กาลครั้งหนึ่ง กระต่ายตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ใต้ต้นตาล
ขณะที่นอนหลับอยู่นั้น เกิดพายุใหญ่
ทำให้ลูกตาลหล่นลงที่พื้นดิน เกือบถูกกระต่าย
กระต่ายตกใจตื่นขึ้น คิดว่าฟ้าถล่ม ไม่ทันได้ไตร่ตรอง
ลุกขึ้นได้ก็วิ่งไปอย่างสุดกำลัง เพราะกลัวความตาย
สัตว์อื่น ๆ เห็นกระต่ายวิ่งมาจนเต็มกำลังดังนั้น
จึงถามกระต่ายว่า “นี่ท่านวิ่งหนีอะไรมา”
กระต่ายวิ่งพลางบอกพลางว่า “ฟ้าถล่ม”
สัตว์เหล่านั้นได้ฟังกระต่ายบอก ไม่ทันคิด
สำคัญว่าฟ้าถล่มจริง ก็พากันวิ่งตามกระต่ายไป
หกล้ม ขาหัก แข้งหัก โดนต้นไม้ ตกเหวตายบ้างก็มี
ส่วนที่ยังเหลือก็พากันวิ่งหนีต่อไปอีก
จนกระทั่ง มาพบพญาราชสีห์ตัวหนึ่ง เป็นสัตว์มีปัญญา
เห็นสัตว์ทั้งหลายพากันวิ่งมาไม่หยุดไม่หย่อน จึงร้องถามว่า…
“พวกท่านวิ่งหนีอะไรมา”
กระต่ายจึงเล่าเรื่องให้ราชสีห์ฟัง ราชสีห์ก็เข้าใจทันที
จึงถามต่อไปว่า “ฟ้าถล่มที่ตรงไหน จงพาเราไปดูสักที”
พอไปถึงใต้ต้นตาลที่กระต่ายนอน
พญาราชสีห์พิเคราะห์ดู เห็นลูกตาลตกอยู่ที่โคนต้น
ก็เข้าใจว่าที่แท้เป็นลูกมะตูมตกลงบนใบตาลแห้ง…จึงเกิดเสียงดัง
จนเจ้ากระต่ายคิดว่าแผ่นดินถล่ม
สัตว์ทั้งหลายเกือยต้องเสียชีวิต
เพราะเชื่อตามเสียงผู้อื่นโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว…จึงประกาศให้สัตว์ทั้งหลายทราบตามคามเป็นจริง…
ด้วยความสุขุมรอบคอบรู้จักใช้สติปัญญาไตร่ตรอง…
พญาราชสีห์จึงสามารถรักษาชีวิตสัตว์ทั้งหลายไว้ได้
และนำความสงบสุขมาสู่ป่าใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1). “เมื่อต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง…ควรมีสติ
อย่าผลีผลามด่วนตัดสินใจ…เพราะอาจเกิดผลเสียได้”
2). “อย่าตื่นตกใจโวยวายเชื่อข่าวลือจากผู้อื่น…โดยไม่พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน”
3). “ผู้ที่รู้จักใช้สติปัญญาคิดพิจารณาอย่างรอบคอบจะสามารถค้นพบ…สาเหตุของปัญหาได้”
จากนิทานเรื่องนี้ จึงทำให้เกิดเป็นสำนวนสุภาษิตไทยขึ้นว่า “กระต่ายตื่นตืม” ที่หมายถึง “ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่าย…โดยไม่ทันคิดพิจารณาให้ถ่องแท้รอบคอบเสียก่อนว่าเป็นจริงหรือไม่…ถ้าเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาให้ถ่องแท้…อาจทำให้เกิดความเสียหายได้”
นักการเมืองอย่าครวญ! 'นันทเดช'ชี้'รีเซต'ทำทุกพรรคเท่าเทียม
29 ธ.ค.60 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรอง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ Nuntdach Makswat กรณีที่พรรคการเมืองไม่พอใจรัฐบาล หลังจากที่มีความพยายามรีเซตพรรคการเมือง โดยให้พรรคการเมืองหาสมาชิกพรรคพร้อมกัน พล.ท.นันทเดช ระบุว่า เป็นเรื่องที่ดี
พรรคการเมืองโกรธรัฐบาลรีเซทพรรคการเมือง ให้ทุกพรรคเริ่มหาสมาชิกใหม่พร้อมกัน
เรื่องนี้ถูกหรือผิดย่อมอยู่ที่มุมมองของแต่ละคนไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก
แล้วแต่มุมมองของผลประโยชน์ในแต่ละคน
ขอมองอย่างคนกลาง ผมชอบเรื่องรีเซทสมาชิกพรรคการเมืองของ คสช.
