหม กินค่ะ555 ก็เค้าทำให้กินนี่ไม่กินก็เสียน้ำใจหมดสิ

วันแรกจบแล้วค่ะ ตัวระบบจริงๆ ในวันแรกครูต้อมก็จะให้ทีมงานครูที่เป็นคนในหมูบ้านเนี่ยแหละค่ะมาแจกวัตถุดิบในการทำอาหารให้แต่ละบ้าน วัตถุดิบก็มีไข่ ผักกาด ข้าวสาร ปลาแห้ง และเครื่องปรุงต่างๆ

วันที่สอง: ไปโรงเรียน
ตื่นเช้ามาพร้อมกับความปวดเมื่อย และตกใจเพราะควันเต็มบ้าน!! คือเค้าทำกับข้าวจุดไฟกันในบ้าน ข้างที่นอนพ่อกับแม่นั่นเลยค่ะ บ้าน 6 มีพ่อแม่น้องผู้หญิงสองคนและตัวเล็กชื่อ สหัสวัต  รวมเป็น 5 คนค่ะ ที่นี่มีไฟใช้นะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ค่ะ บ้านนี้มีหนึ่งดวงใช้เปิดตอนเช้ามืด กับ ค่ำๆ แต่ห้องน้ำไม่มีไฟต้องเอาไฟฉายไปด้วย ขนาดตอนกลางวันข้างนอกแดดออกเปรี้ยงๆ แต่ในห้องน้ำมือทึก เข้าห้องน้ำวันแรกก็เจอแมงมุงบนหัวแล้ว อาบน้ำเสร็จก็พอจะมีอารมมองออกไปนอกหน้าต่างที่นอน ส๊วยสวย(รูปข้างล่าง) มีหมอกด้วยแต่ไม่หนาวเล๊ย

ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปกับเด็กน้อย ไปๆมาๆ เด็กน้อยเดินนำหน้าไปถึงโรงเรียนก่อน นี่เราแพ้เด็กหรอ เห้อ~ แย่ๆๆ

ตื่นมาก็แบ่งกันไปอาบน้ำและให้อีกฝ่ายเตรียมอาหารค่ะ ของแพรจะเน้นทำเมนูไข่ ส่วนพี่นกกี้ก็เป็นเมนูผัก เรื่องข้าวพ่อกับแม่จะหุงให้อยู่แล้วค่ะเป็นข้าวดอย หุงเยอะมากกกก ถ้ากินไม่หมดก็เอาไปให้หมูกินค่ะ เด็กๆในบ้านจะมากินข้าวที่เราทำด้วยค่ะ ส่วนพ่อกับแม่ออกไปที่นาทำงานตั้งแต่เช้ามืดเลย

กินเสร็จ ล้างจากเสร็จก็เดินไปโรงเรียนกับเด็กๆค่ะ คือคนในหมู่บ้านนี้เคยอยู่หมู่บ้านที่ชื่อว่า "บ้านแม่ฮองกลาง" แต่เกิดไฟใหม่หมู่บ้านทำให้ต้องย้ายลงมาสร้างหมู่บ้านใหม่ แต่โรงเรียนยังอยู่ดีค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเรียนหนังสือก็ต้องเดินไปที่โรงเรียนเดิมค่ะ มีความไกล ด้วยความที่เราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ทำเอาหอบไปตามๆกัน ส่วนเด็กๆหรอ เดินลิ่วเลย! ที่นี่เข้าแถวเคารพธงชาติตอน 8.30 ค่ะ โรงเรียนไกลเนอะเข้าใจหน่อย



ถึงโรงเรียนแล้วค่ะ มีครูอาสามาถึงเราก่อนบ้างแล้ว มาถึงก็นั่งพักก่อนเลยพอ 8.30 เด็กๆก็เข้าแถวค่ะ ที่นี่มีด้วยกัน 4 ชั้นเรียนคือ อนุบาลสาม, ป.1, ป.2 และ ป.3 เด็กอนุบาลพวกเราเรียกกันว่า "เด็กยิ้ม"ค่ะ เพราะภาษาไทยเค้ายังไม่แข็งแรง โต้ตอบอะไรไม่ได้ก็ยิ้มอย่างเดียว555 น่ารักเนอะ


กิจกรรมหน้าเสาธงเรียบร้อยก็แยกย้ายเข้าห้องเรียนค่ะ แบ่งเป็นสามห้อง เราเลือกสอน ป.1 และ ป.2 ค่ะคือสองชั้นนี้วันนี้จะเรียนรวมกัน ส่วนเรื่องที่จะสอนครูอาสาก็คิดกันเองเลย ของกลุ่มเราก็มีให้เขียนตามคำบอก(ภาษาไทย) วาดรูประบายสี เล่านิทาน ให้เด็กๆมาแสดงความสามารถ และมีกิจกรรม Outdoor ด้วย



กิจกรรมในห้องมาแล้วไปข้างนอกกันบ้าง




เครดิตรูปข้างบน:เพื่อนในค่าย
ครูอาสาบางส่วนแบ่งไปทำอาหารกลางวันกันค่ะ ไปแอบส่องเด็กยิ้มกันบ้าง กำลังแจกอาหารกลางวันกันเลย งานมาม่าก็มา

