คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/Mauser_1918_T-Gewehr
ในเดือนมิถุนายนปี 1917 บนแนวรบตะวันตกทหารเยอรมันยังคงประจำการอยู่ในสนามเพลาะของตัวเองดังเช่นทุกวันแต่วันนั้นเป็นวันที่ไม่เหมือนวันก่อนหน้าเพราะพวกเขาได้เผชิญหน้ากับสิ่งหนึ่งที่ใหญ่โตและมองเห็นได้มาแต่ไกล ใช่แล้วมันคือเครื่องจักรสงครามที่สร้างขึ้นเพื่อฉีกยุทธวิธีของสงครามสนามเพลาะที่มีแต่ความล่าช้าและสูญเสียอย่างสิ้นเชิง มันคือรถถัง Mark IV ของอังกฤษนั่นเองก่อนหน้านั้นทั้งฝ่ายอังกฤษและเยอรมันมีการเสริมแผ่นเหล็กบนแนวรบของตัวเองเพื่อให้สามารถพาตัวทหารขึ้นมาเล็งปืนจากสนามเพลาะได้โดยจะไม่ถูกยิง ทหารอังกฤษตอบโต้วิธีนี้ของเยอรมันด้วยการใช้ elephant guns ที่ได้มาจากอาณานิคมในแอฟริกา เยอรมันตอบโต้วิธีนี้ของอังกฤษด้วยการพัฒนากระสุนเจาะเกราะขนาด 7.92 mm K bullet เพื่อเอาไว้ใช้ทำลายแผ่นเหล็กที่อังกฤษนำมาเสริมบนแนวสนามเพลาะของตัวเองเช่นกัน ทีนี้กลับมา ณ เดือนมิถุนายนปี 1917 กันต่อ เมื่อทหารเยอรมันเผชิญหน้ากับรถถัง Mark IV พวกเขาใช้ทั้งปืนกลระเบิดมือและกระสุนเจาะเกราะแบบ K bullet แต่อาวุธที่พวกเขามีนั้นทำอะไรมันไม่ได้เลย เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงนั้นจนในที่สุดกองทัพเยอรมันก็ต้องร้องขอปืนไรเฟิลที่สามารถใช้กระสุนที่หนักเเละมีความแรงสูงเพื่อให้ทำลายเกราะของรถถังอังกฤษได้ บริษัทเมาเซอร์ตอบสนองต่อคำร้องขอนี้ด้วยการคิดค้น T-Gewehr ขึ้นมาเพื่อใช้ทำลายรถถังของอังกฤษโดยเฉพาะ
กระสุน 13.2 mm TuF ของ T-Gewehr (ขวา) เทียบกับ .303 ของอังกฤษ
ขนาดกระสุน 13.2 mm TuF
บรรจุกระสุน 1 นัด
ระยะหวังผล 500 เมตร
ยอดการผลิต 15,800 กระบอก
รุ่นอื่นๆ เเบบลำกล้องสั้น กับ เเบบที่ใช้เเม็กกาซีน
ประจำการในเยอรมันนี 1918-1933
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 74 Mauser 1918 T-Gewehr ปืนไรเฟิลต่อสู้รถถังชนิดแรกของโลก
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในเดือนมิถุนายนปี 1917 บนแนวรบตะวันตกทหารเยอรมันยังคงประจำการอยู่ในสนามเพลาะของตัวเองดังเช่นทุกวันแต่วันนั้นเป็นวันที่ไม่เหมือนวันก่อนหน้าเพราะพวกเขาได้เผชิญหน้ากับสิ่งหนึ่งที่ใหญ่โตและมองเห็นได้มาแต่ไกล ใช่แล้วมันคือเครื่องจักรสงครามที่สร้างขึ้นเพื่อฉีกยุทธวิธีของสงครามสนามเพลาะที่มีแต่ความล่าช้าและสูญเสียอย่างสิ้นเชิง มันคือรถถัง Mark IV ของอังกฤษนั่นเองก่อนหน้านั้นทั้งฝ่ายอังกฤษและเยอรมันมีการเสริมแผ่นเหล็กบนแนวรบของตัวเองเพื่อให้สามารถพาตัวทหารขึ้นมาเล็งปืนจากสนามเพลาะได้โดยจะไม่ถูกยิง ทหารอังกฤษตอบโต้วิธีนี้ของเยอรมันด้วยการใช้ elephant guns ที่ได้มาจากอาณานิคมในแอฟริกา เยอรมันตอบโต้วิธีนี้ของอังกฤษด้วยการพัฒนากระสุนเจาะเกราะขนาด 7.92 mm K bullet เพื่อเอาไว้ใช้ทำลายแผ่นเหล็กที่อังกฤษนำมาเสริมบนแนวสนามเพลาะของตัวเองเช่นกัน ทีนี้กลับมา ณ เดือนมิถุนายนปี 1917 กันต่อ เมื่อทหารเยอรมันเผชิญหน้ากับรถถัง Mark IV พวกเขาใช้ทั้งปืนกลระเบิดมือและกระสุนเจาะเกราะแบบ K bullet แต่อาวุธที่พวกเขามีนั้นทำอะไรมันไม่ได้เลย เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงนั้นจนในที่สุดกองทัพเยอรมันก็ต้องร้องขอปืนไรเฟิลที่สามารถใช้กระสุนที่หนักเเละมีความแรงสูงเพื่อให้ทำลายเกราะของรถถังอังกฤษได้ บริษัทเมาเซอร์ตอบสนองต่อคำร้องขอนี้ด้วยการคิดค้น T-Gewehr ขึ้นมาเพื่อใช้ทำลายรถถังของอังกฤษโดยเฉพาะ
กระสุน 13.2 mm TuF ของ T-Gewehr (ขวา) เทียบกับ .303 ของอังกฤษ
ขนาดกระสุน 13.2 mm TuF
บรรจุกระสุน 1 นัด
ระยะหวังผล 500 เมตร
ยอดการผลิต 15,800 กระบอก
รุ่นอื่นๆ เเบบลำกล้องสั้น กับ เเบบที่ใช้เเม็กกาซีน
ประจำการในเยอรมันนี 1918-1933