[CR] รีวิวทริป NISEKO GRAND HIRAFU ลานสกีที่ฮอกไกโด ++ รอบๆ นิเซโกะ ที่พักและการเดินทาง ++


วันนี้จะพาไปเที่ยวกันที่นิเซโกะ บนเกาะฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นรีวิวที่ดองไว้นานแต่ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าหนาวอีกครั้งเลยคิดว่ารีวิวนี้น่าจะเป็นประโยชน์ที่จะกลับมาทำต่อค่ะ

บริเวณพื้นที่ Niseko Ski Resort จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 แห่ง ได้แก่ Niseko Annupuri , Niseko Village, Niseko Grand Hirafu และ Hanazono ความพิเศษของการมาเล่นสกีที่นี่ก็คือ Powder Snow ด้วยหิมะที่นุ่มละเอียด เลยเป็นสถานที่ ที่เหล่านักสกีอยากมาเยือนกันสักครั้ง แต่ถึงแม้จะไม่ใช่นักสกีแบบจขกท. ก็ยังอยากจะมาดูให้เห็นกับตา

สำหรับจขกท.ได้ทำแผนการเดินทางไว้ว่าจะเดินทางไป Niseko จากเมือง Sapporo โดยจะพักในบริเวณของ Grand Hirafu สองคืนแล้วค่อยเดินทางต่อไปยัง Hakodate พักที่ Hakodate สักสองคืนแล้วค่อยกลับ Sapporo ถ้าดูตามแผนก็จะประมาณนี้ค่ะ
วันที่ 19 (มีนาคม)  Sapporo > Niseko
วันที่ 20 Niseko เล่นสกี + ไป Milk kobo
วันที่ 21 Niseko > Hakodate
วันที่ 22 Hakodate
วันที่ 23 Hakodate > Noboribetsu > Sapporo

พอทำแผนการท่องเที่ยวเสร็จก็มาดูว่าจะเดินทางอย่างไรให้ประหยัดที่สุด จขกท.ต้องเดินทางไกลในวันที่ 19,21,23 ซึ่งวันเดินทางไกลนี้ไม่ติดต่อกัน จะใช้ Hokkaido flexible 4-day pass ก็ได้แต่คำนวณไปคำนวณมา Hokkaido flexible 4-day pass (22000เยน) แพงกว่า Hokkaido 3-day pass (16500เยน) + ค่ารถขาเดียวจากซัปโปโรไปนิเซโกะ (2600เยน) จขกท.ก็เลยเลือกอย่างหลัง ขาไปนิเซโกะนี้เราก็เลยเริ่มต้นเดินทางกันด้วยรถบัสของ Chuo bus ค่ะ

เช้าวันที่19 นี้ เราเริ่มต้นออกเดินทางกันจากสถานีรถไฟใต้ดิน Susukino

พอมาถึง Sapporo Station แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้าง ESTA กันต่อ จุดขึ้นรถบัสและจุดขายตั๋วจะอยู่ที่นี่ (จุดซื้อตั๋วอยู่ชั้น2 ของท่ารถ) สำหรับใครที่จะเดินทางไปบริเวณลานสกีต่างๆ ของนิเซโกะ รอบรถจะมีสองเวลา มี 7.55 และ 8.45 ส่วนจขกท.เลือก 8.45 เพราะเผื่อเวลาเช็คเอาท์ที่โรงแรมย่าน Susukino และเผื่อเวลาลากกระเป๋าเดินทางมาที่ป้ายรถบัส

สำหรับตั๋วรถบัสนั้น จขกท.ได้มาซื้อล่วงหน้าที่เคาน์เตอร์ไปเมื่อสองวันที่แล้ว เพราะจขกท.มาใช้บริการของ Chuo bus แบบ One day trip ไปแล้วรอบหนึ่ง (สามารถไปตามไปอ่านได้ที่กระทู้นี้ค่ะ “REVIEW : ไปใช้บริการทัวร์ ONE DAY TRIP ที่ฮอกไกโดของ Chuo Bus มาค่ะ” > https://ppantip.com/topic/36357881 )
สำหรับวันนี้ก็แค่ลากตัวเองมาที่ท่ารถก่อนเวลา 8.45 ก็พอ

