รีวิวเชียงใหม่ด้วยฟิล์ม 2 ม้วน ที่เลือกใช้รูปจากกล้องฟิล์มเพราะลุ้นดี ว่าถ่ายมาแล้วจะได้รูปไหม รูปจะเบลอ ฟิล์มจะเสียหรือเปล่า
ไปค่ะ…เริ่ม !!!
ทริปนี้เรามีแพลนไว้ตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้วก่อนโควิด แต่เจ้าโควิดตัวดีก็ทำให้ทริปล่มค่ะ เราเลื่อนตั๋วไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้ฤกษ์เดินทางในเดือนมกราคมที่ผ่านมา การเดินทางจากกรุงเทพเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินไทยสมายล์ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ พวกเราขับรถไปจอดที่สนามบินค่าจอดรถอยู่ที่วันละ 250 บาททั้งหมด 4 วันก็เท่ากับ 1000 บาทหารๆ กันแล้วคุ้มอยู่นะ
เราเดินทางถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ 4 โมงครึ่ง มีรถตู้ของโรงแรมมารับที่สนามบิน เราให้พี่เค้าพาไปเที่ยวที่วัดพระธาตุดอยคำก่อนเข้าโรงแรม
ค่ารถตู้จ่ายเพิ่ม 700 บาท แต่ถ้าเรากลับโรงแรมเลยก็คือไม่เสียตังค์นะเพราะว่าอยู่ใน package ที่เราจองที่พักมาแล้ว
อ่อว่ากันด้วยเรื่องที่พักที่พักเราจองที่ Arch 39 Minimal ราคา 11,900 บาท 4 วัน 3 คืน พักได้ 7 คนแล้วก็ใน package นี้จะรถตู้รับส่งสนามบิน และพาเที่ยวสองวันซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนเค้าจะมี ให้เส้นทางให้เลือกประมาณ 9 เส้นทาง หารกันแล้วคนละ 1700 บาทคุ้มมากๆ เลย (แต่ห้องที่เราพัก เป็นห้องสำหรับครอบครัว ถ้าเป็นครอบครัวและมีเด็กตัวเล็กๆ มาด้วยก็พอดีแหละ แต่ที่เราไปอ่ะ เป็นผู้ใหญ่หมดเลย 7 คน ก็ค่อนข้างแน่นพอสมควร แล้วที่นี่ก็มีมุมอาหารเช้าเล็กๆ ให้ค่ะ เป็นขนมปัง นม คอนเฟลก)
หลังจากที่เราไหว้พระที่พระธาตุดอยคำกันเสร็จแล้วเราก็มุ่งหน้าเข้าโรงแรมเพื่อเช็คอินเก็บกระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางตะลุยกินกันค่ะ เราเดินทางไปนิมมานด้วยรถแดง ไม่ได้ไปเชียงใหม่นานเพิ่งรู้ว่ามี Grab รถแดงด้วย คือดีมาก ปกติขึ้นรถแดงก็จะคนละ 30 บาทแต่พอเรียก grab ค่ารถไปนิมมานก็จะอยู่ที่ 90 บาทคือโอเคมากๆ พวกเราเลยใช้รถแดงเป็นหลักเลยค่ะ เพราะหารกันแล้วตกคนละ 10 กว่าบาทเอง
ร้านแรกที่เราจะไปกินคือร้านต๋องเต็มโต๊ะ แต่พอไปแล้วตกใจเลยค่ะ คิวยาวมากต้องรอประมาณชั่วโมง ก็เลยไปเดินหาอะไรกินรองท้องกันก่อน เราไปเจอร้านไก่ทอดเกาหลีอยู่ใกล้ๆ เลยจัดไก่ทอดเกาหลีเบาๆไปหนึ่งชุด ร้าน RAWtruck พออิ่มแล้วเดินกลับไปที่ร้านต๋องเต็มโต๊ะปรากฏว่าเลยคิวจ้า แต่เมื่อมาถึงที่แล้วเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ก็กดคิวใหม่ไปเลยสิจ๊ะ รอไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ พอถึงคิวก็สั่งกันเหมือนลืมว่าเพิ่งกินอิ่ม แต่อาหารที่นี่อร่อยนะ เราชอบเป็นอาหารเมืองที่รสชาติพอดี สำหรับคนไม่กินอาหารเหนือแบบเรา แต่เพื่อนที่กินอาหารเหนื่อยอยู่แล้วก็บอกว่าอร่อยอยู่
