รีวิวประสบการณ์ขอทุนรัฐบาลจีน 2019 (CSC)
บทความนี่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการขอทุนรัฐบาลจีน(CSC) ปี 2019 ซึ่งต้องขอขอบคุณความรู้และวิธีการต่างๆจากกลุ่ม Thai CSC เป็นอย่างมากเป็นกลุ่มที่มีประโยชน์ต่อผู้ขอทุนมากๆเลยค่ะ
ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนนะคะ เราได้ทำการขอทุนรัฐบาลจีนระดับ ป.โท Type B ค่ะ โดยทุนรัฐบาลจีนเป็นทุนเต็มจำนวนครอบคลุมทั้งค่าเรียน ค่าครองชีพ และค่าที่พัก โดยหากเรียนคลาสภาษาจีนอาจจะต้องมีการเรียนปรับภาษาจีนเป็นเวลา 1 ปี ถ้าความสามารถทางด้านภาษาจีน(ผลสอบHSK)ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆกำหนด แต่หากถึงเกณฑ์อาจจะไม่ต้องปรับภาษาและสามารถเข้าคณะได้เลยค่ะโดยหลักสูตรของมหาวิทยาลัยจีนส่วนมากจะเป็น 3 ปีสำหรับ ป.โท
ขั้นตอนแรกในการเริ่มเตรียมตัว
เริ่มที่การเลือกคณะค่ะว่าตัวเองต้องการจะเรียนคณะ/สาขาอะไร หลังจากนั้นศึกษาว่าสาขาที่ต้องการมีมหาวิทยาลัยใดเปิดให้ทุนบ้าง ควรเลือกจากมหาวิทยาลัยในดวงใจ แต่หากไม่มีมหาวิทยาลัยในดวงใจนั้นให้เลือกจากเมืองที่ชอบค่ะ อยากอยู่โซนไหนก็หาข้อมูลจากโซนนั้นๆเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยว่ามีกี่แห่ง แห่งใดมีสาขาที่ต้องการ (คับที่อยู่ง่ายคับใจอยู่ยาก เลือกที่เราชอบและOK จะดีที่สุดค่ะ)
เมื่อได้มหาวิทยาลัยและสาขาที่ต้องการแล้วก็ศึกษาวันและเวลาที่มหาวิทยาลัยนั้นๆเปิดรับสมัคร โดยส่วนมากจะเป็นช่วงต้นปีก็จะเปิดรับสมัครแล้วค่ะ
- เว็บไซต์นี้สามารถตรวจสอบสาขาและมหาวิทยาลัยจีนที่เปิดให้ทุนรัฐบาลจีน
• http://campuschina.org/universities/index.html
(ปล.เมื่อตรวจสอบรายละเอียดในเว็บไซต์ Campuschina แล้วควรจะตรวจสอบในเว็บมหาวิทยาลัยนั้นๆอีกครั้งเผื่อมีการอัพเดทรายละเอียดนะคะ)
- เว็บไซต์นี้ก็เกี่ยวกับรายละเอียดมหาวิทยาลัยที่เปิดให้ทุนรัฐบาลจีนค่ะ
• https://www.chinesescholarshipcouncil.com
ขั้นตอนต่อไป
การเตรียมเอกสาร
จากที่ได้สาขากับมหาวิทยาลัยแล้ว ขึ้นตอนต่อไปในการเตรียมตัวคือการเตรียมเอกสาร และการสมัครค่ะ
ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
เอกสารที่ใช้ในการสมัครทุนรัฐบาลโดยทั่วไป ได้แก่
1. CSC Application form (Chinese or English)
- คือใบที่ปริ้นออกมาเมื่อเราสมัครในเว็บเรียบร้อยแล้ว
2.
