เป็นกระทู้ที่ตั้งใจจะเขียนเมื่อหกเดือนก่อน หลังจากได้ทุน (ดองจนเค็มกว่าไข่ไขยาเลยนะแกร)
ตอนนี้เรามาอยู่ไต้หวันได้เกือบๆสามเดือนแล้วค่ะ ถือว่าแฮปปี้มาก เข้าเรื่องเลยค่ะ
ทุนที่จะแบ่งปันวันนี้คือ ทุนจากรัฐบาลไต้หวัน หรือเรียกสั้นๆว่า ทุน MOE ซึ่งเป็นทุนที่ขึ้นตรงกับกระทรวงศึกษาธิการไต้หวันค่ะ สำหรับรายละเอียดของทุนและคุณสมบัติสามารถอ่านได้จากปีล่าสุด ตามนี้ แต่เราจะสรุปให้คร่าวๆนะคะ
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=579074&ctNode=12479&mp=232&nowPage=1&pagesize=30
1.ครอบคลุมค่าเทอม และหน่วยกิต สูงสุดเทอมละ 40,000 TWD ส่วนเกินจากนี้ผู้รับผิดชอบจะเป็นมหาลัย หรือ ผู้ที่ได้ทุนเอง
จากประสบการณ์ ที่สอบถามเพื่อนๆในรุ่นที่ได้ทุนกันมา ส่วนต่างที่เกินมา มหาลัยจะรับผิดชอบให้ค่ะ ทั้งนี้ให้เช็คกับมหาลัยอีกทีตอนสมัครดีกว่าค่ะ สำหรับค่าเทอมมหาลัยของเรา ภาค ป.โท ตกอยู่ที่ประมาณ 50,000 นิดๆ
2. ครอบคลุม ค่าใช้จ่ายรายเดือน สำหรับนศ.ในระดับปริญญาตรีได้เดือนละ 15,000 TWD ปริญญาโท ได้ 20,000 TWD
ถ้าถามว่าพอไหม!จริงๆขึ้นอยู่กับเมืองด้วยล่ะ แน่นอนว่าเมืองหลวงอย่างไทเป ค่าครองชีพก็สูงกว่า ที่เที่ยวล่อตาล่อใจก็เยอะ55 แต่ส่วนตัว มหาลัยเราก็อยู่ในไทเป แต่ค่อนข้างจะสุดขอบไทเปนิดนึงค่ะ เราก็ใช้แบบเที่ยวบ้าง กินเล่นปกติ ชอปบ้าง ก็ตกประมาณเดือนละหมื่น อย่างร้านอาหารในมอก็จะราคานักศึกษา มื้อหนึ่งบางทีกิน 40-50 TWD เอง
ทั้งนี้ ทุนที่รัฐบาลออกให้
ไม่รวม
1.ค่าหอพัก : เราอยู่หอในมอเรา (ไทเป) ตกเทอมละ 11,000 TWD เดือนละ 2,500 ไม่เสียค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ต้องซื้อการ์ดแบบเติมตัง เสียบเวลาจะเปิดแอร์ อยู่ห้องสี่คน แต่โชคดีที่หอยังใหม่มาก อยู่สบายไม่อึดอัด
2.ค่าประกันสุขภาพ : บังคับให้นักศึกษาต้องทำ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันกับมหาลัย หรือบริษัทเอกชนข้างนอก หรือ ถ้าอยู่ในระยะยาวเราก็จะได้ทำประกันสุขภาพกับรัฐได้ ซึ่งจะถูกกว่า และดีมากๆๆ ตกปีละประมาณ 6,000 ค่ะ
3.ค่าหนังสือ ค่าตั๋วเครื่องบิน
4.คอร์สเรียนภาษาจีน * เนื่องจากทุนนี้ไม่ได้มีข้อบังคับว่าต้องสอบวัดระดับภาษาจีนให้ผ่านทุกคน เหมือนทุน ICDF (แต่กรณีลงเรียน โปรแกรมปริญญาที่สอนเป็นภาษาจีนก็ต้องใช้ผลวัดระดับด้วยน้า) อย่างเรา เรียนป.โทโปรแกรมอินเตอร์แต่อยากลงเรียนจีนเพิ่ม ก็สมัครกับมหาลัย เสียเทอมละ 5,000 TWD
แต่ๆๆ บางมหาลัย มีการบรรจุคอร์สเรียนภาษาจีนเบื้องต้น ที่นับหน่วยกิต เราก็สามารถลงเรียนได้แบบไม่เสียตังเพิ่ม อันนี้จากมหาลัยของเพื่อน จขกท. เองค่ะ
