ปกติ จะเช็คสุขภาพทางการเงินทุกปี
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ต้องบอกว่าหมดไฟไปพอสมควร อาจเป็นเพราะภาระงานที่มากขึ้นมหาศาล
จนเวลาว่างที่คิดจะสร้างสรรค์ทำสิ่งต่างๆ น้อยลงไปมาก ต้องเอาเวลาส่วนหนึ่งไปดูแลครอบครัว คนรอบข้าง
ถึงแม้นกระนั้น เพื่อนบางคนเริ่มตายจากไป รวมถึงใกล้ตัว
จนมีความรู้สึกว่าเงินไม่ได้มีความหมาย และต้องการเวลา ว่างมากกว่า อาจเป็นเพราะทำงานประจำที่หนักมากขึ้นในปีนี้โดยเฉพาะงานในระบบราชการ
ทั้งที่จริงแล้วรายได้จากระบบนาชการได้งินแค่ 10 % จากรายรับทั้งหมด และนั้นจึงต้องวางแผน early เพราะหากทำต่ออาจตายก่อนกำหนด
ธุรกิจในครอบครัวมีปัญหาบ้างแต่ดีกว่าเดิมมาก
ผลตอบแทนจากการลงทุน อยู่ในเกณดี แต่ไม่ได้ดีมาก รายได้จากการลงทุนมากกว่างานประจำหลักมาหลายปีแล้ว ปีนี้จะมีรายได้เพิ่มจาการลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 8 แสน หุ้นได้เข้าซื้อมากขึ้น แต่ยังเล่นแพ้ตลาด และเริ่มเข้าสะสมในกลุ่มที่ ยังขึ้นช้ากว่าตลาด เช่ยในกลุ่มสทื่อสาร INtuch advanc
และ port หุ้นจะแตะล้านปีนี้เป็นปีแรก ใน 5 ปีนี้จะทยอยเก็บให้ครบ 10 ล้าน บาทให้ได้ผลตอบแทนปันผล 5 แสนต่อปีก็ OK แล้ว แต่ก็ไม่งายเพราะหุ้นไทยเป็นตลาดเก็งกำไร
ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว ราว 8 ล้าน ความมั่งคั่งสุดทธิเพิ่มมาราว 6.8 ล้าน มาจากการลงทุนในอสังหาและ ธุรกิจส่วนตัวและในครอบครัว
การวางแผน ที่จะ early retired ยังคงอยู่ในเส้นทางแม้นว่า จะก่อหนี้ ขึ้นเพิ่มเติมโดยไม่ตั้งใจแต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีไม่ได้แย่อะไร
เปรียบเทียบกับปี 2556-2557 2557-2558 2558-2559 2560-2561
ปีนี้ 2560-2561 ได้ลงทุนทรัพย์สินไปอีก 1ชิ้น ได้มาแบบไม่ตั้งใจ เงินกู้เดิมลดลง แต่ปลายปี ต้องเอาทรัพย์สินเดิมไปกู้ มาบางส่วนเพื่อซื้อทรัพย์สินใหม่ทำให้ ส่วนหนึ้เลยยังคงเดิมไม่ได้ลด แต่ส่วนทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น
อสังหาส่วนใหญ่ถึงระยะเวลาซ่อมหลายหลังทำให้รายได้หายไป และยังเป็นปีที่ซ่อมบ้านที่ทยอยเข้าสู่ระยะซ่อม เงินค่าเช่า ต้องเปลี่ยนมาเป็นค่าซ่อมเกือบหมด ซ่อมบ้านไปราว 4 แสนบาทในปีนี้ทำให้ผลตอบแทนปีนี้ลดลงไปพอควร เพราะช่วงซ่อมบ้านก้ไม่มีคนเข้าพัก
ปีนี้ลงทุนในตราสารมากขึ้นเเพราะหุ้นส่วนใหญ่ หากจับถูกตัวอยู่ในขาขึ้น แต่ยังถือว่าน้อยมาก
ผลการออมใน กบข แตะ 1.5 ล้าน บาท ผลตอบแทนใน กบข ราว 25 % เงินใน port LTF ผลตอบแทนราว 25 % เหมือนกัน แต่ port ไม่มากเพราะขายเอาเงินบางส่วนมาโปะบ้าน