2.1 Diploma of the Most Advanced Studies (Notarized photocopy)
2.2 Transcript of the Most Advanced Studies (Notarized photocopy)
- ใบรับรองระดับการศึกษาและใบทรานสคริป สามารถใช้ตัวจริงที่ทางมหาวิทยาลัยออกให้ได้ที่มีตราประทับและลายเซ็นอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัย
(แต่บางมหาวิทยาลัยอาจจะเข้มงวดหน่อย แม้ใช้เป็นตัวจริงภาษาอังกฤษที่ทางมหาวิทยาลัยเดิมออกให้ แต่เค้าก็ต้องการให้เราไปทำการรับรองที่กงสุล ซึ่งทีแรกเราก็ส่งตัวจริงไป และได้รับการติดต่อมาอีกครั้งเพื่อให้เราไปทำการรับรองผลการศึกษาให้เรียบร้อย ณ สถานกงสุล หลังจากนั้นก็ส่งกลับไปให้ทางมหาวิทยาลัยอีกรอบนึงค่ะ)
3. Copy of the passport
- สำเนาพาสปอต พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย (Certified True Copy)
4. Study or Research Plan in China (No less than 800 words)
- แผนการเรียนหรือแผนการทำวิจัยที่สนใจ สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเครียดและกังวลที่สุด เขียนให้ดีที่สุดนะคะ
5. Two Letters of Recommendation
- จดหมายรับรองจากรองศาสตราจารย์ หรือศาสตราจารย์ 2 ท่าน
(หากผู้สมัครไม่สามารถหาตำแหน่งทั้งสองนี้ได้ แนะนำให้หาอาจารย์เซ็นรับรองให้ก็ได้ค่ะเนื่องจากเพื่อนเราก็ให้อาจารย์ช่วยเซ็นก็ไม่ได้มีผลใดๆแถมยังได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยจีน อาจจะเพราะอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆพิจารณาด้วยนะคะ แต่ทางที่ดีที่สุดได้ยศสูงก็จะดีกว่าค่ะ )
6. Foreigner Physical Examination Form (Photocopy) and copies of blood test reports, and it is valid for six months from its registration date.
- ผลตราจสุขภาพ เราไปตรวจที่ รพ.จุฬามาค่ะ และไปรับผลสามวันหลังจากตรวจ ราคาประมาณ1200-1300 บาทไม่แน่ใจจำไม่ได้แล้วค่ะ หากผู้สมัครอยากได้กี่ชุดก็ให้ทำการปริ้นฟอร์มใบตรวจสุขภาพเท่าที่ต้องการและยื่นให้พี่พยาบาลได้เลย โดยชุดแรกจะฟรี ชุดต่อไปชุดละ200บาทจ้า
7. A copy of any certificate to prove the English or Chinese level (such as IELTS, TOFEL, GRE, HSK etc
- ผลรับรองภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษนะคะ บางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีกำหนดขั้นต่ำไว้ก็สามารถข้ามไปได้เลยค่ะ แต่หากมีกำหนดขั้นต่ำก็ให้ดูรายละเอียดว่าเค้าต้องการระดับเท่าไหร่(หากกำหนดส่วนมากจะเป็นHSK4,HSK5 และบางมหาวิทยาลัยอาจจะกำหนดคะแนนต้องดูรายละเอียดอีกทีนะคะ)
ปล. หากสงสัยว่าระดับภาษาถึงแต่คะแนนไม่ถึงจะยื่นได้ไหมนะ ก็ลองยื่นดูค่ะไม่ลองก็ไม่รู้เนอะ
8. Other supporting materials such as published papers
