[แชร์] ประสบการณ์ขอทุนรัฐบาลไต้หวัน MOE

สวัสดีค่า

หลังจากที่มาอยู่ที่ไต้หวันสักพักใหญ่ๆ แล้ว ไม่ค่อยมีเวลาได้แชร์ประสบการณ์ช่วงสอบชิงทุน (มัวแต่เที่ยวและเรียน?)
ตอนนี้ว่างก่อนจะเตรียมรายงานสอบไฟนอล จะมาเล่ารายละเอียดที่รวบรวมเอกสารเพื่อส่งยื่นทุนรัฐบาลไต้หวัน MOE
รวมถึงเอกสารยื่นมหาวิทยาลัยต่างๆ นานา พร้อมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

รายละเอียดที่ใช้ศึกษาตอนช่วงที่ยืนขอทุน เราก็ดูจากกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/34431708 มีประโยชน์มากๆ
พี่เค้าใจดีมาก ถามอะไรตอบหมดดดดดด

ก่อนอื่นจะอธิบายก่อนว่าทุนนี้มันอะไรยังไง และขั้นตอนที่เคยฝ่าฟันมา อมยิ้ม17
ขออนุญาตใช้ภาษาแบบกันเองทั่วๆ ไปเหมือนเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังแล้วกันนะคะ

*
ทุน MOE จะเป็นทุนจากกระทรวงศึกษาธิการหรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นทุนรัฐบาลไต้หวัน
ออกค่าเทอมให้ 40,000 ดอลล่าร์ไต้หวัน (ส่วนเกินมหาวิทยาลัยบางแห่งจะออกให้เท่าไหร่ก็ว่าไป)
มีค่าครองชีพให้เดือนละ 15,000TWD (ป.ตรี) และ 20,000TWD (สำหรับป.โท และ ป.เอก)

ทีนี้เวลาเราจะยื่นเอกสารสมัครก็จะต้องทำทั้ง 2 ทาง

*ทางแรก*
ก็ดูว่าเราอยากสมัครคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหน ก็เลือกมา 2 ที่
ยื่นเอกสารสมัคร บางที่จะให้กรอกเอกสารออนไลน์ ซึ่งสะดวกสุดๆ
แต่ แต่ แต่!!! ต้องดูวันเปิดรับ-ปิดรับให้ดีๆ น้า เพราะแต่ละที่เปิดปิดไม่พร้อมกัน
ส่วนเอกสารก็หนีไม่พ้น
1. Application form ปริ้นจากในเว็บมหาวิทยาลัยได้เลย (ที่สมัครออนไลน์ ก็กรอกให้เสร็จ ปริ้นออกมาเซ็นชื่อให้เรียบร้อย)
2. Diploma หรือใบปริญญาบัตร ส่วนใหญ่แทบทุกที่จะให้เอาไปประทับตรารับรองที่สถานทูตไต้หวันด้วย *ข้อนี้เดี๋ยวจะมาอธิบายถึงขั้นตอน
3. Transcript หรือใบเกรดทั้งหมดตั้งแต่เทอมแรกจนเทอมสุดท้าย พร้อมระบบให้คะแนน/คิดเกรด ด้วยนะคะ (คิดว่าทุกมหาวิทยาลัยน่าจะมีอยู่แล้วเนอะ) ใบนี้ก็ต้องเอาไปประทับตรารับรองเหมือนกัน
4. Study Plan
5. Recommendation Letters 2 ฉบับ แนะนำว่าควรเป็นจดหมายจากอาจารย์ ศาสตราจารย์ ที่มหาวิทยาลัย นะคะ (บางที่ให้ยื่นแค่ฉบับเดียว)
6. Autobiography
7. Research Proposal
8. TOEFL/TOEIC
9. TOCFL/HSK5+
10. Copy of passport
11. Copy of ID card
12. Financial Statement (and declaration ถ้าไม่ใช่สเตทเม้นต์ของเราเอง ต้องมีเอกสารรับรองอันนี้นะคะ รายละเอียดคร่าวๆก็คือ ใคร มีความสัมพันธ์กับเราคือ... จะออกค่าใช้จ่ายในการเรียนที่....ให้กับ.... พร้อมลงชื่อผู้สนับสนุนและช่องทางติดต่อ)
13. เอกสารอื่นๆ แล้วแต่คณะที่ยื่นรีเควสมา