หนี้สินรวม/สินทรัพย์รวม (2557) 0.356 ----> (2558) 0.2725-------> (2559)0.24 -------------> (2560)0.178 ---->
2561)0.177 หนี้สินเก่าหมดแต่ซื่อบ้านเพิ่ม ทำให้อัตราส่วนไม่ต่างจากเดิม
อัตราส่วนการชำระคืนหนี้สินจากรายได้
การชะระคืนหนี้สินต่อปี/รายรับต่อปี =(2557) 0.20-----> (2558) 0.186------> (2559) 0.18-------> (2560)0.155 ------>
2561)0.129 หนี้เพิ่ม แต่รายรับเพิ่มากกว่า อัตราส่วนเลยลด
ปีนี้ธนาคารการกู้เงินจากธนาคารที่มีความระมัดระวังในการปล่อยกู้มากๆ กู้ยากมาก เงินจากอสังหาบ้านหลายหลังปิดหมดไปแล้วแต่ยังขึ้นในเครดิตบูโร ผลคือกู้เงินไม่ได้ ต้องใช้บ้านที่ ปลอดหนี้ไปเข้า refinance หรือ homeloan ออกมา ส่วนตัวมองว่าธนาคารกลัวจนขี้ขึ้นสมองมาก บ้านปิดหมดไปแล้วยังขึ้นเครดิตบูโร ถามธนาคารเขาบอกว่ากันการเก็งกำไร เอ่ออันที่จริงบ้านที่ซื้อไป ผมก็ยังไม่ได้ขายออกสักหลังเลยอะ
การชะระคืนหนี้สินต่อปี/รายรับจากการลงทุนต่อปี =(2557) 0.756----> (2558) 0.84------> (2559) 0.56 ---------> (2560)0.47 -----(2561) 0.45 ไม่ต่างจากเดิมมากรายได้จากของใหม่เข้ามา แต่ของเก่าเข้าสู่ระยะซ่อม ปีนี้คิดว่า อัตราส่วนจะน้อยกว่า 0.4 เป็นปีแรกจากขาขึ้นจากการลงทุน
อัตราส่วนการออมต่อปี/รายรับต่อปี 66%-------------->69.6%-------------->59%-------------->74% --------70 %
อัตราส่วนสร้างรายได้จากสินทรัพย์ลงทุน/รายได้รวม
27% ------->22%-------> 36% ------->36%------>28 % รายได้จาการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งเข้าสู่ระยะซ่อม รายได้จากการใช้แรงก็เพิ่มขึ้น
อัตราส่วนอิสระภาพทางการเงิน 0.76----------0.72----------->0.92------>1.46 -------->1.081 คิดที่รายจ่ายเดือนละ 1แสน อัตราส่วนลดลงเพราะกู้หนึ้เพิ่ม และรายได้จากอสังหาส่วนหนึ่งหายไปจากการซ่อม
อัตราส่วนนี้คิดจากคนเดียว แต่หากมองจากคนรอบตัวครอบครัว อัตราส่วนนี้น่าจะเป็นอัตราส่วนลวงตา เพราะอาจต้องคิดถึง cover รายจ่ายคนรอบข้างทั้งหมด
โดยสรุปในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่เหนื่อยจากงานประจำมาก ทรัพย์สินเพิ่ม รายได้เพิ่มแต่คุณภาพชีวิตแย่ลง และอัตราส่วนทางการเงินไม่ได้ดีขึ้นอาจเพราะรายรับจากการลงทุนลดลง ปกติจะหาลูกค้าเก่งแต่ปีนี้ขึ้เกียจไม่อยากคุย ไม่active หาลูกค้าอาจเพราะล้าจากงานประจำ
จนตอนนี้เงินไม่อยากได้ แต่อยากได้เวลาว่างมากกว่า
