ช่วงตอนที่ 9-10 นี้นื้อเรื่องค่อนข้างยืดเยื้อไปหน่อย
หลังจากที่ตอนที่ 8 กลับมาเริ่มสนุก แล้วก็มาแผ่วตอน 9-10 แล้วนี่ก็มาเริ่มพีคอีกตอนที่ 11 นี่
ไม่รู้ว่าทำไมภาคนี้มันขึ้นๆลงๆเหลือเกิน
สรุปเนื้อหาตอนที่ 9-10 ก็คือ
- เจอปัญหาเรื่องขายตั๋วไม่ออก แถม I-1 ยังมาจัดไลฟ์ชนกันในวันที่ 24 ธ.ค. อีก
- I-1 ประกาศรายชื่อของผู้มีสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งเซ็นเตอร์จากเซมบัตสึยูนิตใหม่ โดยไม่มีโมกะอยู่ในรายชื่อ
- ฮายาซากะส่งเพลงมาให้แต่มีเงื่อนไขว่าวะกุจังทั้ง 7 คนต้องเขียนเนื้อเพลงด้วยตัวเอง
- เพลงที่ฮายาซากะส่งมาคือเพลงที่เคยทำไว้สมัยอยู่วงดนตรี แต่ฮายาซากะเห็นว่าเนื้อที่คนในวงเขียนมายังไม่เหมาะกับเพลง
ก็เลยทำให้เพลงนี้ยังไม่เคยได้ออกวางจำหน่ายที่ไหนมาก่อน แถมเจ้าตัวเองก็ดูจะยังไม่สามารถเขียนเนื้อที่เหมาะๆกับเพลงนี้ได้ด้วย
ในตอนที่ 11 มาคิน่า X หรือ Vdol ได้เซ็นสัญญากับพาร์ทเนอร์ที่อเมริกา
โดยเพลงเดบิวต์ของเธอนั้นเขียนขึ้นโดยฮายาซากะ
พวกวะกุจังส่งเนื้อเพลงไปให้ฮายาซากะดู แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา
โดยเจ้าตัวบอกว่า ให้แตกหน่อออกมาในแบบของมันฝรั่ง เท่ากับว่าต้องไปเขียนเนื้อมาใหม่
เวลากระชั้นชิดเข้าไปทุกที อีก 1 อาทิตย์อัลบั้มก็จะออกวางจำหน่าย แล้วถัดจากนั้นไลฟ์ทัวร์รอบแรกก็จะเริ่มขึ้น
แม้เพลงใหม่จะยังไม่เสร็จแต่ก็ต้องเริ่มทำอัลบั้มไปก่อน
ตอนที่ถ่ายภาพปกอัลบั้มในชุดใหม่ก็ได้ช่างภาพคนเดิมที่ถ่ายภาพให้โยชิโนะมาช่วยถ่ายให้
ทางด้านฮายาซากะที่อเมริกา ในงานเลี้ยงฉลองเนื่อในโอกาสที่เพลงติดอันดับ 4 ชาร์ต US
ก็มีคนติดต่อมาหาฮายาซากะผ่านทางบริษัทของอเมริกา ในฐานะของผู้ให้การสนับสนุน
โดยใช้รูปอวตารเป็น
ดารุมะ
ซึ่งเจ้าดารุมะนี้เคยออกมาแล้วครั้งนึงใน Seishun no Kage
หากยังจำกันได้เจ้าดารุมะนี่แหละที่ติดต่อมาหาชิรากิในตอนที่ยอดขายเริ่มตกสมัยชิโฮะยังเป็นเซ็นเตอร์
"ไม่ใช่ว่าใกล้จะถึงเวลาของซุสุกิ โมกะแล้วรึ?"
