ความเดิมตอนที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/37226347
....
แอ๊ดดดดดดดดดด ... โอ๊ย ประตูหนักแท้ ..
ต้องขออำไพคุณพ่อคุณแม่ยกกันสักหน่อย ... ทีแรกกระผมว่าจะเปิดวิกฉลองปีใหม่กันในวันที่หนึ่งเลย แต่ประสบปัญหาเล็กน้อยทำให้ต้องเลื่อนเปิดการแสดงออกมาหนึ่งวัน ...
สาเหตุหรือครับ มีหลายอย่าง เรื่องแรกก็คือบรรดาพระเอกกับเพื่อนพ้องนักแสดงฉลองกันเพลินไปหน่อย ลุกไม่ไหว แหะ ...
เรื่องที่สองก็คือพระเอกเริ่มงอแง มาบ่นกับผมว่านางเอกทำไม่ไม่ตรงสเป็ค
“ทำไมรึจารย์ ...“ ผมถาม
“นางเอกแก่ไปหน่อย ... “ จารย์จีบ่นแบบหมดอาลัยตายอยาก
“หื้อ !! .. แก่ได้ไง...” ผมแย้งไป “... นางเอกผมยังไม่เปิดตัวเลย...”
อ้าว ..!! จารย์จีส่ายคอง่อกแง่ก “... ม่ายใช่เจ๊ลิเหรอ ...”
ผมหัวเราะ มิน่าเล่าจารย์จีเลยฉลองมันซะโต้รุ่ง ที่แท้กะเอาเหล้าย้อมใจนี่เอง ฮิ ๆ
“ไม่ใช่จารย์ เรื่องนี้เจ๊ลิไม่ใช่นางเอก เธอมาเป็นนักแสดงรับเชิญให้เท่านั้นเอง ..”
“เอ้อ !! โล่งใจ ...” จารย์จียิ้มออกมาได้ “....ผมกลัวโดนข้อหาพรากผู้เฒ่า ...”
แหม .. จารย์จีเล่นออกมาซะโต้ง ๆ ถึงอีตอนนี้ผมไม่กลังข้อหงข้อหาหรอกครับ กลัวแม่ลิเค้าขึ้นมากระทืบคาโรงกันตะหาก นึกว่าจะหมดเรื่องข้องใจแต่จารย์จีก็ยังมีอีก
“อะไรกันจารย์ ละครเราสนุกจะตาย นางเอกสาว ๆ สวย ๆ เอาะ ๆ กำลังจะออก จารย์งอแงอะไร”
“ผมสงสัยตรงแท็กห้อง...”
“ทำไมจารย์ ...”
“หง่า ... “ จารย์จีหัวคิ้วชนกัน “.... คือละครรักมะลุ๊กกุ๊กกิ๊กแบบนี้มันน่าจะไปแท็กห้องสยามสแควร์หรือบางรัก อีกอย่างละครฟอร์มใหญ่และผมมาเป็นพระเอกให้ มันน่าจะไปแท็กที่เฉลิมไทยกับบางขุนพรมด้วย ...แต่ไหงคุณไปแท็กห้องดิโอลด์สยาม ...”
“คือ ..ผมว่าละครเรื่องนี้มันช่วยปลอบประโลมใจให้เหล่าผู้เฒ่ามีฟามสุขน่ะจารย์ ...”
“ห๊า !! … ไปเกี่ยวอะไรกับพวกผู้เฒ่า ...” จารย์จีทำเสียงสูง
ผมตบหลังจารย์จีแปะ ๆ “.... เกี่ยวสิจารย์ คือผมกลัวคนถนนห้องโอลด์สยามอย่างเช่นลุงเจียวต้ายแกจะเหงาน่ะ เลยแท็กเข้าไปให้แกได้ชมด้วย น่า .. จารย์ .. ไม่มีอะไรหรอก..”
“แน่ใจนะว่าเป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ ..” จารย์จียังข้องใจ
“ใช่สิจารย์ .. เชื่อผมเหอะ ตอนนี้ผู้ชายห้องโอลด์สยามเอาจารย์เป็นไอดอลกันเป็นแถว ...”
จารย์จียิ้มแป้น ... “จริงเร๊อะ .. ผมดังขนาดนั้นเชียว ...” แล้วก็เริ่มจะสงสัยหัวคิ้วชนกันอีก พลางบ่นพึมพำ “.. ทำไมเป็นไอดอลหว่า ...”
ผมกลัวจารย์จีจะนึกขึ้นได้ เอ๊ย กลัวแกจะถามอีก เลยรินให้แกถอนสองเป๊ก...
คราวนี้พระเอกของเราก็คึกคัก พร้อมจะออกแสดงได้ แต่ไม่วายจะสำทับ ..