อัตราส่วนทางการเงิน ประจำปี 2560-2561
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ต้องบอกว่าหมดไฟไปพอสมควร อาจเป็นเพราะภาระงานที่มากขึ้นมหาศาล
จนเวลาว่างที่คิดจะสร้างสรรค์ทำสิ่งต่างๆ น้อยลงไปมาก ต้องเอาเวลาส่วนหนึ่งไปดูแลครอบครัว คนรอบข้าง
ถึงแม้นกระนั้น เพื่อนบางคนเริ่มตายจากไป รวมถึงใกล้ตัว
จนมีความรู้สึกว่าเงินไม่ได้มีความหมาย และต้องการเวลา ว่างมากกว่า อาจเป็นเพราะทำงานประจำที่หนักมากขึ้นในปีนี้โดยเฉพาะงานในระบบราชการ
ทั้งที่จริงแล้วรายได้จากระบบนาชการได้งินแค่ 10 % จากรายรับทั้งหมด และนั้นจึงต้องวางแผน early เพราะหากทำต่ออาจตายก่อนกำหนด
ธุรกิจในครอบครัวมีปัญหาบ้างแต่ดีกว่าเดิมมาก
ผลตอบแทนจากการลงทุน อยู่ในเกณดี แต่ไม่ได้ดีมาก รายได้จากการลงทุนมากกว่างานประจำหลักมาหลายปีแล้ว ปีนี้จะมีรายได้เพิ่มจาการลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 8 แสน หุ้นได้เข้าซื้อมากขึ้น แต่ยังเล่นแพ้ตลาด และเริ่มเข้าสะสมในกลุ่มที่ ยังขึ้นช้ากว่าตลาด เช่ยในกลุ่มสทื่อสาร INtuch advanc
และ port หุ้นจะแตะล้านปีนี้เป็นปีแรก ใน 5 ปีนี้จะทยอยเก็บให้ครบ 10 ล้าน บาทให้ได้ผลตอบแทนปันผล 5 แสนต่อปีก็ OK แล้ว แต่ก็ไม่งายเพราะหุ้นไทยเป็นตลาดเก็งกำไร
ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว ราว 8 ล้าน ความมั่งคั่งสุดทธิเพิ่มมาราว 6.8 ล้าน มาจากการลงทุนในอสังหาและ ธุรกิจส่วนตัวและในครอบครัว
การวางแผน ที่จะ early retired ยังคงอยู่ในเส้นทางแม้นว่า จะก่อหนี้ ขึ้นเพิ่มเติมโดยไม่ตั้งใจแต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีไม่ได้แย่อะไร
เปรียบเทียบกับปี 2556-2557 2557-2558 2558-2559 2560-2561
ปีนี้ 2560-2561 ได้ลงทุนทรัพย์สินไปอีก 1ชิ้น ได้มาแบบไม่ตั้งใจ เงินกู้เดิมลดลง แต่ปลายปี ต้องเอาทรัพย์สินเดิมไปกู้ มาบางส่วนเพื่อซื้อทรัพย์สินใหม่ทำให้ ส่วนหนึ้เลยยังคงเดิมไม่ได้ลด แต่ส่วนทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น
อสังหาส่วนใหญ่ถึงระยะเวลาซ่อมหลายหลังทำให้รายได้หายไป และยังเป็นปีที่ซ่อมบ้านที่ทยอยเข้าสู่ระยะซ่อม เงินค่าเช่า ต้องเปลี่ยนมาเป็นค่าซ่อมเกือบหมด ซ่อมบ้านไปราว 4 แสนบาทในปีนี้ทำให้ผลตอบแทนปีนี้ลดลงไปพอควร เพราะช่วงซ่อมบ้านก้ไม่มีคนเข้าพัก
ปีนี้ลงทุนในตราสารมากขึ้นเเพราะหุ้นส่วนใหญ่ หากจับถูกตัวอยู่ในขาขึ้น แต่ยังถือว่าน้อยมาก
ผลการออมใน กบข แตะ 1.5 ล้าน บาท ผลตอบแทนใน กบข ราว 25 % เงินใน port LTF ผลตอบแทนราว 25 % เหมือนกัน แต่ port ไม่มากเพราะขายเอาเงินบางส่วนมาโปะบ้าน
