*เทคนิค การจองรถเช่าในอเมริกา*

สวัสดีปีใหม่ครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ช่วงวันหยุดเทศกาลนี้ ผมกับเพื่อนๆที่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ครับ และปัญหาหนึ่งที่ผมคิดว่าทุกคนจะต้องเจอเวลาอยากไปเที่ยวต่างรัฐคือ ควรจะต้องเช่ารถขับกันหรือไม่ จะคุ้มไหมกับการเช่ารถ หรือควรจะเดินทางด้วยระบบขนส่งที่มีของเมืองนั้นๆ เราจะมีวิธีดูคร่าวๆและตัดสินอย่างไร มาดูกันเลย!

ถ้าให้ผมแนะนำนะครับ หากคุณจะไปเมืองที่ใหญ่ๆ การคมนาคมไม่ได้สำบากมาก หรือมีรถแท็กซี่ รถสาธารณะคอยให้บริการสะดวกสบาย อย่างเช่น นิวยอร์ค ซิตี้, บอสตัน หรือเมืองอื่นๆ รถก็อาจจะไม่จำเป็นมากที่จะต้องเช่านะครับ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเดินทางไปนิวยอรค์ มันง่ายๆมากๆที่จะใช้รถไฟซึ่งมีหลากหลายสายมากมายวิ่งวนรอบเมือง ซึ่งสะดวกสบายมากในการเดินทาง แถมรถก็ติดมาก หากคุณเช่ารถขับในนิวยอร์คแล้วล่ะก็คงไม่คุ้มค่าแน่ ในทางกลับกัน หากคุณต้องการขับรถเที่ยวเมืองรอบข้างนิวยอร์คด้วย ไม่ว่าจะเป็น เมืองในรัฐ นิวเจอร์ซี่ย์ หรือ ไปยังเมืองหลวงกรุงวอชิงตัน ดีซี การมีรถขับก็อาจจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้คุณได้เช่นกันครับ

สำหรับในวันนี้ผมจะเน้นเรื่องของการเช่ารถขับเพื่อนโร้ดทริป (Road Trip) เป็นหลักนะครับ สำหรับคนที่เคยเช่าแล้วมีข้อเสนอ ข้อคิดเห็นอย่างไรก็แชร์กันได้ครับ ถ้าตรงในผมผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ผมแค่มีเจตนาในการอยากแชร์ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์เท่านั้นครับ งั้นเรามาเริ่มกันเลย กับขั้นตอนในการเช่ารถ

เราสามารถกูเกิล หรือค้นหารถที่จะเช่าได้ง่ายมากๆ โดยใช้คีย์เวิร์ดอย่าง car rental ตามด้วยชื่อ city หรือจริงๆจะพิมแค่ car rental อย่างเดียวก็ได้นะครับ โดยปกติแล้วนั้น ผมไม่อยากชี้นำนะครับว่าเว็ปไหนดีไม่ดี แต่ละบริษัทก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่คิดอะไรมาก ผมแนะนำให้ดูเน้นราคาและความสะดวกใจของเราเป็นหลักก็ได้ครับ ชอบเว็ปไหนถูกใจ ลองกดดูแล้วชอบ ก็ลุยได้เลยครับ

เว็ปส่วนใหญ่ อย่าง hotwire, expedia, kayak, carrentals และอื่นๆนั้น จะเป็นเว็ปที่เราแบรนด์ดังในให้บริการรถเช่านะครับอย่างเช่น Hertz, Budget, Enterprise, Alamo และอื่นๆ พวกเรื่องชื่อแบรนด์นี่มีเยอะมากจริงๆครับ แนะนำว่าชอบอันไหน ถูกใจราคากับรถ ลุยเลยครับและถ้าดีไม่ดี ทริปหน้าก็เก็บไว้เป็นประสบการณ์ ถ้าให้แนะนำก็เข้าดูหลายๆเว็ปหน่อยเพื่อเปรียบเทียบราคาด้วยก็จะยิ่งดีครับผม


จริงๆแล้วในเว็ปเดียวกันนั้นก็จะมีให้จองโรงแรม ให้จองไฟลท์เครื่องบิน และอื่นๆด้วย เดี๋ยวจะมาพูดคุยกันในวันหลังนะครับ วันนี้ขอเน้นเรื่องรถเช่าก่อน



อันนี้จะขอยกตัวอย่างจะเว็ปหนึ่งนะครับ ซึ่งหน้าจอแรกที่เป็นหน้าจอหลักของเขาหลังจากเราเข้ามาจากกูเกิลก็จะเห็นว่า เขาจะให้เราใส่ชื่อเมือง ระยะเวลาของวันที่จะเช่าจนถึงวันที่คืนนะครับ ในภาพก็คือเราจะเช่ารถที่ เมือง ชิคาโก้ รัฐ อิลินอยด์ โดยรับรถในวันที่ 1 มกราคมในตอนเที่ยง และคืนรถในวันที่ 2 มกราคมในเวลาเที่ยง เช่นกัน

