[CR] ทริปฉายเดี่ยว ภูเขาสี่ดรุณี / ซื่อกู่เหนียงซาน 四姑娘山 , Danba - A'BA ทริปกระทันหัน เสฉวน Sichuan อยากไปก็ไปโลด!

ฮัลโหลๆๆๆ ตื่นเต้นจัง ครั้งแรกของการมาแชร์ประสบการณ์ฉายเดี่ยวจริงจังขนาดนี้ มือถือกล้องไฟส่องหน้า 加油! ฮึบ!  ยิ้ม

“เขตปกครองตนเอง A'BA ”  (阿坝藏族羌族自治州)


หลังจากห่างหายจากการฉายเดี่ยวไปเดือนกว่าๆ ก็ได้ฤกษ์เดินทางไกลอีกรอบ
และก็เป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากบ้านเกิดหลังที่สองของเราเอง นั่นก็คือ ดินแดนมังกร ผู้มีทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ haha

พอพูดถึงประเทศจีนแล้วก็........หลายคนก็คงจะ แหะ แหะกัน แต่สำหรับเรานะ ยิ้มปากกว้างเลยล่ะจะบอกให้ หัวเราะ
ทำไมน่ะหรอ ก็ชอบบบบบบบบบบบบ ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก่อนอื่นคือเราเคยเรียนที่จีนสองปีกว่า สามารถสื่อสารและใช้ภาษาจีนได้ก็เลยไปไหนมาไหนสะดวก (นี่ไม่ได้ชมตัวเองนะ แค่อวยลอยๆ) ฮ่าๆๆๆ

คือตั้งแต่ไปเรียนที่จีนก็หาเวลาว่างไปเที่ยว ไปหาประสบการณ์ตลอด ไม่ว่าจะไปเอง ไปกับเพื่อนๆ หรือช่วยนำเที่ยวให้คนไทย บางทีก็ไปแบบไม่คิดเงิน ขอแค่ที่พักฟรี เดินทางฟรี กินฟรี จากเหนือลงใต้พี่ก็ไปค่ะ (เห็นแก่เที่ยวมากแค่ไหน ถามใจเทอดู)
เอาล่ะ กลับมาๆ เข้าเรื่องซักที
รอบนี้เนื่องจากมีเวลาพักยาวๆ ก็เลยมีโอกาสได้กลับมาอีกครั้ง รอบนี้ตั้งใจจะไปคุยงานด้วยและจะไปเที่ยวด้วย (จริงๆแล้วเที่ยวเป็นหลัก งานคือข้ออ้าง ทุกคนรู้กัน) สาวแว่น

เริ่มต้นจาก กวางโจว เซียะเหมิน เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง แล้วกลับมาเซี่ยงไฮ้ แล้วก็เริ่มทริปจริงจังที่เฉิงตู เส้นทางก่อนเฉิงตู เรายังไม่ขอเล่าเพราะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่จะมาเริ่มต้นเล่าที่ “เขตปกครองตนเอง A'BA อาป้า” นะจ๊ะ


“เขตปกครองตนเอง A'BA ” หรือภาษาจีน เรียกว่า (阿坝藏族羌族自治州) อ่านทับศัพท์ว่า อาป้าจ้างจู๋เจียงจู๋จื้อจรื้อโจว  ส่วนประวัตินั้นไม่ขอพูดถึงละกันเนอะ มีคำถามไปถามพี่กูเกิ้ลเอาละกันเนอะ เราก็ไม่ค่อยอินประวัติศาสตร์จีนเท่าไหร่ (สอบผ่านมาได้ก็บุญท่วมหัวละ)
FacepalmFacepalmFacepalm


เริ่มต้นจากการตัดสินใจเดินทางเลย ณ เวลาบ่ายวันนึงที่เซี่ยงไฮ้ ตัดสินใจปุ๊บก็จองตั๋วเย็นวันนั้นเลย

ในที่สุดก็ได้ตั๋วเครื่องบินจากเซี่ยงไฮ้ จองแบบกระชั้นชิดมาก จองวันนี้บินพรุ่งนี้ค่า โดนค่าตั๋วไปเกือบห้าพัน (คนเดียว เที่ยวเดียว) นี่คือผลเสียของการไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ห้ามเลียนแบบนะจ๊ะ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองเงินมาก เสียดายตังค์ เอาไปเที่ยวได้หลายที่เลย ฮือๆๆๆๆ (สมน้ำหน้า)