“นางเอกออกตอนนี้เลยใช่ไหม เอ๊าะ ๆ ขาว ๆ ใช่ไหม สวยเอ็กซ์ด้วยใช่ไหม .. “
“เอ๊าะจริงสิจารย์ นี่..ถอนอีกสักเป๊ก ... ซร้วบบบบ.. อ่า !!“
เอ้า ..... เปิดม่านนนนนนนนนนนนนนน ...
.........................................
“คุณสอไปเอาข้าวของอะไรเยอะแยะมาจากไหน“ พ่อถามขึ้นเมื่อเห็นน้าสอหิ้วถุงก๊อบแก๊บพะรุงพะรังเข้าบ้าน โดยมีผมส่ายหางดุ๊กดิ๊กตามมาข้างหลัง
“เมื่อกี้ผมไปช่วยป้าซูซี่เก็บร้านน่ะจารย์ แกก็เลยให้พวกนี้มานี่แหละ ผมก็เลยนึกถึงจารย์กับไอ้กะปอม นี่ถ้าจารย์มีแม่บ้านผมคงไม่ต้องหิ้วไอ้นี่มาให้ร้อก ...” น้าสอว่าพลางวางพวกกับข้าวไว้บนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน
พ่อไม่ตอบ ทำเป็นเมิน ๆ ส่วนน้าสอก็นั่งลงตรงม้าหินอ่อน พูดต่อของแกไปเรื่อย ๆ .. ..
“หาเมียได้แล้วจารย์ จำได้ไหมที่เราตกลงว่าจะรีบหาแม่ใหม่ให้ไอ้กะปอมมันเร็ว ๆ ...”
“ไอ้ที่คุยกันไว้น่ะผมไม่ลืมหรอก แต่พอหายเมามาแล้วกลับมาคิดใหม่.. มัน ... วุ้ย อธิบายลำบาก”
“มันยังไงหรือจารย์” น้าสอเอียงคอถาม
พ่อเอามือมาลูบหัวผม เหม่อมองไปยังยอดมะยมหน้าบ้าน
“ผมจะบอกคุณยังไงดี ...คือมันไอ้อยากจะมีมันก็อยากนะ แต่ก็ไม่ใช่จะต้องรีบมีก็ได้ หรือมีแล้วมันจะไม่ดีก็อย่ามีเสียดีกว่า ของอย่างนี้มันก็ต้องดูให้มันดี ๆ แต่บางทีเราไปเจอของดี เขากลับว่าเราไม่ดี มันก็เลยไม่มีมาอยู่อย่างนี้ “
ผมนี่ถึงกับเอาขาหลังมาเกาหู ส่วนหน้าสอทำหน้าซื่อบื้อ
“… จารย์พูดให้คนฟังรู้เรื่องได้ไหม”
“อ้าว .. ผมก็ว่าพูดชัดแล้วนา คุณฟังไม่เข้าใจเอง ... “
น้าสอโบกมือ “ช่างเถอะจารย์ ผมมันฟังปรัชญาของจารย์ไม่ออกเอง... ว่าแต่จารย์โทรหาผมทำไม เห็นมันขึ้นในโทรศัพท์ผมไม่ทันรับ แต่พอดีจะออกมาซื้อของปากซอยอยู่แล้วเลยมาถามจารย์เอาเองนี่แหละ หรือว่าจะชวนตั้งวงฉลองปีใหม่ ... “
“ไม่ใช่ ...” พ่อส่ายหน้า “... ผมว่าจะไปอีสานสักสองสามวัน แต่ติดตรงเป็นห่วงไอ้กะปอมกับพวกแมวทั้งหลาย เลยว่าจะถามคุณหน่อยว่าช่วงหยุดปีใหม่ไปไหนหรือเปล่า ถ้าไม่ไปจะได้ฝากคุณดูแลไอ้พวกนี้ ...”
“โอ๊ย .. แค่สองสามวัน ไอ้พวกนี้อยู่ได้สบายไม่ต้องกลัวมันจะอดตายกันหรอก ...”
น้าสอหัวเราะ แต่พอเห็นพ่อทำตาโตแกก็เปลี่ยนเป็นแหะ ๆ
“... พูดเล่นน่า .. จารย์ .. เดี๋ยวผมดูให้เอง ช่วงวันหยุดนี้ผมไม่ไปไหนหรอก นาน ๆ จะว่างยาวอย่างนี้สักทีว่าจะซุ่มเขียนหนังสือ ไอ้พวกนี้เดี๋ยวผมดูแลให้ ...”
……………..