คร่าวๆ ก็จะประมาณนี้นะคะ ไม่ใช่ว่าทุกที่ทุกคณะจะต้องการเอกสารมากขนาดนี้ ต้องแล้วแต่ว่าคณะที่สมัครต้องการเอกสารอะไรบ้างก็ดูเพิ่มเติมไป

ตอนที่เราสมัครก็สมัครออนไลน์ ดังนั้นเอกสารทุกอย่างก็จะต้องแปลงเป็นไฟล์ PDF แล้วอัพโหลดในระบบให้หมด
แนะนำว่าให้จัดเป็นโฟลเดอร์ตั้งชื่อไฟล์ให้เรียบร้อยเป็นระเบียบนะคะ
ที่ต้องเซ็นชื่อก็ปริ้นออกมาเซ็นชื่อให้เรียบร้อย แล้วสแกนเป็น PDF น้า
*ใครไม่มีเครื่องสแกน แนะนำ App Camscanner สะดวกสบายมากๆ แค่ถ่ายรูปก็สามารถแปลงเป็นไฟล์สแกนได้เลย ส่งอีเมลเป็น jpg หรือ pdf ได้เลย รวดเร็ว เราก็ใช้อันนี้แหละ*

อีกประเด็นคือ Recommendation Letters นี้ ถ้าอัพโหลดแล้ว ให้ใส่อีเมลอาจารย์ที่เขียนจดหมายเราไปด้วย เพราะทางมหาวิทยาลัยจะส่งอีเมลโดยตรงถึงอาจารย์ เพื่อให้อาจารย์กด Agree หรือ Confirm อะไรก็ว่าไป หรือบางมอก็ให้อาจารย์เป็นคนอัพโหลดเอกสารเองเลยก็มี
อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะเราก็จะไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ แต่เราต้องบอกอาจารย์นะว่าให้ช่วยเช็คอีเมล กดคอนเฟิร์มให้หนูทีอะไรงี้

ของเราเหมือนระบบมีปัญหา เพราะช่อง status ของอาจารย์ท่านหนึ่งขึ้นว่า disagree เป็นเรื่องเลยทีนี้ ไม่ว่าเราจะ resend ไปกี่รอบ อาจารย์ก็จะกดคอนเฟิร์มให้เราไม่ได้แล้ว จะต้องให้อาจารย์ส่งอีเมลแจ้งโดยตรงไปทางมอ เพื่อส่ง recommendation letter ให้มออัพโหลดให้เองเลย อันนี้เจอมากับตัว เป็นอะไรที่วุ่นวายมาก ต้องเช็คให้ดีๆ เลยนะ

พอเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเราก็กด submit เป็นอันเสร็จ

สำหรับการยื่นสมัครกับทางมหาวิทยาลัยก็มีเท่านี้ เท่าที่รู้ว่าถ้าเป็นแบบสมัครออนไลน์ จะไม่เสียค่าใช้จ่ายนะ ไม่มีค่าสมัคร ดีเฟร่อ

------------------------------------------------------------------------------------------------------

*ทางที่สอง*
ยื่นสมัครกับสถานทูตหรือสมัครทุน MOE นั่นแหละ
1. Application form ที่มีให้ดาวน์โหลด
2. Copy of passport / Household
3. Diploma (ปีหลังๆ มานี้ทางสถานทูตไม่ได้ระบุว่าเราต้องประทับตราเอกสาร ดังนั้นไม่ต้องไปประทับตราก็ได้ แต่สมัครกับมหาวิทยาลัยถ้าเค้าบอกให้ประทับตราก็ต้องไปหามาให้เค้านะ)
4. Transcript (นี่ก็เหมือนกัน)
5. หลักฐานการสมัครกับทางมหาวิทยาลัย 2 แห่ง (ของเราเอาเป็นใบ application form ของมอ ถ่ายเอกสารส่งเอา / หรือจะใช้พวกใบเสร็จ / อีเมลตอบรับจากมอก็ได้)
6. ผลสอบภาษาอังกฤษ (คะแนนตามที่เค้ากำหนดของแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน) เพื่อยื่นสำหรับคณะที่เราจะเรียนสอนเป็นอังกฤษ
7. ผลสอบ TOCFL level 4 ขึ้นไป (คะแนนนี้ใครไม่มีต้องไปตามสอบมาให้ได้นะ TwT ย้ำ!! ต้องได้ระดับ 4 ขึ้นไปเท่านั้น แอบกระซิบว่าสอบยากมาก เปิดสอบไม่บ่อยด้วย สถานที่สอบก็จะไกลๆ เช่นเชียงใหม่ พิษณุโลก กทม. ก็มี แต่น้อย)
8. 2 Reference Letters อันนี้ก็ต้องให้อาจารย์/รศ./ศ./อธิการบดี เขียนแล้วเซ็นชื่อ ใส่ซองพร้อมประทับตราที่ซองด้วย หรือจะให้อาจารย์เซ็นชื่อที่ซองก็ได้ถ้าไม่มีตราประทับ (ทำแบบนี้เพื่อความปลอดภัยตามกติกานะคะ)

