หลังจากเกิดกรณีมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนของผู้อื่น ไปเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารถึง 7 แห่ง หลอกโอนเงิน ถอนเงินจากเหยื่อ จนสร้างความเสียหายให้ทั้งเจ้าของบัตรประชาชนถึงขั้นถูกดำเนินคดี และยังเหยื่อที่ถูกหลอกให้โอนเงินต้องสญเสียทรัพย์อีก

สมาคมธนาคารไทยเตรียมนำระบบการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลแบบใหม่มาใช้ภายในกลางปีนี้
โดยนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย บอกว่าเพื่อป้องกันการฉ้อโกงทางการเงินและไม่ให้กระทบต่อประชาชน จึงร่วมมือกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท.) ในการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Nation Digital ID (เนชั่น ดิจิทัล ไอดี) และนำมาใช้ตรวจสอบยืนยันตัวตนแทน โดยคาดว่าจะช่วยป้องกันการทุจริตทางการเงิน และ ช่วยสกัดการฉ้อโกง เพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการทางการเงินมากขึ้น

รวมถึงระบบ E-Identity (อี-ไอเดนทิตี้) ที่จะนำมาใช้จะมีศักยภาพมากกว่าเครื่องอ่านระบบสมาร์ทการ์ดของมหาดไทย เพราะจะใช้ควบคู่กับเครื่องมือของแบงก์ และการพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับลูกค้าและประชาชน รวมทั้งต้องวางกฎระเบียบให้รัดกุมมากขึ้นทั้งเรื่องความพร้อมของเอกสารและการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลเมื่อเข้ามาเปิดบัญชีและใช้บริการภายในธนาคาร

ก่อนหน้านี้ สมาคมธนาคารไทยออกประกาศชี้แจง พร้อมกำชับพนักงานให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบการเปิดบัญชีเพื่อรับฝากเงินอย่างเคร่งครัด โดยขั้นตอนการเปิดบัญชีปัจจุบัน มีขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ได้แก่ จัดให้ลูกค้าแสดงตน โดยให้แสดงข้อมูลและหลักฐาน บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี / ตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานการแสดงตน โดยตรวจสอบบัตรผ่านเครื่องอ่านบัตร Smart Card Reader ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการอ่านบัตรประชาชนปรากฏตรงกับข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชน / ตรวจสอบตัวตนของลูกค้ากับบัตรประชาชนที่นำมาเปิดบัญชี ว่าเป็นบุคคลเดียวกัน / และตรวจสอบข้อมูลการแสดงตนของลูกค้าบนใบคำขอเปิดบัญชีว่าตรงกับข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชน