เราเพิ่งดู Black Mirror season 4 ของทาง netflix จบ แล้วชอบมากๆๆๆ เลยอยากมารีวิวซะหน่อยย
เราดูมาทุกซีซั่นแล้ว แต่อันนี้เพิ่งดูจบเลยรีบมาเขียนก่อนจะลืม5555
สำหรับคนที่ไม่เคยดู Black Mirror มาก่อนเลย เราจะอธิบายสั้นๆ มันคือซีรี่ส์ที่จบในตอน แต่ละตอนคือคนละเรื่องเลย คล้ายๆกับเป็นรวมหนังสั้น ดูตอนไหนก่อนหลังก็ได้ แต่ทุกตอนยังอยู่ในยูนิเวิร์สและธีมเดียวกันอยู่ ก็คือ"ด้านมืดของโลกอนาคต"
ส่วนใหญ่จะเป็นแนวเทคโนโลยีใหม่ๆที่คิดมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์แต่ก็ดันมีประเด็นต่างๆ มีผลเสียตามมาในอนาคตอะไรประมานี้
ปล. นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับ
มาเริ่มที่ตอนแรกของซีซั่น4ดีกว่าา
(การให้คะแนนเราให้ตามความเห็นส่วนตัวของเรานะ ยังไงก็อยากให้อ่านที่เขียนก่อนแล้วค่อยตัดสิน)
Ep 1. USS Callister (คะแนน 8/10)
เรื่องย่อ
ตอนนี้เกี่ยวกับซีอีโอของบริษัทเกมส์คนหนึ่งที่ฉลาดมากๆ แต่กลับไม่มีใครนับถือสมกับตำแหน่งซีอีโอเลย เขาเลยใช้เกมส์ของเขาสร้างโลกเสมือนขึ้นมา ที่ตัวเขานั้นเป็นกัปตันเรือ USS Callister และมีพวกพนักงานคนอื่นที่เคยดูถูกเขาเป็นลูกเรือที่ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา แต่วิธีการที่จะใส่ตัวละครต่างๆลงไปในเกมส์นั้นมันมีประเด็นบางอย่างอยู่ และเกมส์ของเขาจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเจอกับลูกเรื่อคนใหม่นี้...
รีวิว
ตอนนี้เราดูสนุกมาก ตื่นเต้น+ลุ้นดี5555 เราชอบเรื่องการเอาตัวละครเข้ามาในเกมส์ ที่พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีกับประเด็นจริยธรรมได้ดี ตกลงแล้วโรเบิร์ต(ซีอีโอ)คนนี้เป็นคนดีหรือเปล่า แน่นอนว่าเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้วหรือ? แล้วเราควรดีใจกับตอนจบของเรื่องมั้ย? หรือควรสงสารกันแน่
อีกอย่างที่ชอบคือความฉลาด+ไหวพริบของนางเอก, การนำรายละเอียดต่างๆตอนต้นเรื่องมาใช้ในตอนท้าย และการค่อยๆอธิบายให้เราเห็นการทำงานของเกมส์นี้ผ่านเนื้อเรื่อง คือไม่รู้สึกว่าถูกยัดข้อมูลเข้าหัวอ่ะ5555 คือแบบดูๆไปก็เข้าใจระบบการทำงานของมันเอง
Ep 2. Arkangel (คะแนน 9.5/10)
ตอนนี้เราชอบมากๆๆๆๆ หักไป0.5เพราะแอบน่าเบื่อนิดหน่อย5555
เรื่องย่อ
แม่คนหนึ่งที่เป็นห่วงลูกสาวมากๆทำลูกหาย กว่าจะเจอคือเกือบสติแตกเป็นกังวลมากๆ เลยพาลูกไปติดตั้งโปรแกรม "Arkangel" เป็นการฝังชิปเข้าไปในหัวลูก แล้วทำให้เธอสามารถเฝ้าดูลูกได้ตลอดเวลาผ่านแท็บเล็ต เห็นสิ่งที่ลูกเห็น รู้ตำแหน่งของลูก รู้สภาพร่างกายของลูกหมด ระดับอะไรต่ำอะไรสูง และที่ดูจะเป็นประเด็นที่สุดคือ สามารถเปิดโหมดฟิลเตอร์เพื่อเบลอสิ่งเร้าที่จะทำให้คอร์ติซอลของลูกเพิ่มขึ้นสูงได้ (พูดง่ายๆคือ สามารถเบลอสิ่งที่ลูกเห็นแล้วจะเครียด/กลัว ได้) ซึ่งก็ฟังดูเหมือนจะดี แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่ามันไม่มีใครเป็นเด็กตลอดไป เด็กน้อยทุกคนต้องโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่(แต่ระบบที่ฝังนั้นอยู่ในหัวลูกตลอด เอาออกไม่ได้), แม่จะปกป้องลูกไปตลอดไม่ได้ และ ความเครียด ความกลัว ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์