หลังจากนั้นชิรากิจึงได้จัดการแข่งขันยอดขายซิงเกิลทีม S กับ ทีม M ขึ้นมา
ราวกับว่าเจ้าดารุมะนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนตัวเซ็นเตอร์ในครั้งนั้น
ถึงจะยังไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงอวตารรูปดารุมะนี่เป็นใครแต่ดูท่าว่าจะเงินหนาและคงอยู่เบื้องหลังในหลายๆเรื่อง
และหลังจากที่เจ้าดารุมะออกโรงมาก็เกิดเรื่องขึ้นทันที
ทาง WUG ที่กำลังจะได้ไปออกรายก่ี S Stage อีกครั้งก็ถูกทางรายการยกเลิก
เป็นเพราะว่าทาง Vdol ได้ไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับรายการ แล้วก็ใช้อำนาจกีดกันไม่ให้ WUG ได้มาออกรายการ
*สรุปว่า Vdol ซื้อรายการ S Stage ไปแล้ว*
ฮายาซากะโทรมาหาชิรากิเพื่อถามว่าทางนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับ
ดารุมะบ้าง
ก็ทำเอาชิรากิถึงกับชะงัก
(ไอ้นี่ท่าจะใหญ่จริง)
ทางด้านวะกุจังที่คนไม่ครบเพราะต้องแยกย้ายไปทำงานเดี่ยว ก็ได้พวกอายุมิมาช่วงแทนตำแหน่งคนที่ขาดให้
ถือเป็นการเริ่มต้นเรียนรู้ในฐานะอันเดอร์ได้ดีแม้จะเต้นผิดไปบ้าง
ทำให้ทุกคนนึกถึงสมัยแรกๆที่เคยไปแสดงข้างถนน โยชิโนะเลยได้ไอเดียขึ้นมา
ในเมื่อไปออกทีวีเพื่อโปรโมทไม่ได้ก็จะเกริลล่าไลฟ์ หรือไลฟ์แบบกองโจรขึ้นมาซะ
โดยจะเป็นไลฟ์แบบที่จัดขึ้นมาเองอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้คนจำนวนมากเกิดความสนใจ
ทางด้านมิยุที่ไปแสดงในร้านเมดคาเฟ่ที่อะคิตะก็ได้เจอกับใบปลิวของนามะฮาเกะซึ่งน่าจะยุบวงไปแล้ว
โยชิโนะพยายามต่อรองกับประธานว่าเนื้อเพลงใกล้เสร็จแล้วขอให้รออีกหน่อย
โดยประธานยื้อเวลาให้อีก 2 วัน
แต่จริงๆแล้วโยชิโนะแค่บลัฟเฉยๆ จริงๆแล้วเพลงยังไม่เสร็จหรอก
ทุกคนมาปรึกษากันเรื่องเนื้อเพลง ดูเหมือนว่าคำใบ้ของฮายาซากะที่บอกให้แตกหน่อ จะหมายถึงการที่ให้ทำอะไรใหม่ๆ
ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้
เมื่อพูดถึงการเกิดใหม่ก็หมายถึงต้องตายก่อน ทำให้นานามิบอกว่าดวงดาวเองก็จะเปล่งแสงสว่างที่สุดก็ตอนสิ้นอายุขัยเหมือนกัน
ซึ่งตรงนี้เป็นการพูดถึง
มหานวดารา (Supernova)
โดยจะเกิดขึ้นกับดาวฤกษ์ ซึ่งเป็นดาวที่เป็นก้อนพลังงานพลาสม่า มีแสงสว่างในตัวเอง เมื่อสิ้นอายุขัยจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่
แล้วส่องแสงสว่างที่สุดเป็นระยะเวลาสั้นๆ
(คีย์เวิร์ดเริ่มมาแล้ว)
ในวันหยุดของมิยุกับคายะ ทั้งสองคนก็แวะไปดูการแสดงของนามะฮาเกะด้วยกัน
จริงๆนามะฮาเกะก็ยุบวงไปแล้วนั่นแหละเพราะบริษัทต้นสังกัดปิดตัวลง