- เอกสารประกอบอื่นๆ ใครมีความสามารถอะไรก็แนบไปก็ได้จ้า
บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีเอกสารเพิ่มเติม เช่น
- Application form จากเว็บมหาลัย : ก็ทำการสมัครในเว็บของมหาวิทยาลัยนั้นๆแล้วปริ้นออกมาค่ะ
- Non-criminal record (it is only valid for six months from its registration date) : ผลตรวจประวัติอาญชญากรรม สามารถขอได้ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยใช้ CSC Application form ,สำเนาพลาสปอต ประกอบด้วยนะคะ ค่าธรรม 100 บาท และค่าไปรษณีย์เพิ่มอีก 50 บาท เมื่อตรวจเสร็จแล้วก็รอรับอยู่ที่บ้านได้เลยค่ะการตรวจก็รวดเร็วมาก อาจจะเพราะว่าคนไม่เยอะ ระยะเวลาที่ผลออกอย่างน้อย 15 วัน เพราะฉะนั้นกะเวลาเผื่อการสมัครและส่งเอกสารด้วยนะคะ
ขั้นตอนการสมัคร
เมื่อเอกสารครบถ้วยสมบูรณ์แล้ว และถึงกำหนดการที่มหาวิทยาลัยจีนนั้นๆเปิดรับสมัครแล้วก็ทำการสมัครได้ตามขั้นตอนนี้
1. เข้าเว็บไซต์ https://studyinchina.csc.edu.cn/#/login เลือกประเภทที่จะสมัคร โดยเราสมัคร Type B ก็เลือก Type B เสร็จแล้วใส่รหัสของมหาวิทยาลัยนั้นๆได้เลยค่ะ
2. กรอกข้อมูล และอัพโหลดเอกสาร หากเอกสารเป็นไฟล์ขนาดใหญ่จะต้องทำการบีบให้ไฟล์เล็กลงด้วยนะคะแล้วอัพโหลดไปเลยจ้า
3. สมัครเรียบร้อยแล้วก็ปริ้นออกมาเลยจ้า
4. หลังจากนั้นให้ทำการเสร็จชื่อด้วยนะคะที่ล่างขวาของใบสุดท้ายตรงที่โล่งๆ แล้วก็ส่งเอกสารทั้งหมดไปยังสำนักงานของมหาวิทยาลัยนั้นๆ หากมหาวิทยาลัยระบุจำนวนเอกสารที่ต้องส่งไปก็ทำตามจำนวนที่เค้าระบุเลยนะคะ หากไม่ได้ระบบก็ให้ส่งไปสองชุดนะคะ ฉบับจริงแล้วก็ก็อปปี้เพิ่มหนึ่งชุดส่งไปด้วยค่ะ
5. หลังจากส่งไปตามมหาวิทยาลัยจีนเรียบร้อยก็รออย่างเดียวเลยค่ะ รอสถานะเปลี่ยน รออีเมล์ รอการติดต่อกลับจากมหาวิทยาลัย หรือหากกังวลสามารถโทรถามสถานะหรืออีเมล์ไปถามก็ได้ค่ะ
ปล . บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยนะคะ เราก็ได้รับอีเมล์สัมภาษณ์จากมหาวิทยาลัยจีนค่ะ หลังจากนั้นก็ทำการสัมภาษณ์ตามวันและเวลาที่มหาวิทยาลัยจีนกำหนด ควรหาที่ที่มีอินเตอร์เน็ตดีดี เพื่อการสื่อสารที่ดีนะคะ
ประสบการณ์การสัมภาษณ์ทุน CSC 2019
- เมื่อได้รับอีเมล์สัมภาษณ์ เราก็ทำตามขั้นตอนที่มหาวิทยาลัยระบุมา และเมื่อถึงวันสัมภาษณ์ ที่เตรียมใจและเตรียมอินเตอร์เน็ตให้ดีค่ะ
- มหาวิทยาลัยจีนจะทำการติดต่อเข้ามาก่อนเพื่อทดลองเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหลังจากนั้นไม่เกิน 5 นาทีก็เริ่มจะการสัมภาษณ์โดยอาจารย์จีนได้ถามว่าต้องการสัมภาษณ์เป็นภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ เอาภาษาที่ตัวเองถนัดที่สุดนะคะ เพื่อการสื่อสารที่ดี
- คำถามจากการสัมภาษณ์
o แนะนำตัวเอง
o คุณรู้จักมหาวิทยาของเราได้ยังไง