รีวิว
เราชอบตอนนี้ที่เขาทำออกมาให้เราเข้าใจทั้งสองฝ่าย คือแม่ก็ไม่ได้ปกป้องลูกมากกกจนเว่อร์เกินไป มันสมเหตุสมผล ดูแล้วไม่เกิดความรู้สึกต่อต้าน อยู่ในระดับที่เราดูแล้วเราเข้าใจเขาอ่ะ ที่เราบอกว่าแม่จะปกป้องลูกไปตลอดไม่ได้ แต่ถ้าเราเป็นแม่ เราก็คงทำในแบบที่เขาทำนั่นแหละ ในขณะที่ตัวลูกเองเราก็เข้าใจเหมือนกัน เพราะเราได้เห็นพัฒนาการของเขาตั้งแต่คลอดออกมาจนโต เรารู้ว่าเขาเจออะไรมา และสิ่งเหล่านั้นมันส่งผลให้เขาเป็นยังไง
คือเรื่องนี้มีเมสเสจเยอะมากๆ และใส่มาได้ดีมากด้วย ไม่ยัดเยียด คือดี อย่างเช่นฉากตอนต้นเรื่อง ที่คนเป็นแม่คุยกับพ่อของเขา(คุณตาของเด็ก)
ตาบอกประมาณว่าให้เด็กเล่นไปเหอะ ไม่ต้องไปดูแลอะไรขนาดนั้น
แม่ก็ตอบกลับไปว่าเพราพ่อเลี้ยงหนูงี้ ตอนนั้นหนูเลยแขนหักเลยไง
ตาเลยถามกลับแล้วตอนนี้แขนเป็นไงบ้างล่ะ (ก็คือตอนนี้แขนหายแล้ว)
คนแม่เลยชูนิ้วกลางกลับ (แบบตลกๆ ทำนองเล่นมุกแบบแสบๆ) บอกว่าก็ดูใช้ได้ดีนะ
คือสื่อว่า ควรปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง ถึงอาจจะมีเจ็บตัวบ้าง แต่เดี๋ยวแผลมันก็หายเอง
แล้วคือจังหวะในเรื่องมันดีอ่ะะ เราชอบที่คนแม่เล่นมุกชูนิ้วกลางกลับ เหมือนยอมรับว่าเดี๋ยวแผลจากการเรียนรู้ด้วยตนเองในอดีตก็หายไปจริง แต่ก็ไม่ยอมรับไปพร้อมๆกันด้วยการชูนิ้วกลางกลับ
ชอบมากกกเรื่องนี้ จริงๆมันมีอะไรเยอะกว่านี้มากก แต่ไม่อยากเล่าเดี๋ยวสปอย55555 เชียร์ให้ไปดู
Ep. 3 Crocodile (คะแนน 9/10)
ตอนนี้มีความ Thriller สูงมากก จะไม่ได้เน้นพวกประเด็นจริยธรรมอะไรเท่าไหร่
เรื่องย่อ
มีอา นั่งรถอยู่กับแฟนหนุ่มแล้วดันไปขับชนคน เธอกับแฟนก็กำจัดศพเขาทิ้งไป ทั้งคู่สัญญาว่าจะลืมเรื่องนี้ไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เวลาผ่านไป มีอากลายเป็นสถาปนิกที่ประสบความสำเร็จ มีแฟนใหม่แต่งงานกันมีลูกมีครอบครัวที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งแฟนเก่าของเธอก็กลับมาหาเพราะเกิดสำนึกผิดในสิ่งที่เคยทำไว้นานมาแล้ว และอยากจะทำอะไรซักอย่าง มีอาไม่เห็นด้วยอย่างมากเนื่องจากตอนนี้ชีวิตเธอดีมากแล้ว เธอจะไม่ยอมเสี่ยงให้เรื่องนี้พังชีวิตที่เธอสร้างขึ้นมาเองกับมือเด็ดขาด เธอจึงตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งแทนและต้องเก็บมันเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกัน ที่ใช้"เครื่องดูความทรงจำ" ไปดูความทรงจำของพยานในเหตุการณ์อุบัติเหตุต่างๆ เพื่อใช้ยืนยันลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แล้วบังเอิ๊ญญญญญญ ยัยมีอาเนี่ย ดันไปเป็นพยานของอุบัติเหตุหนึ่ง มีอาจะทำอย่างไร เธอจะถูกดูความทรงจำไหม แล้วเธอจะรักษาความลับของเธออย่างไร จากเครื่องดูความทรงจำนี้