โดยที่จะมีอ๊อปชั่นด้านบนเขียนว่า same drop-off ก็คือเราจะเช่ารถและคืนรถในสถานที่ที่เดียวกันนะครับ สำหรับบางคนที่ต้องการจะคืนรถต่างเมืองเนื่องจากขับเที่ยวหลายเมืองแล้วไม่ได้วนกลับมาที่เมืองเดิมนะครับก็สามารถเลือก different drop-off ได้ครับ ตรงส่วนนี้ผมยังไม่เคยแต่คิดว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในกรณีคืนรถข้ามรัฐกันครับ อันนี้ต้องลองเช็ครายละเอียดในเว็ปดูครับ ซึ่งเราเราคลิก different drop-off เราก็จะต้องบอกเมืองที่เราจะไปคืนซึ่งหน้าจอก็จะเป็นแบบด้านล่างครับ


โอเคครับ หลังจากนั้นผมก็จะคลิกเลือกตกลงนะครับ หรือในกรณีนี้ก็ปุ่มสีส้มๆที่ลูกศรชี้ไปทางขวานั่นเอง ก็จะมาเข้าหน้าจอด้านล่างนะครับ ซึ่งจะมีให้เลือกประเภทของรถที่คุณอยากจะเช่ามากมายนะครับ เช่น small, medium, large, van. SUV, Luxury, pickup และอื่นๆ อันนี้ก็ต้องเลือกตามความเหมาะสมนะครับ ถ้าไปกันไม่กี่คน ไปตามตัวเมืองต่างๆ รถขนาดเล็กหรือกลางก็เป็นทางเลือกที่ดีนะครับ แต่หากไปกันสี่ถึงห้าคน หรืออยากจะไปเที่ยวตามภูเขาที่มีลัษณะภูมิประเทศที่ขับรถคดเคี้ยว มีหิมะปกคลุม หรือเป็นทางในชนบทก็อาจจะเลือก SUV หรือรถตู้ซึ่งมีความทนทาน มีความปลอดภัยในการขับมากกว่าก็ได้เช่นกันครับ ทังนี้ขอแนะนำให้ศึกษา ภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศก่อนเลือกรถครับ รูปด้านล่างก็จะเป็นลักษณะประเภทรถต่างๆที่คุณสามารถเลือกได้นะครับ




หลังจากนั้นหน้าจอก็จะถามคอนเฟิร์มนะครับว่าเราต้องการเลือกรถคันนี้ ประเภทนี้ ออฟชั่นแบบนี้ ในราคานี้ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็กดปุ่มสีเหลืองๆ ที่เขียนว่า Reserve ได้เลยครับ เว็ปอื่นๆก็น่าจะคล้ายกัน หากติดใจ มีข้อสงสัยตรงไหนบอกหรือถามได้ครับ


หลังจากนั้นจะมีหน้าจอที่มาคอนเฟิร์มนะครับ ทางเว็ปก็จะบอกรายละเอียดว่าให้ไปรับที่ไหน เวลาหน้า จะเดินทางไปรับจากสนามบินได้อย่างไร รวมถึงวันเวลา สถานที่ในการคืนอีกด้วย ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ



นี่ก็จะเป็นรายละเอียดต่างๆของรถที่เราจะจองนะครับ ในส่วนนี้เขาก็จะบอกว่าเราจะจอง SUV ขนาดกลาง ซึ่งเป็น Toyota RAV4 หรือโมเดลที่คล้ายกัน สามารถนั่งได้ 5 คน ใส่กระเป๋าได้ประมาณ 3 ใบในการเดินทาง มีระบบปรับอากาศ ระบบขับเกียร์ออโต้ สามารถขับระยะทางเท่าไรก็ได้ และเติมนำมันให้เต็มทั้งก่อนเช่าและก่อนคืน ซึ่งหมายความว่ารถจะมีน้ำมันเต็มถังก่อนที่จะให้เราเช่า และเราจะต้องเติมน้ำมันให้เขาคืนให้เต็มก่อนคืนเช่นเดียวกัน

ด้านขวามือจะเป็นราคาต่อวันและราคาเช่าโดยรวม ซึ่งในกรณีนี้จะมีกำหนดบอกว่า ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดหรือประเภทของรถได้ และไม่สามารถยกเลิกหรือขอคืนเงินได้เช่นกัน ซึ่งราคานี้ได้รวมภาษีเข้าไปแล้ว



