อยากทราบว่าสมัยยุครุ่งเรืองของอิสลามเป็นยังไง เจริญก้าวหน้ายังไงครับ จินตนาการไม่ออก

เห็นพวกกลุ่ม is และนักรบอีกหลายกลุ่มพยายามรวมอิสลามเป็นรัฐเดียวกันเหมือนยุครุ่งเรืองสมัยก่อนที่อิสลามเอาชนะได้หมดจนสามารถรวมแผ่นดินได้ ซึ่งการรวมกันเนี่ยพอนึกออกว่ามันจะกลายเป็นรัฐใหญ่เหมือนอเมริกาหรือจีนที่เคยแตกเป็นแคว้นแล้วรวมกัน แต่ความรุ่งเรืองนี่นึกไม่ออกครับเพราะสภาพพื้นที่เป็นทะเลทรายและสมัยก่อนคนขี่ม้าขี่อูฐยังไม่มีการขุดเจาะน้ำมัน แล้วรุ่งเรืองยังไงครับเทียบกับยุโรปคือเจริญกว่ายุโรปเลยมั๊ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ในยุคที่อิสลามเจริญนี่ยุโรปอยู่ยุคมืดครับจึงไม่แปลกที่อิสลามจะเจริญกว่า   และทำเลของตะวันออกกลางยังได้เปรียบมากเพราะเป็นจุดทางผ่านของการค้าระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออกทำให้ความรู้และความมั่งคั่งต่างๆมารวมอยู่ที่นี่    ความเจริญของอิสลามส่วนมากจะไปในแนววิทยาการต่างๆเช่นวิทยาศาสตร์ เคมี ดาราศาสตร์    อย่างเช่นกอฮอล์นั้นอาหรับก็เป็นผู้ค้นพบเช่นกันซึ่งภายหลังฝรั่งก็รับเอาไปและตั้งชื่อผิดๆว่าแอลกอฮอล์ (ความจริงมาจาก อัล กอฮอล์)      ซึ่งเมื่อเกิดสงครามครูเสดยุโรปส่งกองทัพมาแถบนี้มากมายก็ทำให้เกิดการส่งผ่านวิทยาการขึ้นพอชาวยุโรปที่มาครูเสดกลับไปก็นำเอาวิทยาการต่างๆกลับไปด้วย      จากนั้นไม่นานก็เกิดวิกฤติการณ์ที่มองโกลประกาศศักดาปราบไปทั่วจนกระทั่งแหล่งรวมความรู้ของอาหรับอย่างแบกแดดถูกทำลายอย่างย่อยยับ    ประกอบกับที่ต่อมาจักรวรรดิไบแซนไทน์ล่มสายเกิดจักรวรรดิออตโตมานขึ้นแทนส่งผลให้ยุโรปเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางสู่อินเดียไปทางทะเลแทน    ทำให้ตะวันออกกลางหมดสภาพของการเป็นทางผ่านและศูนย์กลางของการค้าของตะวันตกและตะวันออก     นับจากนั้นอาหรับและอิสลามก็ค่อยๆเสื่อมไปตามลำดับ



ที่เรามองภาพไม่ออกว่าอิสลามยิ่งใหญ่ได้อย่างไรก็เพราะในปัจจุบันแนวคิดของมุสลิมเปลี่ยนไปมาก     จากเดิมที่ศาสนาอิสลามสอนให้คนคิดและหาความรู้ตลอดชีวิตนั้นค่อยๆเปลี่ยนจากความรู้ทางวิทยาการต่างๆมาเป็นความรู้ทางศาสนาแทน     มุสลิมในปัจจุบันจะมองว่าคนเก่งคือคนที่ท่องจำหลักศาสนาทั้งอัลกุรอ่านรึฮะดิษได้คล่องอ่านทำนองอัลกุรอ่านได้ไพเราะ     ความรู้ทางโลกอื่นๆไม่ได้มีความสำคัญเท่าความรู้ทางศาสนาคนสนใจแต่การศึกษาศาสนาอย่างเดียว      และก็ต้องว่ากันไปตามที่ปราชญ์ในอดีตสอนมาจะไปสงสัยรึคิดในแนวทางที่แปลกแยกออกไปไม่ได้ (ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครสนใจอย่างอื่นเลย    มุสลิมที่สนใจความรู้ทางโลกก็มีอยู่แต่จัดว่าน้อย)

ซึ่งเรื่องนี้เหมือนกับลักษณะของจีนในอดีต     นั่นคือความรู้คือบรรดาปรัชญาและแนวทางต่างๆที่ปราชญ์ในอดีตสอนมาเท่านั้น      จีนในอดีตการที่จะดูว่าใครเก่งยังไงคือดูที่การสอบจอหงวนซึ่งการสอบจอหงวนหลักๆก็คือการเอาแนวทางของขงจื๊อมาถามแบบเดิมๆ      คนที่เข้าสอบก็ต้องนั่งท่องนั่งอ่านตำราขงจื๊อมันไปทั้งเล่มเพื่อเอาความรู้และข้อมูลไปสอบ      และจะตอบแบบขัดแย้งกับตำราก็ไม่ได้อีกโดนปัดตกทันที      พวกความรู้วิทยาศาสตร์วิทยาการต่างๆนี่ไม่ต้องพูดถึงไม่มีสอน  

สังคมมุสลิมในปัจจุบันก็เลยคล้ายกับสังคมจีนสมัยโบราณความรู้ก็ปิดอยู่แค่นั้นวนเวียนไปมาไม่มีใครจุดกระแสใหม่รึคิดนอกกรอบ    ตำราว่ามายังไงก็ว่าตามไปยังงั้นไม่คิดสงสัยรึลองไปวิเคราะห์       แล้วในที่สุดมันก็ส่งผลให้สังคมก็อยู่กันไปแค่นั้นแหละไม่มีความเจริญไม่เกิดความสว่างทางปัญญาชื่นชมกันเองอยู่ในวงของตน    สุดท้ายก็ตามโลกไม่ทันและถูกคนจากที่อื่นๆซึ่งพัฒนาไปมากกว่าเล่นงานจนย่ำแย่     จะมีเจริญก้าวหน้าก็บรรดาประเทศที่ออกสายกลางรึสายหย่อนไม่ยึดติดกอับศาสนามาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่