รีวิว
จังหวะของหนังดีมาก ช่วงแรกๆคือเป็นการปูเรื่องก่อน ให้เรารู้จักมีอา และเครื่องดูความทรงจำนี้ ที่แอบน่าสนใจคือความทรงจำต่อเรื่องเดียวกัน แต่มาจากคนละคนเนี่ยกลับไม่เหมือนกัน แต่ผู้สร้างเขาไม่ได้โฟกัสจุดนี้ซักเท่าไหร่ เขาโฟกัสความตื่นเต้น เร้าใจ ลุ้นระทึก และความฉลาดของมีอาในการปกปิดความลับต่อไปมากกว่า
รายละเอียดต่างๆที่ปูมาตั้งแต่เริ่มอ่ะ คือเอาไปใช้ในตอนท้ายของเรื่องหมดเลย แบบดีมากกก คือทุกอย่างใส่มาเพราะมีเหตุผลอ่ะ แล้วพอตอนท้ายๆหน่อยคือดำเนินเรื่องปั่ปๆๆๆเลย สนุกดี แม้แต่เพลงตอนจบยังมีเมสเสจ55555 ใส่รายละเอียดได้ประณีตมาก
Ep 4. Hang the DJ (คะแนน 9.5/10)
ตอนนี้เป็นตอนที่ไม่น่ากลัว5555
เรื่องย่อ
ในโลกนี้ชายหญิงแต่ละคนจะมีอีจานกลมๆอันหนึ่ง ที่หน้าตาเหมือนในร้านบิงซู ที่มันจะสั่นเวลาอาหารพร้อมเสิร์ฟอ่ะ5555 ลักษณะประมาณนั้น อีเครื่องนี้จะคอยจับคู่เดทให้กับเรา แล้วจะมีวันหมดอายุอยู่ ก็คือจะบอกว่าเราต้องคบกับคนนี้ไปอีกกี่ชั่วโมง(บางทีก็เป็นวัน หรือเป็นปีเลยก็มี) เราต้องทำตามนี้ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ เพื่อที่สุดท้ายแล้วระบบนี้จะส่งคู่แท้มาให้กับเรา ซึ่งเขาอ้างว่าได้ผลถึง99.8% ทีนี้ปัญหาก็คือแฟรงก์ กับเอมี่ ถูกจับให้เดทกันครั้งแรก แล้วปรากฏว่ารู้สึกรักกันตั้งแต่ครั้งนั้น รู้สึกว่านี้คือคู่แท้ ไม่ว่าจะโดนเปลี่ยนไปคบกับใครๆก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ยังต่างคิดถึงอีกฝ่ายอยู่ ก็เลยเกิดการตั้งคำถามว่าคู่แท้ที่ระบบจะเลือกให้เนี่ย มันใช่คู่แท้จริงๆหรอ หรือจริงๆแล้วเราต่างหาก ที่ต้องเป็นคนเลือกคู่แท้ให้กับตัวเอง
รีวิว
ตอนนีเราก็ชอบบบบบบ เพราะเป็นมันฟีลกู๊ด ฮือออออ แฟรงก์กับเอมี่น่ารักมาก5555 ดูๆไปแล้วจะรู้คำตอบเองว่าระบบจะเลือกคู่แท้ได้จริงมั้ย
เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกว่าเขาทำเนื้อเรื่องมาสมเหตุสมผลอ่ะ คือดูแล้วไม่ขัด ที่ชอบสุดของตอนนี้คือตอนจบเอมี่พูดเมสเสจออกมาโต้งๆเลย555555 ดูแล้วเคลียร์แน่นอน แต่พูดในบริบทที่โอเคนะ
Ep 5. Metalhead (คะแนน 7/10)
ให้น้อยเพราะว่า งง!! แต่มันสสสสสสส์ ตื่นเต้นเร้าใจสุด Thriller + Action
ตอนนี้เป็นสีขาวดำด้วยนะ
เรื่องย่อ
แก๊งพเนจรสามคน(ไม่แน่ใจว่าควรใช้คำว่าอะไร ภาษาอังกฤษคือ scavengers อ่ะ) ตัวหลักคือเบลล่า ผู้หญิงคนเดียวในแก๊ง ทั้งสามจะไปเอา"ของสิ่งหนึ่ง"ในโกดัง แต่กลับไปเจอ "หมา" หุ่นยนต์ฆ่าที่โคตรโหด555 เฝ้าของนั่นอยู่ ทั้งสามโดนอีหุ่นยนต์หมานี่ไล่ฆ่า เหลือเบลล่ารอดคนเดียว (คืออีก2คนแป๊ปเดียวมันก็ตายแล้วง่า5555 แถมในทรลเลอร์ก็จะเห็นอยู่แล้วว่าเหลือเบลล่าคนเดียว เลยขออนุญาตบอกไปเลย5555) เบลล่าที่รอดก็หนีๆๆ ใช้ไหวพริบ+มันสมองเอาตัวรอดจากเจ้าหมา
