Wonder
ชีวิตมหัศจรรย์
ออกัสต์ พูลแมน เป็นเด็กที่โชคร้ายมาตั้งแต่เกิดเพราะมีลักษณะใบหน้าที่ไม่ปกติเหมือนกับคนทั่วไปและแม้จะได้รับการผ่าตัดใบหน้ามาแล้วหลายครั้งนั่นก็ยังไม่ทำให้คนที่ได้พบเจอเลิกมองเขาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดได้ มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น
เขาโชคดีมากที่มีครอบครัวที่เข้าใจและพยายามช่วยเหลือในทุกอย่าง โดยเฉพาะแม่ที่ต้องกลายเป็นคุณครูจำเป็นเพื่อสอนหนังสือให้กับเขาที่บ้าน แต่แล้วในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องออกไปเรียนรู้โลกภายนอกที่เขาไม่เคยได้สัมผัสก่อน มันคือโรงเรียน การใช้ชีวิตที่ต้องออกนอกขอบเขตที่คุ้นเคยจึงเริ่มต้นขึ้น
ใบหน้าคือหน้าต่างบานแรกของการพบปะและรู้จักกันของคนเรา มันสามารถบอกอะไรเราได้อย่างมากมาย แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะเราไม่สามารถรู้จักคนๆหนึ่งได้จากการมองใบหน้าเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องมองที่ส่วนอื่นด้วย และบางครั้งมันก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้มองด้วยว่าจะเปิดใจเพียงใด หรือว่าจะตัดสินกันตั้งแต่แรกพบหน้าเสียแล้ว
แม้เรื่องราวของเด็กที่มีใบหน้าผิดปกติเผชิญโลกความเป็นจริงจะดูเข้าทางหนังเรียกน้ำตาแบบน่าสงสารแต่หนังเรื่องนี้กลับสร้างเรื่องราวที่ไม่ทำให้คนดูรู้สึกสงสารตัวละครสักเท่าไรนัก มิหนำซ้ำกลับทำให้คนดูรู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละครนี้ทุกครั้งที่เสียใจหรือท้อแท้ นอกจากนี้ยังให้ตัวละครที่เป็นคนในครอบครัวคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นอุปสรรคนานาไปให้จนได้ซึ่งมันอาจจะออกมาดูธรรมดาและซ้ำซากอยู่บ้างเพราะถ้าหนังจะสร้างให้ตัวละครในครอบครัวนี้มีปัญหาหรือความวุ่นวายมากกว่านี้ก็ได้เพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางอารมณ์ระหว่างตัวละครในครอบครัวจนนำไปสู่ความโศกเศร้าเสียใจเรียกน้ำตาคนดูแบบนี้ก็สามารถทำได้ นั่นเพราะหนังเลือกที่จะเล่าเรื่องราวให้ออกมาในแนวทางโลกสวยเพื่อให้กำลังใจมากกว่าที่จะสะท้อนความจริงอันโหดร้าย ถึงอย่างไรตัวละครอื่นๆในเรื่องก็ใช่ว่าจะมีทัศนะโลกสวยยอมรับและเปิดใจให้กับตัวละครดังกล่าวนี้โดยง่ายหากแต่มีเหตุและผลที่ทำให้เรื่องราวเป็นไปในทางที่ยอมรับได้ คนดูโดยส่วนใหญ่เองก็คงจะชอบเรื่องราวและแนวทางการดำเนินเรื่องที่ชวนให้จิตใจพองโตมากกว่าที่จะทำให้รู้สึกเศร้าอยู่แล้วด้วย
วิธีการดำเนินเรื่องถือว่าทำได้ดีเกินดาดเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ถึงกับทำให้ทึ่งแต่ก็รู้สึกว่าดีกว่าเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ถือว่าเป็นลูกเล่นที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ดีอีกทั้งยังเป็นการถ่ายเทน้ำหนักของเรื่องราวไปสู่ตัวละครอื่นๆจนช่วยทำให้หนังมีความหลากหลายมากขึ้น นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวของเด็กที่มีใบหน้าผิดปกติเท่านั้น หากแต่เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนที่หลากหลาย เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนวัยเด็ก เพื่อนวัยรุ่น หรือแม้แต่ความรักระหว่างหนุ่มสาว เป็นต้น
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนเราจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ควรจะเหมือนกัน นั่นคือ มองคนอื่นว่าเป็นคนเฉกเช่นเดียวกับเรา
ขบเคี้ยวหนัง
