แชร์ประสบการณ์หางานอย่างไรให้ได้งานที่ใช่ (คู่มือมนุษย์เงินเดือน)

สวัสดีครับเพื่อนๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของ จขกท. (ขอเรียกแทนตัวเองว่าณัฐละกัน) เนื่องด้วยที่ผ่านมา มีหลายคนเข้ามาถามในแชทเฟซของเรา เกี่ยวกับเรื่องการหางาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเขียน resume, สมัครงานทางไหน, ทำยังไงถึงจะได้งานดีๆ etc.

ซึ่งทุกๆครั้งที่มีคนมาปรึกษาก็จะต้องใช้เวลาอธิบายอย่างน้อย 30นาที ในเรื่องที่มีลักษณะคล้ายๆกัน เคยมีคนไล่ให้ณัฐ ไปเปิดเพจด้วยล่ะ 555 แต่เดี๋ยวๆ คือ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น (เลยมาขอใช้ พท. เล็กๆตรงนี้ดีกว่า) ที่จริงแล้วเราเป็นแค่คนธรรมดาเนี้ยแหละ แต่บังเอิญเคยศึกษาเรื่องตลาดแรงงานและกระบวนการการจ้างงานนี้มาบ้าง ซึ่งศาสตร์ในการหางานเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรรู้แต่กลับไม่ค่อยมีใครเคยบอก ประเทศไทยมีอัตราการเปลี่ยนงานแทบทุกปี ปีละอย่างน้อย 2ครั้ง ซึ่งทำให้บริษัทต้องเทรนคนอยู่เป็นประจำและก็มักจะอยู่ได้ไม่นาน...

ในวันนี้ณัฐเลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวและเผยความลับการหางานให้ได้งานมากกว่า 70% ให้กับเพื่อนๆที่กำลังจะหางานเพื่อความก้าวหน้า หรือกำลังมองหางานที่ใช่ โดยจะแบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆ 6บท ซึ่งก็จะง่ายขึ้นสำหรับการอ่านใน topic ที่สนใจ รวมถึงเพื่อนๆสามารถแสดงความเห็นและเสริมข้อมูลในแต่ละ topic นั้นๆ ซึ่งก็ได้แก่

บทที่1 เขียน Resume ยังไงดี?
บทที่2 เราเลือกงานหรืองานเลือกเรา? วิธีกรองงานที่ใช่
บทที่3 วันประกาศ เปิด/ปิด รับสมัคร มีผลต่อการได้งานอย่างไร?
บทที่4 ว่าด้วยเรื่องของ HR?
บทที่5 งานกรุงเทพฯ vs ตจว.?
บทที่6 สัมภาษณ์งานยังไงให้เข้าตากรรมการ?

อีกครั้ง! ณัฐไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ทุกอย่างเป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัว หากมีตรงไหนผิดพลาดต้องขออภัย
โปรดอย่าใช้คำรุนแรงเพราะเราเป็นคน sensitive ><

¡ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย!

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่1 เขียน Resume ยังไงดี?

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ณัฐเพิ่งจะจบป.โท เลยกะว่าจะสมัครงานทั้งที่ไทยและก็ที่สเปนเพราะเห็นว่าไหนๆตัวเองก็อยู่ที่นั่นอยู่แล้วน่าจะหางานง่ายกว่าตอนกลับไทยแล้วมานึกเปลี่ยนใจอยากอยู่ต่อทีหลัง ดังนั้นเลยทำการ renovate resume ซะใหม่ เพราะเราเคยทำงานมาแล้ว 1ปี ก่อนจะมาต่อโท

ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของเรา Resume เหมือนเป็นประตูด่านแรกสำหรับการสมัครงานเนื่องจากการติดต่อครั้งแรกของเรากับบริษัทนั้นไม่สามารถที่จะพูดคุยหรือเห็นหน้ากันได้เลย ก็จะมีเพียงแต่กระดาษ 2-3 แผ่นเท่านั้น ที่จะใช้เป็นตั๋วเบิกทางไปด่านต่อไป ดังนั้นเรา จึง search อากู๋เกิล ไม่ว่าจะเป็น "how to write a resume", "structure of resume" หรือ "resume examples" etc. คือหาเยอะมากๆ เพื่อนำเอาจุดเด่นและจุดที่มีเหมือนกัน รวมถึงอะไรที่ควรเขียนหรือไม่ควรเขียน

สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันผิดๆเกี่ยวกับ resume คือ การใส่ทุกอยากที่เกี่ยวกับตัวเองลงไป ซึ่งจริงๆแล้ว resume ที่ดีไม่ใช่ "สิ่งที่เราอยากบอก" แต่ "เป็นสิ่งที่บริษัทอยากรู้" ดังนั้นเราจึงทำ resume ออกมาด้วยกัน 3แบบ เพื่อให้ประสบการณ์ตัวเองที่เราเขียน match กับตำแหน่งงานที่จะสมัคร 3 ตำแหน่ง ใช่! มันดูเหมือนเยอะ แต่ดีกว่าเราเขียนแบบครอบจักรวาลแล้วจับปลาไม่ได้สักตัว

โดยณัฐกะเทาะเปลือกเอามาแต่หัวข้อหลักๆที่อย่างน้อยควรจะมีอยู่ใน resume ของเรา นั้นคือ

1.) ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-นามสกุล
ที่อยู่
เบอร์ติดต่อ
อีเมล์ติดต่อ
วัน/เดือน/ปี เกิด
สัญชาติ

//ที่อยู่ = ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเอาที่อยู่เราไว้ตามไปทวงหนี้นะ 555 แต่เพื่อให้ recruiter สามารถพิจารณาได้ว่าระยะทางระหว่างที่อยู่ที่ทำงานกับที่อยู่ของเรานั้นใกล้หรือไกล เดินทางสะดวกมั้ย เพราะถ้าเดินทางลำบากนั้นหมายความว่าผู้สมัครต้องเสียเวลาเสียพลังงานไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานแล้ว

//อีเมล์ = ไม่เอาอีเมล์สมัครเกมส์หรืออีเมล์สมัยกำลังซ่าอย่าง nutza@... หรือ nutnarak69@... ควรเป็นชื่อเมล์ที่มีความเป็นทางการ เช่น 'ชื่อ.นามสกุลย่อ' หรือ 'ชื่อ_นามสกุลย่อ' เป็นต้น

//วันเดือนปีเกิด = เราคิดว่าเขาน่าจะไว้เพื่อดูปีเกิดว่าเราอายุเท่าไหร่ งานบางชนิดอาจจะห้ามอายุต่ำกว่า 18ปี หรือบางงานอาจจะต้องการคนอายุเยอะ? (ส่วนตัวเรารู้สึกอายุเป็นเพียงตัวเลขตราบใดที่เรามีศักยภาพเพียงพอกับงานที่สมัครก็โอเคนะ) ส่วนเดือนกับวัน เผื่อไว้ให้ recruiter ดูดวงสมพงษ์ 555+ ล้อเล่น

//สัญชาติ = ในกรณีที่เราสมัครงานบริษัทต่างชาติหรือสมัครงานตปท. อันนี้จะมีผลในเรื่องของการพิจารณาว่าบริษัทสามารถรับเราได้เลยหรือต้องออก work permit ให้

2.) วัตถุประสงค์การสมัครงาน
อารมณ์มันจะเหมือนบทสรุปผู้บริหารอะ 555 ในกรณีที่ recruiter ไม่ได้มีเวลามานั้งอ่านข้อมูลเราทั้งหมด (อย่าลืมว่าเขาไม่ได้อ่าน resume วันละใบ) ดังนั้นเราจึงควรมีสรุปสั้นๆ ความยาวไม่เกิน 3บรรทัด ที่เมื่อ recruiter อ่าน สามารถเข้าใจได้ว่าเราเคยทำอะไรมา? มีประสบการณ์อะไร? ทำมากี่ปี? และต้องการอะไรจากบริษัทที่สมัคร หรือ ต้องการสมัครตำแหน่งอะไร? มันเป็นประโยคสั้นๆที่จะทำให้ผู้อ่านอยากที่จะอ่านต่อ หรือถูกกองทิ้งไว้รวมกับอีก 100คน ข้างล่าง

3.) ประสบการณ์การทำงาน
ชื่อตำแหน่งงานสุดท้าย
ชื่อบริษัท
เดือน/ปี เริ่มงาน ~ เดือน/ปี ออกจากงาน
โดยข้างในควรอธิบายสักหน่อยว่าหน้าที่ความรับผิดชอบเราทำอะไร ผลงานที่เคยทำเด่นชัด เพื่อให้ recruiter เห็นภาพ ว่าเราจะทำอะไรให้กับบริษัทได้บ้างถ้าจ้างเรา?