กินเสร็จก็ดึกแล้ว เลยกลีว่าพรุ่งนี้เช้าเราต้องไปดอยอินทนนท์แต่เช้านัดรถตู้ไว้ 6 โมง
วันที่ 2 ณ เชียงใหม่
สวัสดีตอนเช้าค่ะ วันนี้เราออกเดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้าฝนแอบตกด้วยแหละ นี่ลุ้นมากว่าไปถึงแล้วจะเป็นยังไง เราเคยไปอินทนนท์ 3 รอบแล้ว กะว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกแต่ไม่เคยได้เจอเลยค่ะเราไปถึงดอยอินทนนท์ประมาณ 8 โมงเช้า มีฝนตกไปปรอยๆ กับหมอกหนามาก หนาจนมองอะไรไม่เห็นเลย ตอนแรกจะเดินกิ้วแม่ปานกันก็เลยถอดใจ เปลี่ยนไปพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริแทน เราไปถึงหมอกก็ยังคงลงหนามากเลยไปกินก๋วยเตี๋ยวรอกะว่าเออเดี๋ยวหมอกซาค่อยออกไปเดินเล่น แต่ไม่ค่ะยิ่งอยู่ยิ่งลงหนาเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นแบบนี้มานานแล้วอยู่ๆก็เป็นวันนี้แหละ เราเลยเดินเที่ยวทั้งอย่างนั้นเลย รูปที่ได้ก็จะประมาณนี้เลยจ้ะ
จากจุดนี้เราไปเที่ยวน้ำตกกันต่อค่ะน้ำตกก็น้ำแรงมากหนาวมากร้านกาแฟก็ปิด (คนขายล็อตเตอรี่บอกเมื่อวานหนูกัดสายไฟ วันนี้เลยปิดปรับปรุง) ไม่มีอะไรเป็นใจเลย วันนี้เลยตัดสินใจว่ากลับเข้าเมืองเลก็ได้ระหว่างทางกลับเราแวะวัดพระธาตุจอมทอง ไหว้พระธาตุแล้วก็หากาแฟกิน ชื่อร้าน ML5cafe&coffee อยู่ตรงข้ามวัดอันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาแต่ว่ากาแฟอร่อยดีนะคะ ใครที่ผ่านไปทางนั้นก็แวะได้นะคะ
เราเข้าเมืองมาก็กลับไปที่โรงแรมเลยค่ะต้องเปลี่ยนชุดกันหน่อย อากาศบนดอยกับในเมืองช่างต่างกันเหลือเกิน เสร็จแล้วแล้วก็ออกไปกินข้าวซอยนิมมานค่ะ เรียกรถแดงเหมือนเดิม เพื่อนเราชอบเข้าซอยนิมมานมาก ร้านนี้เป็นร้านโปรดของเราเลย มาทีไรก็ขอให้แวะได้แวะ ที่ร้านเค้ามีโดนัทขายด้วยนะเค้าจะมีซุ้มอยู่หน้าร้าน เห็นใครมาก็สั่งก็เลยลองสั่งมากินหนึ่งกล่องอร่อยมากตัวดิปคือดี ส่วนโดนัทก็นุ่มม
เราไปซื้อโดนัทที่ร้าน MOOH ด้วย เก็บร้านดังซะหน่อย เค้าบอกร้านนี้ดัง เราก็จัดไปทุกหน้าเลยจ้า เราว่าเนื้อโดนัทก็อร่อยดี ครีมก็ไม่หวานเลี่ยน ให้ผ่านค่ะ
อิ่มแล้วเดินไปที่วันนิมมานต่อค่ะเรามาเร็วไปหน่อยร้านยังไม่ค่อยเปิดเลยเดินถ่ายรูปนิดหน่อยก็เรียกรถแดงไปอ่างแก้ว เราไปถึงเร็วอากาศค่อนข้างร้อนก็เลยถ่ายรูปๆ หาที่นั่งแป๊บนึงแล้วก็เรียกรถกลับโรงแรมวันนี้ดูอะไรอะไรก็ไม่เป็นใจ กลับไปนอนพักก็ได้