แต่พอเห็นความพยายามของวะกุจังทำให้อยากกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง ก็เลยเป็นศิลปินอิสระ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ทั้งจัดไลฟ์ จองตั๋ว เช่าสถานที่ฝึก
มิยุเลยเกิดไอเดียชวนนามะฮาเกะมาออกรายการ SMKM ของตัวเองซะเลย
จะได้ช่วยประชาสัมพันธ์ไลฟ์ครั้งหน้าของนามะฮาเกะด้วย
หลังจากนั้นก็ยื่นข้อเสนอไปให้กับอาคะมิโสะ ออลสตาร์ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการยุบวงเหมือนกันอีกด้วย
มายุบอกว่าเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกดี เพราะครั้งก่อนนามะฮาเกะก็เชิญพวกวะกุจังไปเป็นแขกรับเชิญมาแล้ว (ใน BtB)
ครั้งนี้มิยุก็เชิญนามะฮาเกะเป็นแขกรับเชิญบ้าง เหมือนกับว่าต่างคนต่างช่วยเหลือกัน
ทำให้รู้สึกว่าบางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่ฮายาซากะบอกเอาไว้ก็ได้
แล้วมินามิก็บอกว่าแผนที่ที่มิยุติดดาวมาร์กเอาไว้นี่ดูคล้ายกลุ่มดาวที่จะมีดาวเกิดขึ้นมาใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลย
ส่งผลให้โยชิโนะคิดออกว่า Theme ของเนื้อเพลงจะเอาเป็นที่เกี่ยวข้องกับดวงดาว
ทุกคนช่วยกันเขียนเพลงตลอดทั้งคืน จนในที่สุดรุ่งเช้าเนื้อเพลงก็เสร็จ
จากรูปคิดว่าชื่อเพลงน่าจะเป็น
Polaris = ดาวเหนือ
ในที่สุดฮายาซากะก็ให้เนื้อเพลงนี้ผ่านพร้อมกับยกเพลงนี้ไปให้ใช้ฟรีๆ WUG จึงสามารถนำเพลงใหม่นี้ลงอัลบั้มได้ทัน
แต่ปัญหายังไม่จบแค่นี้
ตามกำหนดแล้วทังเกะกำหนดทัวร์รอบสุดท้ายไว้วันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งจะแสดงกันที่เซนไดสเตเดียม
แต่ว่า Vdol ได้ทำการซื้อเซนไดสเตเดียม และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Vdol Stadium ซะแล้ว
พร้อมกันนี้ยังจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่แสดงในวันที่ 24 ธ.ค. อีกด้วย
และ Vdol ก็ได้ซื้อ เซนได สเตเดียมไปแล้ว
ต่อไปซื้อดีสนีย์ด้วยเลยมั้ย?
(จบตอน)
----------------------------------------------------
หมายเหตุ - ภาคนี้จะมีทั้งหมด 13 ตอนนะครับ
คือเดิมจริงๆมันทีแค่ 12 นั่นแหละ แต่ช่วงกลางเรื่องที่ทำไม่ทันเลยแทรก WUGBAN! Shin Shou มาเป็นตอนที่ 7
จากนั้นก็เลยถูกปรับเป็น 13 ตอน
โดยตอนที่ 13 จะฉายทาง TV TOKYO วันที่ 7 ม.ค. 2018 เวลา 03:05 น.ครับ
ที่เว้นจากตอนที่ 12 ไป 1 อาทิตย์อาจจะเพราะติดรายการพิเศษทางสถานี แต่ก็ดีเพราะตอนที่ 12 จะได้จัดเต็มกับไลฟ์กันไปเลย