เอาล่ะ ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว ตื่นเต้ววววววว นี่ไม่ใช่การเดินทางคนเดียวครั้งแรกนะ แต่แปลกจังทำไม่ตื่นเต้นขนาดนี้


ไฟล้ท์ไปถึงเฉิงตูเวลาประมาณสองทุ่มกว่าๆ ไปถึงที่นู่นเราจองรถไว้ล่วงหน้าให้มารับไปโรงแรม

โรงแรมที่พักชื่อว่า LAVENDE HOTELS丽枫酒店 อ่านว่า ลี่ เฟิง จิ่วเตี้ยน  ( จิ่วเตี้ยน = โรงแรม) มันจะเป็นโรงแรมที่มีหลายสาขาย่อย ใกล้ๆกับมหาลัย:ซื่อชวนประตูทิศใต้ หรือที่ชื่อจีนว่า 四川大学 ซื่อชวนต้าเสวียข้างนอกอาจจะดูไม่ค่อยดีเพราะอยู่ตึกรวมกับพวกร้านอื่นๆ แต่พอขึ้นไปในล้อบบี้แล้วดูดีทีเดียว ทำไมพักแถวนี้น่ะหรอ เดี๋ยวก็รู้ กิกิ

http://hotel.elong.com/chengdu/chain29338.html
นี่เป็นลิงค์ของโรงแรมนะจ๊ะ ถ้าจะไปดูห้อง

เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปห้องเก็บไว้เลย แต่รับรองสะอาด ปลอดภัยและภายในห้องนี่เทียบโรงแรมห้าดาวได้เลย นี่ไม่ได้เว่อร์นะ คือพวกฟังก์ชั่นและของจำเป็นในห้องมีหมด เตียงดี ใหญ่ สะอาด พรมไม่มีกลิ่น มีหน้าต่างบานใหญ่ ผ้าม่านเปิดไฟฟ้า ทีวีจอแบน ห้องน้ำเปิดฝักบัวมีเพลงเปิดปิดอัตโนมัติ เอาเป็นว่าห้องดีถึงดีมากในราคาที่ 1500 -1800บาท/คืน อ่อ ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วยนะ
เนื่องจากไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ก็เลยขอไปก๊อปรูปมาจากเว็บจองโรงแรมชื่อดัง e-long ของจีนมาให้ดูเป็นภาพประกอบละกัน ขอยืนยันว่าดูรูปกับของจริงไม่ผิดหวังเเน่นอน





เราจะมาเริ่มฉากแรกที่นี่ก่อนเลย คือต้องเอากระเป๋าเก็บหนึ่งใบเพราะมันเยอะไป เดินทางลำบาก (จริงๆก็ไม่เยอะนะ) มีเป้แบคแพคใบนึง มีเป้เล็กใส่ของมีค่าใบนึง และกระเป๋าลาก20นิ้วใบนึง
และแน่นอนค่ะ ใบที่ถูกตัดออกก็คือ กระเป๋าลากนั่นเอง เพราะมันคงจะลากขึ้นลงรถลำบาก (เสียใจด้วยนะคะที่คุณไม่ได้ไปต่อ) บั๊ย
เป้ใหญ่ใส่ของจัดเต็มมาก เพราะดูอากาศแล้วท่าทางจะเอาเรื่องอยู่ บ้านพี่เรียกยัดจนเกือบซิบแตกค่ะ ถ้ามันพูดได้มันคงด่าไปละ

เอ้า แล้วกระเป๋าลากเจ๊จะไปเก็บไว้ที่ไหนล่ะ ????
อ๋อ ไม่ต้องห่วงค่ะ เพื่อนเจ๊เป็นผู้โชคดีไป (นี่คือเหตุผลที่มาพักแถวนี้ข่าาาาาา) ประหลาดใจประหลาดใจ
ต้องขอขอบพระคุณคุณเพื่อนเดียร์ด้วยนะคะ ที่รับฝากกระเป๋าให้และอุส่าห์ทำหมูทอดน้ำปลาให้กิน (พี่อยากกินหมูเค็มทอดมาก)
กราบบบบบงามๆสามทีค่ะ (เผื่อใส่กล่องให้กินตอนเดินทางอีกด้วย) การมีเพื่อนแต่ละเมืองมันดีแบบนี้นี่เอง เยี่ยม