ตกลงผมเลยต้องฝากท้องกับน้าสอไว้หลายวัน ต้องคอยวิ่งตามแกต้อย ๆ แหละ จะให้แกจัดให้ตามเวลารึฝันไปเถอะ ขนาดตัวแกเองยังกินข้าวไม่เคยเป็นเวลาเลย
วันนี้เกือบเที่ยงน้าสอมาจุ๊ปากเรียกผมอยู่หน้าบ้าน ไอ้ผมก็หิวจะตายอยู่แล้วก็รีบวิ่งหน้าตั้งออกไป
“ไปหากินอะไรกันดีกว่าไอ้ปอม ...” น้าสอชวนผมแล้วก็เดินผิวปากไปตามซอยอย่างอารมณ์ดี ระหว่าทางก็ทักหมา แซวแมว จีบแม่ค้าไปเรื่อยเปื่อย ทางแค่สองสามร้อยเมตรแกเดินเป็นชั่วโมง ผมวิ่งย้อนไปย้อนมาระหว่าตัวแกกับปากซอยได้เป็นร้อยรอบ
ช่วงเข้าสิ้นปีนี่ร้านรวงพากันหยุดไปหมด ไก่ปิ้งเจ๊ลิก็หยุด ได้ยินน้าสอบ่นพึมพำว่าแกน่าจะกลับลำพูน เสียดายก็เสียดายที่ไม่ได้กินไก่ปิ้ง ดีใจก็ดีใจเพราะผมกลัวเจ๊ลิ ได้ยินในวงเหล้าคุยกันว่าแกเป็นพยาบาลมาเก่า
“เอ็งซนดีนัก ระวังเจ๊ลิจะจับตอน ...” น้าสอกับน้าเปลวแกชอบขู่ผม ได้ยินงี้เมื่อไหร่ผมหงอยทุกที
ร้านที่เปิดอยู่ก็มีร้านสว่างโภชนาของลุงแอ๊ดซึ่งเน้นขายกับแกล้มเหล้าจำพวกลาบน้ำตก แต่น้าสอกลับมาหยุดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามคือร้านป้าซูซี่ ร้านนี้เป็นร้านไฮโซขายอาหารไทยกับอาหารตามสั่งแต่ดันมีเมนูขาหมูเยอรมัน เห็นน้าสอแกว่าป้าซูซี่แกชอบทำอาหารเลยเปิดร้านเอาสนุก
สองร้านนี้ปกติแก๊งค์วงเหล้าของพ่อจะมานั่งกันก็แค่ช่วงต้นเดือน เคยยกโขยงกันมากลางเดือนกันครั้งหนึ่งตอนน้าเปลวถูกล็อตเตอรี่สองตัว เห็นว่าถูกรางวัลแค่พันเดียวแต่กินหมดไปเกือบสามพัน กลายเป็นว่าส่วนเกินต้องมาหารกัน เดือนนั้นหงอยไปทั้งแก๊งค์ ฮิ ๆ
………………
เริ่มปีใหม่มานี่ออกจะเงียบเชียบ สงสัยคนไปต่างจังหวัดกันเยอะ ในร้านป้าซูซี่มีคนกินอยู่โต๊ะเดียว ส่วนตัวป้ากับเด็ก ๆ ในร้านไม่รู้หายไปไหนหมด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคุ้น ๆ กันอยู่ น้าสอแกก็ดูรายการอาหารของแกไปเรื่อย ๆ ผมได้ทีก็ตะกุยตะกายเมนูอีตรงขาหมูเยอรมันพร้อมทำน้ำลายย้อย เผื่อน้าสอแกสงสารจะสั่งมากินกัน
แต่ไม่ได้ผลแฮะ น้าสอแกผลักหน้าผมออก
“ไปไกล ๆ ไอ้กะปอม ชะ .. เป็นไทยกลางตลาดดันสะเออะจะกินขาหมูเยอรมัน ขนาดข้ายังกะกินแค่กระเพราะไข่ดาว อย่างเอ็งถ้าฟลุ๊กก็แค่ได้ซี่โครงไก่ที่ป้าแกทำน้ำซุป ทำมาดูขาหมงขาหมู ... ตุ๋ย !! .. “
แล้วก็มีกลิ่นที่ไม่ค่อยคุ้นกับจมูกของผมมาจากทางด้านหลัง พร้อมเสียงใส ๆ ทักมา ...”
“รับอะไรดีคะ วันนี้มีเมนูพิเศษ ต้มยำไก่ ผัดไก่ และก็ปลาราดพริก..” (คิดไรไม่ออกเลยขอยืมเมนูในละครรักริมไร่ เอ๊ย ริมไรน์ของป้าแกมาหน่อย แหะ ๆ ..)
ผมกับน้าสอหันไปดูพร้อม ๆ กันแล้วก็เห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นตา น้าสอแกกวาดตาขึ้นลงสองสามครั้งแล้วก็บอกไป
“.. เอากะเพราไข่ดาวใส่กล่องน่ะครับ เอาแบบเหมือนเดิมป้าซูซี่แกรู้ ..แล้วหง่า ... แกไม่อยู่หรือครับ...”