หน้าตาของตั๋วก็จะมีลักษณะแบบนี้ ซ้ายบน 8.45 คือเวลาขึ้นรถที่เราได้ทำการจองไว้ หมายเลข 17 ขวาบนคือป้ายรถที่เราต้องไปรอขึ้นรถ 2600เยนคือราคาขาเดียวสำหรับผู้ใหญ่ (ไป-กลับจะราคา 4500เยน)

สำหรับจุดหมายปลายทาง รถจะจอดส่งคนบริเวณรอบๆ นิเซโกะ (ยกเว้นบริเวณ Hanazono) ส่วนจขกท.นั้นเลือกจุดจอดที่ Niseko Hirafu Ski Area ก็คือลงรถที่หน้า Hirafu Welcome Center

ระหว่างทางที่มา รถจะจอดแวะพักหนึ่งครั้ง นี่ขนาดว่ายังไม่ถึงบริเวณลานสกีก็สามารถมองเห็น Mt. Yotei ภูเขาที่เรียกได้ว่าเป็นฟูจิซังน้อยของเกาะฮอกไกโดได้เต็มสองตา  

ที่เต็มสองตาเพราะสภาพอากาศวันนี้ดีมากๆค่ะ

พอมาถึงหน้า Hirafu Welcome Center แค่เพิ่งลงรถก็รู้สึกโอ้โห นี่หรือคือวิว Mt.Yotei คิดไม่ผิดจริงๆที่เอานิเซโกะมาไว้ในการเดินทางครั้งนี้ด้วย แล้วมาถูกวันด้วยนะเพราะวันที่จขกท.ออกจากนิเซโกะ ท้องฟ้านี่คนละเรื่องกับวันมาเลยค่ะ

พอลงรถแล้วเราก็ตรงไปที่ Hirafu base กันก่อน เพื่อดูคอร์สเรียนสกีว่ามีอะไร อย่างไรบ้าง หลักๆ ที่ฮิราฟุนี้ก็จะมีแต่พื้นที่ให้เล่นสกี ถ้าใครอยากลองกิจกรรมหน้าหนาวรูปแบบอื่นๆ เช่น Snow Rafting ลองไปดูที่ Niseko Village ได้ หรือลองเข้าเว็บไซต์ตามสกีรีสอร์ทนั้นๆ ดูว่ามีกิจกรรมอะไรที่นอกเหนือจากสกีให้ทำบ้าง  

การมาครั้งนี้เราสองคนตั้งใจมาเรียนสกีเลยค่ะ เพราะว่าสกีเป็นกีฬาจะเรียนพื้นฐานไว้ก็ไม่เสียหาย คิดไว้ว่าพอมาถึงก็จะลงคอร์สเรียนสกีในบ่ายวันนั้นเลย แต่อะ อ้าวรอบบ่ายเต็มก็เลยลงเรียนรอบ 16.00-18.00 (Evening 2 hours) กันไปแทน

จริงๆ ไม่ได้อยากเรียนแบบ Private แต่คอร์สเรียนรวมนั้นเต็มทั้งสองวันที่เราจะอยู่ที่นี่ เราก็เลยต้องลงเรียนแบบส่วนตัวไป ส่วนของราคานั้นเห็นแล้วก็ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ เพราะตกใจตั้งแต่ตอนหาข้อมูลอยู่ที่บ้านละว่า อะไรจะแพงขนาดน้าน

แต่นี่เป็นการเล่นสกีครั้งแรก และด้วยความเป็น Power Snow ก็เลยอยากมาที่นี่ จริงๆ ไม่ใช่อะไรเพราะลานสกีส่วนใหญ่ก็จะมีที่พักประจำลานสกีไปเลย แล้วที่พักค่อนข้างแพงก็เลยเลือกที่จะมาพักที่บริเวณนี้ เพราะมีที่พักให้เลือกหลากหลายมากกว่า และราคาถูกกว่ากันด้วย (ถูกกว่านิดหน่อย)