หนี้สินรวม/สินทรัพย์รวม (2557) 0.356 ----> (2558) 0.2725-------> (2559)0.24 -------------> (2560)0.178 ---->2561)0.177 หนี้สินเก่าหมดแต่ซื่อบ้านเพิ่ม ทำให้อัตราส่วนไม่ต่างจากเดิม
อัตราส่วนการชำระคืนหนี้สินจากรายได้
การชะระคืนหนี้สินต่อปี/รายรับต่อปี =(2557) 0.20-----> (2558) 0.186------> (2559) 0.18-------> (2560)0.155 ------>2561)0.129 หนี้เพิ่ม แต่รายรับเพิ่มากกว่า อัตราส่วนเลยลด
ปีนี้ธนาคารการกู้เงินจากธนาคารที่มีความระมัดระวังในการปล่อยกู้มากๆ กู้ยากมาก เงินจากอสังหาบ้านหลายหลังปิดหมดไปแล้วแต่ยังขึ้นในเครดิตบูโร ผลคือกู้เงินไม่ได้ ต้องใช้บ้านที่ ปลอดหนี้ไปเข้า refinance หรือ homeloan ออกมา ส่วนตัวมองว่าธนาคารกลัวจนขี้ขึ้นสมองมาก บ้านปิดหมดไปแล้วยังขึ้นเครดิตบูโร ถามธนาคารเขาบอกว่ากันการเก็งกำไร เอ่ออันที่จริงบ้านที่ซื้อไป ผมก็ยังไม่ได้ขายออกสักหลังเลยอะ
การชะระคืนหนี้สินต่อปี/รายรับจากการลงทุนต่อปี =(2557) 0.756----> (2558) 0.84------> (2559) 0.56 ---------> (2560)0.47 -----(2561) 0.45 ไม่ต่างจากเดิมมากรายได้จากของใหม่เข้ามา แต่ของเก่าเข้าสู่ระยะซ่อม ปีนี้คิดว่า อัตราส่วนจะน้อยกว่า 0.4 เป็นปีแรกจากขาขึ้นจากการลงทุน
อัตราส่วนการออมต่อปี/รายรับต่อปี 66%-------------->69.6%-------------->59%-------------->74% --------70 %
อัตราส่วนสร้างรายได้จากสินทรัพย์ลงทุน/รายได้รวม
27% ------->22%-------> 36% ------->36%------>28 % รายได้จาการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งเข้าสู่ระยะซ่อม รายได้จากการใช้แรงก็เพิ่มขึ้น
อัตราส่วนอิสระภาพทางการเงิน 0.76----------0.72----------->0.92------>1.46 -------->1.081 คิดที่รายจ่ายเดือนละ 1แสน อัตราส่วนลดลงเพราะกู้หนึ้เพิ่ม และรายได้จากอสังหาส่วนหนึ่งหายไปจากการซ่อม
อัตราส่วนนี้คิดจากคนเดียว แต่หากมองจากคนรอบตัวครอบครัว อัตราส่วนนี้น่าจะเป็นอัตราส่วนลวงตา เพราะอาจต้องคิดถึง cover รายจ่ายคนรอบข้างทั้งหมด
โดยสรุปในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่เหนื่อยจากงานประจำมาก ทรัพย์สินเพิ่ม รายได้เพิ่มแต่คุณภาพชีวิตแย่ลง และอัตราส่วนทางการเงินไม่ได้ดีขึ้นอาจเพราะรายรับจากการลงทุนลดลง ปกติจะหาลูกค้าเก่งแต่ปีนี้ขึ้เกียจไม่อยากคุย ไม่active หาลูกค้าอาจเพราะล้าจากงานประจำ
จนตอนนี้เงินไม่อยากได้ แต่อยากได้เวลาว่างมากกว่า