มีคนถามเข้ามาเกี่ยวกับหุ้น BEAUTY ว่าจะเป็นไงต่อ บอกตรงๆ แอดมึนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เลยหาตัวเลขทางสถิติมาฝากแทน
Source : IAA Consensus(14/11/17) บล กรุงศรีประมาณการกำไร BEAUTY ปี 2017 = 1,136 ล้านบาท
Source : ข่าวหุ้น inside (8/12/17) บล.บัวหลวง ประมาณการกำไร BEAUTY ปี 2017 = 1,170 ล้านบาท
(ใช้ประมาณการกำไรของ บล บัวหลวง) BEAUTY 3Q 2017 กำไรสุทธิ 821 ล้านบาท เพราะฉะนั้น กำไร Q4 = 1,170-821= 349 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น = 349,000,000/3,002,734,585 = 0.12 บาทต่อหุ้น (โบรคเกอร์ประเมินว่ากำไร Q4 ไม่ต่างจาก Q3 = 0.12 บาทต่อหุ้น)
ดังนั้นทั้งปี 2017 กำไรต่อหุ้นจะเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2016 = (0.39-0.22)/0.22 = 77%
สถิติวันที่ 30Dec15 30Dec16 29Dec17
Price(บาท) 5.75 11.7 20.8
PE 45.85 57.62 62.53
%ปันผล 1.72% 1.14% 1.05%
EPS : 2014 = 0.1 บาท (Par 0.1บาท)
EPS : 2015 = 0.13 บาท โต 30% จากปี 2014 >> PE 45.85 เท่า, ปันผล 1.72%
EPS : 2016 = 0.22 บาท โต 69% จากปี 2016 >> PE 57.62 เท่า, ปันผล 1.14%
EPS : 2017 = 0.39 (ตัวเลขคาดการณ์) โต 77% จากปี 2016 , PE 62.53 เท่า ,ปันผล 1.05%
จากที่คาดการณ์ว่า EPS 2017 = 0.39 บาท ที่ราคาปิดสิ้นปี 2017 20.8 บาท ค่า PE หลังจากประกาศงบ Q4 2017 จะลดลงเหลือ = 20.8/0.39 = 53.33 เท่า
จากสถิติ ปี 2015 โต 30% ตลาดให้ PE ที่ 45.85 เท่า ดังนั้นปี 2018 ด้วยราคา ณ ปัจจุบัน บริษัทต้องทำกำไรต่อหุ้นโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% ที่ PE 40 เท่า จึงจะคงราคาไม่ให้ตกได้
EPS 2018 = 0.39 x 130% = 0.507 บาท, ราคาพื้นฐานปี 2018 : 0.507x40 = 20.28 บาท เทียบกับราคา ณ ปัจจุบัน ไม่มี upside ให้ขยับขึ้นได้
แต่ถ้าถือยาวๆ และโตปีละ 30% ด้วยราคา 20.8 บาทตอนนี้ ปี 2019 : 0.507x130% = 0.66 บาทต่อหุ้น , PE ก็จะเหลือ = 20.8/0.66 = 31.5 เท่า “VI ตัวจริง”
ถ้ามองในแง่ดีปี 2018 กำไรต่อหุ้นโตใกล้เคียงเดิมที่ 60% และตลาดยังคง PE 60 เท่า หมายความว่าราคาก็จะขึ้นสูงได้อีก 0.39x160% = 0.62 บาทต่อหุ้น , 0.62x60 = 37.2 บาทต่อหุ้น(***ตัวเลขสมมุติ) ราคายังคงมี upside
ราคา ณ ตอนนี้เป็นราคาที่ควรซื้อหรือไม่ควรซื้อ ก็ต้องอยู่ที่นักลงทุนว่า ยังคงมั่นใจกับผลประกอบการของ BEAUTY หรือไม่
Q4 กำไรต่อหุ้นต้องไม่กว่า 0.12 บาท และในปี 2018 และปีต่อๆไปต้องมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง
Copy เค้ามา Source :
https://www.facebook.com/seeforesight/posts/323524524799625 
หุ้น BEAUTY จะไปต่อหรือไม่?