สาวสวยคนที่มารับออร์เดอร์ยิ้มหวาน
“ป้าแกอยู่หลังครัวน่ะค่ะ กำลังทำกับข้าวอยู่ก็เลยออกมารับออร์เดอร์ให้ ..ตกลง .. เอากะเพราไข่ดาวใส่กล่องใช่ไหมคะ..”
“ครับ ... บอกป้าซูซี่ว่าผมชื่อสอน่ะครับ แกรู้ว่าผมชอบขาว ๆ เอ๊ย ไข่ขาวกรอบ ๆ แหะ ๆ .. คือ .. ป้าแกรู้ว่าผมกินยังไง..“ น้าสอทำตาเยิ้มเล่นหมาหยอกไก่
"ไม่ได้ยัด เอ๊ย กินใส่ปากหรือคะ ... ฮิ ๆ ขอโทษค่ะ ล้อเล่น ..”
ฮะ ๆ โดนไก่จิกซะแล้ว เล่นเอาน้าสอถึงกับคอย่น ผมนี่ลุกขึ้นยืนสองขาให้เลย
ส่วนคุณพี่คนนั้นก็เดินหายเข้าไปในครัวแล้วก็ไม่โผล่ออกมาอีก ได้ครู่ใหญ่ ๆ ป้าซูซี่แกก็เดินหิ้วถุงก๊อบแก๊บใส่กล่องโฟมออกมายื่นให้
“เอ้า !! ข้าวกะเพราไข่ดาว ... วันนี้สั่งอย่างเดียวหรือ .. “
“อย่างเดียวครับ พอดีไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ที่แวะมาก็ว่าจะถามขอโครงไก่ให้ไอ้กะปอมมันหน่อย “
“อ้อ .. !! มี ..” ป้าซูซี่พยักหน้า “....เดี๋ยวไปเอามาให้ รอแป๊บ..”
ป้าแกว่าแล้วก็หันหลังกลับ แต่น้าสอแกฉุดชายเสื้อไว้ก่อน ป้าแกเลยต้องหันกลับมา
“... ขอถามอะไรหน่อยป้า “ น้าสอทำหน้ามาเลศนัย
“อะไร .. รีบถาม จะรีบกลับไปเตรียมครัว...” ป้าซูซี่ว่า
“น้องศินี่สวยขนาดไหนครับ เห็นหนุ่ม ๆ รุมตอม เอ๊ย .. คนละเรื่อง คือน้องคนที่มารับออร์เดอร์เมื่อกี้เป็นใครครับ จะว่าเป็นเด็กเสิร์ฟใหม่ท่าทางก็ไม่ให้...”
“อ๋ออออ … “ ป้าซูซี่ลากเสียงยาว “.... คนที่คุณไปแหย่เล่นเค้าเมื่อตะกี้น่ะรึ .. “
พอเห็นน้าสอได้แต่หัวเราะแหะ ๆ ป้าแกก็หัวเราะว่าต่อ
“ชื่อน้องอ้อม เป็นหลานน่ะ พอดีเด็กในร้านมันลากลับต่างจังหวัดกันหมดเลยขออ้อมเขามาช่วย...”
“โอ้โห ... มีหลานสวยยังงี้ด้วย ทำไมไม่เอามาช่วยบ่อย ๆ ล่ะครับ รับรองแขกตรึม...”
“งานของเค้าก็เหนื่อยพออยู่แล้ว วันหยุดก็ไม่อยากจะรบกวน บ้านอ้อมอยู่ไกลข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปโน่น นี่พอดีมันหยุดปีใหม่หลายวันเฉย ๆ อีกอย่างเด็กก็ไม่เหลือสักคนเลยขอเขามา”
“แล้วปีใหม่เค้าไม่ไปเค้าดง เคาท์ดาวน์กับแฟนเขาหรือครับป้า ...” น้าสอสะกิดถามต่อ ไม่รู้แกจะถามไปทำไมเยอะแยะ แทนที่จะถามเรื่องซี่โครงไก่ ดันไปถามอะไรไม่รู้ที่ไม่เข้าเรื่อง
“ไม่มีมั้ง ... งานเค้ายุ่งจะตาย แล้วคุณจะถามไปทำไม คนยิ่งรีบ ๆ อยู่ เดี๋ยวจะเอาโครงไก่มาให้ ..”
....
(เปิดตัวนางเอกผู้โชคดีล่ะครับ ยังไงก็ตัวใครตัวมันนะจารย์ ...)