สำหรับเอกสารยื่น MOE ก็มีเท่านี้จ้า ให้เรารวบรวมเอกสารส่งไปรษณีย์ไปที่สถานทูตไต้หวัน
แล้วทีนี้ก็...รอโทรศัพท์เรียกสัมภาษณ์

ทุกๆ ปีจะเรียกสัมภาษณ์ช่วงสงกรานต์ แล้วก็จะประกาศผลช่วงเดือนพฤษภาคม ดังนั้นอยากให้เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมลุ้น หรือใครจะปล่อยชิลๆ ก็ได้ 555555

เพราะถ้าจะได้เรียนจริงๆ คือทางมหาวิทยาลัยจะต้องตอบรับให้เราเข้าเรียน อันนี้ถึงหมายความว่าได้เรียนแน่ๆ
ส่วนจะได้ทุนมั้ย? ก็ต้องรอผลจากสถานทูตอีกด้วยเหมือนกัน

ดังนั้น!! จะแบ่งได้เป็น 4 กรณี

1. ได้ทุนรัฐบาล + มหาวิทยาลัยตอบรับเข้าเรียน = ได้เรียน
2. ได้ทุนรัฐบาล + มหาวิทยาลัยไม่ตอบรับเข้าเรียน = อด
3. ไม่ได้ทุนรัฐบาล + มหาวิทยาลัยตอบรับเข้าเรียน = ได้เรียน (จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง แต่บางมอจะให้ทุนของมอเอง ทั้งเต็มจำนวน หรือทุนบางส่วน แต่จะเรียนมั้ย อันนี้แล้วแต่ผู้สมัครเนอะ)
4. ไม่ได้อะไรเลย อมยิ้ม08

ซึ่งตอนที่เรารู้ผลคือ ได้ไปสัมภาษณ์ทุน MOE ก่อน แล้วก็รอผลสัมภาษณ์...
ช่วงที่รอผลสัมภาษณ์ก็ถึงจะรู้ว่าได้มหาวิทยาลัยชิงหวา (National Tsing Hua U.) แล้วมหาลัยก็ให้ทุนด้วย
แต่เนื่องจากในกฎกติกาของ MOE และมหาวิทยาลัย เราจะไม่สามารถรับทุนซ้อนได้ ทำให้ต้องทำการเสี่ยงด้วยการปฏิเสธทุนมมหาลัยไป
จากนั้นรออีกไม่นาน ผลทุน MOE ก็ออก ซึ่งก็ไม่ผิดหวังที่ปฏิเสธทุนมหาลัย
แต่ความยากก็จะมาอยู่ตรงที่เราต้องเรียนรักษาระดับคะแนนให้อยู่ที่ 80 คะแนนขึ้นไป ซึ่งยากพอสมควรกับคณะที่ไม่มีการสอบข้อเขียน
แต่ให้เขียนรายงานวิเคราะห์ส่งแทนแบบเรา เม่าแพนด้า
เพราะถ้าคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะถูกตัดทุนไป

หมายเหตุตัวโตๆ!!!!!
หากทำผิดกฎใดๆ ก็ตามทั้งของทุน ของมอ หรือของประเทศไต้หวัน
นอกจากจะถูกตัดทุนแล้วยังต้องชดใช้เงินทั้งหมดคืนรัฐบาลไต้หวันด้วยนะเออ ไม่ใช่น้อยๆ นะ ดังนั้น รักษากฎกติกานะคะ

=============

สำหรับใครที่มีคำถามหรือต้องการสอบถามรายละเอียด
สามารถติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/youutaiwan/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่