▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
กล้องฟิล์ม
กล้อง Olympus
ภาพถ่ายฟิล์ม
จังหวัดเชียงใหม่
บันทึกนักเดินทาง
เชียงใหม่กับกล้องฟิล์ม OLYMPUS OM10 ครั้งที่ 2
เริ่มเดินทางวันที่ 27/12/2017 ตอนบ่ายสามโมงครึ่งด้วยรถไฟหวานเย็นที่นั่งจนขาบวนกันเลยทีเดียว
เรานั่งไปคนเดินไปเจอกับแก๊งที่เชียงใหม่อีกที และได้เพื่อนร่วมทางใหม่เป็นคุณป้าที่นั่งคุยกันไป ดีนะไปเร็วคนไม่เยอะ
วันนั้นฝนตกโปรยปรายตลอดทาง
ด้านซ้ายก็เด็กฝรั่งโตขึ้นมาคงหล่อมิใช่น้อย พยายามถ่ายด้วย f1.8 รู้ว่าต้องเบลอแน่นอน
มาถึงเชียงใหม่ตอนตี 5 เค้าให้เช็คอินตอนบ่าย 2 เลยต้องนั่งสองแถวแดงจากสถานีรถไฟ มาหาของกิน ที่ตลาดวโรรส
วันนี้ฝนตกตลอด ก็เลยได้น้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ร้อนๆ ลองท้องตอนเช้า เพราะมันถูกสุดแล้วล่ะ
กินพออยู่ท้องก็เดินวนชมตลาดไปเรื่อยๆ เฮ้อต้องรอยันบ่ายสองถึงเช็คอินได้ แบกกระเป๋าแสนหนักถ่ายรูปวนไป
อ่ะแฮร่ แมวเจ้าถิ่นแห่งกาดหลวง น่ารักเวอร์ เจ้าของบอกว่านางไม่ค่อยอยู่นิ่งเวลาเค้าจะถ่ายรูป ก็จริงอย่างเค้าว่ามันซนมาก
เดินวนจนรอบตลาดแล้วนะ
เกือบเที่ยงแล้วก็เดินทางเข้าที่พัก เพื่อเช็คอินที่ห้วยแก้วพาเลซ และทิ้งกระเป๋าที่หนักอึ้ง อยู่ใกล้ตีนดอยสุเทพ อาบน้ำเสร็จ ก็นอนรอเดอะแก๊งที่กำลังบินตามกันมา
หมดไปอีกหนึ่งวัน เริ่มวันใหม่ และเพื่อนสาวที่มาครบแล้ว รถแดงที่เหมาไว้วันละ 2000 มาจอดรอดตั้งแต่ หกโมงเช้า เราเริ่มที่ใกล้ที่สุดก่อนวัดพระธาตุดอยสุเทพนั่นเอง
วิวตรงจุดชมวิวก่อนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ
หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็เดินทางต่อ มาที่ดอยม่อนเงาะ ค่าขึ้นชม 30 บาท
โอ๊ยฝันร้ายเลยที่เดียว ฟ้าปิด ขาวโพน
ก็ได้ตรงทางเดินที่จะดูสวยหน่อย
ด้านล่างมีชาวบ้านเอาส้มมาขาย แม่ค้าหน้าหวานพอกับส้ม เลยนะ
อ้าวหมดม้วนซะแล้ว เดี่ยวมาต่อม้วนที่ 3 แล้วความผิดพลาดจากการกรอฟิล์มไม่หมดม้วน แล้วเปิดฝาหลัง มันก็เสียไปเยอะเลย อยากร้องไห้
ระหว่างทางลงจากดอย ก็แวะกินขนมจีน จานละ สิบบาท ทั้งถูกและพ่อค้าก็ขี้อ้อนมากด้วย หลังจากที่เติมพลังเสร็จ ก็เช็คอินต่อที่ไร่ชาลุงเดช
หลังจากชมไร่ชา ไม่ได้จิบชาเพราะกินไม่เป็นแล้ว ก็มุ่งหน้าต่อไปอำเภอเชียงดาว เพื่อจะขึ้นไปพักที่ลานเกษตร ป่าสันเกี๋ยะ ด้วยความที่ฝนตก รถสองแถวแดงขึ้นไม่ได้ ต้องอาศัย 4wD ต้องเสียค่ารถขึ้นไปอีก 1500 บาท ตอนที่ขึ้นไปก็ใกล้มืดแล้ว ทางลำบางแสนเข็ง หฤโหดจริงๆ ไปถึงก็มืด มองไม่เห็นอะไร แต่ที่พักดีมาก เพราะเราจองบ้านพักซึ่งมีอยู่หลังเดียวได้ ค่าที่พัก 1000 บาท ห้องน้ำรวม สะอาดมาก แต่น้ำเย็นจับใจเลย
ตื่นแต่เช้า รีบไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ศูนย์วิจัยฝึกอารมที่สูง คณะเกษตร มหาลัยเชียงใหม่กันค่ะ
ที่นี่วิวสวยมาก คนไม่เยอะ เป็นอีกที่ที่ไม่อยากบอกใครเลย เพราะ กลัวคนมาเยอะ [img] ม้วนนี้รูปโดนแสงเสียงอย่างอนาถใจเลย
มาเรามาขึ้นม้วนที่ 3 (ม้วนที่ 4ในชีวิต )
หลังจากนั้นเราก็ลงจากดอยกันมุ่งหน้าไปที่ ดอยอินทนนท์ ต่อ
มาแวะที่เด็กเลี้ยงแยอินทนนท์
ต่อด้วยศูนย์เพาะพันธ์กล้วยไม้รองเท้านารีดอยอิทนนท์ ถามว่ามาดูรองเท้านารีเหรอ เปล่าจร้า ไม่ได้ดูเลย มาดูพญาเสือโคร่ง ที่ยังบานไม่กี่ต้นเฮ้อ
ก็มาถึงวันสุดท้ายของการเที่ยวเชียงใหม่แล้ว
เหลือเวลาเที่ยวอีกครี่งวันเพราะรถไฟออกบ่าย 3 เอาที่ใกล้ๆอย่าง มหาลัยเชียงใหม่ อ่างแก้วแล้วกัน ต่อด้วยคาเฟ่น้องหมา BOX BOX CAFE
ต่อด้วยตลาดต้นพยอม
ถึงเวลาโบกมือลาเชียงใหม่แล้ว เบี้ยน้อยหอยสังข์อย่างเราก็นั่งรถไฟกลับเหมือนเดิม เฮ้อ
จุดไคล์แมคของการนั่งรถไฟมาถึงแล้ว อุโมงขุนตานที่รอคอย
มาช้า แต่ไปไวมาก จบทริปกับกล้องฟิล์ม ครั้งที่ 2