ละครรักมะลุ๊กกุ๊กกิ๊กและคิกขุ @@ ข้าชื่อจารย์จี เรื่องนี้พี่ขอเป็นพระเอก @@
....
แอ๊ดดดดดดดดดด ... โอ๊ย ประตูหนักแท้ ..
ต้องขออำไพคุณพ่อคุณแม่ยกกันสักหน่อย ... ทีแรกกระผมว่าจะเปิดวิกฉลองปีใหม่กันในวันที่หนึ่งเลย แต่ประสบปัญหาเล็กน้อยทำให้ต้องเลื่อนเปิดการแสดงออกมาหนึ่งวัน ...
สาเหตุหรือครับ มีหลายอย่าง เรื่องแรกก็คือบรรดาพระเอกกับเพื่อนพ้องนักแสดงฉลองกันเพลินไปหน่อย ลุกไม่ไหว แหะ ...
เรื่องที่สองก็คือพระเอกเริ่มงอแง มาบ่นกับผมว่านางเอกทำไม่ไม่ตรงสเป็ค
“ทำไมรึจารย์ ...“ ผมถาม
“นางเอกแก่ไปหน่อย ... “ จารย์จีบ่นแบบหมดอาลัยตายอยาก
“หื้อ !! .. แก่ได้ไง...” ผมแย้งไป “... นางเอกผมยังไม่เปิดตัวเลย...”
อ้าว ..!! จารย์จีส่ายคอง่อกแง่ก “... ม่ายใช่เจ๊ลิเหรอ ...”
ผมหัวเราะ มิน่าเล่าจารย์จีเลยฉลองมันซะโต้รุ่ง ที่แท้กะเอาเหล้าย้อมใจนี่เอง ฮิ ๆ
“ไม่ใช่จารย์ เรื่องนี้เจ๊ลิไม่ใช่นางเอก เธอมาเป็นนักแสดงรับเชิญให้เท่านั้นเอง ..”
“เอ้อ !! โล่งใจ ...” จารย์จียิ้มออกมาได้ “....ผมกลัวโดนข้อหาพรากผู้เฒ่า ...”
แหม .. จารย์จีเล่นออกมาซะโต้ง ๆ ถึงอีตอนนี้ผมไม่กลังข้อหงข้อหาหรอกครับ กลัวแม่ลิเค้าขึ้นมากระทืบคาโรงกันตะหาก นึกว่าจะหมดเรื่องข้องใจแต่จารย์จีก็ยังมีอีก
“อะไรกันจารย์ ละครเราสนุกจะตาย นางเอกสาว ๆ สวย ๆ เอาะ ๆ กำลังจะออก จารย์งอแงอะไร”
“ผมสงสัยตรงแท็กห้อง...”
“ทำไมจารย์ ...”
“หง่า ... “ จารย์จีหัวคิ้วชนกัน “.... คือละครรักมะลุ๊กกุ๊กกิ๊กแบบนี้มันน่าจะไปแท็กห้องสยามสแควร์หรือบางรัก อีกอย่างละครฟอร์มใหญ่และผมมาเป็นพระเอกให้ มันน่าจะไปแท็กที่เฉลิมไทยกับบางขุนพรมด้วย ...แต่ไหงคุณไปแท็กห้องดิโอลด์สยาม ...”
“คือ ..ผมว่าละครเรื่องนี้มันช่วยปลอบประโลมใจให้เหล่าผู้เฒ่ามีฟามสุขน่ะจารย์ ...”
“ห๊า !! … ไปเกี่ยวอะไรกับพวกผู้เฒ่า ...” จารย์จีทำเสียงสูง
ผมตบหลังจารย์จีแปะ ๆ “.... เกี่ยวสิจารย์ คือผมกลัวคนถนนห้องโอลด์สยามอย่างเช่นลุงเจียวต้ายแกจะเหงาน่ะ เลยแท็กเข้าไปให้แกได้ชมด้วย น่า .. จารย์ .. ไม่มีอะไรหรอก..”
“แน่ใจนะว่าเป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ ..” จารย์จียังข้องใจ
“ใช่สิจารย์ .. เชื่อผมเหอะ ตอนนี้ผู้ชายห้องโอลด์สยามเอาจารย์เป็นไอดอลกันเป็นแถว ...”
จารย์จียิ้มแป้น ... “จริงเร๊อะ .. ผมดังขนาดนั้นเชียว ...” แล้วก็เริ่มจะสงสัยหัวคิ้วชนกันอีก พลางบ่นพึมพำ “.. ทำไมเป็นไอดอลหว่า ...”
ผมกลัวจารย์จีจะนึกขึ้นได้ เอ๊ย กลัวแกจะถามอีก เลยรินให้แกถอนสองเป๊ก...
คราวนี้พระเอกของเราก็คึกคัก พร้อมจะออกแสดงได้ แต่ไม่วายจะสำทับ ..