ถ่ายรูปกับเด็กๆหน่อย

บ่ายสาม โรงเรียนเลิกเด็กๆก็ไปเข้าแถวหน้าเสาธงรับของจากผู้ที่นำของมาบริจาค ซึ่งครูอาสาได้ทำการช่วยกันนำใส่ถุงค่ะ


ผู้ชายเสื้อสีเทารูปข้างบนคือ ครูต้อมค่ะ ครูผู้ดูแลโครงการ


วิวข้างโรงเรียนสวยมากกกกกกกกกก เริ่มเพ้อละ มาต่อๆ จากนั้นครูอาสาแต่ละคนก็แนะนำตัวกับเด็กๆ แล้วก็ปล่อยเด็กกลับบ้านได้ ส่วนเหล่าครูอาสาครูต้อมก็เรียกประชุมที่โรงเรียนต่อเรื่องกำหนดการพรุ่งนี้ที่จะไป "เกี่ยวข้าว" และ "น้ำตก" ประชุมเสร็จก็เดินกลับค่ะ เดินกลับจะสบายกว่าเพราะเดินลงดอย555 ระหว่างทางก็ชื่นชมวิวข้างทางไปค่ะ~


หมูบ้านอยู่ตรงนั้นไง อีกนึดจะถึงแล้ว ฮึบๆ


วันที่สาม:  ไปเกี่ยวข้าว และไปน้ำตก
ตื่นนอนมาด้วยความปวดร้าวทั่วร่าง ที่นอนก็แข็งเหลือเกินแต่ไม่เป็นไร ทนได้! วันนี้จะได้ไปน้ำตก "ดีใจ" นั่นคือว่าคิดแรกของวันนั้น หึๆ ดีใจไปเถอะเดี๋ยวรู้เลย! ลืมไปว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปบ้าน 6 ที่ตนเองพักอยู่เลย พอกดชัตเตอร์เสร็จก็เดินทางกันค่ะ จุดนัดพบอยู่ที่บ้าน 11 พอถึงเวลาก็นั่งท้ายกระบะไปลงทางเดินเข้าที่นา ดีหน่อยที่ไม่ต้องเดินไปเอง แต่ตอนกลับต้องเดินกลับเอง! โอ้ว...ไม่นะ

ภาพแรกของวันที่สาม

ตอนแรกคิดว่ารถจะไปส่งถึงที่นาเลย แต่ไม่ใช่ค่ะ เราต้องเดินเข้าไปต่อแต่ไม่ไกลมาก โอเคอยู่ ฉันโอเคอยู่ คนนำทางก็เป็นเด็กๆในหมู่บ้านค่ะ ทางเป็นแบบรูปข้างล่างเลย

เดินมาซักพักหนึ่งก็ถึง ตอนแรกในหัวที่คิดไว้คือเป็นนาขั้นบันไดค่ะ พอมาถึง โอ้โห...ที่มันนาดอยนิ ชันขนาดนี้ แต่สวยยยยอยู่นะ ยิ่งขึ้นไปบนๆมองวิวออกมา โอ้โหหหหห สวยยยยย ผ่าน!!


อยู่ตรงนี้กับซะพัก พูดคุยกัน ถ่ายรูป ไปช่วยคุณยายเกี่ยวข้าว เสร็จ ก็เดินไปน้ำตกต่อ โดยมีหนุ่มๆเดินนำ

ทางเดินเข้าน้ำตกนี้ อื้อหือออ...ต้องมาพิสูจน์เอง คอนเวิร์ดเจ๊คที่ใส่มานี่ก็น่ะ ไม่มีดอกเลย ไม่ยึดอะไรทั้งนั้น ลื่นสุดทาง ไม่คิดว่าทางจะขนาดนี้ เพราะฉะนั้นใครที่จะมาปีหน้าเตรียมรองเท้ามาให้ดีๆนะค่ะ รูปส่วนนี้แทบไม่มีเลยเอามือถือออกมาไม่ได้เลย ส่วนใครมีโกโปร รอดค่ะ

ปีนี้น้ำค่อนข้างเชี่ยว ทรหดมาก แต่ก็สนุกมากกก เปียกกันไป ถึงน้ำตกแล้วก็กินข้าวกันค่ะ เป็นข้าวที่ทำมาจากบ้าน (หมายถึงประกอบอาหารที่บ่านแล้วนำใส่กล่องมารับประทาน ไม่ใช่เอาบ้านมาทำข้าว ใจเย็น)


จากนั้นก็กลับค่ะ เดินกลับหมู่บ้าน ตอนออกจากน้ำตกก็ตามพี่นกกี้มาติดๆ ไปๆมาๆ อ่าวพี่นกกี้หายไป คนอื่นก็หายไปออกมาจากทางเข้าน้ำตกได้ก็เดินกลับหมู่บ้านที่ถนนใหญ่ต่อ ขึ้นดอยพื้นดินลูกรังเหมือนเดิม เดินแรกๆก็มีหนุ่มๆ(เด็กๆ)มาเดินตามถามว่า"ไหวไม่ครู" เราตอบ"ไหวค่ะ เดินไปก่อนเลย" แต่หน้านี่คงไม่ไหวละ ละเด็กๆก็เดินลิ่วๆไป เดินกันเก่งจริงๆคงชินกันแล้วแหละ เดินมาได้ซักพัก มองหน้ามองหลัง อ่าวไม่มีใครเลย
ชื่อสินค้า:   บันทึกการเดินทาง เชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่