o คุณคิดว่าถ้าได้มาเรียนคุณจะเรียนจบไหม เรียนไหวไหม ไหนลองบอกมาสิ ว่าคุณมีวิธีการใดให้เรียนให้จบหลักสูตรได้
o คุณเป็นคนอัธยาศัยดีไหม ชอบผูกมิตรผูกสัมพันธ์ไหม
o คุณมีผลสอบ HSK ไหม หากมี มีผลสอบระดับไหน ได้คะแนนเท่าไหร่
o ภาษาอังกฤษของคุณดีไหม
o คุณสมัครทุนนี้ไปกี่มหาวิทยาลัย
o การสัมภาษณ์จบลงแล้ว คุณมีคำถามอะไรไหม
o เราจะประกาศผลอีกครั้ง หากมีอะไรคืบหน้าจะติดต่อไปใหม่
- สิ้นสุดการสัมภาษณ์
- การตอบเราแนะนำให้ยิ้มแล้วตอบไปอย่างมั่นใจค่ะ เมื่ออยู่ในสภาวะเงียบเชียบเราควรมีคำถามยิงกลับไปบ้าง เพื่อให้ไม่เกิดความอึดอัด
- และหลังจากนั้นประมาณไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้รับการวีดีโอคอลติดต่อจากมหาวิทยาลัยอีกครั้ง และเป็นข่าวดีที่ว่าเค้าให้ทุนแก่เรา โดยมีข้อแม้ว่าเราจะต้องทำการปฏิเสธทุนของมหาวิทยาลัยอื่นๆที่ได้สมัคร หากเราตกลงว่าจะไปที่เค้าจริงๆเค้าก็จะให้ทุนแก่เรา ซึ่งประมาณกลางเดือน 6 CSC จะทำการประกาศผลสุดท้าย
และแล้วเดือน 6 ก็มาถึง~
เราได้รับการติดต่อจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอีกครั้งถึงผลสุดท้าย ว่าเราได้รับทุนการศึกษาเป็นทุนรัฐบาลจีนซึ่งอาจารย์ทักเรามาตั้งแต่ต้นเดือน 6 และบอกให้รอทางอาจารย์ขอที่อยู่อีกครั้งเพื่อจะส่งใบต่างๆมาให้
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ ทั้งนี้หากมีตรงไหนผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เนื่องจากเราได้รับสิ่งดีๆมาเลยอยากจะแบ่งปันให้ทุกคนค่ะ และขอให้ทุกคนก็ได้รับข่าวดีอย่างเราเช่นกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
รีวิวประสบการณ์ขอทุนรัฐบาลจีน 2019 (CSC)
ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนนะคะ เราได้ทำการขอทุนรัฐบาลจีนระดับ ป.โท Type B ค่ะ โดยทุนรัฐบาลจีนเป็นทุนเต็มจำนวนครอบคลุมทั้งค่าเรียน ค่าครองชีพ และค่าที่พัก โดยหากเรียนคลาสภาษาจีนอาจจะต้องมีการเรียนปรับภาษาจีนเป็นเวลา 1 ปี ถ้าความสามารถทางด้านภาษาจีน(ผลสอบHSK)ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆกำหนด แต่หากถึงเกณฑ์อาจจะไม่ต้องปรับภาษาและสามารถเข้าคณะได้เลยค่ะโดยหลักสูตรของมหาวิทยาลัยจีนส่วนมากจะเป็น 3 ปีสำหรับ ป.โท
ขั้นตอนแรกในการเริ่มเตรียมตัว
เริ่มที่การเลือกคณะค่ะว่าตัวเองต้องการจะเรียนคณะ/สาขาอะไร หลังจากนั้นศึกษาว่าสาขาที่ต้องการมีมหาวิทยาลัยใดเปิดให้ทุนบ้าง ควรเลือกจากมหาวิทยาลัยในดวงใจ แต่หากไม่มีมหาวิทยาลัยในดวงใจนั้นให้เลือกจากเมืองที่ชอบค่ะ อยากอยู่โซนไหนก็หาข้อมูลจากโซนนั้นๆเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยว่ามีกี่แห่ง แห่งใดมีสาขาที่ต้องการ (คับที่อยู่ง่ายคับใจอยู่ยาก เลือกที่เราชอบและOK จะดีที่สุดค่ะ)