คร่าวๆ ประมาณนี้ แต่จากการคำนวณเราว่า กินอยู่สบาย แถมมีเงินเก็บให้เที่ยวนิดหน่อย ก็โอเคละเนอะ
-ข้อผูกมัดของทุน
1.ทุนไม่ต้องใช้คืนค่ะ! เฮ้ แต่เกณฑ์ผลการเรียนโดยเฉลี่ย จะต้องผ่าน 80% สำหรับ ป ตรี และ 85% สำหรับ ป.โท ไม่สูงไปหรอกเนอะ เราทำได้ ฮึบๆๆ
2.ห้าม ทำงาน หรือแม้แต่งานอาสาที่อาจได้ผลประโยชน์ใดๆแม้จะไม่ได้เป็นเม็ดเงิน แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับการเรียน เช่น ฝึกงานของมหาลัย ทำได้ค่ะ **ทั้งนี้จากการประชุมในวันปฐมนิเทศมีนศ ต่างชาติหลายคน คอมเพลนเรื่องนี้ แบบอยากหาประสบการณ์ ฝึกภาษาทำ พาร์ทไทม์บ้าง เป็น TA บ้าง ทางกรรมการบอกว่า มีการประชุมอาจมีการปรับกฎข้อนี้สำหรับ ทุนในปีหน้าค่ะ
อ่านจบละอย่างเพิ่งท้อค่ะ 55 มาเริ่มสมัครกันดีกว่าก่อนอื่น มาดูใบสมัครจากปีล่าสุดค่ะ
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=579076&ctNode=12479&mp=232&nowPage=1&pagesize=30
การสมัครต้องทำสองทางพร้อมกันคือ
1.สมัครเรียนกับมหาลัย : ในเอกสารของทุนจะต้องแนบหลักฐานยืนยันว่าเราได้มีการสมัครเรียนกับมหาลัยนี้คณะนี้แล้วนะ โดยเลือกได้สองอันดับค่ะ
ทั้งนี้มหาลัยจะต้องเป็นมหาลัยที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการแล้วนะ ง่ายๆคือ ไม่ใช่มหาลัยเถื่อนนั่นเอง ที่นี่ เราก็ต้องทำการเลือกค่ะ ว่าอยากมาเรียนต่อด้านไหน มอไหนดังนี้เรื่องนี้ rank เป็นยังไง course structure แบบไหน วิธีการคือเข้าเว็บมหาลับโลดเลยจ้า
-เตรียมเอกสารในการสมัครกับมหาลัย ทั้งนี้แต่ละมอก็จะต่างกันไป แต่หลักก็ไม่พัน ใบจบ ทรานสคริป recommendation purpose of study ,ผลสอบวัดระดับทางภาษา อันนี้เป็นขั้นตอนที่กินเวลาและเหนื่อยเหมือนกันค่ะ อะไรที่ไม่แน่ใจก็รวบรวมคำถามแล้วอีเมลถามคณะ หรือเจ้าหน้าที่ของมหาลัยโดยตรงเพื่อความชัวร์เลย ที่นี้ต้องระวัง ตารางที่เปิดรับสมัครให้ดีนะ เพราะแต่ละมอจะไม่เหมือนกัน บางมอ เปิดรับล่วงหน้าแล้ว บางมอเปิดช้าหน่อย คอยเชคดีๆนะ
2.สมัครเรียนกับรัฐบาลไต้หวัน : โดยเราจะทำผ่าน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปตั้งอยู่ที่สาธรค่ะ MRT ช่องนนทรี เอกสารที่ต้องใช้ก็ตามนี้เลยจ้า
Check List
_____ Filled out Application Form.
_____ Filled out last page no.9 declaration.
_____ One photocopy of applicant’s passports and household registrations
_____ Authenticated by the Taipei Economic and Cultural Office in Thailand photocopy of the highest-level diploma and a complete grade transcript.
