...........
...........
วันก่อนอีตอนปิดวิกสังกะสี จารย์จีแกบ่นกะปอดกะแปดว่าโรงงิ้วเปิดตัวสาว ๆ มาเรื่อย ๆ แต่ไม่ยักกะยอมให้แกร่วมแสดง แล้วทำท่าหมดแรงจะไม่ช่วยกันเก็บวิกเอาเสียดื้อ ๆ
ไอ้ผมก็เห็นว่าช่วงนี้จะเข้าปีใหม่พอดี เลยเอาใจแกสักหน่อยพร้อมหาเรื่องมีรายได้ ...
“...เปิดวิกตอนพิเศษกันไหมจารย์...” ผมชวน “... เอาสักสามตอนจบ แสดงกันตอนก่อนปีใหม่ ช่วงเข้าปีใหม่ และหลังปีใหม่ หารายได้เสริมโรงงิ้ว ...”
“อยากจะพักบ้าง ปีใหม่ว่าจะกลับอีสาน ...” จารย์จีพูดแบบเหม่อ ๆ ตาดูแต่กะปอมไล่กันบนต้นมะพร้าว
“ผมว่าจะให้จารย์เป็นพระเอก ...” ผมหยอด
.................
“ในถนนผมว่ามีสาวสวยหลายคน ว่าจะเต๊าะมาเป็นนางเอกสักหน่อย ..." ผมว่าเรื่อย ๆ
.................
"... อาจจะเอามาแสดงหลาย ๆ คนเลยก็ได้ พระเอกจะได้แตะอั๋งสนุก ๆ ...”
“...คิด ๆ ดู บางทีก็เบื่อรถติดแถวสระบุรี...” จารย์พูดไปคนละเรื่อง แต่ไหงผมกลับฟังรู้เรื่องก็ไม่รู้ ฮิ ๆ
“จะลองหาแบบ ... ขาว ๆ สวย ๆ หมวย ๆ เอ็กซ์ ๆ ...” ผมว่าต่อ
“เอื้อก !! …” มีเสียงกลืนน้ำลาย จารย์จีตายังมองเหม่อไปทางยอดมะพร้าว แต่เอียงหน้าเข้ามาลดเสียงเบาลง ไม่รู้จะกระซิบไปทำไม อยู่กันสองคนแท้ ๆ “...ถ้าจะให้ดีต้องแถมเซ็กซ์ซี่และขี้เล่น ... “
“...แถมต้องใจกว้างด้วย ... “ ผมเสริม
คราวนี้จารย์จีลูกกระเดือกวิ่งพล่าน สงสัยจะกลืนน้ำลายหลายอึก ไม่รู้แกคิดอะไร แต่ของผมที่ต้องหาใจกว้างนี่เป็นเพราะกลัวพวกเธอจะมารุมเหยียบเอา แหะ ...
เอ้า !! .. เมื่อพระเอกขอมา วิกสังกะสีก็ตอบสนอง ...
เรื่องนี้ใครไม่รู้จะ(ซวย)ถูกเชิญมาแสดงกันบ้าง โดยเฉพาะนางเอก ยังไงก็ตัวใครตัวมันเน้อจารย์จี ...
.................... เปิดม่านนนนนนนนนนนนน ...............
“จารย์ !! … เมื่อไหร่จารย์จะหาเมียให้มันเร็ว ๆ หน่อย เผื่อพวกเราจะได้มีกับแกล้มอร่อย ๆ ปรุงร้อน ๆ กันบ้าง จะได้ไม่ต้องอาศัยไก่ปิ้งเจ๊กันอยู่อย่างนี้ จารย์ไม่เบื่อหรือ ...”
