#สี่ดรุณี (ซื่อกูเหนียงซาน) จีน ช่วง 11-15พค.61
สี่ดรุณี ประกอบด้วย
1.พี่สาวคนโต ชื่อ ยอดต้าเฟิง Mt.Daguniang Girl 5,025ม. (First Girl)
2.พี่สาวคนที่สอง ชื่อ ยอดเอ้อเฟิง Mt.Erguniang 5,276ม. (Second Girl)
3.พี่สาวคนที่สาม ชื่อ ยอดซางเฟิง Mt.Sanguniang 5,355ม. (Third Girl)
4.น้องสาวคนเล็ก ชื่อ เยาเม่นเฟิง Mt.Yaoniangfeng 6,250ม. (Fourth Girl)
แต่ครั้งนี้ เราจะไปกันแค่ยอดเดียว คือ ยอดต้าเฟิง 5,025ม.
ทริปนี้มาด้วยกัน10คน พี่โอ๊ต,พี่chilli,พี่suri,พี่บัญชา,พี่อึ้ง,อ๊อฟ,ดิว,เก๋,เอ็ม และ ฮ้อHD
ไฟล์บิน
ขาไป ไลอ้อน SL932 DMK-CTU 21:55-02:00
(RICCVU) 3,835บ. 10/5/61
ขากลับ AA FD557 CKG-DMK 11:00-1:20
(KP4SYW) 4,205บ. 15/5/61
ค่าวีซ่า 2,000บ.
ทริปนี้ที่แรกตั้งใจกะไปช่วงปลายปี เนื่องจากมีพี่ที่สนิทอีกคน จะจัดไปtrekที่นั้นกัน แต่พอดีไปเห็นพี่โอ๊ตได้สร้างกิจกรรมไว้ เพื่อไปเดินtrekที่สี่ดรุณีเช่นกัน จึงกดสนใจไว้ก่อน (ตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าจะไป)
วันเวลาผ่านไป ช่วงปลายเดือนเมย. พี่น้อยได้ให้ยืนยันการเดินทาง เพื่อไปปางสีดา จ.สระแก้ว ซึ่งผมก็ได้ยืนยันไปแล้วว่าจะไป ซึ่งจริงๆก็ตั้งใจจะไปนั้นแหละ จนถัดมาไม่กี่วัน
ในวันที่27 ผมเข้าไปดูกิจกรรมที่เฟสบุค ก็ไปสะดุดที่ สี่ดรุณี ซึ่งพี่โอ๊ต ได้จัดไป ช่วง11-15พค. ผมจึงเข้าไปดูรายละเอียดโปรแกรม และ เช็คเที่ยวบินที่จะไปว่าราคาประมาณเท่าไร? ซึ่งพี่โอ๊ตเขียนโปรแกรมบินไปกลับที่ ฉงชิ่ง เมื่อดูแล้วคิดว่าค่าใช้จ่ายราว20,000บ.
ตอนนั้นเป็นเวลาราวบ่าย3 ผมจึงโทรหาพี่โอ๊ต แล้วถาม พี่โอ๊ตว่า
ฮ้อ: “สี่ดรุณีพี่โอ๊ตนำทริปไปด้วยได้ไช่ไหมครับ”
พี่โอ๊ต: “ไช่ พี่นำทริปไปเอง”
ฮ้อ: “งั่นผมไปเพิ่มอีกหนึ่งคนได้ไหมครับ”
พี่โอ๊ต: “ได้ แต่วีซ่าจีน พี่ส่งไปแล้วนะ”
ฮ้อ: “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมส่งต่อวีซ่าเองครับ”
พี่โอ๊ต: “ถ้าฮ้อไป ก็รีบจัดการเลยนะ”
พี่โอ๊ต: “เพราะเดี๋ยวพี่จะไม่อยู่ ไปเลห์”
ฮ้อ: “รายละเอียดตามโปรแกรมที่เขียนในกิจกรรมเลยนะครับ เดี๋ยวผมจองตั๋วตามโปรแกรมในกิจกรรมเสร็จแล้ว โทรหานะครับ”
พี่โอ๊ต: “ครับ”
ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ดูโปรแกรมของพี่อีกคนไว้ ที่ไปช่วงปลายปี แต่เห็นบินไปกลับที่ เฉินตู ซึ่งไปลงสนามบินไม่ตรงกัน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร และ อีกอย่างเห็นว่าอีกไกล (แต่จริงการเดินทางไปที่นี้ ควรลงที่ สนามบินเฉินตู เพราะ ใกล้ และ สะดวกสุด
หลังจากนั้นผมใช้เวลาคิดว่าจะไปดีไหม? น่าจะราว5นาที แล้วผมมองหน้าน้องรัตน์ (น้องสาว) แล้วบอกว่า “ช่วง11-15พค. เฮียจะไปจีนนะ” หลังจากนั้นผมก็จองตั๋วผ่านมือถือ ตามไฟล์บินที่ระบุในโปรแกรม ซึ่งผมใช้เวลาในการจองนานพอสมควร ราวชั่วโมงกว่า เนื่องจากเป็นคนทักษะต่ำ ในเรื่องพวกนี้ 555
หลังจากจองเรียบร้อยทุกอย่าง ผมก็โทรหาพี่โอ๊ต เพื่อแจ้งว่า ผมจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว เมื่อพี่โอ๊ตได้ยินคำว่า “จองตั๋วเรียบร้อยแล้ว”
พี่โอ๊ต: อ้าวจองแล้วหรือ พี่ลืมบอกว่าเปลี่ยนแผนบินไปลงที่ เฉินตู แทนตอนขาไป
ฮัอ: !!!!!!! (งานเข้าเลย)
พี่โอ๊ต: “ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ พอดีพี่พึ่งตื่นนอนเลยยังเบลอๆงงๆอยู่เลย อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้แก้ในกิจกรรม มีคุยกันเฉพาะในกลุ่มเท่านั้น”
หลังจากนั้น เราก็คุยผ่านไลน์กัน ซึ่งดูแล้วขาไป เราลงกันคนละเมือง ซึ่งมีผมคนเดียวที่ลง ฉงชิ่ง ส่วนเพื่อนๆลง เฉินตู แล้ววันนั้นช่วงบ่ายก็ต้องนั่งรถเพื่อเดินทางไป เมืองRilong แต่เมื่อดูเวลาแล้วผมลงเครื่อง แล้วต้องมาต่อรถไฟความเร็วสูงCRHอีก แล้วมาต่อรถไฟภายในอีก3-4ทอดเพื่อมายังจุดนัดที่ เฉินตู ดูแล้วจะเป็นอุปสรรค และ อาจไปไม่ทันกลุ่ม
เนื่องจากเวลากระชันชิดมาก เพียง2-3ชั่วโมง ผมจึงตัดสินจองตั๋วขาไปใหม่ เพื่อลงที่ เฉินตู โดยทิ้งตั๋วเดิม เพราะดูแล้วจะสะดวกกว่า อีกอย่างเพื่อนๆจะได้ไม่ต้องรอผมด้วย ซึ่งผมจองตั๋วแบบบินตรง ส่วนเพื่อนๆบอนมาแบบต่อเครื่องกัน ผมเลยถึงก่อน ตอนประมาณตี2 โดยไลอ้อนแอร์ ลงที่ Terminal 1 แต่พี่โอ๊ตนัดกันที่ Terminal 2 ซึ่งห่างกันราว1km. โดยผมไปนอนรอที่สนามบินเฉินตู Terminal 2 เพื่อรอเพื่อนๆตามมาอีกที
ภาพนี้ เป็นช่วงที่นอนรอเพื่อนๆ ที่สนามบินเฉินตู
**********
เริ่มต้นการเดินทาง เราต่อรถไฟฟ้าจากสนามบิน Chengdu ที่ Terminal2 ได้เลย เพื่อไปเจอรถที่พี่โอ๊ตนัดไว้ให้มารับ ที่สถานี Jinzhou Road ค่ารถไฟฟ้า ราว8หยวน/คน ซึ่งต้องเปลี่ยนสายสีน้ำเงิน-สีฟ้า-สีส้ม ใช้เวลาเดินทางราว1ชั่วโมง
