สวัสดีค่ะทุกท่าน เรามีประเด็นปัญหาในที่ทำงานของเรา อยากทราบความคิดเห็นจากเพื่อนๆ หากใครมีคำแนะนำว่าเราควรทำยังไง แชร์เราได้นะคะ
สถานการณ์
ตัวเรา : เพิ่งย้ายมาทำงานที่ปัจจุบันได้ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ (ยังไม่ผ่านโปร) ในช่วงสองเดือนแรก ภาพรวมทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาที่หนักเกินไปสำหรับเรานะคะ เพราะเราก็ทำงานมาหลายปีหลายที่ ปัญหาเล็กๆน้อยๆ เราพออดทน แก้ปัญหาได้ค่ะ เรื่องงานก็พอถูไถ แต่เมื่อหลังเปิดปีใหม่ที่ผ่านมา เราต้องย้ายที่นั่งทำงานมาอีกชั้นนึงตามเจ้านายค่ะ เนื่องจากมีการปรับโยกย้ายแผนก ซึ่งในส่วนของบริษัทที่เราทำงานอยู่ปัจจุบัน ก็ถือเป็นบริษัทใหญ่ของคนไทยนะคะ แต่ยังดำเนินงานแบบธุรกิจครอบครัว (Family Business) อยู่ค่ะ
ปัญหา ณ ที่ทำงาน: ผู้บริหาร (ซึ่งเป็นเจ้านายของนายเราคนปัจจุบันหลังจากการปรับโยกย้ายแผนก) สูบบุหรี่ในห้องแอร์ที่เราทำงานเลยค่ะ วันละหลายรอบ หลายมวน ยิ่งแกเครียด ก็จะยิ่งสูบหลายหน คือตัวผู้บริหารคนนี้ทำงานที่นี่มาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกหลายสิบปี ถือเป็นผู้อาวุโส มีคนเคารพนับถือ และมีประสบการณ์ทำงานมากๆ แต่...แกนั่งสูบบุหรี่ ณ ที่ที่แกนั่งทำงานและเราๆ พนักงานทำงานเลยค่ะ ที่หนักคือ พี่ๆ พนักงานที่ทำงานมาก่อนเราหลายสิบปีหรือแม้จะไม่กี่ปี ทุกคนในบริเวณนั้น เลือกที่จะทนสูดดมควันบุหรี่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลยค่ะ ได้แต่ทนอยู่ทนดมกันไป เหมือนเป็นวัฒนธรรมองค์กรในแผนกบริเวณนั้น 555+ แต่ส่วนตัวเรารับไม่ได้เลยค่ะ เพราะทำงานมาหลายปีหลายที่ ทั้งองค์กรไทย ทั้งต่างชาติ มีพี่หรือเพื่อนร่วมงานที่สูบบุหรี่ก็จริง แต่เค้าก็จะหลบไปสูบนอกอาคารในที่ที่จัดเอาไว้ให้ เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นที่ไม่ได้สูบกัน อีกอย่าง เราคิดว่าเรื่องสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่สะอาดและปลอดภัย ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พนักงานทุกคนต้องได้รับนะคะ ซึ่งการสูบบุหรี่ในที่ที่มีคนนั่งทำงาน น่าจะละเมิดสิทธิของพนักงานอย่างเราๆ ที่ไม่ได้สูบ โดยที่นี่เป็นที่แรกที่เราเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยค่ะ
การแก้ปัญหาที่เราลองทำแล้ว: เราปรึกษาเจ้านายเรา ซึ่งตำแหน่งสูงและจริงๆแล้วน่าจะมีความสามารถในการเจรจาได้อยู่ค่ะ (นายเราเป็นลูกหลานเจ้าของบริษัท) แต่นายเราก็ไม่กล้าพูดเช่นกันค่ะ เพราะผู้บริหารคนนี้ถือว่าช่วยบุกเบิกธุรกิจกับครอบครัวแกมา วิธีแก้ปัญหาของแกคือที่ปลายเหตุและชั่วครั้งชั่วคราวมากๆ คือ ให้เราใช้วิธีเดินหลบออกไปเวลาที่มีการสูบ แต่ในทางปฏิบัติ มันทำให้เราทำงานได้น้อยมาก หากวันๆ จะต้องลุกเดินหนีไปวันละหลายๆรอบ รวมถึงเราก็มึนหัวเวลาได้กลิ่นบุหรี่ เราเลยลองปรึกษานายเราอีกครั้ง แกก็จะเลื่อนให้เรานั่งโต๊ะที่ห่างออกไปอีกนิดนึง สลับกับพี่อีกคนนึง เพื่อให้เราได้กลิ่นน้อยลง แต่ยังไงเราก็ได้ควันบุหรี่เหมือนเดิมอยู่ดี -_-'' หากเราจะย้ายไปนั่งที่อื่นก็น่าจะยาก เพราะนายเรานั่งตรงนี้ จะให้เราแยกไปนั่งตรงอื่นที่ไม่ได้กลิ่นควันบุหรี่เลยคนเดียวก็น่าจะยากค่ะ