น้าสอบ่นหลังจากยกแก้วเหล้าพลางแทะปีกไก่ส่วนบน แต่ก็ยังดีที่อุตส่าห์แบ่งส่วนปีกล่างมาให้ผมที่กำลังนั่งน้ำลายยืดอยู่ข้าง ๆ
แต่แทนที่พ่อจะรู้ตัว แกกลับมองน้าสออย่างปลงอนิจจังแล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ บ้าง “คุณสออออออออออ !! นี่คุณกำลังหยิบปัญหาระดับชาติขึ้นมาเชียวนะ ”
“ปัญหาระดับชาติอะไรกัน ผมไม่เข้าใจ ” น้าสอทำหน้ามึน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาดองหรือเป็นเพราะงงจริง
แต่ก็อย่างว่า... คำพูดของพ่อผมมักจะมีอะไรที่ทำให้คนฟังต้องดมยาดมอยู่บ่อย ๆ พ่อผมเป็นครู เรื่องง่าย ๆ แกถึงพูดให้คนฟังปวดหัวได้ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า
“ก็คุณเล่นเอาปัญหาสังคมระดับประเทศที่แม้แต่คนในรัฐบาลต้องปวดหัว มาต่อรองกะอีแค่คุณเบื่อไก่ปิ้งเจ๊ลิ ... “ พ่อว่าพลางก็คว้าเอาปีกไก่เสียบไม้ไปแทะบ้าง
“อ๊ะ !! แค่หาเมียใหม่มาทำกับแกล้ม จารย์ว่าเป็นปัญหาระดับประเทศเชียวรึ ” น้าสอพูดเสียงดัง
“เอ๊า !! ..นี่แหละเป็นปัญหาสังคมของชาติเลยล่ะ คุณรู้ไหม ถึงคุณว่ามาแค่สั้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันแฝงด้วยปัญหาสังคมตั้งไม่รู้กี่อย่าง เริ่มตั้งแต่ปัญหาของสถาบันครอบครัวของคนโสดที่ขาดความอบอุ่น สืบก็มาจากปัญหาเศรษฐกิจเพราะหากผมรวยสาว ๆ คงวิ่งมาเป็นแถวทำให้ผมมีเมียไปตั้งนาน หรือถึงจะหาไม่ได้พวก เราก็คงออกไปนั่งดริ้งค์กอดอีสาวตามคาราโอเกะกันแล้ว ไม่ต้องมาทนกินเหล้าดองยาแกล้มไก่ปิ้งสักยันต์อยู่นี่..."
ไก่เจ๊ลิมันเหนียวครับ แก๊งค์วงเหล้าของพ่อเลยแซวกันลับหลังว่าไก่สักยันต์ ที่ต้องมาว่ากันลับหลังเพราะน้าสอแกเคยทะลึ่งไปแซวต่อหน้าว่าไก่ย่างสงสัยเหนียวเหมือนเจ้าของ เจ๊ลิแกเลยงอนที่ไปว่าแกแก่หนังเหนียวเลยไม่ให้ซื้อเชื่อไปเป็นเดือน ทำเอาวงเหล้าเดือดร้อนกับแกล้มมีแต่มะขามเปียกจิ้มเกลือ จนน้าเปลวต้องบังคับให้น้าสอไปยกมือไหว้ปลก ๆ ขอโทษเจ๊ลิแก วงเหล้าถึงได้มีไก่ปิ้งมานั่งแทะกันต่อ
“.... นอกจากนั้นนะคุณสอ ..เอื้อก ..!! “ พ่อแกรำพึงรำพันต่อ “... การที่ผมหาเมียไม่ได้ มันทำให้เชื้อของดีเอ็นเอฉลาด ๆ มันขาดหายไป ดูเด็กแถวในซอยเราซิมีแต่ไอ้พวกเด็กแวนซ์ แล้วไอ้พวกนี้ก็ดันมีลูกตั้งแต่สิบเจ็ดสิบแปด เป็นภาระสังคมที่ต้องเอาภาษีของพวกเราไปอุ้ม ...”
น้าสอโบกมือห้ามให้พ่อหยุดแล้วก้มหน้าก้มตาแทะปีกไก่ ไม่ต่อปากต่อคำอะไรกับพ่ออีก ไม่งั้นก็ต้องฟังปัญหาระดับชาติของแกไปจนมึนโน่นแหละ ฮิ ๆ …
ส่วนพ่อก็หยุดปากลงทันทีเหมือนกันอย่างจะนึกขึ้นได้ แล้วก้มลงซดยาดองไปอย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในวงเหล้าแสนจะหดหู่
ที่จริงผมก็สงสารพ่ออยู่เหมือนกัน น้าสอไม่น่าโพล่งขึ้นมาให้สะเทือนใจแกเลย พูดขึ้นมาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเซ็งด้วยกันทั้งคู่ ส่วนผมก็จำต้องแทะกระดูกไก่เล่นไปแบบเบื่อหน่ายด้วย เฮ้อ …
(ต่อข้างล่าง)
ละครรักมะลุกกุ๊กกิ๊กและคิกขุ ต้อนรับปีใหม่จากวิกสังกะสี @@@ ข้าชื่อจารย์จี เรื่องนี้พี่ขอเป็นพระเอก @@@
...........
