สำหรับคนไทยถือว่าเป็นหนังนอกกระแสมากๆ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้จัก Acapella เลย ในรีวิวต่างๆก็เขียนได้แย่มากๆ โรงฉายส่วนใหญ่ก็อยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้ดูน่าสนใจน้อยลงไปอี๊กก แต่ผมรู้สึกว่าผมอินไปกับภาคนี้มากที่สุด เพราะมันพูดถึงคนวัยที่จบแล้วนั่นเอง
ภาคนี้เริ่มด้วยชีวิตของสมาชิกในวงเบลล่าส์ ผ่านไป 3 ปีหลังจากชนะ World Championship จบมหาลัยแล้ว ชีวิตของพวกเธอดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งน้อยครั้งที่เราจะได้เห็นภาพยนต์หรือซีรีส์ที่อ้างเล่าถึงคนวัยทำงานจริงๆ (ไม่นับละครไทย ที่พระเอกรวยล้นฟ้า) ว่าชีวิตจริงๆ ไม่ได้สวยหรูแบบที่ผู้ใหญ่บอกว่า “เรียนเก่งๆจบแล้วทำวานสบายๆ” แต่เวลามีรุ่นน้องมาถามว่า “พี่ ทำงานเป็นยังไงบ้าง?” คำตอบที่เราให้กับน้องไปก็ได้แต่พูดว่า “ดี โอเคร” แต่ภาพ Flashback ในหัวเราระหว่างตอบนี่คือ.... (นึกถึงตอนทำงานละกัน เหมือนกันครับ) เมื่อมีงาน Reunion ของชมรมที่เคยร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมัยเรียน ได้เจอพวกพ้อง จึงมีความคิดที่อยากจะกลับมาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนอีกครั้ง ความสนุกของเรื่องจึงบังเกิด
ภาคนี้ถือว่าสั้นที่สุด ความสนุกน้อยสุดแทบจะไม่มีอะไรให้ลุ้นในเรื่องเลย เดาเรื่องได้แทบทั้งหมด เพลงในเรื่องก็น้อยที่สุด(ยังคงเพราะทุกเพลงนะ โดยเฉพาะเพลง Toxic!!!)
แต่!!! ภาคนี้ประทับใจผมที่สุด จากคนที่ได้ดูเรื่องนี้ภาคแรกตอนภาค 2 จะเข้าฉาย บวกกับชอบฟังการ Chorus (การร้องประสานเสียง ซึ่ง Acapella ถือว่าเป็นศาสตร์เดียวกัน) ผมจึงรู้สึกผูกพันกับตัวละครของเรื่องนี้มาหลายปี ดังนั้นภาคนี้เป็นการส่งท้าบบอกลาเพื่อนๆ และเราก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองในชีวิตต่อไป
ย้อนมานึกถึงตัวผมเอง ที่เคยมีชมรมงานสนุกสนาน มีการ Reunion และเคยอยากกลับมาร่วมงานกับเพื่อนๆอีกครั้งเช่นกัน ถึงตอนนี้เราจะแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองกันแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังมีอยู่ คือบ้านหลังที่สองหรือครอบครัวที่สองของเราที่ยังคงอยู่กับพวกเราตลอดไป
PS. Acapella คือการร้องเพลงโดยไม่มีการใช้เครื่องดนตรีใดๆ โดยจะใช้ปากทำเสียงแทน ดังนั้นต้องใช้คนอย่างน้อย 4-5 คนถึงจะพอเป็นเพลงสดได้ การเตรียมเพลงเรื่องนี้จึงทำได้ยากพอควร เพราะ 1 Line เครื่องดนตรี อาจจะหมายถึง 1 คน (ลอง Search คำว่า Just the way you are pitch perfect จะเห็นไลน์ดนตรีแต่ละคนค่อนข้างชัด)
มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/aLittleManintheBigCity
[CR] Pitch Perfect 3 : Goodbye Bellas
ภาคนี้เริ่มด้วยชีวิตของสมาชิกในวงเบลล่าส์ ผ่านไป 3 ปีหลังจากชนะ World Championship จบมหาลัยแล้ว ชีวิตของพวกเธอดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งน้อยครั้งที่เราจะได้เห็นภาพยนต์หรือซีรีส์ที่อ้างเล่าถึงคนวัยทำงานจริงๆ (ไม่นับละครไทย ที่พระเอกรวยล้นฟ้า) ว่าชีวิตจริงๆ ไม่ได้สวยหรูแบบที่ผู้ใหญ่บอกว่า “เรียนเก่งๆจบแล้วทำวานสบายๆ” แต่เวลามีรุ่นน้องมาถามว่า “พี่ ทำงานเป็นยังไงบ้าง?” คำตอบที่เราให้กับน้องไปก็ได้แต่พูดว่า “ดี โอเคร” แต่ภาพ Flashback ในหัวเราระหว่างตอบนี่คือ.... (นึกถึงตอนทำงานละกัน เหมือนกันครับ) เมื่อมีงาน Reunion ของชมรมที่เคยร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมัยเรียน ได้เจอพวกพ้อง จึงมีความคิดที่อยากจะกลับมาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนอีกครั้ง ความสนุกของเรื่องจึงบังเกิด
ภาคนี้ถือว่าสั้นที่สุด ความสนุกน้อยสุดแทบจะไม่มีอะไรให้ลุ้นในเรื่องเลย เดาเรื่องได้แทบทั้งหมด เพลงในเรื่องก็น้อยที่สุด(ยังคงเพราะทุกเพลงนะ โดยเฉพาะเพลง Toxic!!!)
แต่!!! ภาคนี้ประทับใจผมที่สุด จากคนที่ได้ดูเรื่องนี้ภาคแรกตอนภาค 2 จะเข้าฉาย บวกกับชอบฟังการ Chorus (การร้องประสานเสียง ซึ่ง Acapella ถือว่าเป็นศาสตร์เดียวกัน) ผมจึงรู้สึกผูกพันกับตัวละครของเรื่องนี้มาหลายปี ดังนั้นภาคนี้เป็นการส่งท้าบบอกลาเพื่อนๆ และเราก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองในชีวิตต่อไป
ย้อนมานึกถึงตัวผมเอง ที่เคยมีชมรมงานสนุกสนาน มีการ Reunion และเคยอยากกลับมาร่วมงานกับเพื่อนๆอีกครั้งเช่นกัน ถึงตอนนี้เราจะแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองกันแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังมีอยู่ คือบ้านหลังที่สองหรือครอบครัวที่สองของเราที่ยังคงอยู่กับพวกเราตลอดไป
PS. Acapella คือการร้องเพลงโดยไม่มีการใช้เครื่องดนตรีใดๆ โดยจะใช้ปากทำเสียงแทน ดังนั้นต้องใช้คนอย่างน้อย 4-5 คนถึงจะพอเป็นเพลงสดได้ การเตรียมเพลงเรื่องนี้จึงทำได้ยากพอควร เพราะ 1 Line เครื่องดนตรี อาจจะหมายถึง 1 คน (ลอง Search คำว่า Just the way you are pitch perfect จะเห็นไลน์ดนตรีแต่ละคนค่อนข้างชัด)
มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/aLittleManintheBigCity