เราควรทำอย่างไรดีคะ ในเมื่อเราลองพูดกับคนที่น่าจะช่วยเราได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดูจะเป็นรูปธรรม เราลองมาคิดๆดูว่า หรือเราจะยอมทนดมไปเหมือนคนอื่นๆ ดี ขนาดนายเราซึ่งเป็นลูกหลานเจ้าของบริษัท หรือพี่ๆ คนที่ทำงานมาก่อนเรายังต้องทนและทนได้ แต่เราก็คิดว่าในส่วนตัวเราเอง คิดว่าถึงทำงานได้เงินเดือน ก็ไม่คุ้มเสียกับสุขภาพในระยะยาว เพราะมันเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงมาก ตัวเราเองก็ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ คนรอบข้างในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทก็ไม่มีคนสูบ แต่เราต้องมาสูบควันบุหรี่ในที่ที่นั่งทำงานแทน
จะให้หางานใหม่ เราก็ยังอยากให้เป็นทางเลือกท้ายๆ อยู่ค่ะ เพราะก่อนมาทำงานที่นี่ เราก็เปลี่ยนงานมาแล้วหนึ่งหน (ที่ทำงานก่อนมาทำงานที่นี่ ทำงานไม่ถึงหนึ่งปี) เลยไม่อยากให้ประวัติการทำงานเสียเพราะย้ายงานบ่อยค่ะ แต่ประเด็นคือ ปัญหาที่เจอ ณ ตอนนี้ มันไม่ได้มาจากเรื่องการทำงานเป็นหลัก
หากมีคำแนะนำว่าเราควรแก้ปัญหาอย่างไร แนะนำเราได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
ผู้บริหารสูบบุหรี่ในห้องแอร์ที่ทำงาน เผื่อแผ่ควันบุหรี่ให้พนักงานด้วย ควรทำอย่างไรดีคะ?
สถานการณ์
ตัวเรา : เพิ่งย้ายมาทำงานที่ปัจจุบันได้ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ (ยังไม่ผ่านโปร) ในช่วงสองเดือนแรก ภาพรวมทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาที่หนักเกินไปสำหรับเรานะคะ เพราะเราก็ทำงานมาหลายปีหลายที่ ปัญหาเล็กๆน้อยๆ เราพออดทน แก้ปัญหาได้ค่ะ เรื่องงานก็พอถูไถ แต่เมื่อหลังเปิดปีใหม่ที่ผ่านมา เราต้องย้ายที่นั่งทำงานมาอีกชั้นนึงตามเจ้านายค่ะ เนื่องจากมีการปรับโยกย้ายแผนก ซึ่งในส่วนของบริษัทที่เราทำงานอยู่ปัจจุบัน ก็ถือเป็นบริษัทใหญ่ของคนไทยนะคะ แต่ยังดำเนินงานแบบธุรกิจครอบครัว (Family Business) อยู่ค่ะ
ปัญหา ณ ที่ทำงาน: ผู้บริหาร (ซึ่งเป็นเจ้านายของนายเราคนปัจจุบันหลังจากการปรับโยกย้ายแผนก) สูบบุหรี่ในห้องแอร์ที่เราทำงานเลยค่ะ วันละหลายรอบ หลายมวน ยิ่งแกเครียด ก็จะยิ่งสูบหลายหน คือตัวผู้บริหารคนนี้ทำงานที่นี่มาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกหลายสิบปี ถือเป็นผู้อาวุโส มีคนเคารพนับถือ และมีประสบการณ์ทำงานมากๆ แต่...