รีวิว
คือตอนแรกจะให้ 6.5ด้วย เพราะเนื้อเรื่องแทบไม่มีไรเลย แค่เบลล่าวิ่งหนีหมาเหล็ก แต่มันมันส์มาก แล้วเรื่องก็ค่อยๆโชว์ความสามารถของอีหมานี่ให้คนดูรู้ ว่ามันทำไรได้บ้าง ซึ่งรู้แล้วก็แค่ทึ่งในความโหดของมัน แต่ไม่ได้มีอะไรต่ออ่ะ55555 แต่ถามว่าสนุกมั้ย ก็สนุกนะ ตื่นเต้นดี ส่วนที่ให้7เพราะชอบตอนเฉลยจบ แต่เห็นเฉลยแล้วก็ยังไม่เก็ตอ่ะ5555 เขาไม่ได้ให้แบคกราวนด์อะไรมาเท่าไหร่ เลยไม่เข้าใจว่าตอนนี้โลกมันเกิดอะไรอยู่ ทำไมสามหน่อนี่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายออกมาเอาของสิ่งนั้นด้วย แล้วหมาเหล็กนี่มีทำไม ใครสร้าง ต้องการจะสื่ออะไร คือไม่รู้เลย5555 คิดว่าคนสร้างตั้งใจจะโฟกัสแค่ความมันส์ในการหนีตายของเบลล่าเฉยๆ
Ep 6. Black Museum (คะแนน 8.5/10)
ตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง USS Callister แล้วก็ Arkangel แน่นอน5555 เพราะอะไรเดี๋ยวบอก
เรื่องย่อ
ผู้หญิงผิวสีคนหนึ่งแวะจอดรถที่ปั๊มเพื่อชาร์จพลังงานรถแล้วมันใช้เวลาชาร์จนาน นางไปเห็น Black Museum ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆพอดีเลยเดินเข้าไปชมฆ่าเวลา Black Museum นี้เป็นพิพิธภัณฑ์รวมของเกี่ยวกับอาชญากรรม ตอนนางเอกของเราเข้าชมของต่างๆ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ก็เล่าเรื่องราวเบื้องหลังของของแต่ละชิ้น ว่าผิดกฎหมายอย่างไร ซึ่งในพิพิธภัณฑ์นี้เนี่ยก็มีอีเครื่องเกมส์จาก USS Callister กับแท็บเล็ต Arkangel อยู่ด้วย55555 แต่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงแต่อย่างใด ดูๆไปก็เหมือนเขาจะโฟกัสที่เรื่องเล่าของแต่ละชิ้น แต่สุดท้ายแล้วตัวพิพิธภัณฑ์นี่แหละที่เป็นประเด็น
รีวิว
ตอนนี้แอบเดาได้แต่แรกแล้วว่าหลังจากเล่าเรื่องต่างๆมันจะต้องย้อนกลับมาเป็นเรื่องของตัวพิพิธภัณฑ์เอง แต่ชอบแนวคิดของคนเขียนบทที่คิดของแปลกๆออกมาได้ (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นของที่ต่อมาเป็นอาชญากรรม) เป็นอีกครั้งที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆตอนต้นเรื่องมามีผลตอนท้ายเรื่อง และเราพูดอะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวสปอย555555
จบแล้วววววเย้ คนที่ดูแล้วมาอ่านอาจจะเห็นว่าเราเขียนเรื่องย่อไม่ต้องเป๊ะๆซักเท่าไหร่นะ ขอชี้แจงว่าถ้าเขียนถูกต้องครบทุกอย่างมันก็จะสปอยคนอ่านอ่า5555 เลยเขียนประมาณนี้ แต่ถ้าตรงไหนเห็นว่าควรแก้ก็บอกได้เลยน้า
และ ใครดูแล้วมาเม้ากันด้ายยยย อยากเม้ามอย อยากdiscuss มากๆ
))
