Pitch Perfect 3 ภาคสุดท้ายของไตรภาคชมรมประสานเสียงสาวที่ระห่ำสุดๆ
สองภาคที่ผ่านมา เราเห็นชมรมนี้ออกเเข่งขันไปทั่วตั้งเเต่ระดับชาติ ไปถึงระดับโลก ผ่านร้อนหนาวมามากมาย
เรื่องราวของภาคนี้จะพาเราไปตามติดชีวิตของเหล่าเบลลาส ชมรมประสานเสียง ว่าหลังจากเรียนจบมาเเล้วพวกเขาได้ทำอะไร เเละมันดีหรือไม่
ก็ตามที่ตัวอย่างบอก มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเลย...
ภาคนี้ได้ Trish Sie ผู้กำกับหญิงจาก Step Up : All in มากำกับให้ซึ่งเธอก็ทำได้ดีในการเล่าเรื่องราวต่างๆของเหล่าสาวๆ ที่มีความบ้าเเตกต่างกันไปซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครๆก็จดจำ ประเด็นของเรื่องนี้อาจไม่ได้เเน่นเหมือนภาคก่อน มันคือการเดินหน้าสู่สิ่งใหม่ๆ ที่พวกเธอต้องเผชิญ ที่เล่นเอาน้ำตาซึมในฉากปิดท้ายเลยทีเดียว เเต่ก่อนหน้านั้นความอลหม่านทั่วยุโรป ใช่ครับ ภาคนี้ สาวๆไปตะลุยร้องเพลงถึงยุโรปกันเลยทีเดียว เเต่ขอบอกว่ามีเหตุผลไม่ได้เอามันเเบบที่คนดูตัวอย่างบอก เพราะตัวอย่างตัดหลอกเรานิดนึงครับ
จังหวะมุขภาคนี้เป็นคำพูดหน้าตายเหมือนเดิม นำโดย เเฟทเอมี่ (Rebel Wilson) ตามเคย เเต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ปมเเละแอคชั่นของเธออาจจะดูเเปร่งๆไปบ้าง เเต่ก็พอจะรับได้ ทำให้หนังมีความเเอ็คชั่นประหนึ่งหนังจอหน์วิคเลยทีเดียว ส่วน เบคก้า (Anna Kendick) ยังทำได้ดีกับการเป็นสาวที่ชอบร้องเพลงคลอไปกับดนตรี เเต่ที่ชอบคือ ลิลลี่ (Hana Mae Lee) สาวเกาหลีของเรื่องที่ทำเสียงเบสประจำวง เล่นใหญ่มากจริงๆ ส่วนเอมิลี่ (Hailee Steinfeld) สาวเด๋อที่ภาคนี้ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรเท่าไหร่ กลายเป็นตัวละครรอง เเต่ขาดเธอไม่ได้เหมือนกันเรื่องนี้ นอกจากนี้มุขต่างๆก็มาจากตัวละครสาวๆที่ส่วนใหญ่มีบทไม่มากมาย เเต่น่าเเปลกที่ไม่เเย่เหมือนภาคก่อนที่เทไปให้ตัวละครฝั่งใดฝั่งนึง เเม้เเต่ตัวละครที่เหมือนจะไม่มีความสำคัญอะไรกับเรื่องยังทำให้เรายังอมยิ้ม เเต่เรื่องประเด็นรัก เหมือนเดิม ไม่ได้เจาะจงอะไรมากมายนัก เพราะคราวนี้เน้นไปที่สาวๆซะส่วนใหญ่ เเละก็จุใจมากด้วย
นี่เป็นหนังเพลงเพราะงั้นจึงมีเพลงมากมายที่ใช้ อาจจะไม่ได้อลังเเบบภาคก่อน เเต่ก็อาจจะติดหูจนต้องฮัมตามในโรงเลยก็ได้
เเม้ว่าภาคนี้เป็นภาคที่สั้นที่สุดของไตรภาค คือ ชั่วโมงครึ่ง เเต่มันก็ให้ความรู้สึกบอกลาที่อบอุ่นของเหล่าเบลลาส เราผูกพันกันมาเจ็ดปี เหมือนที่ตัวละครบางตัวได้กล่าวไว้ เราได้เห็นการเดินทางของพวกเขา เเละมาส่งพวกเขาไปถึงจุดหมาย มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ
ถ้าคุณติดตาม หรือ ชอบเสียงเพลงของพวกเขา อย่าพลาดการอำลาเวทีของพวกเขาครั้งนี้นะครับ
8.5/10
รีวิว Pitch Perfect 3 ชมรมเสียงใส ถือไมค์ตามฝัน ภาคสุดท้ายของไตรภาคชมรมประสานเสียงสาวที่ระห่ำสุดๆ
Pitch Perfect 3 ภาคสุดท้ายของไตรภาคชมรมประสานเสียงสาวที่ระห่ำสุดๆ
สองภาคที่ผ่านมา เราเห็นชมรมนี้ออกเเข่งขันไปทั่วตั้งเเต่ระดับชาติ ไปถึงระดับโลก ผ่านร้อนหนาวมามากมาย
เรื่องราวของภาคนี้จะพาเราไปตามติดชีวิตของเหล่าเบลลาส ชมรมประสานเสียง ว่าหลังจากเรียนจบมาเเล้วพวกเขาได้ทำอะไร เเละมันดีหรือไม่
ก็ตามที่ตัวอย่างบอก มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเลย...