แกนั่งสูบบุหรี่ ณ ที่ที่แกนั่งทำงานและเราๆ พนักงานทำงานเลยค่ะ ที่หนักคือ พี่ๆ พนักงานที่ทำงานมาก่อนเราหลายสิบปีหรือแม้จะไม่กี่ปี ทุกคนในบริเวณนั้น เลือกที่จะทนสูดดมควันบุหรี่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลยค่ะ ได้แต่ทนอยู่ทนดมกันไป เหมือนเป็นวัฒนธรรมองค์กรในแผนกบริเวณนั้น 555+ แต่ส่วนตัวเรารับไม่ได้เลยค่ะ เพราะทำงานมาหลายปีหลายที่ ทั้งองค์กรไทย ทั้งต่างชาติ มีพี่หรือเพื่อนร่วมงานที่สูบบุหรี่ก็จริง แต่เค้าก็จะหลบไปสูบนอกอาคารในที่ที่จัดเอาไว้ให้ เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นที่ไม่ได้สูบกัน อีกอย่าง เราคิดว่าเรื่องสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่สะอาดและปลอดภัย ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พนักงานทุกคนต้องได้รับนะคะ ซึ่งการสูบบุหรี่ในที่ที่มีคนนั่งทำงาน น่าจะละเมิดสิทธิของพนักงานอย่างเราๆ ที่ไม่ได้สูบ โดยที่นี่เป็นที่แรกที่เราเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยค่ะ
การแก้ปัญหาที่เราลองทำแล้ว: เราปรึกษาเจ้านายเรา ซึ่งตำแหน่งสูงและจริงๆแล้วน่าจะมีความสามารถในการเจรจาได้อยู่ค่ะ (นายเราเป็นลูกหลานเจ้าของบริษัท) แต่นายเราก็ไม่กล้าพูดเช่นกันค่ะ เพราะผู้บริหารคนนี้ถือว่าช่วยบุกเบิกธุรกิจกับครอบครัวแกมา วิธีแก้ปัญหาของแกคือที่ปลายเหตุและชั่วครั้งชั่วคราวมากๆ คือ ให้เราใช้วิธีเดินหลบออกไปเวลาที่มีการสูบ แต่ในทางปฏิบัติ มันทำให้เราทำงานได้น้อยมาก หากวันๆ จะต้องลุกเดินหนีไปวันละหลายๆรอบ รวมถึงเราก็มึนหัวเวลาได้กลิ่นบุหรี่ เราเลยลองปรึกษานายเราอีกครั้ง แกก็จะเลื่อนให้เรานั่งโต๊ะที่ห่างออกไปอีกนิดนึง สลับกับพี่อีกคนนึง เพื่อให้เราได้กลิ่นน้อยลง แต่ยังไงเราก็ได้ควันบุหรี่เหมือนเดิมอยู่ดี -_-'' หากเราจะย้ายไปนั่งที่อื่นก็น่าจะยาก เพราะนายเรานั่งตรงนี้ จะให้เราแยกไปนั่งตรงอื่นที่ไม่ได้กลิ่นควันบุหรี่เลยคนเดียวก็น่าจะยากค่ะ
เราควรทำอย่างไรดีคะ ในเมื่อเราลองพูดกับคนที่น่าจะช่วยเราได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดูจะเป็นรูปธรรม เราลองมาคิดๆดูว่า หรือเราจะยอมทนดมไปเหมือนคนอื่นๆ ดี ขนาดนายเราซึ่งเป็นลูกหลานเจ้าของบริษัท หรือพี่ๆ คนที่ทำงานมาก่อนเรายังต้องทนและทนได้ แต่เราก็คิดว่าในส่วนตัวเราเอง คิดว่าถึงทำงานได้เงินเดือน ก็ไม่คุ้มเสียกับสุขภาพในระยะยาว เพราะมันเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงมาก ตัวเราเองก็ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ คนรอบข้างในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทก็ไม่มีคนสูบ แต่เราต้องมาสูบควันบุหรี่ในที่ที่นั่งทำงานแทน
จะให้หางานใหม่ เราก็ยังอยากให้เป็นทางเลือกท้ายๆ อยู่ค่ะ เพราะก่อนมาทำงานที่นี่ เราก็เปลี่ยนงานมาแล้วหนึ่งหน (ที่ทำงานก่อนมาทำงานที่นี่ ทำงานไม่ถึงหนึ่งปี) เลยไม่อยากให้ประวัติการทำงานเสียเพราะย้ายงานบ่อยค่ะ แต่ประเด็นคือ ปัญหาที่เจอ ณ ตอนนี้ มันไม่ได้มาจากเรื่องการทำงานเป็นหลัก
หากมีคำแนะนำว่าเราควรแก้ปัญหาอย่างไร แนะนำเราได้นะคะ ขอบคุณค่ะ