สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
จริงๆเค้าก็ทะยอยทำมาเรื่อยๆ ครับ
ค่าใช้จ่าย ก็มาจากภาษี และ บางส่วนจากการกู้
แต่ทุกวันนี้ภาระการกู้ยืม และหนี้สินภาครัฐ ถือว่าไม่ได้หนักหนาเกินกำลัง
เศรษฐกิจไทย แม้ไม่ได้ดีมากนัก แต่เราก็อยู่ในอันดับสูง พอสมควร ใน เวทีโลก ประมาณ น่าจะอยู่ใน ส่วน 1/4 บนของโลกทั้งหมด
ภาคเอกชน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ของเราแข็งแกร่งมากๆ
แต่ที่ยัง แย่หน่อยก็ตรงการเมือง ซึ่ง ยังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังดีกว่า หลายประเทศ
หวังว่ามันคงค่อยๆดีขึ้น
ยังภูมิใจในความเป็นคนไทยครับ
ค่าใช้จ่าย ก็มาจากภาษี และ บางส่วนจากการกู้
แต่ทุกวันนี้ภาระการกู้ยืม และหนี้สินภาครัฐ ถือว่าไม่ได้หนักหนาเกินกำลัง
เศรษฐกิจไทย แม้ไม่ได้ดีมากนัก แต่เราก็อยู่ในอันดับสูง พอสมควร ใน เวทีโลก ประมาณ น่าจะอยู่ใน ส่วน 1/4 บนของโลกทั้งหมด
ภาคเอกชน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ของเราแข็งแกร่งมากๆ
แต่ที่ยัง แย่หน่อยก็ตรงการเมือง ซึ่ง ยังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังดีกว่า หลายประเทศ
หวังว่ามันคงค่อยๆดีขึ้น
ยังภูมิใจในความเป็นคนไทยครับ
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, Jill Hera ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5101019 ถูกใจ, Kyo_X ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 952658 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3856892 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 4868711 ถูกใจ, คนวังกางฮุง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817485 ถูกใจรวมถึงอีก 249 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 25
เรามีช่วงขึ้นและลงมาตลอดครับ แต่ถ้านับในช่วงยุคใหม่นี้จริงๆ ครั้งสุดท้ายเลยที่มีการลงทุนโครงการใหญ่จริงคือ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก็ 20 กว่าปีมาแล้ว
ที่เห็นลงกันเยอะๆเนี่ย ส่วนนึงคือทำมานานแล้วไม่เสร็จซักที (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ส่วนนึงคือเพิ่งจะได้อนุมัติ (ทางคู่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า สายสีอื่นๆ) และจริงๆยังไม่หมด เหลืออีกเกือบครึ่ง ที่จะทยอยอนุมัติเร็วๆนี้
ตอบคำถาม โครงการใหญ่ๆที่ท่านเห็น เพิ่งได้รับอนุมัติในรัฐบาลนี้ หรือ ก่อนหน้านี้ (บางส่วน) คือไม่เกินระยะเวลา 5 ปีอ่ะ หลายโครงการเป็นโครงการที่คิดกันมาตั้งแต่ 30-40 ปีที่แล้ว คือจังหวะมันเหมาะเจาะที่จะมาลงล้อค มีการปลดล้อคในช่วงนี้พอดี เพราะรัฐบาลทหารเองต้องการสร้างผลงาน + กู้ประเทศให้กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง ซึ่งสมมติว่าเอาจริงๆถ้าไม่มีการรัฐประหารและโชคดี