เมื่อได้มหาวิทยาลัยและสาขาที่ต้องการแล้วก็ศึกษาวันและเวลาที่มหาวิทยาลัยนั้นๆเปิดรับสมัคร โดยส่วนมากจะเป็นช่วงต้นปีก็จะเปิดรับสมัครแล้วค่ะ
- เว็บไซต์นี้สามารถตรวจสอบสาขาและมหาวิทยาลัยจีนที่เปิดให้ทุนรัฐบาลจีน
• http://campuschina.org/universities/index.html
(ปล.เมื่อตรวจสอบรายละเอียดในเว็บไซต์ Campuschina แล้วควรจะตรวจสอบในเว็บมหาวิทยาลัยนั้นๆอีกครั้งเผื่อมีการอัพเดทรายละเอียดนะคะ)
- เว็บไซต์นี้ก็เกี่ยวกับรายละเอียดมหาวิทยาลัยที่เปิดให้ทุนรัฐบาลจีนค่ะ
• https://www.chinesescholarshipcouncil.com
ขั้นตอนต่อไป
การเตรียมเอกสาร
จากที่ได้สาขากับมหาวิทยาลัยแล้ว ขึ้นตอนต่อไปในการเตรียมตัวคือการเตรียมเอกสาร และการสมัครค่ะ
ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
เอกสารที่ใช้ในการสมัครทุนรัฐบาลโดยทั่วไป ได้แก่
1. CSC Application form (Chinese or English)
- คือใบที่ปริ้นออกมาเมื่อเราสมัครในเว็บเรียบร้อยแล้ว
2.
2.1 Diploma of the Most Advanced Studies (Notarized photocopy)
2.2 Transcript of the Most Advanced Studies (Notarized photocopy)
- ใบรับรองระดับการศึกษาและใบทรานสคริป สามารถใช้ตัวจริงที่ทางมหาวิทยาลัยออกให้ได้ที่มีตราประทับและลายเซ็นอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัย
(แต่บางมหาวิทยาลัยอาจจะเข้มงวดหน่อย แม้ใช้เป็นตัวจริงภาษาอังกฤษที่ทางมหาวิทยาลัยเดิมออกให้ แต่เค้าก็ต้องการให้เราไปทำการรับรองที่กงสุล ซึ่งทีแรกเราก็ส่งตัวจริงไป และได้รับการติดต่อมาอีกครั้งเพื่อให้เราไปทำการรับรองผลการศึกษาให้เรียบร้อย ณ สถานกงสุล หลังจากนั้นก็ส่งกลับไปให้ทางมหาวิทยาลัยอีกรอบนึงค่ะ)
3. Copy of the passport
- สำเนาพาสปอต พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย (Certified True Copy)
4. Study or Research Plan in China (No less than 800 words)
- แผนการเรียนหรือแผนการทำวิจัยที่สนใจ สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเครียดและกังวลที่สุด เขียนให้ดีที่สุดนะคะ
5. Two Letters of Recommendation
- จดหมายรับรองจากรองศาสตราจารย์ หรือศาสตราจารย์ 2 ท่าน
(หากผู้สมัครไม่สามารถหาตำแหน่งทั้งสองนี้ได้ แนะนำให้หาอาจารย์เซ็นรับรองให้ก็ได้ค่ะเนื่องจากเพื่อนเราก็ให้อาจารย์ช่วยเซ็นก็ไม่ได้มีผลใดๆแถมยังได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยจีน อาจจะเพราะอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆพิจารณาด้วยนะคะ แต่ทางที่ดีที่สุดได้ยศสูงก็จะดีกว่าค่ะ )
6. Foreigner Physical Examination Form (Photocopy) and copies of blood test reports, and it is valid for six months from its registration date.