ปล. เรื่องเพลงใหม่นี่ปิดกันเงียบมาก ถึงจะมีแง้มๆมาที่ปก Pamphlet WUG Fes มาแล้วก็เถอะ จากฉากหลังที่เป็นรูปดาวบนท้องฟ้า
และข้อความ across the starry sky
แต่ไม่มีการแสดงเพลง Polaris ซึ่งเป็นเพลงใหม่นี้ในไลฟ์ แถมไม่ปรากฏชื่อเพลงใน Best Album ชุดที่ 3 ด้วย ซิงเกิลก็ไม่ออก
เป็นไปได้ว่าจริงๆแล้วมีลงใน Best Album แหละ แต่กั๊กไว้ก่อน ไม่ยอมบอกกันสปอยล์ เพราะทาง Official บอกว่าจะมีลงอัลบั้ม 30 เพลง
แต่ไอ้ที่ประกาศมามันไม่ครบ 30 เพลงน่ะสิ
[Spoil] Wake Up, Girls! 3 Shin Shou ตอนที่ 11 จงแตกหน่อออกมา
หลังจากที่ตอนที่ 8 กลับมาเริ่มสนุก แล้วก็มาแผ่วตอน 9-10 แล้วนี่ก็มาเริ่มพีคอีกตอนที่ 11 นี่
ไม่รู้ว่าทำไมภาคนี้มันขึ้นๆลงๆเหลือเกิน
สรุปเนื้อหาตอนที่ 9-10 ก็คือ
- เจอปัญหาเรื่องขายตั๋วไม่ออก แถม I-1 ยังมาจัดไลฟ์ชนกันในวันที่ 24 ธ.ค. อีก
- I-1 ประกาศรายชื่อของผู้มีสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งเซ็นเตอร์จากเซมบัตสึยูนิตใหม่ โดยไม่มีโมกะอยู่ในรายชื่อ
- ฮายาซากะส่งเพลงมาให้แต่มีเงื่อนไขว่าวะกุจังทั้ง 7 คนต้องเขียนเนื้อเพลงด้วยตัวเอง
- เพลงที่ฮายาซากะส่งมาคือเพลงที่เคยทำไว้สมัยอยู่วงดนตรี แต่ฮายาซากะเห็นว่าเนื้อที่คนในวงเขียนมายังไม่เหมาะกับเพลง
ก็เลยทำให้เพลงนี้ยังไม่เคยได้ออกวางจำหน่ายที่ไหนมาก่อน แถมเจ้าตัวเองก็ดูจะยังไม่สามารถเขียนเนื้อที่เหมาะๆกับเพลงนี้ได้ด้วย
ในตอนที่ 11 มาคิน่า X หรือ Vdol ได้เซ็นสัญญากับพาร์ทเนอร์ที่อเมริกา
โดยเพลงเดบิวต์ของเธอนั้นเขียนขึ้นโดยฮายาซากะ
พวกวะกุจังส่งเนื้อเพลงไปให้ฮายาซากะดู แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา
โดยเจ้าตัวบอกว่า ให้แตกหน่อออกมาในแบบของมันฝรั่ง เท่ากับว่าต้องไปเขียนเนื้อมาใหม่
เวลากระชั้นชิดเข้าไปทุกที อีก 1 อาทิตย์อัลบั้มก็จะออกวางจำหน่าย แล้วถัดจากนั้นไลฟ์ทัวร์รอบแรกก็จะเริ่มขึ้น
แม้เพลงใหม่จะยังไม่เสร็จแต่ก็ต้องเริ่มทำอัลบั้มไปก่อน
ตอนที่ถ่ายภาพปกอัลบั้มในชุดใหม่ก็ได้ช่างภาพคนเดิมที่ถ่ายภาพให้โยชิโนะมาช่วยถ่ายให้
ทางด้านฮายาซากะที่อเมริกา ในงานเลี้ยงฉลองเนื่อในโอกาสที่เพลงติดอันดับ 4 ชาร์ต US
ก็มีคนติดต่อมาหาฮายาซากะผ่านทางบริษัทของอเมริกา ในฐานะของผู้ให้การสนับสนุน
โดยใช้รูปอวตารเป็น ดารุมะ
ซึ่งเจ้าดารุมะนี้เคยออกมาแล้วครั้งนึงใน Seishun no Kage
หากยังจำกันได้เจ้าดารุมะนี่แหละที่ติดต่อมาหาชิรากิในตอนที่ยอดขายเริ่มตกสมัยชิโฮะยังเป็นเซ็นเตอร์
"ไม่ใช่ว่าใกล้จะถึงเวลาของซุสุกิ โมกะแล้วรึ?"