“นางเอกออกตอนนี้เลยใช่ไหม เอ๊าะ ๆ ขาว ๆ ใช่ไหม สวยเอ็กซ์ด้วยใช่ไหม .. “
“เอ๊าะจริงสิจารย์ นี่..ถอนอีกสักเป๊ก ... ซร้วบบบบ.. อ่า !!“
เอ้า ..... เปิดม่านนนนนนนนนนนนนนน ...
.........................................
“คุณสอไปเอาข้าวของอะไรเยอะแยะมาจากไหน“ พ่อถามขึ้นเมื่อเห็นน้าสอหิ้วถุงก๊อบแก๊บพะรุงพะรังเข้าบ้าน โดยมีผมส่ายหางดุ๊กดิ๊กตามมาข้างหลัง
“เมื่อกี้ผมไปช่วยป้าซูซี่เก็บร้านน่ะจารย์ แกก็เลยให้พวกนี้มานี่แหละ ผมก็เลยนึกถึงจารย์กับไอ้กะปอม นี่ถ้าจารย์มีแม่บ้านผมคงไม่ต้องหิ้วไอ้นี่มาให้ร้อก ...” น้าสอว่าพลางวางพวกกับข้าวไว้บนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน
พ่อไม่ตอบ ทำเป็นเมิน ๆ ส่วนน้าสอก็นั่งลงตรงม้าหินอ่อน พูดต่อของแกไปเรื่อย ๆ .. ..
“หาเมียได้แล้วจารย์ จำได้ไหมที่เราตกลงว่าจะรีบหาแม่ใหม่ให้ไอ้กะปอมมันเร็ว ๆ ...”
“ไอ้ที่คุยกันไว้น่ะผมไม่ลืมหรอก แต่พอหายเมามาแล้วกลับมาคิดใหม่.. มัน ... วุ้ย อธิบายลำบาก”
“มันยังไงหรือจารย์” น้าสอเอียงคอถาม
พ่อเอามือมาลูบหัวผม เหม่อมองไปยังยอดมะยมหน้าบ้าน
“ผมจะบอกคุณยังไงดี ...คือมันไอ้อยากจะมีมันก็อยากนะ แต่ก็ไม่ใช่จะต้องรีบมีก็ได้ หรือมีแล้วมันจะไม่ดีก็อย่ามีเสียดีกว่า ของอย่างนี้มันก็ต้องดูให้มันดี ๆ แต่บางทีเราไปเจอของดี เขากลับว่าเราไม่ดี มันก็เลยไม่มีมาอยู่อย่างนี้ “
ผมนี่ถึงกับเอาขาหลังมาเกาหู ส่วนหน้าสอทำหน้าซื่อบื้อ
“… จารย์พูดให้คนฟังรู้เรื่องได้ไหม”
“อ้าว .. ผมก็ว่าพูดชัดแล้วนา คุณฟังไม่เข้าใจเอง ... “
น้าสอโบกมือ “ช่างเถอะจารย์ ผมมันฟังปรัชญาของจารย์ไม่ออกเอง... ว่าแต่จารย์โทรหาผมทำไม เห็นมันขึ้นในโทรศัพท์ผมไม่ทันรับ แต่พอดีจะออกมาซื้อของปากซอยอยู่แล้วเลยมาถามจารย์เอาเองนี่แหละ หรือว่าจะชวนตั้งวงฉลองปีใหม่ ... “
“ไม่ใช่ ...” พ่อส่ายหน้า “... ผมว่าจะไปอีสานสักสองสามวัน แต่ติดตรงเป็นห่วงไอ้กะปอมกับพวกแมวทั้งหลาย เลยว่าจะถามคุณหน่อยว่าช่วงหยุดปีใหม่ไปไหนหรือเปล่า ถ้าไม่ไปจะได้ฝากคุณดูแลไอ้พวกนี้ ...”
“โอ๊ย .. แค่สองสามวัน ไอ้พวกนี้อยู่ได้สบายไม่ต้องกลัวมันจะอดตายกันหรอก ...”
น้าสอหัวเราะ แต่พอเห็นพ่อทำตาโตแกก็เปลี่ยนเป็นแหะ ๆ
“... พูดเล่นน่า .. จารย์ .. เดี๋ยวผมดูให้เอง ช่วงวันหยุดนี้ผมไม่ไปไหนหรอก นาน ๆ จะว่างยาวอย่างนี้สักทีว่าจะซุ่มเขียนหนังสือ ไอ้พวกนี้เดี๋ยวผมดูแลให้ ...”
……………..