_____ Supporting admission application materials to two universities/colleges in the “Association of Taiwan Scholarship Program Schools” (e.g. copies of application fee remittance, application form, receipts or emails of application from universities/colleges)
_____ (1) Original copy of TOCFL (Test of Chinese as a Foreign Language) test results Level 4 or above level
OR
_____(2) Original copy of TOEFL 550 (CBT 213 or IBT 79) Test Score report or IELTS 6.0, TOEIC 750 or above English test scores
_____ Two letters of reference signed and sealed in envelopes (i.e. from the principals, professors, or supervisors). Photo copies and email submissions of letters of recommendation will not be considered.
-อีกอย่างที่สำคัญคือ การรับรองเอกสารค่ะ สำหรับเอกสาร ใบปริญญา ทรานสคริป กรณีที่มหาลัยออกมาให้เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว จะต้องผ่านการรับรองการแปลจาก กระทรวงต่างประเทศ ไปทำที่แจ้งวัฒนะได้เลย เสร็จแล้วก็ต้องรับรองเอกสารที่สำนักงานเศรษฐกิจไทเปต่อ คือต้องมีสองแสตมป์นะฮะ
ทั้งนี้เอกสารที่ต้องส่งมหาลัยก็ต้องผ่านการรับรองเช่กัน เพราะงั้นทำไว้สอง สามชุดเลยจะได้ไม่เสียเวลาเนอะ
-สมมุติว่า เราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว 555 เราก็ทำการส่งไปที่ทางสถานทูต หลังจากนั้นจะได้อีเมล และโทรศัพท์นัดสัมภาษณ์ค่ะ จำได้หลังสงกรานต์พอดี
สัมภาษณ์ –
จำบรรยากาศในห้องเย็นได้ดี ถ้าเข้าใจไม่ผิด กรรมการมาจากกระทรวงศึกษาของไต้หวันหมดเลยค่ะ เป็นผชสามคนใส่สูทเนี๊ยบมาก และผู้หญิงหนึ่งคน เราเลือกได้ว่าจะสัมภาษณ์เป็นจีนหรืออิ้ง ผลัดกันยิงคำถามจนพรุนเลย ล้อเล่นค่ะ คำถามก็ทั่วๆไป เช่น แนะนำตัวเอง ทำไมอยากมาเรียนไต้หวัน ทำไมอยากเรียนคณะนี้ มอนี้ เรียนจบแล้วอยากทำอะไร เอาความรู้ที่จบจากปตรีมาประยุกต์ยังไงได้บ้าง อะไรเป็นสิ่งที่ท้าทายกับการมาเรียนไต้หวัน จะเตรียมตัวยังไง ไม่ยากเนอะ เตรียมตัวดีๆ มั่นๆยิ้มๆค่ะ
สัมภาษณ์เสร็จหนึ่งอาทิตย์ผลก็ออกเลย !
แล้วก็เตรียมตัวแพคกระเป๋ามาเรียนไต้หวัน!!!
ถือเป็นการแบ่งปันประสบการณ์คร่าวๆละกันเนอะ ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับทุนก็ถามได้นะคะ ทุนICDF ก็พอรู้บ้างนิดหน่อย มีเพื่อนที่เรียนด้วยกันได้ทุนนี้
สุดท้าย .. ถ้าถามถึงการมาเรียนต่างประเทศยากไหม เราว่า ยาก (อ่าวเห้ย!) แต่ไม่เกินความสามารถค่ะ แค่ใช้ความพยายามและเวลาเตรียมตัว ประสบการณ์ ความรู้ ที่ได้มันคุ้มจริงๆนะเออ
加油!