มื้อเย็นเราสั่งของมากินที่โรงแรมค่ะ ขี้เกียจออกแล้ว สั่งไก่ทอดร้านเมื่อวาน สุกี้ช้างเผือกมากินค่ะ ช่วงนี้เห็นใครใครก็เช็คอินสุกี้ช้างเผือกจริงๆร้านอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 700 เมตร แต่ด้วยความทีวันนี้ไม่ไหวแล้วก็เลยสั่ง grab ดีกว่า สุกี้เค้าอร่อยสมคำร่ำรือจริงๆ นึกแล้วอยากกินอีกเลย
วันที่ 3 วันนี้เรานัดพี่รถตู้ 8 โมงเช้าเพื่อเดินทางไปเที่ยวแม่กำปองค่ะ เราไปถึงแม่ 10 โมงก็เดินผ่านถนนคนเดินขึ้นไปไหว้พระที่วัดคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง) แล้วก็ไปนั่งรถไปที่จุดชมวิวที่ร้านบ้านอิงดาว (ค่ารถไป-กลับคนละ 40 บาท) วิวข้างบนสวยมากอากาศก็ดี เย็นสบายไม่ได้หนาวหรือร้อนจนเกินไป เสร็จแล้วเราก็ลงมากินข้าวกันที่ร้านข้าวซอยกลอยใจแถวๆ ถนนคนเดิน เราสั่งข้าวซอยรสชาตอร่อยดีค่ะ เพื่อนๆบางคนก็สั่งน้ำเงี้ยวเค้าบอกอร่อยเหมือนกันนะ แต่ที่ชอบมากๆ เลย คือแหนมห่อใบตองค่ะ อร่อยมากจนต้องหิ้วกลับกรุงเทพคนละ 3-4 แพ็ค
จากแม่กำปองเรามาแวะโครงการหลวงตีนตกเดินเล่นแป๊บนึงค่ะ ไม่รู้จะไปไหนต่อพี่คนขับรถตู้เลยแนะนำว่าไปเที่ยวที่น้ำพุร้อนสันกำแพงไหมเพราะว่ายังมีเวลาเหลือ ก็เลยโอเคค่ะแวะก็แวะ ที่นี่เค้าจะมีจุดให้แช่เท้า มีนวดแผนไทยด้วย เรานวด 1 ชั่วโมงตัวเบาสบายเลย แวะประมาณ 2 ชั่วโมงก็กลับเข้าเมือง
วันนี้เพื่อนๆอยากกินปิ้งย่างกัน ตอนเย็นเลยไปกินที่ร้านเมียงดงเป็นปิ้งย่างเกาหลี บริการตัวเอง เราลืมเอากล้องฟิล์มไป แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปด้วย ไปถึงก็กินเลย อาหารมีให้เลือกเยอะอยู่นะคะแต่ว่าเราก็กินแต่หมูย่างแหละ รสชาติก็อร่อยดี
[CR] นานๆเที่ยวที :: รีวิวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน ด้วยฟิล์ม 2 ม้วน
หลังจากที่เราไหว้พระที่พระธาตุดอยคำกันเสร็จแล้วเราก็มุ่งหน้าเข้าโรงแรมเพื่อเช็คอินเก็บกระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางตะลุยกินกันค่ะ เราเดินทางไปนิมมานด้วยรถแดง ไม่ได้ไปเชียงใหม่นานเพิ่งรู้ว่ามี Grab รถแดงด้วย คือดีมาก ปกติขึ้นรถแดงก็จะคนละ 30 บาทแต่พอเรียก grab ค่ารถไปนิมมานก็จะอยู่ที่ 90 บาทคือโอเคมากๆ พวกเราเลยใช้รถแดงเป็นหลักเลยค่ะ เพราะหารกันแล้วตกคนละ 10 กว่าบาทเอง
ร้านแรกที่เราจะไปกินคือร้านต๋องเต็มโต๊ะ แต่พอไปแล้วตกใจเลยค่ะ คิวยาวมากต้องรอประมาณชั่วโมง ก็เลยไปเดินหาอะไรกินรองท้องกันก่อน เราไปเจอร้านไก่ทอดเกาหลีอยู่ใกล้ๆ เลยจัดไก่ทอดเกาหลีเบาๆไปหนึ่งชุด ร้าน RAWtruck พออิ่มแล้วเดินกลับไปที่ร้านต๋องเต็มโต๊ะปรากฏว่าเลยคิวจ้า แต่เมื่อมาถึงที่แล้วเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ก็กดคิวใหม่ไปเลยสิจ๊ะ รอไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ พอถึงคิวก็สั่งกันเหมือนลืมว่าเพิ่งกินอิ่ม แต่อาหารที่นี่อร่อยนะ เราชอบเป็นอาหารเมืองที่รสชาติพอดี สำหรับคนไม่กินอาหารเหนือแบบเรา แต่เพื่อนที่กินอาหารเหนื่อยอยู่แล้วก็บอกว่าอร่อยอยู่