โครงการทั้งหมดที่ท่านเห็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสองล้านล้านของเพื่อไทยนั่นแล่ะ มาครบทุกเซตเลย แต่ดันโดนเชือดซะก่อน ก็ยังถือว่าโชคดี (ในความโชคร้าย) ที่รัฐบาลทหารยังเห็นความสำคัญ มันเลยอนุมัติกันโครมๆขนาดนี้ นี่ปีนี้ รออนุมัติรถไฟไฮสปีดอีกอย่างน้อยสองเส้น (ตะวันออก กับ ใต้) รวมถึง รถไฟฟ้าม่วงใต้ ส้มตะวันตก และแดงส่วนต่อขยาย และทางคู่อีก 9 เส้น ( 3 เส้น เป็นเส้นใหม่ ที่จะสร้างมาเป็น 80 ปีแล้ว ) บอกได้เลยว่าปีนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ท่อแตกแน่นอน เมืองไทยเหมือนเริ่มทุบ แล้วสร้างใหม่เลย
นี่ไม่นับพวกโครงการอื่นๆเช่นเอาสายไฟลงดินนะ 40 ปีทำได้ ไม่กี่กิโล นี่ภายใน 5 ปี จะถูกเร่งให้เอาลง 200 กว่ากิโล เทียบสปีดดู จะรู้เลยว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าเร็วมาก แบบไม่น่าเชื่อ
ส่วนเงิน ก็งบประมาณ + กู้ ตามปกตินั่นแล่ะครับ เงินมาจากไหนเหรอ ก็เงินภาษี เงินรายได้รัฐที่เค้ามีนั่นแล่ะ เมืองไทยไม่ได้จนเหมือนที่ท่านคิด งบประมาณต่อปีหลายแสนล้านนะ แต่ที่ลงได้มากกว่าปกติ เพราะว่ารัฐบาลจะค้ำประกันเงินกู้ต่อโครงการด้วยตัวเอง แต่ทำเป็นโครงการไป ไม่ได้โฉ่งฉ่างเอามารวมร่างกันแบบสองล้านล้าน ที่ทำคนตกใจเหมือนห้าปีก่อน เอาจริงๆคิดเป็นเงินรวมตอนนี้ จะสามล้านล้าน สี่ล้านล้านไปแล้วด้วยซ้ำมั้ง
แต่เอาเหอะ อะไรที่ประเทศได้ประโยชน์
ที่เห็นลงกันเยอะๆเนี่ย ส่วนนึงคือทำมานานแล้วไม่เสร็จซักที (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ส่วนนึงคือเพิ่งจะได้อนุมัติ (ทางคู่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า สายสีอื่นๆ) และจริงๆยังไม่หมด เหลืออีกเกือบครึ่ง ที่จะทยอยอนุมัติเร็วๆนี้
ตอบคำถาม โครงการใหญ่ๆที่ท่านเห็น เพิ่งได้รับอนุมัติในรัฐบาลนี้ หรือ ก่อนหน้านี้ (บางส่วน) คือไม่เกินระยะเวลา 5 ปีอ่ะ หลายโครงการเป็นโครงการที่คิดกันมาตั้งแต่ 30-40 ปีที่แล้ว คือจังหวะมันเหมาะเจาะที่จะมาลงล้อค มีการปลดล้อคในช่วงนี้พอดี เพราะรัฐบาลทหารเองต้องการสร้างผลงาน + กู้ประเทศให้กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง ซึ่งสมมติว่าเอาจริงๆถ้าไม่มีการรัฐประหารและโชคดี โครงการทั้งหมดที่ท่านเห็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสองล้านล้านของเพื่อไทยนั่นแล่ะ มาครบทุกเซตเลย แต่ดันโดนเชือดซะก่อน ก็ยังถือว่าโชคดี (ในความโชคร้าย) ที่รัฐบาลทหารยังเห็นความสำคัญ มันเลยอนุมัติกันโครมๆขนาดนี้ นี่ปีนี้ รออนุมัติรถไฟไฮสปีดอีกอย่างน้อยสองเส้น (ตะวันออก กับ ใต้) รวมถึง รถไฟฟ้าม่วงใต้ ส้มตะวันตก และแดงส่วนต่อขยาย และทางคู่อีก 9 เส้น ( 3 เส้น เป็นเส้นใหม่ ที่จะสร้างมาเป็น 80 ปีแล้ว ) บอกได้เลยว่าปีนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ท่อแตกแน่นอน เมืองไทยเหมือนเริ่มทุบ แล้วสร้างใหม่เลย