แล้วเราก็นั่งรถของไกด์ ที่มารอรับ ต่อไปยัง หมู่บ้านRilong (นึกในใจ ทำไหมไม่ไปรับที่สนามบินเลย ซึ่งทางไกด์บอกว่า รถเค้าไม่สามารถเข้าเมืองได้)
ภาพวิวระหว่างทางที่นั่งรถ
ระหว่างทางกะว่าจะแวะกินข้าว แต่ก็ไม่ได้กินสักที เนื่องจาก คนขับรถไม่จอดสักที ซิ่งอย่างเดียวมาตลอด3ชั่วโมง จนมาได้กินมื้อเที่ยง ตอนราว4โมงเย็น ที่หมู่บ้านWolong แล้วนั่งรถต่อมาอีกราว2ชั่วโมง ระหว่างทางช่วงนี้จะโค้งเยอะหน่อย เล่นเอาเพื่อนๆบางคน มีอาการอึนๆกันไป ส่วนคนขับรถ ก็โคตรซิ่งเลย เล่นเอาเสียวเหมือนกันนะ555
ภาพนี้ คือ จุดชมวิวสี่ดรุณี
ภาพนี้ คือ บรรยากาศหน้าที่พัก
ราว6โมงกว่า เราก็ถึง หมู่บ้านRilong (หยี่หลง) ซึ่งที่นี้จะมีโรงแรมที่พักเยอะพอสมควร แต่บ้านที่เราไปพัก เป็นของนักปีนเขาด้วย ซึ่งเค้าก็ดูแลจัดการให้เราในทริปนี้ ทั้งที่พักและอาหาร ซึ่งที่พักเค้าจะไม่ได้อยู่ในเมืองเท่าไร ต้องเลยมาอีกพอสมควร เราพักที่ความสูงราว3,150ม. โดยที่นี้จะมีห้องพักแบบ2เตียง และ 3เตียง หลังจากแบ่งห้องกันเรียบร้อย ตัวผมก็อาบน้ำสระผม แล้วลงไปทานมื้อค่ำ คืนนี้อุณหภูมิภายในห้องพัก ราว16องศา
ตอนนี้ทางที่พักกำลังเตรียมอาหารมื้อเย็น
ได้เวลาอาหารมื้อเย็น
วางนาฬิกาไว้ข้างนอกห้อง เพื่อวัดอุณหภูมิช่วงเย็น ได้ 9 องศา
###################
###################
***เดี๋ยวมาเล่าต่อ**
พิชิตยอดเขา สี่ดรุณี
#สี่ดรุณี (ซื่อกูเหนียงซาน) จีน ช่วง 11-15พค.61
สี่ดรุณี ประกอบด้วย
1.พี่สาวคนโต ชื่อ ยอดต้าเฟิง Mt.Daguniang Girl 5,025ม. (First Girl)
2.พี่สาวคนที่สอง ชื่อ ยอดเอ้อเฟิง Mt.Erguniang 5,276ม. (Second Girl)
3.พี่สาวคนที่สาม ชื่อ ยอดซางเฟิง Mt.Sanguniang 5,355ม. (Third Girl)
4.น้องสาวคนเล็ก ชื่อ เยาเม่นเฟิง Mt.Yaoniangfeng 6,250ม. (Fourth Girl)
แต่ครั้งนี้ เราจะไปกันแค่ยอดเดียว คือ ยอดต้าเฟิง 5,025ม.
ทริปนี้มาด้วยกัน10คน พี่โอ๊ต,พี่chilli,พี่suri,พี่บัญชา,พี่อึ้ง,อ๊อฟ,ดิว,เก๋,เอ็ม และ ฮ้อHD
ไฟล์บิน
ขาไป ไลอ้อน SL932 DMK-CTU 21:55-02:00
(RICCVU) 3,835บ. 10/5/61
ขากลับ AA FD557 CKG-DMK 11:00-1:20
(KP4SYW) 4,205บ. 15/5/61
ค่าวีซ่า 2,000บ.