ส่วนถัดไป ในหัวข้อ Not included in rate เขาก็จะบอกว่าถ้าคนขับมีอายุต่ำกว่า 25 ปี หรือ มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปอาจจะต้องจ่ายเพิ่มได้ ซึ่งเขาก้มีรายละเอียดให้เข้าไปดูครับ อันนี้ผมคาดว่าเขาคงคิดว่าคนขับรถจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเขาเลยคิดเงินเพิ่มครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ใครรู้ช่วยบอกได้ครับ


ส่วนในหัวข้อ Accessories  ก็จะมีการเสนออุปกรณ์ต่างๆที่เราอาจจะเช่าเพิ่มได้ตามความต้องการของเราครับ ไม่ว่าจะเป็น  GPS ซึ่งสำคัญมากหากเดินทางไปเที่ยวป่าเขาที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต นี่จะเป็นสิ่งจำเป็นมากที่ทำให้คุณรอดปลอดภัยครับ

อุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่น Ski rack(ที่วางสกี), Infant seat(ที่นั่งทารก),Toddler seat (ที่นั่งเด็ก), Snow Chains (โซ่หุ่มล้อรถเพื่อเบรคได้ดีขึ้นในการวิ่งรถบนถนนที่มีหิมะปกคลุมหนัก), หรือแม้กระทั้ง Additional driver (ถ้ามีคนขับเพิ่ม) ก็ต้องแจ้งให้เขาทราบเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแล้วแต่ความต้องการของแต่ละทริปนะครับ ถ้าขับรถลุย National park ที่มีหิมะหนักๆ Snow Chains ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นครับ


หลังจากนั้นหน้าจอถัดไปก็คือ การกรอกข้อมูลส่วนตัว และจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตครับผม เขาก็จะให้กรอกชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อนะครับ



ในส่วนนี้เขาก็จะถามว่าจะซื้อประกันหรือไม่นะครับ ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ซื้อนะครับ เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่คุ้มเสียครับ ยิ่งไม่ใช่รถที่เป็นชื่อเราด้วย จะวุ่นวายนะครับ ในกรณีนี้เพิ่มขึ้นวันละ 10 เหรียญเองครับ แต่เราจะไม่ซื้อก็ได้ หากเราคิดว่าเราอยากจะเสี่ยง ซึ่งถ้าเราไปซื้อในวันรับรถก็จะโดนคิดราคาเพิ่มขึ้นครับ จะไม่ใช่ 10 เหรียญอีกต่อไป


ในส่วนนี้ก็จะเป็นช่องกรอกบัตรเครดิต หรือเดบิตนะครับก็กรอกรายละเอียดไปตามที่เขาขอครับ ชื่อ เบอร์บัตรเครดิต เบอร์โค้ดสามตัวด้านหลัง (Security Code) วันหมดอายุของบัตร แล้วก็รหัสไปรษณีย์ของบัตรนะครับ หลายๆท่านถามว่าบัตรเครดิตของไทยใช้ได้ไหม ผมคิดว่าน่าจะใช้ได้สากลนะครับ ทั้งนี้ใครมีประสบการณ์ช่วยบอกเล่าหน่อยครับ ผมไม่แน่ใจจริงๆ


หลังจากนั้นก็กรอกอีเมลไปนะครับ เพื่อเค้าจะได้ส่งใบยืนยันให้ทางอีเมลอีกที แล้วเราสามารถสร้างบัญชีไว้กับทางเว็ปได้นะครับ เผื่อในอนาคตข้างหน้าเราต้องการจะจองตั๋วอื่นๆก็จะมีแต้มให้สะสมกันด้วย



เมื่อกรอกรายละเอียดเรียบร้อย อ่านข้อมูลครบถ้วนก็กด Reserve Now ได้เลยครับ เป็นอันว่าการจองเสร็จสิ้นเรียบร้อยครับ เมื่อถึงวันจริงเราก็เอาใบไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เพื่อรับรถได้เลยครับ เจ้าหน้าที่เขาก็จะอธิบายรายละเอียดต่างๆที่เราจะต้องรู้ในการเลือกรถ รับรถ และขับออกจากสถานที่เช่าครับผม



เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะได้ไอเดียไหมครับสำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าจะเช่ารถขับเที่ยวยังไง ให้ทั้งสนุกและปลอดภัย น่าจะเป็นไอเดียคร่าวๆที่ช่วยให้เพื่อนๆสามารถเช่ารถได้ในอเมริกานะครับ หากเพื่อนๆท่านใดมีคำถามหรือข้อเสนอแนะก็พิมพ์บอกได้นะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่