[CR] เรื่องย่อ + รีวิว Black Mirror season 4
เราเพิ่งดู Black Mirror season 4 ของทาง netflix จบ แล้วชอบมากๆๆๆ เลยอยากมารีวิวซะหน่อยย
เราดูมาทุกซีซั่นแล้ว แต่อันนี้เพิ่งดูจบเลยรีบมาเขียนก่อนจะลืม5555
สำหรับคนที่ไม่เคยดู Black Mirror มาก่อนเลย เราจะอธิบายสั้นๆ มันคือซีรี่ส์ที่จบในตอน แต่ละตอนคือคนละเรื่องเลย คล้ายๆกับเป็นรวมหนังสั้น ดูตอนไหนก่อนหลังก็ได้ แต่ทุกตอนยังอยู่ในยูนิเวิร์สและธีมเดียวกันอยู่ ก็คือ"ด้านมืดของโลกอนาคต"
ส่วนใหญ่จะเป็นแนวเทคโนโลยีใหม่ๆที่คิดมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์แต่ก็ดันมีประเด็นต่างๆ มีผลเสียตามมาในอนาคตอะไรประมานี้
ปล. นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับ
มาเริ่มที่ตอนแรกของซีซั่น4ดีกว่าา
(การให้คะแนนเราให้ตามความเห็นส่วนตัวของเรานะ ยังไงก็อยากให้อ่านที่เขียนก่อนแล้วค่อยตัดสิน)
Ep 1. USS Callister (คะแนน 8/10)
เรื่องย่อ
ตอนนี้เกี่ยวกับซีอีโอของบริษัทเกมส์คนหนึ่งที่ฉลาดมากๆ แต่กลับไม่มีใครนับถือสมกับตำแหน่งซีอีโอเลย เขาเลยใช้เกมส์ของเขาสร้างโลกเสมือนขึ้นมา ที่ตัวเขานั้นเป็นกัปตันเรือ USS Callister และมีพวกพนักงานคนอื่นที่เคยดูถูกเขาเป็นลูกเรือที่ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา แต่วิธีการที่จะใส่ตัวละครต่างๆลงไปในเกมส์นั้นมันมีประเด็นบางอย่างอยู่ และเกมส์ของเขาจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเจอกับลูกเรื่อคนใหม่นี้...
รีวิว
ตอนนี้เราดูสนุกมาก ตื่นเต้น+ลุ้นดี5555 เราชอบเรื่องการเอาตัวละครเข้ามาในเกมส์ ที่พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีกับประเด็นจริยธรรมได้ดี ตกลงแล้วโรเบิร์ต(ซีอีโอ)คนนี้เป็นคนดีหรือเปล่า แน่นอนว่าเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้วหรือ? แล้วเราควรดีใจกับตอนจบของเรื่องมั้ย? หรือควรสงสารกันแน่
อีกอย่างที่ชอบคือความฉลาด+ไหวพริบของนางเอก, การนำรายละเอียดต่างๆตอนต้นเรื่องมาใช้ในตอนท้าย และการค่อยๆอธิบายให้เราเห็นการทำงานของเกมส์นี้ผ่านเนื้อเรื่อง คือไม่รู้สึกว่าถูกยัดข้อมูลเข้าหัวอ่ะ5555 คือแบบดูๆไปก็เข้าใจระบบการทำงานของมันเอง
Ep 2. Arkangel (คะแนน 9.5/10)
ตอนนี้เราชอบมากๆๆๆๆ หักไป0.5เพราะแอบน่าเบื่อนิดหน่อย5555
เรื่องย่อ
แม่คนหนึ่งที่เป็นห่วงลูกสาวมากๆทำลูกหาย กว่าจะเจอคือเกือบสติแตกเป็นกังวลมากๆ เลยพาลูกไปติดตั้งโปรแกรม "Arkangel" เป็นการฝังชิปเข้าไปในหัวลูก แล้วทำให้เธอสามารถเฝ้าดูลูกได้ตลอดเวลาผ่านแท็บเล็ต เห็นสิ่งที่ลูกเห็น รู้ตำแหน่งของลูก รู้สภาพร่างกายของลูกหมด ระดับอะไรต่ำอะไรสูง และที่ดูจะเป็นประเด็นที่สุดคือ สามารถเปิดโหมดฟิลเตอร์เพื่อเบลอสิ่งเร้าที่จะทำให้คอร์ติซอลของลูกเพิ่มขึ้นสูงได้ (พูดง่ายๆคือ สามารถเบลอสิ่งที่ลูกเห็นแล้วจะเครียด/กลัว ได้) ซึ่งก็ฟังดูเหมือนจะดี แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่ามันไม่มีใครเป็นเด็กตลอดไป เด็กน้อยทุกคนต้องโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่(แต่ระบบที่ฝังนั้นอยู่ในหัวลูกตลอด เอาออกไม่ได้), แม่จะปกป้องลูกไปตลอดไม่ได้ และ ความเครียด ความกลัว ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์