วันก่อนอีตอนปิดวิกสังกะสี จารย์จีแกบ่นกะปอดกะแปดว่าโรงงิ้วเปิดตัวสาว ๆ มาเรื่อย ๆ แต่ไม่ยักกะยอมให้แกร่วมแสดง แล้วทำท่าหมดแรงจะไม่ช่วยกันเก็บวิกเอาเสียดื้อ ๆ
ไอ้ผมก็เห็นว่าช่วงนี้จะเข้าปีใหม่พอดี เลยเอาใจแกสักหน่อยพร้อมหาเรื่องมีรายได้ ...
“...เปิดวิกตอนพิเศษกันไหมจารย์...” ผมชวน “... เอาสักสามตอนจบ แสดงกันตอนก่อนปีใหม่ ช่วงเข้าปีใหม่ และหลังปีใหม่ หารายได้เสริมโรงงิ้ว ...”
“อยากจะพักบ้าง ปีใหม่ว่าจะกลับอีสาน ...” จารย์จีพูดแบบเหม่อ ๆ ตาดูแต่กะปอมไล่กันบนต้นมะพร้าว
“ผมว่าจะให้จารย์เป็นพระเอก ...” ผมหยอด
.................
“ในถนนผมว่ามีสาวสวยหลายคน ว่าจะเต๊าะมาเป็นนางเอกสักหน่อย ..." ผมว่าเรื่อย ๆ
.................
"... อาจจะเอามาแสดงหลาย ๆ คนเลยก็ได้ พระเอกจะได้แตะอั๋งสนุก ๆ ...”
“...คิด ๆ ดู บางทีก็เบื่อรถติดแถวสระบุรี...” จารย์พูดไปคนละเรื่อง แต่ไหงผมกลับฟังรู้เรื่องก็ไม่รู้ ฮิ ๆ
“จะลองหาแบบ ... ขาว ๆ สวย ๆ หมวย ๆ เอ็กซ์ ๆ ...” ผมว่าต่อ
“เอื้อก !! …” มีเสียงกลืนน้ำลาย จารย์จีตายังมองเหม่อไปทางยอดมะพร้าว แต่เอียงหน้าเข้ามาลดเสียงเบาลง ไม่รู้จะกระซิบไปทำไม อยู่กันสองคนแท้ ๆ “...ถ้าจะให้ดีต้องแถมเซ็กซ์ซี่และขี้เล่น ... “
“...แถมต้องใจกว้างด้วย ... “ ผมเสริม
คราวนี้จารย์จีลูกกระเดือกวิ่งพล่าน สงสัยจะกลืนน้ำลายหลายอึก ไม่รู้แกคิดอะไร แต่ของผมที่ต้องหาใจกว้างนี่เป็นเพราะกลัวพวกเธอจะมารุมเหยียบเอา แหะ ...
เอ้า !! .. เมื่อพระเอกขอมา วิกสังกะสีก็ตอบสนอง ...
เรื่องนี้ใครไม่รู้จะ(ซวย)ถูกเชิญมาแสดงกันบ้าง โดยเฉพาะนางเอก ยังไงก็ตัวใครตัวมันเน้อจารย์จี ...
.................... เปิดม่านนนนนนนนนนนนน ...............
“จารย์ !! … เมื่อไหร่จารย์จะหาเมียให้มันเร็ว ๆ หน่อย เผื่อพวกเราจะได้มีกับแกล้มอร่อย ๆ ปรุงร้อน ๆ กันบ้าง จะได้ไม่ต้องอาศัยไก่ปิ้งเจ๊กันอยู่อย่างนี้ จารย์ไม่เบื่อหรือ ...”