นี่ไม่นับพวกโครงการอื่นๆเช่นเอาสายไฟลงดินนะ 40 ปีทำได้ ไม่กี่กิโล นี่ภายใน 5 ปี จะถูกเร่งให้เอาลง 200 กว่ากิโล เทียบสปีดดู จะรู้เลยว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าเร็วมาก แบบไม่น่าเชื่อ
ส่วนเงิน ก็งบประมาณ + กู้ ตามปกตินั่นแล่ะครับ เงินมาจากไหนเหรอ ก็เงินภาษี เงินรายได้รัฐที่เค้ามีนั่นแล่ะ เมืองไทยไม่ได้จนเหมือนที่ท่านคิด งบประมาณต่อปีหลายแสนล้านนะ แต่ที่ลงได้มากกว่าปกติ เพราะว่ารัฐบาลจะค้ำประกันเงินกู้ต่อโครงการด้วยตัวเอง แต่ทำเป็นโครงการไป ไม่ได้โฉ่งฉ่างเอามารวมร่างกันแบบสองล้านล้าน ที่ทำคนตกใจเหมือนห้าปีก่อน เอาจริงๆคิดเป็นเงินรวมตอนนี้ จะสามล้านล้าน สี่ล้านล้านไปแล้วด้วยซ้ำมั้ง
แต่เอาเหอะ อะไรที่ประเทศได้ประโยชน์
Jill Hera ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5101019 ทึ่ง, Kyo_X ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 4868711 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817485 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1554269 ถูกใจ, ramai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2218695 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1231067 ถูกใจรวมถึงอีก 60 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 51
พูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวไทยหน่อย ที่เป็นหนึ่งในรายได้ของประเทศเรา อาจไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้ แต่อยากโพสต์
ถ้าพูดเรื่องชาวต่างชาติเดินทางมาไทย เดิมเราก็จะคิดว่ามีแค่กลุ่ม tourists กับ backpackers ซึ่งกลุ่มทัวร์จีนที่พูดถึงกัน ก็อยู่ในกลุ่มนี้
แต่ปัจจุบัน มีชาวต่างชาติมาประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายไม่ใช่แค่ท่องเทียว แต่มาอยู่อาศัย อาจอยู่ยาว หรืออยู่อาศัยนานๆหลายเดือน
กลุ่มนี้ใช้จ่ายตามร้านค้าทั่วไป เช่าอพาร์ทเม้นท์ กินข้าวตามร้านอาหารทั่วไป จ่ายตลาด เข้า 7/11 เดิน lotus/Big C/Mall
ยกตัวอย่างเช่น
- กลุ่ม retirement ผู้สูงอายุชาวต่างชาติ ที่มาใช้เงินบำนาญหลังเกษียณอายุที่ไทย ถ้าเป็นชายสูงอายุ ก็นิยมมาหา ภรรยาไทย ไว้คอยดูแล สำหรับกลุ่มนี้ คู่แข่งของเราในละแวกอาเซียนคือ ประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม
- กลุ่ม Expat ชาวต่างชาติวัยหนุ่มสาว มาใช้ชีวิตในประเทศไทย หาประสบการณ์ กลุ่มนี้ก็อาจเข้ามาโดยใช้เงินเก็บ passive income หรือทำงานในไทยด้วย เพื่อหารายได้ขณะอยู่ในไทย
- กลุ่ม Digital nomad กลุ่มคนที่ไม่จำเป็นต้องทำงานใน office ทำงานที่ไหนก็ได้ ส่วนมากทำงานโดยอาศัยทาง internet หรือ พวกฟรีแลนซ์ รับงานทางเนท กลุ่มนนี้นิยม เดินทางมาที่ประเทศไทย โดยเฉพาะเชียงใหม่ เป็นสวรรค์ของ Digital nomad/Expat/Digital expat อันดับต้นๆของโลก เพราะค่าครองชีพถูก มีบริการ working spaces และ เน็ทประเทศเรา ความเร็วใช้ได้