//อย่าลืม! พยายามเลือกประสบการณ์การทำงาน/ฝึกงาน ที่เกี่ยวข้องกับงานที่จะสมัคร โดยเรียงลำดับจากล่าสุดไปเก่า เพราะจะได้รู้ว่าล่าสุดตอนนี้เราทำอะไร

4.) การศึกษา
คณะ
มหาลัย
เดือน/ปีที่เริ่มศึกษา - เดือน/ปีที่จบการศึกษา
วุฒิที่ได้รับ

//ตรงนี้เราจะไม่ได้เขียนไรมากเพราะปกติเราจะต้องแนบไปกับ transcript ซึ่งจะมีรายละเอียดวิชาที่เคยเรียนรวมถึงเกรดอยู่แล้ว หาก recruiter สงสัยก็เรียกมาสัมภาษณ์สิ อิอิ ;b

5.) ทักษะอื่นๆ
ส่วนใหญ่จะเป็นทักษะทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับงานที่จะสมัคร ตัวอย่างเช่น จขกท. สมัครตำแหน่ง mechanical design engineer ก็อาจจะเป็นทักษะในด้านโปรแกรมออกแบบ เขียนแบบ และการคำนวณ เป็นต้น

//ทักษะภาษาและระดับ ถ้ามีได้ก็จะดีเพราะ recruiter จะได้ดูว่าเรามีความเข้าใจในภาษาแค่ไหน และสามารถคุยงานหรือติดต่อกับลูกค้าได้มั้ย

6.) บุคคลอ้างอิง
โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เคยทำงานร่วมกับเราและรู้จักเราดีพอที่จะรับรองหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับเราได้ (และต้องมั่นใจว่าจะไม่โดนแกล้งหรือหักหลัง 555+) โดยเราเลือก พี่ที่ทำงานเก่า ซึ่งตอนนั้นเขาเป็น senior นั้งทำงานด้วยกัน ช่วยกันคิด และร่วมแก้ปัญหามาด้วยกัน และมักจะโดนลากไปกินเบียร์ทุกวันศุกร์ 555+ แต่ตอนนี้พี่เขาขึ้นเป็น Asst. Manager แล้วนะ *0* ซึ่งเวลาขอใครเป็นบุคคลอ้างอิง เราจะบอกและขออนุญาตก่อนเพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าอาจจะมีคนมาติดต่อสอบถามเรื่องของเรา ในกรณีที่บริษัทที่สมัครสนใจ จะได้ไม่ดูติดขัด ซึ่งความพร้อมยังจะช่วยในเรื่องของความน่าเชื่อถือให้กับเราได้อีกด้วย

หากยังไม่เห็นภาพณัฐก็มีตัวอย่าง resume ที่เราเขียนและส่งใบสมัครจนได้งาน 3 ใน 2 ที่ (ที่ทำงานเก่า +1) เพื่อจะได้เห็นภาพว่าเวลาเราเขียนอะไรลงไปใน resume บ้าง

//บอกก่อนว่าตัวอย่างนี้ใช้เป็นเพียงไอเดียเท่านั้น ไม่มีอะไรผิดหรือถูก และไม่มีอะไรดีที่สุดมีแต่พัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

โดยหลังจากที่เราร่าง resume เสร็จ เราก็ได้ให้เพื่อนที่เรียนโทด้วยกันช่วยดูให้ คนนึงเป็นเพื่อน Czech republic ที่ทำงานด้าน HR อีกคนเป็นเพื่อน American เพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ ><'' 555 เมื่อปรับแก้ไข resume จนโอเคแล้วก็ได้เวลาหางานที่ใช่กัน เย่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่