เอาล่ะ นอนพัก 1คืน เมื่อตัดสินใจเรียบร้อยว่าจะไปไหน (เพิ่งตัดสินใจได้ตอนห้าทุ่ม) พรุ่งนี้เราก็เตรียมตัวออกเดินทางกันโล้ดจ้า
และปลายทางของเราก็คือ.........
ทะ
ทะ
ทะ
ทะแด้นนนนนนนนนน
คือ.... >>>>> ภูเขาสี่ดรุณี/ซื่อกู่เหนียงซาน四姑娘山:siguniangshan


ภูเขาสี่ดรุณีนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ปกครองตนเองอาป้าของชาวเชียงและชาวทิเบต(阿坝藏族羌族自治州)ในมณฑลเสฉวน บนเส้นทางระหว่าง “เมืองเสี่ยวจิน-小金县” กับ “เมืองเหวินชวน-汶川县”
ข้อมูลจาก https://tripderntang.com
ที่เหลือละเอียดกว่านี้ไปถามอากู๋เองนะเจ้า กิกิ
อะ ทีนี้ลองมาดูเส้นทางคร่าวๆกันว่า เราอยู่ตรงไหน แล้วจะไปที่ไหน ทางเป็นยังไงบ้าง


จากหมายเลข 1 เมืองเฉิงตู ไปยังหมายเลข 2 เขาสี่ดรุณีเป็นระยะทางแค่สองร้อยกว่ากิโล ใช้เวลาสี่ชั่วโมงกว่า แต่เอาจริงๆก็ห้าชั่วไมงกว่าได้ ทำไมน่ะหรอ ก็ดูนี่สิ มองดีๆนึกว่าพยาธิตัวขด ทางคดเคี้ยวเบี้ยวไปเบี้ยวมาขนาดนี้ น่าพาไปทำศัลยกรรมมาก แค่เห็นแผนที่ก็มึนแล้ว เดี๋ยวเราจะไปไปสัมผัสของจริงกันค่ะ



อ่อ ลืมบอกไปว่ามันมีตั๋วเดินทางไปไปถึงเขาสี่ดรุณีโดยตรงเลยนะ แต่พี่พลาด เค้าจองกันล่วงหน้าเต็มหมดแล้วยาวๆ เพราะเพิ่งตัดสินใจเมื่อคืนไง๊ (สมน้ำหน้า) ก็เลยต้องนั่งรถที่จะไป เมืองเสี่ยวจิน 小金แทน ซึ่งมันไกลไปอี๊กกกกกกกกก ห่างกันประมาณ50โล ค่าเสียหายของตั๋วอยู่ที่ 95 หยวน เป็นเหมือนรถบัสแอร์บ้านเรา สภาพดีอยู่

มีทั้งหมด 3 รอบต่อวัน คือ 9:00 , 11:00, 14:00
และแน่นอนค่ะเราจะไปรอบเช้าสุด ตื่นทันมั๊ยให้ทาย
ทันสิ ตื่นตามนาฬิกาปลุกเลย แต่………..


เรียกแท๊กนานมากกกกกกกกกกก กว่าจะเสด็จมาได้ แล้วไม่รู้ว่านางเพิ่งขับรถวันแรกรึเปล่า วนไปวนมากว่าจะถึง สุดท้าย ไม่ทันค่ะ มาถึง 09:05 นาที
อยากจะกรีดร้องเป็นภาษาฮิปโป โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย แผนที่วางไว้พังๆๆๆ เค้าล้อเล่น
(เดี๋ยวๆๆ เคยวางแผน?)