- กลุ่ม Vegan กลุ่มชาวต่างชาติสายรักสุขภาพ มาเมืองไทยเพื่อมากิน พืชพักผลไม้ไทย กินอาหารเจตามร้านอาหาร หรือ ใน 7/11 ล้วนๆ เนื่องจากราคาถูก กลุ่มนี้นิยมมุ่งไปเชียงใหม่
- กลุ่มประเทศเมืองหนาว/กลุ่มนักกีฬาจากประเทศเมืองหนาว ถ้าเข้าช่วง winter ของบ้านเค้า ก็จะมาอยู่ไทย หนีความหนาว มาปั้นจักรยาน มาออกกำลังกาย มาฟิตร่างกายที่ประเทศเรา
- กลุ่มสุขภาพ ชาวต่างชาติที่เดินทางมารับการรักษา ที่ รพ เอกชนชั้นนำของไทย เช่น กลุ่มเศรษฐีจากกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มชาวอาหรับ เป็นต้น
- กลุ่มมาเฟีย นักโทษหนีคดี อันนี้ต้องยอมรับว่าหนีเข้ามาเยอะ มาทำให้ประเทศไทยแย่ลง
ปล. เขียนมายืดยาวไม่เกี่ยวกะกระทู้เท่าไหร่เลย ขอโทษด้วยนะคะ แต่ถ้าในอนาคต โครงสร้างพื้นฐานเราดียิ่งๆขึ้น มันจะเอื้อประโยชน์ทางด้านนี้มากๆ หวังว่ารายได้จากชาวต่างชาติที่เข้ามาจะมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าพูดเรื่องชาวต่างชาติเดินทางมาไทย เดิมเราก็จะคิดว่ามีแค่กลุ่ม tourists กับ backpackers ซึ่งกลุ่มทัวร์จีนที่พูดถึงกัน ก็อยู่ในกลุ่มนี้
แต่ปัจจุบัน มีชาวต่างชาติมาประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายไม่ใช่แค่ท่องเทียว แต่มาอยู่อาศัย อาจอยู่ยาว หรืออยู่อาศัยนานๆหลายเดือน
กลุ่มนี้ใช้จ่ายตามร้านค้าทั่วไป เช่าอพาร์ทเม้นท์ กินข้าวตามร้านอาหารทั่วไป จ่ายตลาด เข้า 7/11 เดิน lotus/Big C/Mall
ยกตัวอย่างเช่น
- กลุ่ม retirement ผู้สูงอายุชาวต่างชาติ ที่มาใช้เงินบำนาญหลังเกษียณอายุที่ไทย ถ้าเป็นชายสูงอายุ ก็นิยมมาหา ภรรยาไทย ไว้คอยดูแล สำหรับกลุ่มนี้ คู่แข่งของเราในละแวกอาเซียนคือ ประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม
- กลุ่ม Expat ชาวต่างชาติวัยหนุ่มสาว มาใช้ชีวิตในประเทศไทย หาประสบการณ์ กลุ่มนี้ก็อาจเข้ามาโดยใช้เงินเก็บ passive income หรือทำงานในไทยด้วย เพื่อหารายได้ขณะอยู่ในไทย
- กลุ่ม Digital nomad กลุ่มคนที่ไม่จำเป็นต้องทำงานใน office ทำงานที่ไหนก็ได้ ส่วนมากทำงานโดยอาศัยทาง internet หรือ พวกฟรีแลนซ์ รับงานทางเนท กลุ่มนนี้นิยม เดินทางมาที่ประเทศไทย โดยเฉพาะเชียงใหม่ เป็นสวรรค์ของ Digital nomad/Expat/Digital expat อันดับต้นๆของโลก เพราะค่าครองชีพถูก มีบริการ working spaces และ เน็ทประเทศเรา ความเร็วใช้ได้
- กลุ่ม Vegan กลุ่มชาวต่างชาติสายรักสุขภาพ มาเมืองไทยเพื่อมากิน พืชพักผลไม้ไทย กินอาหารเจตามร้านอาหาร หรือ ใน 7/11 ล้วนๆ เนื่องจากราคาถูก กลุ่มนี้นิยมมุ่งไปเชียงใหม่
- กลุ่มประเทศเมืองหนาว/กลุ่มนักกีฬาจากประเทศเมืองหนาว ถ้าเข้าช่วง winter ของบ้านเค้า ก็จะมาอยู่ไทย หนีความหนาว มาปั้นจักรยาน มาออกกำลังกาย มาฟิตร่างกายที่ประเทศเรา