ตกลงผมเลยต้องฝากท้องกับน้าสอไว้หลายวัน ต้องคอยวิ่งตามแกต้อย ๆ แหละ จะให้แกจัดให้ตามเวลารึฝันไปเถอะ ขนาดตัวแกเองยังกินข้าวไม่เคยเป็นเวลาเลย
วันนี้เกือบเที่ยงน้าสอมาจุ๊ปากเรียกผมอยู่หน้าบ้าน ไอ้ผมก็หิวจะตายอยู่แล้วก็รีบวิ่งหน้าตั้งออกไป
“ไปหากินอะไรกันดีกว่าไอ้ปอม ...” น้าสอชวนผมแล้วก็เดินผิวปากไปตามซอยอย่างอารมณ์ดี ระหว่าทางก็ทักหมา แซวแมว จีบแม่ค้าไปเรื่อยเปื่อย ทางแค่สองสามร้อยเมตรแกเดินเป็นชั่วโมง ผมวิ่งย้อนไปย้อนมาระหว่าตัวแกกับปากซอยได้เป็นร้อยรอบ
ช่วงเข้าสิ้นปีนี่ร้านรวงพากันหยุดไปหมด ไก่ปิ้งเจ๊ลิก็หยุด ได้ยินน้าสอบ่นพึมพำว่าแกน่าจะกลับลำพูน เสียดายก็เสียดายที่ไม่ได้กินไก่ปิ้ง ดีใจก็ดีใจเพราะผมกลัวเจ๊ลิ ได้ยินในวงเหล้าคุยกันว่าแกเป็นพยาบาลมาเก่า
“เอ็งซนดีนัก ระวังเจ๊ลิจะจับตอน ...” น้าสอกับน้าเปลวแกชอบขู่ผม ได้ยินงี้เมื่อไหร่ผมหงอยทุกที
ร้านที่เปิดอยู่ก็มีร้านสว่างโภชนาของลุงแอ๊ดซึ่งเน้นขายกับแกล้มเหล้าจำพวกลาบน้ำตก แต่น้าสอกลับมาหยุดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามคือร้านป้าซูซี่ ร้านนี้เป็นร้านไฮโซขายอาหารไทยกับอาหารตามสั่งแต่ดันมีเมนูขาหมูเยอรมัน เห็นน้าสอแกว่าป้าซูซี่แกชอบทำอาหารเลยเปิดร้านเอาสนุก
สองร้านนี้ปกติแก๊งค์วงเหล้าของพ่อจะมานั่งกันก็แค่ช่วงต้นเดือน เคยยกโขยงกันมากลางเดือนกันครั้งหนึ่งตอนน้าเปลวถูกล็อตเตอรี่สองตัว เห็นว่าถูกรางวัลแค่พันเดียวแต่กินหมดไปเกือบสามพัน กลายเป็นว่าส่วนเกินต้องมาหารกัน เดือนนั้นหงอยไปทั้งแก๊งค์ ฮิ ๆ
………………
เริ่มปีใหม่มานี่ออกจะเงียบเชียบ สงสัยคนไปต่างจังหวัดกันเยอะ ในร้านป้าซูซี่มีคนกินอยู่โต๊ะเดียว ส่วนตัวป้ากับเด็ก ๆ ในร้านไม่รู้หายไปไหนหมด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคุ้น ๆ กันอยู่ น้าสอแกก็ดูรายการอาหารของแกไปเรื่อย ๆ ผมได้ทีก็ตะกุยตะกายเมนูอีตรงขาหมูเยอรมันพร้อมทำน้ำลายย้อย เผื่อน้าสอแกสงสารจะสั่งมากินกัน
แต่ไม่ได้ผลแฮะ น้าสอแกผลักหน้าผมออก
“ไปไกล ๆ ไอ้กะปอม ชะ .. เป็นไทยกลางตลาดดันสะเออะจะกินขาหมูเยอรมัน ขนาดข้ายังกะกินแค่กระเพราะไข่ดาว อย่างเอ็งถ้าฟลุ๊กก็แค่ได้ซี่โครงไก่ที่ป้าแกทำน้ำซุป ทำมาดูขาหมงขาหมู ... ตุ๋ย !! .. “
แล้วก็มีกลิ่นที่ไม่ค่อยคุ้นกับจมูกของผมมาจากทางด้านหลัง พร้อมเสียงใส ๆ ทักมา ...”
“รับอะไรดีคะ วันนี้มีเมนูพิเศษ ต้มยำไก่ ผัดไก่ และก็ปลาราดพริก..” (คิดไรไม่ออกเลยขอยืมเมนูในละครรักริมไร่ เอ๊ย ริมไรน์ของป้าแกมาหน่อย แหะ ๆ ..)