หลังจากนั้นชิรากิจึงได้จัดการแข่งขันยอดขายซิงเกิลทีม S กับ ทีม M ขึ้นมา
ราวกับว่าเจ้าดารุมะนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนตัวเซ็นเตอร์ในครั้งนั้น
ถึงจะยังไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงอวตารรูปดารุมะนี่เป็นใครแต่ดูท่าว่าจะเงินหนาและคงอยู่เบื้องหลังในหลายๆเรื่อง
และหลังจากที่เจ้าดารุมะออกโรงมาก็เกิดเรื่องขึ้นทันที
ทาง WUG ที่กำลังจะได้ไปออกรายก่ี S Stage อีกครั้งก็ถูกทางรายการยกเลิก
เป็นเพราะว่าทาง Vdol ได้ไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับรายการ แล้วก็ใช้อำนาจกีดกันไม่ให้ WUG ได้มาออกรายการ
*สรุปว่า Vdol ซื้อรายการ S Stage ไปแล้ว*
ฮายาซากะโทรมาหาชิรากิเพื่อถามว่าทางนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับดารุมะบ้าง
ก็ทำเอาชิรากิถึงกับชะงัก
(ไอ้นี่ท่าจะใหญ่จริง)
ทางด้านวะกุจังที่คนไม่ครบเพราะต้องแยกย้ายไปทำงานเดี่ยว ก็ได้พวกอายุมิมาช่วงแทนตำแหน่งคนที่ขาดให้
ถือเป็นการเริ่มต้นเรียนรู้ในฐานะอันเดอร์ได้ดีแม้จะเต้นผิดไปบ้าง
ทำให้ทุกคนนึกถึงสมัยแรกๆที่เคยไปแสดงข้างถนน โยชิโนะเลยได้ไอเดียขึ้นมา
ในเมื่อไปออกทีวีเพื่อโปรโมทไม่ได้ก็จะเกริลล่าไลฟ์ หรือไลฟ์แบบกองโจรขึ้นมาซะ
โดยจะเป็นไลฟ์แบบที่จัดขึ้นมาเองอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้คนจำนวนมากเกิดความสนใจ
ทางด้านมิยุที่ไปแสดงในร้านเมดคาเฟ่ที่อะคิตะก็ได้เจอกับใบปลิวของนามะฮาเกะซึ่งน่าจะยุบวงไปแล้ว
โยชิโนะพยายามต่อรองกับประธานว่าเนื้อเพลงใกล้เสร็จแล้วขอให้รออีกหน่อย
โดยประธานยื้อเวลาให้อีก 2 วัน
แต่จริงๆแล้วโยชิโนะแค่บลัฟเฉยๆ จริงๆแล้วเพลงยังไม่เสร็จหรอก
ทุกคนมาปรึกษากันเรื่องเนื้อเพลง ดูเหมือนว่าคำใบ้ของฮายาซากะที่บอกให้แตกหน่อ จะหมายถึงการที่ให้ทำอะไรใหม่ๆ
ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้
เมื่อพูดถึงการเกิดใหม่ก็หมายถึงต้องตายก่อน ทำให้นานามิบอกว่าดวงดาวเองก็จะเปล่งแสงสว่างที่สุดก็ตอนสิ้นอายุขัยเหมือนกัน
ซึ่งตรงนี้เป็นการพูดถึง มหานวดารา (Supernova)
โดยจะเกิดขึ้นกับดาวฤกษ์ ซึ่งเป็นดาวที่เป็นก้อนพลังงานพลาสม่า มีแสงสว่างในตัวเอง เมื่อสิ้นอายุขัยจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่
แล้วส่องแสงสว่างที่สุดเป็นระยะเวลาสั้นๆ
(คีย์เวิร์ดเริ่มมาแล้ว)
ในวันหยุดของมิยุกับคายะ ทั้งสองคนก็แวะไปดูการแสดงของนามะฮาเกะด้วยกัน
จริงๆนามะฮาเกะก็ยุบวงไปแล้วนั่นแหละเพราะบริษัทต้นสังกัดปิดตัวลง
แต่พอเห็นความพยายามของวะกุจังทำให้อยากกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง ก็เลยเป็นศิลปินอิสระ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ทั้งจัดไลฟ์ จองตั๋ว เช่าสถานที่ฝึก