รีวิว
เราชอบตอนนี้ที่เขาทำออกมาให้เราเข้าใจทั้งสองฝ่าย คือแม่ก็ไม่ได้ปกป้องลูกมากกกจนเว่อร์เกินไป มันสมเหตุสมผล ดูแล้วไม่เกิดความรู้สึกต่อต้าน อยู่ในระดับที่เราดูแล้วเราเข้าใจเขาอ่ะ ที่เราบอกว่าแม่จะปกป้องลูกไปตลอดไม่ได้ แต่ถ้าเราเป็นแม่ เราก็คงทำในแบบที่เขาทำนั่นแหละ ในขณะที่ตัวลูกเองเราก็เข้าใจเหมือนกัน เพราะเราได้เห็นพัฒนาการของเขาตั้งแต่คลอดออกมาจนโต เรารู้ว่าเขาเจออะไรมา และสิ่งเหล่านั้นมันส่งผลให้เขาเป็นยังไง
คือเรื่องนี้มีเมสเสจเยอะมากๆ และใส่มาได้ดีมากด้วย ไม่ยัดเยียด คือดี อย่างเช่นฉากตอนต้นเรื่อง ที่คนเป็นแม่คุยกับพ่อของเขา(คุณตาของเด็ก)
ตาบอกประมาณว่าให้เด็กเล่นไปเหอะ ไม่ต้องไปดูแลอะไรขนาดนั้น
แม่ก็ตอบกลับไปว่าเพราพ่อเลี้ยงหนูงี้ ตอนนั้นหนูเลยแขนหักเลยไง
ตาเลยถามกลับแล้วตอนนี้แขนเป็นไงบ้างล่ะ (ก็คือตอนนี้แขนหายแล้ว)
คนแม่เลยชูนิ้วกลางกลับ (แบบตลกๆ ทำนองเล่นมุกแบบแสบๆ) บอกว่าก็ดูใช้ได้ดีนะ
คือสื่อว่า ควรปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง ถึงอาจจะมีเจ็บตัวบ้าง แต่เดี๋ยวแผลมันก็หายเอง
แล้วคือจังหวะในเรื่องมันดีอ่ะะ เราชอบที่คนแม่เล่นมุกชูนิ้วกลางกลับ เหมือนยอมรับว่าเดี๋ยวแผลจากการเรียนรู้ด้วยตนเองในอดีตก็หายไปจริง แต่ก็ไม่ยอมรับไปพร้อมๆกันด้วยการชูนิ้วกลางกลับ
ชอบมากกกเรื่องนี้ จริงๆมันมีอะไรเยอะกว่านี้มากก แต่ไม่อยากเล่าเดี๋ยวสปอย55555 เชียร์ให้ไปดู
Ep. 3 Crocodile (คะแนน 9/10)
ตอนนี้มีความ Thriller สูงมากก จะไม่ได้เน้นพวกประเด็นจริยธรรมอะไรเท่าไหร่
เรื่องย่อ
มีอา นั่งรถอยู่กับแฟนหนุ่มแล้วดันไปขับชนคน เธอกับแฟนก็กำจัดศพเขาทิ้งไป ทั้งคู่สัญญาว่าจะลืมเรื่องนี้ไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เวลาผ่านไป มีอากลายเป็นสถาปนิกที่ประสบความสำเร็จ มีแฟนใหม่แต่งงานกันมีลูกมีครอบครัวที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งแฟนเก่าของเธอก็กลับมาหาเพราะเกิดสำนึกผิดในสิ่งที่เคยทำไว้นานมาแล้ว และอยากจะทำอะไรซักอย่าง มีอาไม่เห็นด้วยอย่างมากเนื่องจากตอนนี้ชีวิตเธอดีมากแล้ว เธอจะไม่ยอมเสี่ยงให้เรื่องนี้พังชีวิตที่เธอสร้างขึ้นมาเองกับมือเด็ดขาด เธอจึงตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งแทนและต้องเก็บมันเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกัน ที่ใช้"เครื่องดูความทรงจำ" ไปดูความทรงจำของพยานในเหตุการณ์อุบัติเหตุต่างๆ เพื่อใช้ยืนยันลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แล้วบังเอิ๊ญญญญญญ ยัยมีอาเนี่ย ดันไปเป็นพยานของอุบัติเหตุหนึ่ง มีอาจะทำอย่างไร เธอจะถูกดูความทรงจำไหม แล้วเธอจะรักษาความลับของเธออย่างไร จากเครื่องดูความทรงจำนี้