ไว้ว่างๆ เราจะมารีวิวชีวิต ความเป็นอยู่ การเรียน ที่นี่ นะคะ
บะ บาย
REVIEW : ใครอยากมาต่อโทไต้หวัน ยกมือขึ้น รัฐบาลเขาแจกทุนให้เต็มๆเลยนะ
ตอนนี้เรามาอยู่ไต้หวันได้เกือบๆสามเดือนแล้วค่ะ ถือว่าแฮปปี้มาก เข้าเรื่องเลยค่ะ
ทุนที่จะแบ่งปันวันนี้คือ ทุนจากรัฐบาลไต้หวัน หรือเรียกสั้นๆว่า ทุน MOE ซึ่งเป็นทุนที่ขึ้นตรงกับกระทรวงศึกษาธิการไต้หวันค่ะ สำหรับรายละเอียดของทุนและคุณสมบัติสามารถอ่านได้จากปีล่าสุด ตามนี้ แต่เราจะสรุปให้คร่าวๆนะคะ
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=579074&ctNode=12479&mp=232&nowPage=1&pagesize=30
1.ครอบคลุมค่าเทอม และหน่วยกิต สูงสุดเทอมละ 40,000 TWD ส่วนเกินจากนี้ผู้รับผิดชอบจะเป็นมหาลัย หรือ ผู้ที่ได้ทุนเอง
จากประสบการณ์ ที่สอบถามเพื่อนๆในรุ่นที่ได้ทุนกันมา ส่วนต่างที่เกินมา มหาลัยจะรับผิดชอบให้ค่ะ ทั้งนี้ให้เช็คกับมหาลัยอีกทีตอนสมัครดีกว่าค่ะ สำหรับค่าเทอมมหาลัยของเรา ภาค ป.โท ตกอยู่ที่ประมาณ 50,000 นิดๆ
2. ครอบคลุม ค่าใช้จ่ายรายเดือน สำหรับนศ.ในระดับปริญญาตรีได้เดือนละ 15,000 TWD ปริญญาโท ได้ 20,000 TWD
ถ้าถามว่าพอไหม!จริงๆขึ้นอยู่กับเมืองด้วยล่ะ แน่นอนว่าเมืองหลวงอย่างไทเป ค่าครองชีพก็สูงกว่า ที่เที่ยวล่อตาล่อใจก็เยอะ55 แต่ส่วนตัว มหาลัยเราก็อยู่ในไทเป แต่ค่อนข้างจะสุดขอบไทเปนิดนึงค่ะ เราก็ใช้แบบเที่ยวบ้าง กินเล่นปกติ ชอปบ้าง ก็ตกประมาณเดือนละหมื่น อย่างร้านอาหารในมอก็จะราคานักศึกษา มื้อหนึ่งบางทีกิน 40-50 TWD เอง
ทั้งนี้ ทุนที่รัฐบาลออกให้ ไม่รวม
1.ค่าหอพัก : เราอยู่หอในมอเรา (ไทเป) ตกเทอมละ 11,000 TWD เดือนละ 2,500 ไม่เสียค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ต้องซื้อการ์ดแบบเติมตัง เสียบเวลาจะเปิดแอร์ อยู่ห้องสี่คน แต่โชคดีที่หอยังใหม่มาก อยู่สบายไม่อึดอัด
2.ค่าประกันสุขภาพ : บังคับให้นักศึกษาต้องทำ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันกับมหาลัย หรือบริษัทเอกชนข้างนอก หรือ ถ้าอยู่ในระยะยาวเราก็จะได้ทำประกันสุขภาพกับรัฐได้ ซึ่งจะถูกกว่า และดีมากๆๆ ตกปีละประมาณ 6,000 ค่ะ
3.ค่าหนังสือ ค่าตั๋วเครื่องบิน
4.คอร์สเรียนภาษาจีน * เนื่องจากทุนนี้ไม่ได้มีข้อบังคับว่าต้องสอบวัดระดับภาษาจีนให้ผ่านทุกคน เหมือนทุน ICDF (แต่กรณีลงเรียน โปรแกรมปริญญาที่สอนเป็นภาษาจีนก็ต้องใช้ผลวัดระดับด้วยน้า) อย่างเรา เรียนป.โทโปรแกรมอินเตอร์แต่อยากลงเรียนจีนเพิ่ม ก็สมัครกับมหาลัย เสียเทอมละ 5,000 TWD
แต่ๆๆ บางมหาลัย มีการบรรจุคอร์สเรียนภาษาจีนเบื้องต้น ที่นับหน่วยกิต เราก็สามารถลงเรียนได้แบบไม่เสียตังเพิ่ม อันนี้จากมหาลัยของเพื่อน จขกท. เองค่ะ