ทริปนี้ที่แรกตั้งใจกะไปช่วงปลายปี เนื่องจากมีพี่ที่สนิทอีกคน จะจัดไปtrekที่นั้นกัน แต่พอดีไปเห็นพี่โอ๊ตได้สร้างกิจกรรมไว้ เพื่อไปเดินtrekที่สี่ดรุณีเช่นกัน จึงกดสนใจไว้ก่อน (ตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าจะไป)
วันเวลาผ่านไป ช่วงปลายเดือนเมย. พี่น้อยได้ให้ยืนยันการเดินทาง เพื่อไปปางสีดา จ.สระแก้ว ซึ่งผมก็ได้ยืนยันไปแล้วว่าจะไป ซึ่งจริงๆก็ตั้งใจจะไปนั้นแหละ จนถัดมาไม่กี่วัน
ในวันที่27 ผมเข้าไปดูกิจกรรมที่เฟสบุค ก็ไปสะดุดที่ สี่ดรุณี ซึ่งพี่โอ๊ต ได้จัดไป ช่วง11-15พค. ผมจึงเข้าไปดูรายละเอียดโปรแกรม และ เช็คเที่ยวบินที่จะไปว่าราคาประมาณเท่าไร? ซึ่งพี่โอ๊ตเขียนโปรแกรมบินไปกลับที่ ฉงชิ่ง เมื่อดูแล้วคิดว่าค่าใช้จ่ายราว20,000บ.
ตอนนั้นเป็นเวลาราวบ่าย3 ผมจึงโทรหาพี่โอ๊ต แล้วถาม พี่โอ๊ตว่า
ฮ้อ: “สี่ดรุณีพี่โอ๊ตนำทริปไปด้วยได้ไช่ไหมครับ”
พี่โอ๊ต: “ไช่ พี่นำทริปไปเอง”
ฮ้อ: “งั่นผมไปเพิ่มอีกหนึ่งคนได้ไหมครับ”
พี่โอ๊ต: “ได้ แต่วีซ่าจีน พี่ส่งไปแล้วนะ”
ฮ้อ: “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมส่งต่อวีซ่าเองครับ”
พี่โอ๊ต: “ถ้าฮ้อไป ก็รีบจัดการเลยนะ”
พี่โอ๊ต: “เพราะเดี๋ยวพี่จะไม่อยู่ ไปเลห์”
ฮ้อ: “รายละเอียดตามโปรแกรมที่เขียนในกิจกรรมเลยนะครับ เดี๋ยวผมจองตั๋วตามโปรแกรมในกิจกรรมเสร็จแล้ว โทรหานะครับ”
พี่โอ๊ต: “ครับ”
ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ดูโปรแกรมของพี่อีกคนไว้ ที่ไปช่วงปลายปี แต่เห็นบินไปกลับที่ เฉินตู ซึ่งไปลงสนามบินไม่ตรงกัน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร และ อีกอย่างเห็นว่าอีกไกล (แต่จริงการเดินทางไปที่นี้ ควรลงที่ สนามบินเฉินตู เพราะ ใกล้ และ สะดวกสุด
หลังจากนั้นผมใช้เวลาคิดว่าจะไปดีไหม? น่าจะราว5นาที แล้วผมมองหน้าน้องรัตน์ (น้องสาว) แล้วบอกว่า “ช่วง11-15พค. เฮียจะไปจีนนะ” หลังจากนั้นผมก็จองตั๋วผ่านมือถือ ตามไฟล์บินที่ระบุในโปรแกรม ซึ่งผมใช้เวลาในการจองนานพอสมควร ราวชั่วโมงกว่า เนื่องจากเป็นคนทักษะต่ำ ในเรื่องพวกนี้ 555
หลังจากจองเรียบร้อยทุกอย่าง ผมก็โทรหาพี่โอ๊ต เพื่อแจ้งว่า ผมจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว เมื่อพี่โอ๊ตได้ยินคำว่า “จองตั๋วเรียบร้อยแล้ว”
พี่โอ๊ต: อ้าวจองแล้วหรือ พี่ลืมบอกว่าเปลี่ยนแผนบินไปลงที่ เฉินตู แทนตอนขาไป
ฮัอ: !!!!!!! (งานเข้าเลย)
พี่โอ๊ต: “ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ พอดีพี่พึ่งตื่นนอนเลยยังเบลอๆงงๆอยู่เลย อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้แก้ในกิจกรรม มีคุยกันเฉพาะในกลุ่มเท่านั้น”