- กลุ่มสุขภาพ ชาวต่างชาติที่เดินทางมารับการรักษา ที่ รพ เอกชนชั้นนำของไทย เช่น กลุ่มเศรษฐีจากกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มชาวอาหรับ เป็นต้น
- กลุ่มมาเฟีย นักโทษหนีคดี อันนี้ต้องยอมรับว่าหนีเข้ามาเยอะ มาทำให้ประเทศไทยแย่ลง
ปล. เขียนมายืดยาวไม่เกี่ยวกะกระทู้เท่าไหร่เลย ขอโทษด้วยนะคะ แต่ถ้าในอนาคต โครงสร้างพื้นฐานเราดียิ่งๆขึ้น มันจะเอื้อประโยชน์ทางด้านนี้มากๆ หวังว่ารายได้จากชาวต่างชาติที่เข้ามาจะมากขึ้นเรื่อยๆ
พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5101019 ทึ่ง, Kyo_X ถูกใจ, NapatPT ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3856892 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4868711 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817485 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3068566 ถูกใจ, ramai ถูกใจรวมถึงอีก 45 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 6
1.ระบบขนส่งแบบนี้ น่าจะทำมาไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้วต่างหาก ไม่ว่าจะการเมืองกลุ่มไหน ไม่ต้องโทษกัน พวกคุณน่าจะทำ แต่ไม่ทำ
2.ฐานะการเงินของประเทศ รวมถึงบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของเราแข็งแกร่งมาก จากตอนต้มยำกุ้ง ดังนั้นหายห่วง ยังกู้ได้อีกเยอะ
3.ไม่มีตำราเล่มไหนบนโลกใบนี้ บอกว่า นโยบาย subsidy ดีแน่นอน การบิดเบือนราคา สุดท้ายเจ็บปวด และเรื่องนี้ไม่ว่ากลุ่มการเมืองไหน ล้วนมีส่วนผิด ไม่ต้องโทษกัน สิ่งที่ถูกต้องคือ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้สินค้าแข่งขันได้ ไม่ใช่ใช้เงินอุดหนุน เพราะจะไม่เกิดการพัฒนา
2.ฐานะการเงินของประเทศ รวมถึงบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของเราแข็งแกร่งมาก จากตอนต้มยำกุ้ง ดังนั้นหายห่วง ยังกู้ได้อีกเยอะ
3.ไม่มีตำราเล่มไหนบนโลกใบนี้ บอกว่า นโยบาย subsidy ดีแน่นอน การบิดเบือนราคา สุดท้ายเจ็บปวด และเรื่องนี้ไม่ว่ากลุ่มการเมืองไหน ล้วนมีส่วนผิด ไม่ต้องโทษกัน สิ่งที่ถูกต้องคือ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้สินค้าแข่งขันได้ ไม่ใช่ใช้เงินอุดหนุน เพราะจะไม่เกิดการพัฒนา
สมาชิกหมายเลข 5101019 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 952658 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, คนวังกางฮุง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817485 ถูกใจ, ramai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1687777 ถูกใจ, Mentor_Tonpai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 702776 ถูกใจ, ผีหลายบทบาท ถูกใจรวมถึงอีก 47 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 35
ขอบคุณ จขกท. ที่ตั้งกระทู้ และ หลาย ๆ คห. ที่ให้ความเห็นที่มีประโยชน์มาก ๆ ครับ...