คร่าวๆ ประมาณนี้ แต่จากการคำนวณเราว่า กินอยู่สบาย แถมมีเงินเก็บให้เที่ยวนิดหน่อย ก็โอเคละเนอะ
-ข้อผูกมัดของทุน
1.ทุนไม่ต้องใช้คืนค่ะ! เฮ้ แต่เกณฑ์ผลการเรียนโดยเฉลี่ย จะต้องผ่าน 80% สำหรับ ป ตรี และ 85% สำหรับ ป.โท ไม่สูงไปหรอกเนอะ เราทำได้ ฮึบๆๆ
2.ห้าม ทำงาน หรือแม้แต่งานอาสาที่อาจได้ผลประโยชน์ใดๆแม้จะไม่ได้เป็นเม็ดเงิน แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับการเรียน เช่น ฝึกงานของมหาลัย ทำได้ค่ะ **ทั้งนี้จากการประชุมในวันปฐมนิเทศมีนศ ต่างชาติหลายคน คอมเพลนเรื่องนี้ แบบอยากหาประสบการณ์ ฝึกภาษาทำ พาร์ทไทม์บ้าง เป็น TA บ้าง ทางกรรมการบอกว่า มีการประชุมอาจมีการปรับกฎข้อนี้สำหรับ ทุนในปีหน้าค่ะ
อ่านจบละอย่างเพิ่งท้อค่ะ 55 มาเริ่มสมัครกันดีกว่าก่อนอื่น มาดูใบสมัครจากปีล่าสุดค่ะ
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=579076&ctNode=12479&mp=232&nowPage=1&pagesize=30
การสมัครต้องทำสองทางพร้อมกันคือ
1.สมัครเรียนกับมหาลัย : ในเอกสารของทุนจะต้องแนบหลักฐานยืนยันว่าเราได้มีการสมัครเรียนกับมหาลัยนี้คณะนี้แล้วนะ โดยเลือกได้สองอันดับค่ะ
ทั้งนี้มหาลัยจะต้องเป็นมหาลัยที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการแล้วนะ ง่ายๆคือ ไม่ใช่มหาลัยเถื่อนนั่นเอง ที่นี่ เราก็ต้องทำการเลือกค่ะ ว่าอยากมาเรียนต่อด้านไหน มอไหนดังนี้เรื่องนี้ rank เป็นยังไง course structure แบบไหน วิธีการคือเข้าเว็บมหาลับโลดเลยจ้า
-เตรียมเอกสารในการสมัครกับมหาลัย ทั้งนี้แต่ละมอก็จะต่างกันไป แต่หลักก็ไม่พัน ใบจบ ทรานสคริป recommendation purpose of study ,ผลสอบวัดระดับทางภาษา อันนี้เป็นขั้นตอนที่กินเวลาและเหนื่อยเหมือนกันค่ะ อะไรที่ไม่แน่ใจก็รวบรวมคำถามแล้วอีเมลถามคณะ หรือเจ้าหน้าที่ของมหาลัยโดยตรงเพื่อความชัวร์เลย ที่นี้ต้องระวัง ตารางที่เปิดรับสมัครให้ดีนะ เพราะแต่ละมอจะไม่เหมือนกัน บางมอ เปิดรับล่วงหน้าแล้ว บางมอเปิดช้าหน่อย คอยเชคดีๆนะ
2.สมัครเรียนกับรัฐบาลไต้หวัน : โดยเราจะทำผ่าน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปตั้งอยู่ที่สาธรค่ะ MRT ช่องนนทรี เอกสารที่ต้องใช้ก็ตามนี้เลยจ้า
Check List
_____ Filled out Application Form.
_____ Filled out last page no.9 declaration.
_____ One photocopy of applicant’s passports and household registrations
_____ Authenticated by the Taipei Economic and Cultural Office in Thailand photocopy of the highest-level diploma and a complete grade transcript.