- ผลตราจสุขภาพ เราไปตรวจที่ รพ.จุฬามาค่ะ และไปรับผลสามวันหลังจากตรวจ ราคาประมาณ1200-1300 บาทไม่แน่ใจจำไม่ได้แล้วค่ะ หากผู้สมัครอยากได้กี่ชุดก็ให้ทำการปริ้นฟอร์มใบตรวจสุขภาพเท่าที่ต้องการและยื่นให้พี่พยาบาลได้เลย โดยชุดแรกจะฟรี ชุดต่อไปชุดละ200บาทจ้า
7. A copy of any certificate to prove the English or Chinese level (such as IELTS, TOFEL, GRE, HSK etc
- ผลรับรองภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษนะคะ บางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีกำหนดขั้นต่ำไว้ก็สามารถข้ามไปได้เลยค่ะ แต่หากมีกำหนดขั้นต่ำก็ให้ดูรายละเอียดว่าเค้าต้องการระดับเท่าไหร่(หากกำหนดส่วนมากจะเป็นHSK4,HSK5 และบางมหาวิทยาลัยอาจจะกำหนดคะแนนต้องดูรายละเอียดอีกทีนะคะ)
ปล. หากสงสัยว่าระดับภาษาถึงแต่คะแนนไม่ถึงจะยื่นได้ไหมนะ ก็ลองยื่นดูค่ะไม่ลองก็ไม่รู้เนอะ
8. Other supporting materials such as published papers
- เอกสารประกอบอื่นๆ ใครมีความสามารถอะไรก็แนบไปก็ได้จ้า
บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีเอกสารเพิ่มเติม เช่น
- Application form จากเว็บมหาลัย : ก็ทำการสมัครในเว็บของมหาวิทยาลัยนั้นๆแล้วปริ้นออกมาค่ะ
- Non-criminal record (it is only valid for six months from its registration date) : ผลตรวจประวัติอาญชญากรรม สามารถขอได้ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยใช้ CSC Application form ,สำเนาพลาสปอต ประกอบด้วยนะคะ ค่าธรรม 100 บาท และค่าไปรษณีย์เพิ่มอีก 50 บาท เมื่อตรวจเสร็จแล้วก็รอรับอยู่ที่บ้านได้เลยค่ะการตรวจก็รวดเร็วมาก อาจจะเพราะว่าคนไม่เยอะ ระยะเวลาที่ผลออกอย่างน้อย 15 วัน เพราะฉะนั้นกะเวลาเผื่อการสมัครและส่งเอกสารด้วยนะคะ
ขั้นตอนการสมัคร
เมื่อเอกสารครบถ้วยสมบูรณ์แล้ว และถึงกำหนดการที่มหาวิทยาลัยจีนนั้นๆเปิดรับสมัครแล้วก็ทำการสมัครได้ตามขั้นตอนนี้
1. เข้าเว็บไซต์ https://studyinchina.csc.edu.cn/#/login เลือกประเภทที่จะสมัคร โดยเราสมัคร Type B ก็เลือก Type B เสร็จแล้วใส่รหัสของมหาวิทยาลัยนั้นๆได้เลยค่ะ
2. กรอกข้อมูล และอัพโหลดเอกสาร หากเอกสารเป็นไฟล์ขนาดใหญ่จะต้องทำการบีบให้ไฟล์เล็กลงด้วยนะคะแล้วอัพโหลดไปเลยจ้า
3. สมัครเรียบร้อยแล้วก็ปริ้นออกมาเลยจ้า
4. หลังจากนั้นให้ทำการเสร็จชื่อด้วยนะคะที่ล่างขวาของใบสุดท้ายตรงที่โล่งๆ แล้วก็ส่งเอกสารทั้งหมดไปยังสำนักงานของมหาวิทยาลัยนั้นๆ หากมหาวิทยาลัยระบุจำนวนเอกสารที่ต้องส่งไปก็ทำตามจำนวนที่เค้าระบุเลยนะคะ หากไม่ได้ระบบก็ให้ส่งไปสองชุดนะคะ ฉบับจริงแล้วก็ก็อปปี้เพิ่มหนึ่งชุดส่งไปด้วยค่ะ