ครั้งนี้มาก มันตอบโจทย์ท่ีรบกวนจิตรใจมานานแล้วครับ
(1) พรรคการเมืองแต่ละพรรค มีสมาชิกที่ซ้ำซ้อนกัน ไปมา
(2) พรรคฯกับสมาชิกไม่ได้ติดต่อกันเป็นส่วนใหญ่ พรรคฯไม่รู้ว่าใครตาย ใครเป็น, ไม่รู้ว่าสมาชิกคนไหน ย้ายที่อยู่ หรือ แต่งงาน ฯลฯ
(3) พรรคฯ จะเข้าหาสมาชิกเมื่อมีการเลือกตั้ง แต่คนหนึ่งเป็นสมาชิกหลายพรรค เพราะ บางพรรคก็หาสมาชิกจากคอมพิวเตอร์ ดังนั้น จึงมีคนเป็นสมาชิก พรรคการเมืองอยู่โดยไม่รู้ตัวแยะ
(4) การมีสมาชิกมาก ไม่ได้ทำให้พรรคฯ นั้นชนะเลือกตั้ง บางพรรคฯมีสมาชิกมาก ก็ไม่ได้รับเลือกตั้งเลยสักคนก็มี จากเหตุผลตามข้อ 1-3 คือ พรรคกับสมาชิกไม่มีความสัมพันธิ์กัน ไม่มีการติดต่อกัน ฯลฯ บางคนไม่รู้ด้วยว่าเป็นสมาชิกพรรคนั้น พรรคนี้ ฯลฯ
ดังนั้น ล้มกระดานไปแล้วรับสมัครสมาชิกใหม่นะดีแล้ว สมาชิกกับพรรคจะได้รู้จักกันจริงๆเสียที
ส่วนที่บอกว่าพรรคใหญ่เสียเปรียบนะไม่จริงหรอกครับ เพราะกฏหมายระบุให้หาสมาชิกแค่หมื่นคนจากทุกภาค ก็ใช้ได้แล้ว พรรคใหญ่ส่งจดหมายไปหาสมาชิกที่มีอยู่แสนคน ขึ้นไป
ดังนั้น แค่ภาคละ2000คน หมูมาก มันต้องมีจริงอยู่บ้างละ แต่พรรคตั้งใหม่ ซิไปหาคน2000คนมาเป็นสมาชิกในภาคใต้นั้น
ผมว่ายากทีเดียวครับ
ดังนั้น อย่าไปบ่นเลยเรื่องดีๆ แบบนี้นานๆ มาทีครับ
http://www.naewna.com/politic/311663
กระต่ายตื่นตูมจึงเหมาะกับนักการเมืองด้วยเหตุนี้ค่ะ
🎁🦊~มาลาริน~ ดิฉันขอให้สมญานามนักการเมืองที่โวยวายเรื่องปลดล๊อกพรรคการเมือง..คือกระต่ายตื่นตูมค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง กระต่ายตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ใต้ต้นตาล
ขณะที่นอนหลับอยู่นั้น เกิดพายุใหญ่
ทำให้ลูกตาลหล่นลงที่พื้นดิน เกือบถูกกระต่าย
กระต่ายตกใจตื่นขึ้น คิดว่าฟ้าถล่ม ไม่ทันได้ไตร่ตรอง
ลุกขึ้นได้ก็วิ่งไปอย่างสุดกำลัง เพราะกลัวความตาย
สัตว์อื่น ๆ เห็นกระต่ายวิ่งมาจนเต็มกำลังดังนั้น
จึงถามกระต่ายว่า “นี่ท่านวิ่งหนีอะไรมา”
กระต่ายวิ่งพลางบอกพลางว่า “ฟ้าถล่ม”
สัตว์เหล่านั้นได้ฟังกระต่ายบอก ไม่ทันคิด
สำคัญว่าฟ้าถล่มจริง ก็พากันวิ่งตามกระต่ายไป
หกล้ม ขาหัก แข้งหัก โดนต้นไม้ ตกเหวตายบ้างก็มี
ส่วนที่ยังเหลือก็พากันวิ่งหนีต่อไปอีก
จนกระทั่ง มาพบพญาราชสีห์ตัวหนึ่ง เป็นสัตว์มีปัญญา
เห็นสัตว์ทั้งหลายพากันวิ่งมาไม่หยุดไม่หย่อน จึงร้องถามว่า…
“พวกท่านวิ่งหนีอะไรมา”
กระต่ายจึงเล่าเรื่องให้ราชสีห์ฟัง ราชสีห์ก็เข้าใจทันที
จึงถามต่อไปว่า “ฟ้าถล่มที่ตรงไหน จงพาเราไปดูสักที”
พอไปถึงใต้ต้นตาลที่กระต่ายนอน
พญาราชสีห์พิเคราะห์ดู เห็นลูกตาลตกอยู่ที่โคนต้น
ก็เข้าใจว่าที่แท้เป็นลูกมะตูมตกลงบนใบตาลแห้ง…จึงเกิดเสียงดัง
จนเจ้ากระต่ายคิดว่าแผ่นดินถล่ม
สัตว์ทั้งหลายเกือยต้องเสียชีวิต
เพราะเชื่อตามเสียงผู้อื่นโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว…จึงประกาศให้สัตว์ทั้งหลายทราบตามคามเป็นจริง…
ด้วยความสุขุมรอบคอบรู้จักใช้สติปัญญาไตร่ตรอง…
พญาราชสีห์จึงสามารถรักษาชีวิตสัตว์ทั้งหลายไว้ได้