ทีนี้พอได้รอบเรียนตอนสี่โมงเย็นแล้ว เวลานี้เราก็เลยว่างกันไปยาวๆ กะไว้ว่าก่อนสามโมงเย็นค่อยมาเช่าชุดกันอีกที ตอนนี้ก็เลยเดินเอากระเป๋าไปเก็บกันที่โรงแรมกันก่อน ที่พักของเราสำหรับการมานิเซโกะครั้งนี้มีชื่อว่า Lodge Koropokkuru ที่พักอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวลานสกี ระยะการเดินจากที่พักไปลานสกี เดินตัวเปล่าจะสบายๆ แต่ถ้าเดินไป-กลับแบบที่ต้องแบกอุปกรณ์สกีไปด้วยก็แอบเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน  (สำหรับที่พักจะรีวิวไว้ให้ที่คอมเมนต์สรุปตอนท้ายค่ะ)

พื้นที่ที่เราพัก คือส่วนที่เรียกว่า Hirafu Upper Village เลยถนนเส้นหลักลงไปเรียกว่า Hirafu Lower Village แต่ส่วนนี้ยังไม่ได้ไปเดินจริงจัง แต่คิดว่ามีร้านอาหาร ผับ บาร์และอพาร์ทเมนท์ค่อนข้างเยอะ เป็นที่แฮงค์เอาท์ของนักท่องเที่ยวที่มาเล่นสกีกันละแวกนี้โดยเฉพาะ ตอนเย็นเวลาจขกท.มาซื้อของที่ Seico mart (Seico mart ติดกับถนนเส้นหลัก) ก็จะเจอนักท่องเที่ยวมานั่งชิว แฮงค์เอาท์กันหน้าถนนที่จะเป็นทางลงไปฝั่ง Lower Village เสมอ

สำหรับพื้นที่บริเวณ Grand Hirafu นี้ สภาพบ้านเมืองก็จะอยู่กันตามตีนเขาแล้วลดหลั่นกันลงไปเรื่อยๆ ภูเขาด้านหน้าเราก็คือMt.Yotei ที่เรียกกันว่าเป็นฟูจิของเกาะฮอกไกโด ก็เพราะทรงของภูเขามีรูปร่างลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ

พอเข้าที่พัก เช็คอินกันเสร็จสรรพ เราก็ออกไปเดินเล่นหาของกินกัน พื้นที่บริเวณนี้ก็จะมีร้านอาหารอยู่ประปราย มี food truck ตามข้างทางที่จะเริ่มเปิดกันช่วงเที่ยงไปจนถึงช่วงเย็น ส่วนมื้อเที่ยงนี้เราเลือกกินกันที่ร้าน Fujizushi ถ้าเดินจากที่พักลงมาตรงถนนเส้นหลัก ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมถนนพอดี  ร้านนี้รวมๆ โอเคค่ะ เป็นร้านที่ถือว่ามาซ้ำได้

พอกินเสร็จก็เดินกลับที่พักกัน รอให้ใกล้เวลาเรียนแล้วค่อยกลับไปที่ Hirafu base อีกที เพื่อทำการเช่าชุด เช่าอุปกรณ์สกี (ควรเผื่อเวลาเช่าชุด+อุปกรณ์ ประมาณหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องเลือกชุด เลือกอุปกรณ์ และกรอกเอกสารต่างๆ  อีกค่ะ) สำหรับเรา เราเช่ากันที่ Grand Hirafu Rental Shop ที่ Hirafu base เลย


พอสี่โมงเย็นก็ถึงเวลาเริ่มคลาสเรียน ครูสอนสกีของเราชื่อ Jeppu เป็นคนยุโรป แต่จำไม่ได้แล้วว่ามาจากประเทศอะไร เราสามารถเลือกครูได้ว่าอยากเรียนเป็นภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น ส่วนของเราถ้าให้ครูญี่ปุ่นมาสอนเป็นภาษาญี่ปุ่น ดูแล้วไม่น่าจะรอด

ตอนนี้เราเช่าของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพร้อมเรียนแล้วค่ะ