5. หลังจากส่งไปตามมหาวิทยาลัยจีนเรียบร้อยก็รออย่างเดียวเลยค่ะ รอสถานะเปลี่ยน รออีเมล์ รอการติดต่อกลับจากมหาวิทยาลัย หรือหากกังวลสามารถโทรถามสถานะหรืออีเมล์ไปถามก็ได้ค่ะ
ปล . บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยนะคะ เราก็ได้รับอีเมล์สัมภาษณ์จากมหาวิทยาลัยจีนค่ะ หลังจากนั้นก็ทำการสัมภาษณ์ตามวันและเวลาที่มหาวิทยาลัยจีนกำหนด ควรหาที่ที่มีอินเตอร์เน็ตดีดี เพื่อการสื่อสารที่ดีนะคะ
ประสบการณ์การสัมภาษณ์ทุน CSC 2019
- เมื่อได้รับอีเมล์สัมภาษณ์ เราก็ทำตามขั้นตอนที่มหาวิทยาลัยระบุมา และเมื่อถึงวันสัมภาษณ์ ที่เตรียมใจและเตรียมอินเตอร์เน็ตให้ดีค่ะ
- มหาวิทยาลัยจีนจะทำการติดต่อเข้ามาก่อนเพื่อทดลองเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหลังจากนั้นไม่เกิน 5 นาทีก็เริ่มจะการสัมภาษณ์โดยอาจารย์จีนได้ถามว่าต้องการสัมภาษณ์เป็นภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ เอาภาษาที่ตัวเองถนัดที่สุดนะคะ เพื่อการสื่อสารที่ดี
- คำถามจากการสัมภาษณ์
o แนะนำตัวเอง
o คุณรู้จักมหาวิทยาของเราได้ยังไง
o คุณคิดว่าถ้าได้มาเรียนคุณจะเรียนจบไหม เรียนไหวไหม ไหนลองบอกมาสิ ว่าคุณมีวิธีการใดให้เรียนให้จบหลักสูตรได้
o คุณเป็นคนอัธยาศัยดีไหม ชอบผูกมิตรผูกสัมพันธ์ไหม
o คุณมีผลสอบ HSK ไหม หากมี มีผลสอบระดับไหน ได้คะแนนเท่าไหร่
o ภาษาอังกฤษของคุณดีไหม
o คุณสมัครทุนนี้ไปกี่มหาวิทยาลัย
o การสัมภาษณ์จบลงแล้ว คุณมีคำถามอะไรไหม
o เราจะประกาศผลอีกครั้ง หากมีอะไรคืบหน้าจะติดต่อไปใหม่
- สิ้นสุดการสัมภาษณ์
- การตอบเราแนะนำให้ยิ้มแล้วตอบไปอย่างมั่นใจค่ะ เมื่ออยู่ในสภาวะเงียบเชียบเราควรมีคำถามยิงกลับไปบ้าง เพื่อให้ไม่เกิดความอึดอัด
- และหลังจากนั้นประมาณไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้รับการวีดีโอคอลติดต่อจากมหาวิทยาลัยอีกครั้ง และเป็นข่าวดีที่ว่าเค้าให้ทุนแก่เรา โดยมีข้อแม้ว่าเราจะต้องทำการปฏิเสธทุนของมหาวิทยาลัยอื่นๆที่ได้สมัคร หากเราตกลงว่าจะไปที่เค้าจริงๆเค้าก็จะให้ทุนแก่เรา ซึ่งประมาณกลางเดือน 6 CSC จะทำการประกาศผลสุดท้าย
และแล้วเดือน 6 ก็มาถึง~
เราได้รับการติดต่อจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอีกครั้งถึงผลสุดท้าย ว่าเราได้รับทุนการศึกษาเป็นทุนรัฐบาลจีนซึ่งอาจารย์ทักเรามาตั้งแต่ต้นเดือน 6 และบอกให้รอทางอาจารย์ขอที่อยู่อีกครั้งเพื่อจะส่งใบต่างๆมาให้
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ ทั้งนี้หากมีตรงไหนผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เนื่องจากเราได้รับสิ่งดีๆมาเลยอยากจะแบ่งปันให้ทุกคนค่ะ และขอให้ทุกคนก็ได้รับข่าวดีอย่างเราเช่นกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