_____ Supporting admission application materials to two universities/colleges in the “Association of Taiwan Scholarship Program Schools” (e.g. copies of application fee remittance, application form, receipts or emails of application from universities/colleges)
_____ (1) Original copy of TOCFL (Test of Chinese as a Foreign Language) test results Level 4 or above level
OR
_____(2) Original copy of TOEFL 550 (CBT 213 or IBT 79) Test Score report or IELTS 6.0, TOEIC 750 or above English test scores
_____ Two letters of reference signed and sealed in envelopes (i.e. from the principals, professors, or supervisors). Photo copies and email submissions of letters of recommendation will not be considered.
-อีกอย่างที่สำคัญคือ การรับรองเอกสารค่ะ สำหรับเอกสาร ใบปริญญา ทรานสคริป กรณีที่มหาลัยออกมาให้เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว จะต้องผ่านการรับรองการแปลจาก กระทรวงต่างประเทศ ไปทำที่แจ้งวัฒนะได้เลย เสร็จแล้วก็ต้องรับรองเอกสารที่สำนักงานเศรษฐกิจไทเปต่อ คือต้องมีสองแสตมป์นะฮะ
ทั้งนี้เอกสารที่ต้องส่งมหาลัยก็ต้องผ่านการรับรองเช่กัน เพราะงั้นทำไว้สอง สามชุดเลยจะได้ไม่เสียเวลาเนอะ
-สมมุติว่า เราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว 555 เราก็ทำการส่งไปที่ทางสถานทูต หลังจากนั้นจะได้อีเมล และโทรศัพท์นัดสัมภาษณ์ค่ะ จำได้หลังสงกรานต์พอดี
สัมภาษณ์ –
จำบรรยากาศในห้องเย็นได้ดี ถ้าเข้าใจไม่ผิด กรรมการมาจากกระทรวงศึกษาของไต้หวันหมดเลยค่ะ เป็นผชสามคนใส่สูทเนี๊ยบมาก และผู้หญิงหนึ่งคน เราเลือกได้ว่าจะสัมภาษณ์เป็นจีนหรืออิ้ง ผลัดกันยิงคำถามจนพรุนเลย ล้อเล่นค่ะ คำถามก็ทั่วๆไป เช่น แนะนำตัวเอง ทำไมอยากมาเรียนไต้หวัน ทำไมอยากเรียนคณะนี้ มอนี้ เรียนจบแล้วอยากทำอะไร เอาความรู้ที่จบจากปตรีมาประยุกต์ยังไงได้บ้าง อะไรเป็นสิ่งที่ท้าทายกับการมาเรียนไต้หวัน จะเตรียมตัวยังไง ไม่ยากเนอะ เตรียมตัวดีๆ มั่นๆยิ้มๆค่ะ
สัมภาษณ์เสร็จหนึ่งอาทิตย์ผลก็ออกเลย !
แล้วก็เตรียมตัวแพคกระเป๋ามาเรียนไต้หวัน!!!
ถือเป็นการแบ่งปันประสบการณ์คร่าวๆละกันเนอะ ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับทุนก็ถามได้นะคะ ทุนICDF ก็พอรู้บ้างนิดหน่อย มีเพื่อนที่เรียนด้วยกันได้ทุนนี้
สุดท้าย .. ถ้าถามถึงการมาเรียนต่างประเทศยากไหม เราว่า ยาก (อ่าวเห้ย!) แต่ไม่เกินความสามารถค่ะ แค่ใช้ความพยายามและเวลาเตรียมตัว ประสบการณ์ ความรู้ ที่ได้มันคุ้มจริงๆนะเออ
加油!
ไว้ว่างๆ เราจะมารีวิวชีวิต ความเป็นอยู่ การเรียน ที่นี่ นะคะ
บะ บาย