ถ้าอ่าน เนื้อหาจบแล้ว อย่าพึ่งนึกตำหนิ หรือ สาปแช่งเราเลย
เราไม่อยากให้ ยุ่งยาก ในการจัดการ หนี้สิน และ ทรัพย์ หลังจากที่พ่อเราไม่อยู่แล้ว
ถ้าเราไม่วางแผน ไม่เตรียมตัวจัดการที่ค้างคา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เราลูกคนเดียว คงเหนื่อย วุ่นวายหน้าดู
ถ้าปัญหามันมีมากๆ จนเราจัดการไม่ทัน เรากลัวเราคุมจิตใจ คุมความคิด ตัดพ้อต่อว่าตัวเอง และทิ้งทุกอย่างไปนั่งอยู่ในมุมของตัวเองแบบไม่สนใจอะไร
ถ้าเราคุมความคิดความรุสึกไม่ได้ คนที่ลำบากมากๆๆคือแม่ของเราที่ท่านมีอายุมากแล้วท่านจะต้องดำเนินการเองหมด อายุ ความรู้ การเดินทางไม่เอื้อต่อแม่เรามากนัก
-เราเป็นลูกคนเดียว
-พ่อนอนป่วยติดเตียงเข้าปีที่ 3 (เส้นเลือดแตกที่ก้านสมอง วันแรกหมอบอกว่า โอกาสรอดชีวิตไม่มี คงอยู่ไม่เกิน 2-3 คืน)
- ซึ่งปีนี้พ่ออาการแย่มาก มีภาวะติดเชื้อบ่อยขึ้น (ฉี่เป็นเลือด)
-หลังจากที่พ่อล้มป่วย หนี้สินที่พ่อมี ทั้ง ธนาคารการเกษตร ทั้ง เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ
แม่และเราพยามติดต่อ ขอใช้หนี้ และดำเนินการแทนพ่อในทุกๆเรื่อง ซึ่งมีเอกสาร ใบรับรองแพทย์ ไปยื่นเพื่อขอพิจารณา (ในช่วงที่ป่วยแรกๆ)
แต่ยุ่งยากและใช้เวลามาก โอกาสน้อยที่จะยินยอมให้ทำการแทน
-ไถ่ถอน ทรัพย์ ที่จำนอง (ที่ดินมูลค่าไม่มาก ที่นำไปจำนอง และค้างชำระมานานเป็นหลายปี )
-การขอผัดผ่อนขอเลื่อนการชำระ เนื่องจาก ไม่มีรายได้
-ทรัพย์หลายอย่าง ที่เปนชื่อของ ปู่ ย่า และท่านสั่งเสียไว้ก่อน ท่านจะเสีย ว่าให้ใครบ้าง
-ทรัพย์นี้ พ่อเราเอามาคนเดียว เอามาจำนอง และสัญญาว่า จะไถ่ถอนคืน ให้ไวที่สุด จนผ่านไปหลายสิบปีก็ไม่สามารถไถ่ถอนได้(ยังเปนชื่อของปู่)
-พี่น้องของพ่อเริ่มไม่สบายใจ ต้องการทรัพยมาแบ่งตามส่วนของตน (ปัจจุบันเหลือ ย่าที่ยังมีชีวิตอยู่และท่านก็ 90 ปีแล้ว)
-เราเอง ก็ยังไม่มีความสารมารถในการหาเงิน มาไถ่ถอนเพื่อไปคืน และแบ่งตามส่วนให้ญาติ ตามเจตนาที่ปู่ ย่าสั่งไว้
เราจะถามว่า ในขณะที่พ่อเรายังอยู่ เราจะเริ่มจากตรงไหน เพื่อให้ได้จัดการทุกอย่างแทนพ่อ (เมื่อวันที่พ่อไม่อยู่มันจะได้ไม่วุ่นวาย)
เรากังวลเรื่อหนี้สิน เรากลัวทรัพย์ ของพี่น้องพ่อ ถูกยึดเนื่องจาก ไม่ได้ชำระหนี้ เพราะผลผลิต ไม่ได้ราคา (การชำระ ไม่สม่ำเสมอ จ่ายปี เว้นปี)
ในทรัพย์ ที่พ่อครอบครองไม่มีสักชิ้นที่เปนชื่อเรา ทรัพย์ 90% เป็นชื่อพ่อทั้งหมด (แม่ไม่รู้หนังสือ จึงเปนพ่อเองทั้งหมด)
เราติดต่อชำระหนี้ แทนได้เปนบางส่วน หนี้บางอย่าง ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ครบตามจำนวนที่กำหนด
(แต่เรามีเงินไม่พอ จะ ชำระดอกเบี้ยบางส่วนก็ไม่ได้ ทำให้หนีสิ้นคั่งค้างสะสม)
(เราบอกประกาศขายทรัพย์ เฉพาะที่เปนชื่อของพ่อ บอกขายมาหลายปี แต่ก็ขายไม่ได้ อ้อนวอนของให้ ธนาคารรับซื้อไป ธนาคารก็ไม่เอา
เป็น ที่ดิน ไม่มีเสาไฟฟ้า เอาไว้ทำเกษตรอย่างเดียว)
ปล เราไม่ได้ คิดอยากจะเอาสมบัติของท่านมาเป็นของเรา
เรามีเจตนา จะรักษาทรัพย นั้นไว้คืนญาติ ตามส่วนของญาติ
เราอยากจะโอน ทรัพย์ จากชื่อของพ่อ มาให้"คนเป็น" คนที่ยังอยู่ (เราหรือแม่ก็ได้) เพื่อที่เราจะได้จัดการต่อ ได้ โดยที่ไม่ต้องวิ่งวุ่นวายหลังจัดงาน
ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกความเห็น