รีวิว
จังหวะของหนังดีมาก ช่วงแรกๆคือเป็นการปูเรื่องก่อน ให้เรารู้จักมีอา และเครื่องดูความทรงจำนี้ ที่แอบน่าสนใจคือความทรงจำต่อเรื่องเดียวกัน แต่มาจากคนละคนเนี่ยกลับไม่เหมือนกัน แต่ผู้สร้างเขาไม่ได้โฟกัสจุดนี้ซักเท่าไหร่ เขาโฟกัสความตื่นเต้น เร้าใจ ลุ้นระทึก และความฉลาดของมีอาในการปกปิดความลับต่อไปมากกว่า
รายละเอียดต่างๆที่ปูมาตั้งแต่เริ่มอ่ะ คือเอาไปใช้ในตอนท้ายของเรื่องหมดเลย แบบดีมากกก คือทุกอย่างใส่มาเพราะมีเหตุผลอ่ะ แล้วพอตอนท้ายๆหน่อยคือดำเนินเรื่องปั่ปๆๆๆเลย สนุกดี แม้แต่เพลงตอนจบยังมีเมสเสจ55555 ใส่รายละเอียดได้ประณีตมาก
Ep 4. Hang the DJ (คะแนน 9.5/10)
ตอนนี้เป็นตอนที่ไม่น่ากลัว5555
เรื่องย่อ
ในโลกนี้ชายหญิงแต่ละคนจะมีอีจานกลมๆอันหนึ่ง ที่หน้าตาเหมือนในร้านบิงซู ที่มันจะสั่นเวลาอาหารพร้อมเสิร์ฟอ่ะ5555 ลักษณะประมาณนั้น อีเครื่องนี้จะคอยจับคู่เดทให้กับเรา แล้วจะมีวันหมดอายุอยู่ ก็คือจะบอกว่าเราต้องคบกับคนนี้ไปอีกกี่ชั่วโมง(บางทีก็เป็นวัน หรือเป็นปีเลยก็มี) เราต้องทำตามนี้ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ เพื่อที่สุดท้ายแล้วระบบนี้จะส่งคู่แท้มาให้กับเรา ซึ่งเขาอ้างว่าได้ผลถึง99.8% ทีนี้ปัญหาก็คือแฟรงก์ กับเอมี่ ถูกจับให้เดทกันครั้งแรก แล้วปรากฏว่ารู้สึกรักกันตั้งแต่ครั้งนั้น รู้สึกว่านี้คือคู่แท้ ไม่ว่าจะโดนเปลี่ยนไปคบกับใครๆก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ยังต่างคิดถึงอีกฝ่ายอยู่ ก็เลยเกิดการตั้งคำถามว่าคู่แท้ที่ระบบจะเลือกให้เนี่ย มันใช่คู่แท้จริงๆหรอ หรือจริงๆแล้วเราต่างหาก ที่ต้องเป็นคนเลือกคู่แท้ให้กับตัวเอง
รีวิว
ตอนนีเราก็ชอบบบบบบ เพราะเป็นมันฟีลกู๊ด ฮือออออ แฟรงก์กับเอมี่น่ารักมาก5555 ดูๆไปแล้วจะรู้คำตอบเองว่าระบบจะเลือกคู่แท้ได้จริงมั้ย
เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกว่าเขาทำเนื้อเรื่องมาสมเหตุสมผลอ่ะ คือดูแล้วไม่ขัด ที่ชอบสุดของตอนนี้คือตอนจบเอมี่พูดเมสเสจออกมาโต้งๆเลย555555 ดูแล้วเคลียร์แน่นอน แต่พูดในบริบทที่โอเคนะ
Ep 5. Metalhead (คะแนน 7/10)
ให้น้อยเพราะว่า งง!! แต่มันสสสสสสส์ ตื่นเต้นเร้าใจสุด Thriller + Action
ตอนนี้เป็นสีขาวดำด้วยนะ
เรื่องย่อ