และนำความสงบสุขมาสู่ป่าใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1). “เมื่อต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง…ควรมีสติ
อย่าผลีผลามด่วนตัดสินใจ…เพราะอาจเกิดผลเสียได้”
2). “อย่าตื่นตกใจโวยวายเชื่อข่าวลือจากผู้อื่น…โดยไม่พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน”
3). “ผู้ที่รู้จักใช้สติปัญญาคิดพิจารณาอย่างรอบคอบจะสามารถค้นพบ…สาเหตุของปัญหาได้”
จากนิทานเรื่องนี้ จึงทำให้เกิดเป็นสำนวนสุภาษิตไทยขึ้นว่า “กระต่ายตื่นตืม” ที่หมายถึง “ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่าย…โดยไม่ทันคิดพิจารณาให้ถ่องแท้รอบคอบเสียก่อนว่าเป็นจริงหรือไม่…ถ้าเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาให้ถ่องแท้…อาจทำให้เกิดความเสียหายได้”
นักการเมืองอย่าครวญ! 'นันทเดช'ชี้'รีเซต'ทำทุกพรรคเท่าเทียม
29 ธ.ค.60 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรอง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ Nuntdach Makswat กรณีที่พรรคการเมืองไม่พอใจรัฐบาล หลังจากที่มีความพยายามรีเซตพรรคการเมือง โดยให้พรรคการเมืองหาสมาชิกพรรคพร้อมกัน พล.ท.นันทเดช ระบุว่า เป็นเรื่องที่ดี
พรรคการเมืองโกรธรัฐบาลรีเซทพรรคการเมือง ให้ทุกพรรคเริ่มหาสมาชิกใหม่พร้อมกัน
เรื่องนี้ถูกหรือผิดย่อมอยู่ที่มุมมองของแต่ละคนไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก
แล้วแต่มุมมองของผลประโยชน์ในแต่ละคน
ขอมองอย่างคนกลาง ผมชอบเรื่องรีเซทสมาชิกพรรคการเมืองของ คสช.
ครั้งนี้มาก มันตอบโจทย์ท่ีรบกวนจิตรใจมานานแล้วครับ
(1) พรรคการเมืองแต่ละพรรค มีสมาชิกที่ซ้ำซ้อนกัน ไปมา
(2) พรรคฯกับสมาชิกไม่ได้ติดต่อกันเป็นส่วนใหญ่ พรรคฯไม่รู้ว่าใครตาย ใครเป็น, ไม่รู้ว่าสมาชิกคนไหน ย้ายที่อยู่ หรือ แต่งงาน ฯลฯ
(3) พรรคฯ จะเข้าหาสมาชิกเมื่อมีการเลือกตั้ง แต่คนหนึ่งเป็นสมาชิกหลายพรรค เพราะ บางพรรคก็หาสมาชิกจากคอมพิวเตอร์ ดังนั้น จึงมีคนเป็นสมาชิก พรรคการเมืองอยู่โดยไม่รู้ตัวแยะ
(4) การมีสมาชิกมาก ไม่ได้ทำให้พรรคฯ นั้นชนะเลือกตั้ง บางพรรคฯมีสมาชิกมาก ก็ไม่ได้รับเลือกตั้งเลยสักคนก็มี จากเหตุผลตามข้อ 1-3 คือ พรรคกับสมาชิกไม่มีความสัมพันธิ์กัน ไม่มีการติดต่อกัน ฯลฯ บางคนไม่รู้ด้วยว่าเป็นสมาชิกพรรคนั้น พรรคนี้ ฯลฯ
ดังนั้น ล้มกระดานไปแล้วรับสมัครสมาชิกใหม่นะดีแล้ว สมาชิกกับพรรคจะได้รู้จักกันจริงๆเสียที
ส่วนที่บอกว่าพรรคใหญ่เสียเปรียบนะไม่จริงหรอกครับ เพราะกฏหมายระบุให้หาสมาชิกแค่หมื่นคนจากทุกภาค ก็ใช้ได้แล้ว พรรคใหญ่ส่งจดหมายไปหาสมาชิกที่มีอยู่แสนคน ขึ้นไป
ดังนั้น แค่ภาคละ2000คน หมูมาก มันต้องมีจริงอยู่บ้างละ แต่พรรคตั้งใหม่ ซิไปหาคน2000คนมาเป็นสมาชิกในภาคใต้นั้น
ผมว่ายากทีเดียวครับ
ดังนั้น อย่าไปบ่นเลยเรื่องดีๆ แบบนี้นานๆ มาทีครับ
http://www.naewna.com/politic/311663
กระต่ายตื่นตูมจึงเหมาะกับนักการเมืองด้วยเหตุนี้ค่ะ