เอาไงล่ะทีนี้ ก็มีทางเดียวไงคะ ไปรอบ 11:00 นี่ดีนะยังไม่ซื้อตั๋ว ไม่งั้นนั่งดีดดิ้นอยู่หน้าสถานีแน่ๆ
รอไปค่ะ รอมันต่อไปค่ะ สามชั่วโมงเอ้งงงงงงงง ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้
ว่างๆก็เดินไปซื้อเสบียง ของกินเล่น ขนมปัง ไข่ต้มใบชา มาม่าจีน นม ธัญพืชกระป๋อง ลูกชิ้นต้ม
เอ๊ะ เดี๋ยวๆๆๆๆ นี่ทั้งหมดนี้จะเอาไปกินทั้งอาทิตย์เลยใช่มะ ที่นั่นมันจะกันดารขนาดนั้นเลยหรอ
ไปเดินเข้าๆออกๆมินิมาร์ทในสถานีสองสามรอบ ซื้อเสร็จก็มานั่งบ่นในใจคนเดียว (ซื้อไรมาเยอะแยะ หนักอิ๊บอ๋าย)
คือเราเป็นคนไม่กินเนื้อวัว แพะ แกะอะไรพวกนี้เลย ก็เลยต้องหาของสำรองไว้ เดี๋ยวอดตาย เรื่องเหนื่อยเรื่องหนาวพี่ไม่ว่า แต่น้ำหนักพี่จะลดไม่ด้ายยยยยยยย (หมั่นไส้ได้แต่อย่าด่าแรง พี่อยู่ในช่วงเพิ่มน้ำหนัก จริงจัง)

พอเวลาใกล้ๆ ก็เริ่มเดินวนค่ะ (เราต้องทำตัวเนียนๆเหมือนเจ๊กเนอะ) เดินอยู่นั่นแหละ วนทำไมนักหนาวะ วนจนเวียนหัวละเนี่ย สักพัก เดินไปถามดีกว่า มันไม่เรียกขึ้นรถซักที
เอ้า มันขึ้นรถได้ละนี่ รีบเลยค่ะ รออะไร (แล้วทำไมถึงไม่เรียกล่ะเห้ยยยย)
ได้ขึ้นรถซักที และแน่นอนค่ะก็ต้องเลือกนั่งริมหน้าต่างจะได้ไม่พลาดช็อตเด็ด
ละนี่คือยานพาหนะที่จะพาอิชั้นไปเที่ยวนะฮ้าาาา สังเกตุดีๆนะว่าป้ายที่ติดว่าจะไปไหนบนรถจะไม่มีภาษาอังกฤษเลย ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาจีนต้องระวังดีๆนะฮ้าาา ดอกไม้



ลำดับต่อไปพอขึ้นมาบนรถแล้ว ก็หาที่นั่งตามหมายเลขที่เค้าระบุไว้ในตั๋วเนอะ และนี่คือตั๋วที่ได้มา ตั๋วจะมีสองใบ ใบแรกก็ตั๋วขึ้นรถ ระบุวันที่ ปลายทางและเลขที่นั่ง ส่วนใบที่สองเป็นส่วนของประกันการเดินทาง (ไม่ควรจะใช้เป็นอันดีที่สุด)

ตื่นเต้นกว่าได้ขึ้นรถก็คือ ใครจะมานั่งข้างชั้นเนี๊ย
คุณป้า ไม่ใช่
คุณลุง ผ่านไป
ผู้บ่าว ผ่านไป
ผู้สาว ผ่านไป
และผู้โชคดีคนนั้น ก็คือ........

คุณตาจ้า ผู้แต่งตัวชนเผ่าทิเบตมาเลยจ้า สิ่งที่มาถึงก่อนตัวคุณตาคือะไรรู้ป๊ะ
ใช่ค่ะ กลิ่นหอมหวลประจำกายนั่นเอง
หอมเชียะ (หอมจนขมคอ)