กินเสร็จก็ดึกแล้ว เลยกลีว่าพรุ่งนี้เช้าเราต้องไปดอยอินทนนท์แต่เช้านัดรถตู้ไว้ 6 โมง
เราไปซื้อโดนัทที่ร้าน MOOH ด้วย เก็บร้านดังซะหน่อย เค้าบอกร้านนี้ดัง เราก็จัดไปทุกหน้าเลยจ้า เราว่าเนื้อโดนัทก็อร่อยดี ครีมก็ไม่หวานเลี่ยน ให้ผ่านค่ะ
อิ่มแล้วเดินไปที่วันนิมมานต่อค่ะเรามาเร็วไปหน่อยร้านยังไม่ค่อยเปิดเลยเดินถ่ายรูปนิดหน่อยก็เรียกรถแดงไปอ่างแก้ว เราไปถึงเร็วอากาศค่อนข้างร้อนก็เลยถ่ายรูปๆ หาที่นั่งแป๊บนึงแล้วก็เรียกรถกลับโรงแรมวันนี้ดูอะไรอะไรก็ไม่เป็นใจ กลับไปนอนพักก็ได้
มื้อเย็นเราสั่งของมากินที่โรงแรมค่ะ ขี้เกียจออกแล้ว สั่งไก่ทอดร้านเมื่อวาน สุกี้ช้างเผือกมากินค่ะ ช่วงนี้เห็นใครใครก็เช็คอินสุกี้ช้างเผือกจริงๆร้านอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 700 เมตร แต่ด้วยความทีวันนี้ไม่ไหวแล้วก็เลยสั่ง grab ดีกว่า สุกี้เค้าอร่อยสมคำร่ำรือจริงๆ นึกแล้วอยากกินอีกเลย
วันที่ 3 วันนี้เรานัดพี่รถตู้ 8 โมงเช้าเพื่อเดินทางไปเที่ยวแม่กำปองค่ะ เราไปถึงแม่ 10 โมงก็เดินผ่านถนนคนเดินขึ้นไปไหว้พระที่วัดคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง) แล้วก็ไปนั่งรถไปที่จุดชมวิวที่ร้านบ้านอิงดาว (ค่ารถไป-กลับคนละ 40 บาท) วิวข้างบนสวยมากอากาศก็ดี เย็นสบายไม่ได้หนาวหรือร้อนจนเกินไป เสร็จแล้วเราก็ลงมากินข้าวกันที่ร้านข้าวซอยกลอยใจแถวๆ ถนนคนเดิน เราสั่งข้าวซอยรสชาตอร่อยดีค่ะ เพื่อนๆบางคนก็สั่งน้ำเงี้ยวเค้าบอกอร่อยเหมือนกันนะ แต่ที่ชอบมากๆ เลย คือแหนมห่อใบตองค่ะ อร่อยมากจนต้องหิ้วกลับกรุงเทพคนละ 3-4 แพ็ค
จากแม่กำปองเรามาแวะโครงการหลวงตีนตกเดินเล่นแป๊บนึงค่ะ ไม่รู้จะไปไหนต่อพี่คนขับรถตู้เลยแนะนำว่าไปเที่ยวที่น้ำพุร้อนสันกำแพงไหมเพราะว่ายังมีเวลาเหลือ ก็เลยโอเคค่ะแวะก็แวะ ที่นี่เค้าจะมีจุดให้แช่เท้า มีนวดแผนไทยด้วย เรานวด 1 ชั่วโมงตัวเบาสบายเลย แวะประมาณ 2 ชั่วโมงก็กลับเข้าเมือง
วันนี้เพื่อนๆอยากกินปิ้งย่างกัน ตอนเย็นเลยไปกินที่ร้านเมียงดงเป็นปิ้งย่างเกาหลี บริการตัวเอง เราลืมเอากล้องฟิล์มไป แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปด้วย ไปถึงก็กินเลย อาหารมีให้เลือกเยอะอยู่นะคะแต่ว่าเราก็กินแต่หมูย่างแหละ รสชาติก็อร่อยดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้