มิยุเลยเกิดไอเดียชวนนามะฮาเกะมาออกรายการ SMKM ของตัวเองซะเลย
จะได้ช่วยประชาสัมพันธ์ไลฟ์ครั้งหน้าของนามะฮาเกะด้วย
หลังจากนั้นก็ยื่นข้อเสนอไปให้กับอาคะมิโสะ ออลสตาร์ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการยุบวงเหมือนกันอีกด้วย
มายุบอกว่าเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกดี เพราะครั้งก่อนนามะฮาเกะก็เชิญพวกวะกุจังไปเป็นแขกรับเชิญมาแล้ว (ใน BtB)
ครั้งนี้มิยุก็เชิญนามะฮาเกะเป็นแขกรับเชิญบ้าง เหมือนกับว่าต่างคนต่างช่วยเหลือกัน
ทำให้รู้สึกว่าบางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่ฮายาซากะบอกเอาไว้ก็ได้
แล้วมินามิก็บอกว่าแผนที่ที่มิยุติดดาวมาร์กเอาไว้นี่ดูคล้ายกลุ่มดาวที่จะมีดาวเกิดขึ้นมาใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลย
ส่งผลให้โยชิโนะคิดออกว่า Theme ของเนื้อเพลงจะเอาเป็นที่เกี่ยวข้องกับดวงดาว
ทุกคนช่วยกันเขียนเพลงตลอดทั้งคืน จนในที่สุดรุ่งเช้าเนื้อเพลงก็เสร็จ
จากรูปคิดว่าชื่อเพลงน่าจะเป็น Polaris = ดาวเหนือ
ในที่สุดฮายาซากะก็ให้เนื้อเพลงนี้ผ่านพร้อมกับยกเพลงนี้ไปให้ใช้ฟรีๆ WUG จึงสามารถนำเพลงใหม่นี้ลงอัลบั้มได้ทัน
แต่ปัญหายังไม่จบแค่นี้
ตามกำหนดแล้วทังเกะกำหนดทัวร์รอบสุดท้ายไว้วันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งจะแสดงกันที่เซนไดสเตเดียม
แต่ว่า Vdol ได้ทำการซื้อเซนไดสเตเดียม และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Vdol Stadium ซะแล้ว
พร้อมกันนี้ยังจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่แสดงในวันที่ 24 ธ.ค. อีกด้วย
และ Vdol ก็ได้ซื้อ เซนได สเตเดียมไปแล้ว
ต่อไปซื้อดีสนีย์ด้วยเลยมั้ย?
(จบตอน)
----------------------------------------------------
หมายเหตุ - ภาคนี้จะมีทั้งหมด 13 ตอนนะครับ
คือเดิมจริงๆมันทีแค่ 12 นั่นแหละ แต่ช่วงกลางเรื่องที่ทำไม่ทันเลยแทรก WUGBAN! Shin Shou มาเป็นตอนที่ 7
จากนั้นก็เลยถูกปรับเป็น 13 ตอน
โดยตอนที่ 13 จะฉายทาง TV TOKYO วันที่ 7 ม.ค. 2018 เวลา 03:05 น.ครับ
ที่เว้นจากตอนที่ 12 ไป 1 อาทิตย์อาจจะเพราะติดรายการพิเศษทางสถานี แต่ก็ดีเพราะตอนที่ 12 จะได้จัดเต็มกับไลฟ์กันไปเลย
ปล. เรื่องเพลงใหม่นี่ปิดกันเงียบมาก ถึงจะมีแง้มๆมาที่ปก Pamphlet WUG Fes มาแล้วก็เถอะ จากฉากหลังที่เป็นรูปดาวบนท้องฟ้า
และข้อความ across the starry sky
แต่ไม่มีการแสดงเพลง Polaris ซึ่งเป็นเพลงใหม่นี้ในไลฟ์ แถมไม่ปรากฏชื่อเพลงใน Best Album ชุดที่ 3 ด้วย ซิงเกิลก็ไม่ออก
เป็นไปได้ว่าจริงๆแล้วมีลงใน Best Album แหละ แต่กั๊กไว้ก่อน ไม่ยอมบอกกันสปอยล์ เพราะทาง Official บอกว่าจะมีลงอัลบั้ม 30 เพลง
แต่ไอ้ที่ประกาศมามันไม่ครบ 30 เพลงน่ะสิ