ผมกับน้าสอหันไปดูพร้อม ๆ กันแล้วก็เห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นตา น้าสอแกกวาดตาขึ้นลงสองสามครั้งแล้วก็บอกไป
“.. เอากะเพราไข่ดาวใส่กล่องน่ะครับ เอาแบบเหมือนเดิมป้าซูซี่แกรู้ ..แล้วหง่า ... แกไม่อยู่หรือครับ...”
สาวสวยคนที่มารับออร์เดอร์ยิ้มหวาน
“ป้าแกอยู่หลังครัวน่ะค่ะ กำลังทำกับข้าวอยู่ก็เลยออกมารับออร์เดอร์ให้ ..ตกลง .. เอากะเพราไข่ดาวใส่กล่องใช่ไหมคะ..”
“ครับ ... บอกป้าซูซี่ว่าผมชื่อสอน่ะครับ แกรู้ว่าผมชอบขาว ๆ เอ๊ย ไข่ขาวกรอบ ๆ แหะ ๆ .. คือ .. ป้าแกรู้ว่าผมกินยังไง..“ น้าสอทำตาเยิ้มเล่นหมาหยอกไก่
"ไม่ได้ยัด เอ๊ย กินใส่ปากหรือคะ ... ฮิ ๆ ขอโทษค่ะ ล้อเล่น ..”
ฮะ ๆ โดนไก่จิกซะแล้ว เล่นเอาน้าสอถึงกับคอย่น ผมนี่ลุกขึ้นยืนสองขาให้เลย
ส่วนคุณพี่คนนั้นก็เดินหายเข้าไปในครัวแล้วก็ไม่โผล่ออกมาอีก ได้ครู่ใหญ่ ๆ ป้าซูซี่แกก็เดินหิ้วถุงก๊อบแก๊บใส่กล่องโฟมออกมายื่นให้
“เอ้า !! ข้าวกะเพราไข่ดาว ... วันนี้สั่งอย่างเดียวหรือ .. “
“อย่างเดียวครับ พอดีไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ที่แวะมาก็ว่าจะถามขอโครงไก่ให้ไอ้กะปอมมันหน่อย “
“อ้อ .. !! มี ..” ป้าซูซี่พยักหน้า “....เดี๋ยวไปเอามาให้ รอแป๊บ..”
ป้าแกว่าแล้วก็หันหลังกลับ แต่น้าสอแกฉุดชายเสื้อไว้ก่อน ป้าแกเลยต้องหันกลับมา
“... ขอถามอะไรหน่อยป้า “ น้าสอทำหน้ามาเลศนัย
“อะไร .. รีบถาม จะรีบกลับไปเตรียมครัว...” ป้าซูซี่ว่า
“น้องศินี่สวยขนาดไหนครับ เห็นหนุ่ม ๆ รุมตอม เอ๊ย .. คนละเรื่อง คือน้องคนที่มารับออร์เดอร์เมื่อกี้เป็นใครครับ จะว่าเป็นเด็กเสิร์ฟใหม่ท่าทางก็ไม่ให้...”
“อ๋ออออ … “ ป้าซูซี่ลากเสียงยาว “.... คนที่คุณไปแหย่เล่นเค้าเมื่อตะกี้น่ะรึ .. “
พอเห็นน้าสอได้แต่หัวเราะแหะ ๆ ป้าแกก็หัวเราะว่าต่อ
“ชื่อน้องอ้อม เป็นหลานน่ะ พอดีเด็กในร้านมันลากลับต่างจังหวัดกันหมดเลยขออ้อมเขามาช่วย...”
“โอ้โห ... มีหลานสวยยังงี้ด้วย ทำไมไม่เอามาช่วยบ่อย ๆ ล่ะครับ รับรองแขกตรึม...”
“งานของเค้าก็เหนื่อยพออยู่แล้ว วันหยุดก็ไม่อยากจะรบกวน บ้านอ้อมอยู่ไกลข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปโน่น นี่พอดีมันหยุดปีใหม่หลายวันเฉย ๆ อีกอย่างเด็กก็ไม่เหลือสักคนเลยขอเขามา”
“แล้วปีใหม่เค้าไม่ไปเค้าดง เคาท์ดาวน์กับแฟนเขาหรือครับป้า ...” น้าสอสะกิดถามต่อ ไม่รู้แกจะถามไปทำไมเยอะแยะ แทนที่จะถามเรื่องซี่โครงไก่ ดันไปถามอะไรไม่รู้ที่ไม่เข้าเรื่อง
“ไม่มีมั้ง ... งานเค้ายุ่งจะตาย แล้วคุณจะถามไปทำไม คนยิ่งรีบ ๆ อยู่ เดี๋ยวจะเอาโครงไก่มาให้ ..”
....
(เปิดตัวนางเอกผู้โชคดีล่ะครับ ยังไงก็ตัวใครตัวมันนะจารย์ ...)