ภาคนี้ได้ Trish Sie ผู้กำกับหญิงจาก Step Up : All in มากำกับให้ซึ่งเธอก็ทำได้ดีในการเล่าเรื่องราวต่างๆของเหล่าสาวๆ ที่มีความบ้าเเตกต่างกันไปซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครๆก็จดจำ ประเด็นของเรื่องนี้อาจไม่ได้เเน่นเหมือนภาคก่อน มันคือการเดินหน้าสู่สิ่งใหม่ๆ ที่พวกเธอต้องเผชิญ ที่เล่นเอาน้ำตาซึมในฉากปิดท้ายเลยทีเดียว เเต่ก่อนหน้านั้นความอลหม่านทั่วยุโรป ใช่ครับ ภาคนี้ สาวๆไปตะลุยร้องเพลงถึงยุโรปกันเลยทีเดียว เเต่ขอบอกว่ามีเหตุผลไม่ได้เอามันเเบบที่คนดูตัวอย่างบอก เพราะตัวอย่างตัดหลอกเรานิดนึงครับ
จังหวะมุขภาคนี้เป็นคำพูดหน้าตายเหมือนเดิม นำโดย เเฟทเอมี่ (Rebel Wilson) ตามเคย เเต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ปมเเละแอคชั่นของเธออาจจะดูเเปร่งๆไปบ้าง เเต่ก็พอจะรับได้ ทำให้หนังมีความเเอ็คชั่นประหนึ่งหนังจอหน์วิคเลยทีเดียว ส่วน เบคก้า (Anna Kendick) ยังทำได้ดีกับการเป็นสาวที่ชอบร้องเพลงคลอไปกับดนตรี เเต่ที่ชอบคือ ลิลลี่ (Hana Mae Lee) สาวเกาหลีของเรื่องที่ทำเสียงเบสประจำวง เล่นใหญ่มากจริงๆ ส่วนเอมิลี่ (Hailee Steinfeld) สาวเด๋อที่ภาคนี้ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรเท่าไหร่ กลายเป็นตัวละครรอง เเต่ขาดเธอไม่ได้เหมือนกันเรื่องนี้ นอกจากนี้มุขต่างๆก็มาจากตัวละครสาวๆที่ส่วนใหญ่มีบทไม่มากมาย เเต่น่าเเปลกที่ไม่เเย่เหมือนภาคก่อนที่เทไปให้ตัวละครฝั่งใดฝั่งนึง เเม้เเต่ตัวละครที่เหมือนจะไม่มีความสำคัญอะไรกับเรื่องยังทำให้เรายังอมยิ้ม เเต่เรื่องประเด็นรัก เหมือนเดิม ไม่ได้เจาะจงอะไรมากมายนัก เพราะคราวนี้เน้นไปที่สาวๆซะส่วนใหญ่ เเละก็จุใจมากด้วย
นี่เป็นหนังเพลงเพราะงั้นจึงมีเพลงมากมายที่ใช้ อาจจะไม่ได้อลังเเบบภาคก่อน เเต่ก็อาจจะติดหูจนต้องฮัมตามในโรงเลยก็ได้
เเม้ว่าภาคนี้เป็นภาคที่สั้นที่สุดของไตรภาค คือ ชั่วโมงครึ่ง เเต่มันก็ให้ความรู้สึกบอกลาที่อบอุ่นของเหล่าเบลลาส เราผูกพันกันมาเจ็ดปี เหมือนที่ตัวละครบางตัวได้กล่าวไว้ เราได้เห็นการเดินทางของพวกเขา เเละมาส่งพวกเขาไปถึงจุดหมาย มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ
ถ้าคุณติดตาม หรือ ชอบเสียงเพลงของพวกเขา อย่าพลาดการอำลาเวทีของพวกเขาครั้งนี้นะครับ
8.5/10