Source : IAA Consensus(14/11/17) บล กรุงศรีประมาณการกำไร BEAUTY ปี 2017 = 1,136 ล้านบาท
Source : ข่าวหุ้น inside (8/12/17) บล.บัวหลวง ประมาณการกำไร BEAUTY ปี 2017 = 1,170 ล้านบาท
(ใช้ประมาณการกำไรของ บล บัวหลวง) BEAUTY 3Q 2017 กำไรสุทธิ 821 ล้านบาท เพราะฉะนั้น กำไร Q4 = 1,170-821= 349 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น = 349,000,000/3,002,734,585 = 0.12 บาทต่อหุ้น (โบรคเกอร์ประเมินว่ากำไร Q4 ไม่ต่างจาก Q3 = 0.12 บาทต่อหุ้น)
ดังนั้นทั้งปี 2017 กำไรต่อหุ้นจะเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2016 = (0.39-0.22)/0.22 = 77%
สถิติวันที่ 30Dec15 30Dec16 29Dec17
Price(บาท) 5.75 11.7 20.8
PE 45.85 57.62 62.53
%ปันผล 1.72% 1.14% 1.05%
EPS : 2014 = 0.1 บาท (Par 0.1บาท)
EPS : 2015 = 0.13 บาท โต 30% จากปี 2014 >> PE 45.85 เท่า, ปันผล 1.72%
EPS : 2016 = 0.22 บาท โต 69% จากปี 2016 >> PE 57.62 เท่า, ปันผล 1.14%
EPS : 2017 = 0.39 (ตัวเลขคาดการณ์) โต 77% จากปี 2016 , PE 62.53 เท่า ,ปันผล 1.05%
จากที่คาดการณ์ว่า EPS 2017 = 0.39 บาท ที่ราคาปิดสิ้นปี 2017 20.8 บาท ค่า PE หลังจากประกาศงบ Q4 2017 จะลดลงเหลือ = 20.8/0.39 = 53.33 เท่า
จากสถิติ ปี 2015 โต 30% ตลาดให้ PE ที่ 45.85 เท่า ดังนั้นปี 2018 ด้วยราคา ณ ปัจจุบัน บริษัทต้องทำกำไรต่อหุ้นโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% ที่ PE 40 เท่า จึงจะคงราคาไม่ให้ตกได้
EPS 2018 = 0.39 x 130% = 0.507 บาท, ราคาพื้นฐานปี 2018 : 0.507x40 = 20.28 บาท เทียบกับราคา ณ ปัจจุบัน ไม่มี upside ให้ขยับขึ้นได้
แต่ถ้าถือยาวๆ และโตปีละ 30% ด้วยราคา 20.8 บาทตอนนี้ ปี 2019 : 0.507x130% = 0.66 บาทต่อหุ้น , PE ก็จะเหลือ = 20.8/0.66 = 31.5 เท่า “VI ตัวจริง”
ถ้ามองในแง่ดีปี 2018 กำไรต่อหุ้นโตใกล้เคียงเดิมที่ 60% และตลาดยังคง PE 60 เท่า หมายความว่าราคาก็จะขึ้นสูงได้อีก 0.39x160% = 0.62 บาทต่อหุ้น , 0.62x60 = 37.2 บาทต่อหุ้น(***ตัวเลขสมมุติ) ราคายังคงมี upside
ราคา ณ ตอนนี้เป็นราคาที่ควรซื้อหรือไม่ควรซื้อ ก็ต้องอยู่ที่นักลงทุนว่า ยังคงมั่นใจกับผลประกอบการของ BEAUTY หรือไม่
Q4 กำไรต่อหุ้นต้องไม่กว่า 0.12 บาท และในปี 2018 และปีต่อๆไปต้องมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง
Copy เค้ามา Source : https://www.facebook.com/seeforesight/posts/323524524799625