น้าสอบ่นหลังจากยกแก้วเหล้าพลางแทะปีกไก่ส่วนบน แต่ก็ยังดีที่อุตส่าห์แบ่งส่วนปีกล่างมาให้ผมที่กำลังนั่งน้ำลายยืดอยู่ข้าง ๆ
แต่แทนที่พ่อจะรู้ตัว แกกลับมองน้าสออย่างปลงอนิจจังแล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ บ้าง “คุณสออออออออออ !! นี่คุณกำลังหยิบปัญหาระดับชาติขึ้นมาเชียวนะ ”
“ปัญหาระดับชาติอะไรกัน ผมไม่เข้าใจ ” น้าสอทำหน้ามึน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาดองหรือเป็นเพราะงงจริง
แต่ก็อย่างว่า... คำพูดของพ่อผมมักจะมีอะไรที่ทำให้คนฟังต้องดมยาดมอยู่บ่อย ๆ พ่อผมเป็นครู เรื่องง่าย ๆ แกถึงพูดให้คนฟังปวดหัวได้ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า
“ก็คุณเล่นเอาปัญหาสังคมระดับประเทศที่แม้แต่คนในรัฐบาลต้องปวดหัว มาต่อรองกะอีแค่คุณเบื่อไก่ปิ้งเจ๊ลิ ... “ พ่อว่าพลางก็คว้าเอาปีกไก่เสียบไม้ไปแทะบ้าง
“อ๊ะ !! แค่หาเมียใหม่มาทำกับแกล้ม จารย์ว่าเป็นปัญหาระดับประเทศเชียวรึ ” น้าสอพูดเสียงดัง
“เอ๊า !! ..นี่แหละเป็นปัญหาสังคมของชาติเลยล่ะ คุณรู้ไหม ถึงคุณว่ามาแค่สั้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันแฝงด้วยปัญหาสังคมตั้งไม่รู้กี่อย่าง เริ่มตั้งแต่ปัญหาของสถาบันครอบครัวของคนโสดที่ขาดความอบอุ่น สืบก็มาจากปัญหาเศรษฐกิจเพราะหากผมรวยสาว ๆ คงวิ่งมาเป็นแถวทำให้ผมมีเมียไปตั้งนาน หรือถึงจะหาไม่ได้พวก เราก็คงออกไปนั่งดริ้งค์กอดอีสาวตามคาราโอเกะกันแล้ว ไม่ต้องมาทนกินเหล้าดองยาแกล้มไก่ปิ้งสักยันต์อยู่นี่..."
ไก่เจ๊ลิมันเหนียวครับ แก๊งค์วงเหล้าของพ่อเลยแซวกันลับหลังว่าไก่สักยันต์ ที่ต้องมาว่ากันลับหลังเพราะน้าสอแกเคยทะลึ่งไปแซวต่อหน้าว่าไก่ย่างสงสัยเหนียวเหมือนเจ้าของ เจ๊ลิแกเลยงอนที่ไปว่าแกแก่หนังเหนียวเลยไม่ให้ซื้อเชื่อไปเป็นเดือน ทำเอาวงเหล้าเดือดร้อนกับแกล้มมีแต่มะขามเปียกจิ้มเกลือ จนน้าเปลวต้องบังคับให้น้าสอไปยกมือไหว้ปลก ๆ ขอโทษเจ๊ลิแก วงเหล้าถึงได้มีไก่ปิ้งมานั่งแทะกันต่อ
“.... นอกจากนั้นนะคุณสอ ..เอื้อก ..!! “ พ่อแกรำพึงรำพันต่อ “... การที่ผมหาเมียไม่ได้ มันทำให้เชื้อของดีเอ็นเอฉลาด ๆ มันขาดหายไป ดูเด็กแถวในซอยเราซิมีแต่ไอ้พวกเด็กแวนซ์ แล้วไอ้พวกนี้ก็ดันมีลูกตั้งแต่สิบเจ็ดสิบแปด เป็นภาระสังคมที่ต้องเอาภาษีของพวกเราไปอุ้ม ...”
น้าสอโบกมือห้ามให้พ่อหยุดแล้วก้มหน้าก้มตาแทะปีกไก่ ไม่ต่อปากต่อคำอะไรกับพ่ออีก ไม่งั้นก็ต้องฟังปัญหาระดับชาติของแกไปจนมึนโน่นแหละ ฮิ ๆ …
ส่วนพ่อก็หยุดปากลงทันทีเหมือนกันอย่างจะนึกขึ้นได้ แล้วก้มลงซดยาดองไปอย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในวงเหล้าแสนจะหดหู่
ที่จริงผมก็สงสารพ่ออยู่เหมือนกัน น้าสอไม่น่าโพล่งขึ้นมาให้สะเทือนใจแกเลย พูดขึ้นมาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเซ็งด้วยกันทั้งคู่ ส่วนผมก็จำต้องแทะกระดูกไก่เล่นไปแบบเบื่อหน่ายด้วย เฮ้อ …
(ต่อข้างล่าง)