การเตรียมตัว (ญาติ ผู้ป่วย ทรัพย์ หนี้สิน)
เราไม่อยากให้ ยุ่งยาก ในการจัดการ หนี้สิน และ ทรัพย์ หลังจากที่พ่อเราไม่อยู่แล้ว
ถ้าเราไม่วางแผน ไม่เตรียมตัวจัดการที่ค้างคา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เราลูกคนเดียว คงเหนื่อย วุ่นวายหน้าดู
ถ้าปัญหามันมีมากๆ จนเราจัดการไม่ทัน เรากลัวเราคุมจิตใจ คุมความคิด ตัดพ้อต่อว่าตัวเอง และทิ้งทุกอย่างไปนั่งอยู่ในมุมของตัวเองแบบไม่สนใจอะไร
ถ้าเราคุมความคิดความรุสึกไม่ได้ คนที่ลำบากมากๆๆคือแม่ของเราที่ท่านมีอายุมากแล้วท่านจะต้องดำเนินการเองหมด อายุ ความรู้ การเดินทางไม่เอื้อต่อแม่เรามากนัก
-เราเป็นลูกคนเดียว
-พ่อนอนป่วยติดเตียงเข้าปีที่ 3 (เส้นเลือดแตกที่ก้านสมอง วันแรกหมอบอกว่า โอกาสรอดชีวิตไม่มี คงอยู่ไม่เกิน 2-3 คืน)
- ซึ่งปีนี้พ่ออาการแย่มาก มีภาวะติดเชื้อบ่อยขึ้น (ฉี่เป็นเลือด)
-หลังจากที่พ่อล้มป่วย หนี้สินที่พ่อมี ทั้ง ธนาคารการเกษตร ทั้ง เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ
แม่และเราพยามติดต่อ ขอใช้หนี้ และดำเนินการแทนพ่อในทุกๆเรื่อง ซึ่งมีเอกสาร ใบรับรองแพทย์ ไปยื่นเพื่อขอพิจารณา (ในช่วงที่ป่วยแรกๆ)
แต่ยุ่งยากและใช้เวลามาก โอกาสน้อยที่จะยินยอมให้ทำการแทน
-ไถ่ถอน ทรัพย์ ที่จำนอง (ที่ดินมูลค่าไม่มาก ที่นำไปจำนอง และค้างชำระมานานเป็นหลายปี )
-การขอผัดผ่อนขอเลื่อนการชำระ เนื่องจาก ไม่มีรายได้
-ทรัพย์หลายอย่าง ที่เปนชื่อของ ปู่ ย่า และท่านสั่งเสียไว้ก่อน ท่านจะเสีย ว่าให้ใครบ้าง
-ทรัพย์นี้ พ่อเราเอามาคนเดียว เอามาจำนอง และสัญญาว่า จะไถ่ถอนคืน ให้ไวที่สุด จนผ่านไปหลายสิบปีก็ไม่สามารถไถ่ถอนได้(ยังเปนชื่อของปู่)
-พี่น้องของพ่อเริ่มไม่สบายใจ ต้องการทรัพยมาแบ่งตามส่วนของตน (ปัจจุบันเหลือ ย่าที่ยังมีชีวิตอยู่และท่านก็ 90 ปีแล้ว)
-เราเอง ก็ยังไม่มีความสารมารถในการหาเงิน มาไถ่ถอนเพื่อไปคืน และแบ่งตามส่วนให้ญาติ ตามเจตนาที่ปู่ ย่าสั่งไว้
เราจะถามว่า ในขณะที่พ่อเรายังอยู่ เราจะเริ่มจากตรงไหน เพื่อให้ได้จัดการทุกอย่างแทนพ่อ (เมื่อวันที่พ่อไม่อยู่มันจะได้ไม่วุ่นวาย)
เรากังวลเรื่อหนี้สิน เรากลัวทรัพย์ ของพี่น้องพ่อ ถูกยึดเนื่องจาก ไม่ได้ชำระหนี้ เพราะผลผลิต ไม่ได้ราคา (การชำระ ไม่สม่ำเสมอ จ่ายปี เว้นปี)
ในทรัพย์ ที่พ่อครอบครองไม่มีสักชิ้นที่เปนชื่อเรา ทรัพย์ 90% เป็นชื่อพ่อทั้งหมด (แม่ไม่รู้หนังสือ จึงเปนพ่อเองทั้งหมด)
เราติดต่อชำระหนี้ แทนได้เปนบางส่วน หนี้บางอย่าง ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ครบตามจำนวนที่กำหนด
(แต่เรามีเงินไม่พอ จะ ชำระดอกเบี้ยบางส่วนก็ไม่ได้ ทำให้หนีสิ้นคั่งค้างสะสม)
(เราบอกประกาศขายทรัพย์ เฉพาะที่เปนชื่อของพ่อ บอกขายมาหลายปี แต่ก็ขายไม่ได้ อ้อนวอนของให้ ธนาคารรับซื้อไป ธนาคารก็ไม่เอา
เป็น ที่ดิน ไม่มีเสาไฟฟ้า เอาไว้ทำเกษตรอย่างเดียว)
ปล เราไม่ได้ คิดอยากจะเอาสมบัติของท่านมาเป็นของเรา
เรามีเจตนา จะรักษาทรัพย นั้นไว้คืนญาติ ตามส่วนของญาติ
เราอยากจะโอน ทรัพย์ จากชื่อของพ่อ มาให้"คนเป็น" คนที่ยังอยู่ (เราหรือแม่ก็ได้) เพื่อที่เราจะได้จัดการต่อ ได้ โดยที่ไม่ต้องวิ่งวุ่นวายหลังจัดงาน
ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกความเห็น