หากกระทู้นี้ไม่ถูก Bias ไปหาการเมืองมาก จะเป็นกระทู้ที่สมบูรณ์แบบมาก กระทู้หนึ่งเลย แต่แค่นี้ก็ถือว่าโอเค แล้วครับ...
พี่หมอ JFK เปิดได้สวย โมเมนตัมเลยเปลี่ยนไปในทิศทาง เศรษฐกิจ ไม่งั้น ไม่อยากคิดเลย...
หากกระทู้นี้ไม่ถูก Bias ไปหาการเมืองมาก จะเป็นกระทู้ที่สมบูรณ์แบบมาก กระทู้หนึ่งเลย แต่แค่นี้ก็ถือว่าโอเค แล้วครับ...
พี่หมอ JFK เปิดได้สวย โมเมนตัมเลยเปลี่ยนไปในทิศทาง เศรษฐกิจ ไม่งั้น ไม่อยากคิดเลย...
สมาชิกหมายเลข 4161737 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 3856892 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 702776 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817485 ถูกใจ, ramai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2218695 ถูกใจ, Mentor_Tonpai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2207654 ถูกใจ, แม่มดปาร์ตี้ ถูกใจ, ปุงปิง ถูกใจรวมถึงอีก 43 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมประเทศไทยถึงมีเงินมากพอจนสามารถสร้าง infrastructure ได้พร้อม ๆ กันขนาดนี้ครับ
ยกเว้นภาคเหนือ แล้วก็เจอโครงการใหญ่ ๆ เยอะมาก
อย่างถ้าทางอีสาน ก็จะเจอมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้ารางคู่ รถไฟฟ้าความเร็วสูง (อันนี้ยังไม่เห็น แต่ได้ยิน)
ไปชลบุรี ก็เจอมอเตอร์เวย์ยาวไปจนถึงท่าเรือแหลมฉบัง (ไม่มั่นใจว่าถูกไหม)
เข้ากรุงเทพ ก็เจอ ตอม่อ รถไฟฟ้าสร้างแทบจะทุกเส้น และสร้างเสร็จไปเยอะด้วย
แถมอนุมัติเพิ่มเกือบครบทุกสายแล้ว (มั้ง) เจอสถานีกลางบางซื่อเข้าไปอีก นี่คือความสุดยอดอลังการงานสร้างมาก
เลยสงสัยว่าประเทศไทยไปเอาเงินมาจากไหน (คงกู้ด้วยแหละส่วนหนึ่ง) แต่ที่อยากรู้
แล้วที่ผ่านมาทำไมประเทศไทยถึงไม่ทำ หรือมันอนุมัตินานแล้ว แต่เพิ่งจะมาเสร็จ
หรือสำเร็จในยุคนี้แทน ก็เลยดูเหมือนว่า เพิ่งจะมาเสร็จเอาช่วงนี้
แล้วต่างประเทศในระแวกใกล้เคียงเขาสามารถทำได้แบบเราไหม เช่นมาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์งี้
เขามีเงิน มีศักยภาพพอหรือเปล่า แต่ที่พอรู้แน่ ๆ ประเทศไทยเก่งงานทางด้านโยธามาก
สามารถสร้างเองได้สบาย ๆ นี่เป็นสาเหตุที่เราสามารถสร้างเองได้หลาย ๆ อย่างด้วยหรือเปล่าครับ
เครดิต: ในรูปครับ
edited : เพิ่มรูป