รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คุณไพรินทร์ ชูโชติถาวร ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ระบบรางกำลังจะกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของอุตสาหกรรมการบินในประเทศ โดยเฉพาะเมื่อรถไฟความเร็วสูงออกมาให้บริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะคนรุ่นใหม่นิยมลองของใหม่ และสนใจการเดินทางด้วยระบบราง ต่อให้ราคาค่าบริการรถไฟจะสูงกว่าเครื่องบินก็ยอม ดังนั้น กรมท่าอากาศยานจะต้องเตรียมรับมือให้ดีกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
สอดคล้องกับรายงานการวิจัยจากต่างประเทศที่ระบุว่า
รถไฟฟ้าความเร็วสูงและเครื่องบินจะเป็นคู่แข่งที่สูสีกันในระยะการเดินทางไม่เกิน 1,000 กิโลเมตร โดยระยะเวลาในการเดินทางและค่าโดยสารเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกพาหนะเดินทาง
นอกจากนั้นยังพบว่าในหลาย ๆ ประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ และยุโรป ที่มีบริการรถไฟความเร็วสูงเพิ่มมากขึ้นในหลายเส้นทาง และราคาค่าโดยสารอยู่ในระดับที่จ่ายได้ จะกระตุ้นการเดินทางมากขึ้น และทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ที่สุดก็จะทำให้ราคาค่าโดยสารของทั้งสองบริการถูกลงด้วย เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสาร และกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ
ปัจจุบันบริการรถไฟทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ยาวที่สุดในโลก แถมยังเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ที่มีแผนจะขยายให้ครอบคลุมทั่วโลก ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative
ในส่วนของประเทศไทยก็มีความตื่นตัวที่จะมีรถไฟความเร็วสูงสายแรกในอีก 3-4 ข้างหน้านี้ บวกกับแผนการสร้างรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางอื่น ๆ อีกหลายสาย โดยเฉพาะ รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินที่จะไปสิ้นสุดที่ระยอง ซึ่งจะช่วยสร้างความสะดวกในการเดินทางได้อย่างมาก และกระตุ้นการท่องเที่ยวและการลงทุนในภาคตะวันออก ภายใต้โครงการอีอีซี
ประโยชน์ของรถไฟความเร็วสูงจึงไม่ได้มีเพียงแค่ความคุ้มค่าจากค่าโดยสารเท่านั้น แต่มีในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหลัก นอกจากนั้นยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถกระจายการพัฒนาจากเมืองหลวงสู่เมืองภูมิภาคได้รวดเร็วที่สุดจากการเชื่อมโยงที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย
แถมข้อดีสัก 10 ข้อ ของการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยเครื่องบิน
ข้อดี
1. ราคาถูกกว่าเครื่องบิน
2. ปลอดภัยกว่า
3. นั่งรถไฟเข้าเมืองได้ (โดยสารเครื่องบิน ต้องต่อรถหรือรถไฟเพื่อเดินทางเข้าเมือง)
4. ไม่ต้องต่อคิวเช็คอินนาน ๆ (ไม่จำเป็นต้องเผื่อเวลาล่วงหน้าหลายชั่วโมง เพื่อรอเช็คอินและตรวจกระเป๋า)
5. ไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักกระเป๋า
6. สามารถนำอาหารอะไรก็ได้ขึ้นไปทานบนรถไฟได้ (เครื่องบิน ต้องสั่งบนเครื่อง)
7. เครือข่ายรถไฟกว้างกว่า (ที่สูง หุบเขา รถไฟก็สามารถเข้าไปถึงได้)
8. ดูวิวข้างทางได้ (เครื่องบินเห็นแต่เมฆกับอากาศ แถมหวาดเสียวสำหรับคนโลกกลัวความสูง)
9. เหยียดขาได้ เดินเล่นได้ ไปนั่งพักที่ตู้เสบียงได้
10. สนุกสนานกับเพื่อน ๆ ได้มากกว่า เช่น ถ่ายรูป เล่นเกมส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ ฉบับประจำวันที่ 18-20 ม.ค. 2561
ภาพจาก bombardier, china daily
รถไฟความเร็วสูง คู่แข่งมาแรงของสายการบิน
สอดคล้องกับรายงานการวิจัยจากต่างประเทศที่ระบุว่า รถไฟฟ้าความเร็วสูงและเครื่องบินจะเป็นคู่แข่งที่สูสีกันในระยะการเดินทางไม่เกิน 1,000 กิโลเมตร โดยระยะเวลาในการเดินทางและค่าโดยสารเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกพาหนะเดินทาง
นอกจากนั้นยังพบว่าในหลาย ๆ ประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ และยุโรป ที่มีบริการรถไฟความเร็วสูงเพิ่มมากขึ้นในหลายเส้นทาง และราคาค่าโดยสารอยู่ในระดับที่จ่ายได้ จะกระตุ้นการเดินทางมากขึ้น และทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ที่สุดก็จะทำให้ราคาค่าโดยสารของทั้งสองบริการถูกลงด้วย เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสาร และกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ
ปัจจุบันบริการรถไฟทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ยาวที่สุดในโลก แถมยังเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ที่มีแผนจะขยายให้ครอบคลุมทั่วโลก ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative
ในส่วนของประเทศไทยก็มีความตื่นตัวที่จะมีรถไฟความเร็วสูงสายแรกในอีก 3-4 ข้างหน้านี้ บวกกับแผนการสร้างรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางอื่น ๆ อีกหลายสาย โดยเฉพาะ รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินที่จะไปสิ้นสุดที่ระยอง ซึ่งจะช่วยสร้างความสะดวกในการเดินทางได้อย่างมาก และกระตุ้นการท่องเที่ยวและการลงทุนในภาคตะวันออก ภายใต้โครงการอีอีซี
ประโยชน์ของรถไฟความเร็วสูงจึงไม่ได้มีเพียงแค่ความคุ้มค่าจากค่าโดยสารเท่านั้น แต่มีในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหลัก นอกจากนั้นยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถกระจายการพัฒนาจากเมืองหลวงสู่เมืองภูมิภาคได้รวดเร็วที่สุดจากการเชื่อมโยงที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย
แถมข้อดีสัก 10 ข้อ ของการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยเครื่องบิน
ข้อดี
1. ราคาถูกกว่าเครื่องบิน
2. ปลอดภัยกว่า
3. นั่งรถไฟเข้าเมืองได้ (โดยสารเครื่องบิน ต้องต่อรถหรือรถไฟเพื่อเดินทางเข้าเมือง)
4. ไม่ต้องต่อคิวเช็คอินนาน ๆ (ไม่จำเป็นต้องเผื่อเวลาล่วงหน้าหลายชั่วโมง เพื่อรอเช็คอินและตรวจกระเป๋า)
5. ไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักกระเป๋า
6. สามารถนำอาหารอะไรก็ได้ขึ้นไปทานบนรถไฟได้ (เครื่องบิน ต้องสั่งบนเครื่อง)
7. เครือข่ายรถไฟกว้างกว่า (ที่สูง หุบเขา รถไฟก็สามารถเข้าไปถึงได้)
8. ดูวิวข้างทางได้ (เครื่องบินเห็นแต่เมฆกับอากาศ แถมหวาดเสียวสำหรับคนโลกกลัวความสูง)
9. เหยียดขาได้ เดินเล่นได้ ไปนั่งพักที่ตู้เสบียงได้
10. สนุกสนานกับเพื่อน ๆ ได้มากกว่า เช่น ถ่ายรูป เล่นเกมส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้