[CR] Wonder ชีวิตมหัศจรรย์
Wonder
ชีวิตมหัศจรรย์
ออกัสต์ พูลแมน เป็นเด็กที่โชคร้ายมาตั้งแต่เกิดเพราะมีลักษณะใบหน้าที่ไม่ปกติเหมือนกับคนทั่วไปและแม้จะได้รับการผ่าตัดใบหน้ามาแล้วหลายครั้งนั่นก็ยังไม่ทำให้คนที่ได้พบเจอเลิกมองเขาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดได้ มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น
เขาโชคดีมากที่มีครอบครัวที่เข้าใจและพยายามช่วยเหลือในทุกอย่าง โดยเฉพาะแม่ที่ต้องกลายเป็นคุณครูจำเป็นเพื่อสอนหนังสือให้กับเขาที่บ้าน แต่แล้วในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องออกไปเรียนรู้โลกภายนอกที่เขาไม่เคยได้สัมผัสก่อน มันคือโรงเรียน การใช้ชีวิตที่ต้องออกนอกขอบเขตที่คุ้นเคยจึงเริ่มต้นขึ้น
ใบหน้าคือหน้าต่างบานแรกของการพบปะและรู้จักกันของคนเรา มันสามารถบอกอะไรเราได้อย่างมากมาย แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะเราไม่สามารถรู้จักคนๆหนึ่งได้จากการมองใบหน้าเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องมองที่ส่วนอื่นด้วย และบางครั้งมันก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้มองด้วยว่าจะเปิดใจเพียงใด หรือว่าจะตัดสินกันตั้งแต่แรกพบหน้าเสียแล้ว
แม้เรื่องราวของเด็กที่มีใบหน้าผิดปกติเผชิญโลกความเป็นจริงจะดูเข้าทางหนังเรียกน้ำตาแบบน่าสงสารแต่หนังเรื่องนี้กลับสร้างเรื่องราวที่ไม่ทำให้คนดูรู้สึกสงสารตัวละครสักเท่าไรนัก มิหนำซ้ำกลับทำให้คนดูรู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละครนี้ทุกครั้งที่เสียใจหรือท้อแท้ นอกจากนี้ยังให้ตัวละครที่เป็นคนในครอบครัวคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นอุปสรรคนานาไปให้จนได้ซึ่งมันอาจจะออกมาดูธรรมดาและซ้ำซากอยู่บ้างเพราะถ้าหนังจะสร้างให้ตัวละครในครอบครัวนี้มีปัญหาหรือความวุ่นวายมากกว่านี้ก็ได้เพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางอารมณ์ระหว่างตัวละครในครอบครัวจนนำไปสู่ความโศกเศร้าเสียใจเรียกน้ำตาคนดูแบบนี้ก็สามารถทำได้ นั่นเพราะหนังเลือกที่จะเล่าเรื่องราวให้ออกมาในแนวทางโลกสวยเพื่อให้กำลังใจมากกว่าที่จะสะท้อนความจริงอันโหดร้าย ถึงอย่างไรตัวละครอื่นๆในเรื่องก็ใช่ว่าจะมีทัศนะโลกสวยยอมรับและเปิดใจให้กับตัวละครดังกล่าวนี้โดยง่ายหากแต่มีเหตุและผลที่ทำให้เรื่องราวเป็นไปในทางที่ยอมรับได้ คนดูโดยส่วนใหญ่เองก็คงจะชอบเรื่องราวและแนวทางการดำเนินเรื่องที่ชวนให้จิตใจพองโตมากกว่าที่จะทำให้รู้สึกเศร้าอยู่แล้วด้วย
วิธีการดำเนินเรื่องถือว่าทำได้ดีเกินดาดเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ถึงกับทำให้ทึ่งแต่ก็รู้สึกว่าดีกว่าเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ถือว่าเป็นลูกเล่นที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ดีอีกทั้งยังเป็นการถ่ายเทน้ำหนักของเรื่องราวไปสู่ตัวละครอื่นๆจนช่วยทำให้หนังมีความหลากหลายมากขึ้น นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวของเด็กที่มีใบหน้าผิดปกติเท่านั้น หากแต่เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนที่หลากหลาย เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนวัยเด็ก เพื่อนวัยรุ่น หรือแม้แต่ความรักระหว่างหนุ่มสาว เป็นต้น
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนเราจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ควรจะเหมือนกัน นั่นคือ มองคนอื่นว่าเป็นคนเฉกเช่นเดียวกับเรา
ขบเคี้ยวหนัง