หลังจากนั้น เราก็คุยผ่านไลน์กัน ซึ่งดูแล้วขาไป เราลงกันคนละเมือง ซึ่งมีผมคนเดียวที่ลง ฉงชิ่ง ส่วนเพื่อนๆลง เฉินตู แล้ววันนั้นช่วงบ่ายก็ต้องนั่งรถเพื่อเดินทางไป เมืองRilong แต่เมื่อดูเวลาแล้วผมลงเครื่อง แล้วต้องมาต่อรถไฟความเร็วสูงCRHอีก แล้วมาต่อรถไฟภายในอีก3-4ทอดเพื่อมายังจุดนัดที่ เฉินตู ดูแล้วจะเป็นอุปสรรค และ อาจไปไม่ทันกลุ่ม
เนื่องจากเวลากระชันชิดมาก เพียง2-3ชั่วโมง ผมจึงตัดสินจองตั๋วขาไปใหม่ เพื่อลงที่ เฉินตู โดยทิ้งตั๋วเดิม เพราะดูแล้วจะสะดวกกว่า อีกอย่างเพื่อนๆจะได้ไม่ต้องรอผมด้วย ซึ่งผมจองตั๋วแบบบินตรง ส่วนเพื่อนๆบอนมาแบบต่อเครื่องกัน ผมเลยถึงก่อน ตอนประมาณตี2 โดยไลอ้อนแอร์ ลงที่ Terminal 1 แต่พี่โอ๊ตนัดกันที่ Terminal 2 ซึ่งห่างกันราว1km. โดยผมไปนอนรอที่สนามบินเฉินตู Terminal 2 เพื่อรอเพื่อนๆตามมาอีกที
ภาพนี้ เป็นช่วงที่นอนรอเพื่อนๆ ที่สนามบินเฉินตู
**********
เริ่มต้นการเดินทาง เราต่อรถไฟฟ้าจากสนามบิน Chengdu ที่ Terminal2 ได้เลย เพื่อไปเจอรถที่พี่โอ๊ตนัดไว้ให้มารับ ที่สถานี Jinzhou Road ค่ารถไฟฟ้า ราว8หยวน/คน ซึ่งต้องเปลี่ยนสายสีน้ำเงิน-สีฟ้า-สีส้ม ใช้เวลาเดินทางราว1ชั่วโมง
แล้วเราก็นั่งรถของไกด์ ที่มารอรับ ต่อไปยัง หมู่บ้านRilong (นึกในใจ ทำไหมไม่ไปรับที่สนามบินเลย ซึ่งทางไกด์บอกว่า รถเค้าไม่สามารถเข้าเมืองได้)
ภาพวิวระหว่างทางที่นั่งรถ
ระหว่างทางกะว่าจะแวะกินข้าว แต่ก็ไม่ได้กินสักที เนื่องจาก คนขับรถไม่จอดสักที ซิ่งอย่างเดียวมาตลอด3ชั่วโมง จนมาได้กินมื้อเที่ยง ตอนราว4โมงเย็น ที่หมู่บ้านWolong แล้วนั่งรถต่อมาอีกราว2ชั่วโมง ระหว่างทางช่วงนี้จะโค้งเยอะหน่อย เล่นเอาเพื่อนๆบางคน มีอาการอึนๆกันไป ส่วนคนขับรถ ก็โคตรซิ่งเลย เล่นเอาเสียวเหมือนกันนะ555
ภาพนี้ คือ จุดชมวิวสี่ดรุณี
ภาพนี้ คือ บรรยากาศหน้าที่พัก
ราว6โมงกว่า เราก็ถึง หมู่บ้านRilong (หยี่หลง) ซึ่งที่นี้จะมีโรงแรมที่พักเยอะพอสมควร แต่บ้านที่เราไปพัก เป็นของนักปีนเขาด้วย ซึ่งเค้าก็ดูแลจัดการให้เราในทริปนี้ ทั้งที่พักและอาหาร ซึ่งที่พักเค้าจะไม่ได้อยู่ในเมืองเท่าไร ต้องเลยมาอีกพอสมควร เราพักที่ความสูงราว3,150ม. โดยที่นี้จะมีห้องพักแบบ2เตียง และ 3เตียง หลังจากแบ่งห้องกันเรียบร้อย ตัวผมก็อาบน้ำสระผม แล้วลงไปทานมื้อค่ำ คืนนี้อุณหภูมิภายในห้องพัก ราว16องศา
ตอนนี้ทางที่พักกำลังเตรียมอาหารมื้อเย็น
ได้เวลาอาหารมื้อเย็น
วางนาฬิกาไว้ข้างนอกห้อง เพื่อวัดอุณหภูมิช่วงเย็น ได้ 9 องศา
###################
###################
***เดี๋ยวมาเล่าต่อ**