แต่เขามารยาทดีนะ เรามีเป้วางที่เท้า ต้องไปเบียดที่วางเท้าคุณตา เขาก็ไม่มีอาการร้องแอ๊ะ เอ๊ะแต่อย่างใด แค่มองด้วยหางตาแบบสุภาพ แปลเป็นนัยๆว่า นังหนูนี่มันจะขยับอีกนานมั๊ย  (ก็ที่มันแคบอ่ะ เท้าหนูอึดอัด แหะๆ)
เราก็รักษามารยาทด้วยการค่อยๆหยิบผ้าปิดจมูกตรา 3M ระดับหนามาตรฐานปกป้องคุณจากกลิ่นมลพิษอันไม่พึงประสงค์ขึ้นมาใช้งาน
มันดีค่ะ แต่ยังดีไม่พอ ขออนุญาตหยิบตัวช่วยอีกอย่างขึ้นมาใช้ นั่นก็คือ ยาดมตราโป๊ยเซียน วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย ใช้ยาดม ตรา โป๊ยเซียน (เอ๊ะ มันใช่สโลแกนนี่หรอ)
ทีนี้แหละ นั่งรถสบายหายกังวลละ
ข้างทางก็จะผ่านศูนย์เพาะพันธุ์หมีแพนด้า ซึ่งเป็นสัตว์ขึ้นหิ้งของมณฑลนี้ด้วย พ่อแม่พันธุ์ของน้องช่วงช่วงหลินฮุ่ยก็มาจากเมืองเฉิงตูนี่แหละ ของเค้าดังจริงๆ
ด้วยความที่นอนดึกและตื่นเช้ามาก ทำให้พี่เริ่มง่วงงงงงงงงงง
ง่วง ง่วง ง่วงงงงงงงง
คร่อก คร่อก คร่อกกกกกก
คร่อกฟี้คร่อกฟี้คร่อกฟี้คร่อกฟี้คร่อกฟี้คร่อกฟี้คร่อกฟี้คร่อกฟี้

ไม่รู้ตัวเลยว่าหลับไปตอนไหน คือปกติถ้าขึ้นรถคนเดียวจะไม่ค่อยหลับ เพราะต้องระวังความปลอดภัยของตัวเองและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก แต่นี่ง่วงจริง เอาไม้มาค้ำหนังตาก็ไม่อยู่ แต่ก็สะดุ้งตื่นพอเริ่มได้ยินเสียงแตรดังถี่ๆ
(จริงๆก็ได้ยินมันมาตลอดทางแหละ แต่ยังไม่ถี่มาก)

แต่ต้องยอมรับว่าเขาขับรถสายนี้ทุกวัน เขาชินกับเส้นทาง และถือว่าขับรถไม่ได้น่าหวาดเสียว ไม่ค่อยกังวลเรื่องนี้เท่าไหร่ แค่รำคาญเสียงแตรมันน่ะแหละ
พอเสียงแตรเริ่มซึมซับเข้าไปในหัวมันก็จะกลืนไปกับเสียงอื่นๆเสมือนเราไม่ได้ยินมัน และแน่นอนรถไต่ความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ณ จุดๆนี้ น่าจะอยู่ที่เกือบสองพัน อาการยังปกติ ไม่ได้รู้สึกหูอื้อแต่อย่างใด และที่สำคัญวิวก็เริ่มอลังการขึ้นเรื่อยๆ เวลานี้ใครหลับ ถือว่าพลาดมาก คุณจะเสียใจมาก บอกก่อนเลยว่าถ้าเดินทางมามณฑลนี้ ไม่ว่าจะไปเส้นทางไหน ขอให้นั่งติดหน้าต่างไว้ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นนอน

ว่าแล้วก็เริ่มเปิดฉากกันที่อารมณ์ใบไม้เปลี่ยนสีกันเลย อาจจะไม่เยอะเท่าไหร่แต่พอรวมๆกันแล้วตัดกับท้องฟ้าก็สวยดี ฟ้าก็ฟ้าไปอี๊กกกกก
อ่ะ ให้ภาพบรรยายตัวเองละกันดีกว่า




และก็จะเริ่มเห็นภาษาทิเบตตามที่ต่างๆ


ความสนุกเพิ่งเริ่ม ความรวน ความมึนของฉันก็เริ่มทำงาน ทำงานได้เรื่องซะด้วย ฮ่าๆๆ เดี๋ยวมาเล่าต่อ สาวแว่น
ชื่อสินค้า:   ภูเขาสี่ดรุณี - ซื่อกู่เหนียงซาน 四姑娘山 , Danba , A'BA เที่ยวจีน เสฉวน Sichuan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่