ก่อนเรียนครูก็ถามว่าเราจะเรียนกันที่นี่หรือจะเดินไปเรียนกันอีกที่หนึ่ง ก็เลยถามกลับว่าแล้วมันต่างกันอย่างไร (ตอนนั้นถามเพราะไม่รู้ แต่ถ้ารู้ก็จะตอบว่าขอไปเรียนอีกที่ค่ะ) ไปๆมาๆ ครูคงเพิ่งคิดได้ว่าสอนคนเริ่มเล่นตั้งแต่ยังเล่นไม่เป็นเลย สอนตรงไหนก็น่าจะเหมือนกัน ก็เลยตัดจบไปว่าเรียนที่นี่ก็ได้ สรุปเราก็เรียนกันที่นี่

ส่วนอีกที่ที่ว่า คือฝั่งที่มีกอนโดล่า ตามรูป ฝั่งที่มีกอนโดล่า คือจุด Mountain Center

ถ้าถามว่าต่างกันอย่างไร สำหรับพื้นที่เรียน ฝั่งที่มีกอนโดล่า เค้าจะล้อมรั้วไว้โดยเฉพาะ สำหรับคนพึ่งเริ่มต้น แล้วก็จะมีลิฟต์ที่ขึ้นไปยืนแล้วก็จะเลื่อนขึ้นไปบนเนินอัตโนมัติ ถ้ารู้แบบนี้ขอเดินไปเรียนอีกฝั่งดีกว่า สรุปว่าเราเรียนกันที่ฝั่ง Hirafu  Base ฝั่งเดิม เวลาจะสกีลงมาก็เลยต้องเดินขึ้นเนินกันเองค่ะ สำหรับใครที่มือใหม่สุดๆ แล้วอยากลงเรียนก็แนะนำว่าขอเรียนอีกฝั่งน่าจะดีกว่า จะติดต่อที่ฝั่งนี้หรือไปติดต่อที่ฝั่ง Mountain Center เลยก็ได้ หรือถ้าเอาชัวร์แบบว่ามาถึงแล้วมีคอร์สเรียนแน่ๆ ก็ให้จองมาตั้งแต่ในอินเทอร์เน็ต

สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนแบบจขกท.ก็เริ่มตั้งแต่สอนใส่อุปกรณ์สกี การเบรก การเลี้ยว ประมาณนี้ หลังจากเราเรียนครบสองชั่วโมงเราก็เล่นต่อกันอีกนิดหน่อย แต่ว่าเล่นโดยการเดินขึ้นเนินเองเหมือนเดิม ไม่ได้ซื้อพาสใดๆ และที่ยังเล่นต่อได้เพราะช่วงที่ไปยังเปิดให้เล่นช่วงกลางคืนอยู่ (Night-skiing hour) สำหรับหน้าหนาวที่ผ่านมา(2017) ลานสกีที่ฮิราฟุนี้หมดช่วง Night-skiing ไปวันที่ 20 มีนาคม 2017 ส่วนหน้าหนาวปีนี้(2018) จะเปิดให้เล่นตอนกลางคืนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2018 แต่เวลาเปิดปิดลานสกีปกติ (Daytime) จะเปิดถึงเดือนเมษายนหรืออาจจะพฤษภาคมตามปกติค่ะ

พอเล่นสกีกันเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุดเตรียมเก็บของเพื่อกลับที่พัก สำหรับทุกๆ base ของลานสกีจะมีล็อกเกอร์ให้เลือกใช้ ขนาดเล็กสุดจะอยู่ที่ 300เยน สำหรับจขกท.ก็ใช้บริการล็อกเกอร์กันทุกวันค่ะ ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างแล้วแต่ขนาดกระเป๋าเป้ที่ติดมาด้วย

พอถึงที่พักก็เข้าไปเก็บอุปกรณ์สกีแล้วค่อยเดินออกไปหาอะไรกินกันต่อ จริงๆ หน้าปากซอยที่พักมีร้านราเมนแต่ไม่มีใครอยากกิน เราเลยเดินหาร้านอื่นต่อ พอออกจากที่พักแล้วน่าจะดึกเกินไป พวก food truck ก็เลยปิดกันไปหมด มื้อดึกนี้ก็เลยลงเอยกันที่ Seico mart คืนนี้เราเลยขอจบด้วยมาม่า และขนมต่างๆ จากที่นี่ค่ะ (ใช้กาต้มน้ำของที่พัก)
ชื่อสินค้า:   Niseko , Grand Hirafu , Milk kobo
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่