แก๊งพเนจรสามคน(ไม่แน่ใจว่าควรใช้คำว่าอะไร ภาษาอังกฤษคือ scavengers อ่ะ) ตัวหลักคือเบลล่า ผู้หญิงคนเดียวในแก๊ง ทั้งสามจะไปเอา"ของสิ่งหนึ่ง"ในโกดัง แต่กลับไปเจอ "หมา" หุ่นยนต์ฆ่าที่โคตรโหด555 เฝ้าของนั่นอยู่ ทั้งสามโดนอีหุ่นยนต์หมานี่ไล่ฆ่า เหลือเบลล่ารอดคนเดียว (คืออีก2คนแป๊ปเดียวมันก็ตายแล้วง่า5555 แถมในทรลเลอร์ก็จะเห็นอยู่แล้วว่าเหลือเบลล่าคนเดียว เลยขออนุญาตบอกไปเลย5555) เบลล่าที่รอดก็หนีๆๆ ใช้ไหวพริบ+มันสมองเอาตัวรอดจากเจ้าหมา
รีวิว
คือตอนแรกจะให้ 6.5ด้วย เพราะเนื้อเรื่องแทบไม่มีไรเลย แค่เบลล่าวิ่งหนีหมาเหล็ก แต่มันมันส์มาก แล้วเรื่องก็ค่อยๆโชว์ความสามารถของอีหมานี่ให้คนดูรู้ ว่ามันทำไรได้บ้าง ซึ่งรู้แล้วก็แค่ทึ่งในความโหดของมัน แต่ไม่ได้มีอะไรต่ออ่ะ55555 แต่ถามว่าสนุกมั้ย ก็สนุกนะ ตื่นเต้นดี ส่วนที่ให้7เพราะชอบตอนเฉลยจบ แต่เห็นเฉลยแล้วก็ยังไม่เก็ตอ่ะ5555 เขาไม่ได้ให้แบคกราวนด์อะไรมาเท่าไหร่ เลยไม่เข้าใจว่าตอนนี้โลกมันเกิดอะไรอยู่ ทำไมสามหน่อนี่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายออกมาเอาของสิ่งนั้นด้วย แล้วหมาเหล็กนี่มีทำไม ใครสร้าง ต้องการจะสื่ออะไร คือไม่รู้เลย5555 คิดว่าคนสร้างตั้งใจจะโฟกัสแค่ความมันส์ในการหนีตายของเบลล่าเฉยๆ
Ep 6. Black Museum (คะแนน 8.5/10)
ตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง USS Callister แล้วก็ Arkangel แน่นอน5555 เพราะอะไรเดี๋ยวบอก
เรื่องย่อ
ผู้หญิงผิวสีคนหนึ่งแวะจอดรถที่ปั๊มเพื่อชาร์จพลังงานรถแล้วมันใช้เวลาชาร์จนาน นางไปเห็น Black Museum ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆพอดีเลยเดินเข้าไปชมฆ่าเวลา Black Museum นี้เป็นพิพิธภัณฑ์รวมของเกี่ยวกับอาชญากรรม ตอนนางเอกของเราเข้าชมของต่างๆ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ก็เล่าเรื่องราวเบื้องหลังของของแต่ละชิ้น ว่าผิดกฎหมายอย่างไร ซึ่งในพิพิธภัณฑ์นี้เนี่ยก็มีอีเครื่องเกมส์จาก USS Callister กับแท็บเล็ต Arkangel อยู่ด้วย55555 แต่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงแต่อย่างใด ดูๆไปก็เหมือนเขาจะโฟกัสที่เรื่องเล่าของแต่ละชิ้น แต่สุดท้ายแล้วตัวพิพิธภัณฑ์นี่แหละที่เป็นประเด็น
รีวิว
ตอนนี้แอบเดาได้แต่แรกแล้วว่าหลังจากเล่าเรื่องต่างๆมันจะต้องย้อนกลับมาเป็นเรื่องของตัวพิพิธภัณฑ์เอง แต่ชอบแนวคิดของคนเขียนบทที่คิดของแปลกๆออกมาได้ (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นของที่ต่อมาเป็นอาชญากรรม) เป็นอีกครั้งที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆตอนต้นเรื่องมามีผลตอนท้ายเรื่อง และเราพูดอะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวสปอย555555
จบแล้วววววเย้ คนที่ดูแล้วมาอ่านอาจจะเห็นว่าเราเขียนเรื่องย่อไม่ต้องเป๊ะๆซักเท่าไหร่นะ ขอชี้แจงว่าถ้าเขียนถูกต้องครบทุกอย่างมันก็จะสปอยคนอ่านอ่า5555 เลยเขียนประมาณนี้ แต่ถ้าตรงไหนเห็นว่าควรแก้ก็บอกได้เลยน้า
และ ใครดูแล้วมาเม้ากันด้ายยยย อยากเม้ามอย อยากdiscuss มากๆ ))