หนูคิดว่าพี่เป็นทอม แต่ความแล้วจริงแล้วพี่ไม่ใช่ (อ้าววว)

นี่เป็นประสบการณ์ตรงเรื่องความรักของเราล่าสุดค่ะ ตอนนี้กำลังฝึกแต่งนวนิยายอยู่ เลยเอาประสบการณ์ของตัวเองมาเขียนเองซะเลย ถือเป็นการฝึกไปในตัวเลย

จะว่า หนูก็หนูเนี่ย จริงๆ แล้วหนูนี้ อายุ 28 นะคะ แต่ตอนที่ตกหลุมรักพี่เขาใหม่ๆ ตอนนั้นอายุ 27 ปีค่ะ

เรื่องของเรื่องก็คือ เรากับพี่เขาเรียนสถาบันเดียวกันค่ะ มันไม่ใช่โรงเรียน หรือมหาลัยนะคะ เป็นสถาบันวิชาชีพแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ที่มีคนหลายช่วงอายุเรียนค่ะ ที่นี่ค่าเทอมเป็นแสน คนที่เรียนส่วนใหญ่ทำงานแล้วค่ะ บางคนเป็นอาจารย์ และทำธุรกิจตัวเองด้วย ต้องขอสงวนนามไว้ค่ะ

ตอนแรกนี่ พี่เขาไม่ได้อยู่ในสายตาเราเลยคะ เป็นแค่พี่ร่วมสาขา ร่วมสถาบันเท่านั้น แถมกลุ่มเพื่อนก็คนละกลุ่มด้วยนะคะ แต่พอเวลานานไป เราก็เห็นหน้าค่าตากันมากขึ้น มองๆไปเรารู้ว่าเขาดึงดูดเรามาก

พูดไงดี ปกติ เราจะรู้ได้ยังไง ว่า เขาชอบผู้หญิงเหมือนเราไหม หลายๆคนมักรู้จักประโยคที่ว่า "ผีเห็นผี" ใช่ไหมคะ

ใช่ เราก็รู้แบบนั้นกับพี่คนนี้ค่ะ แต่ด้วยความไม่แน่ใจ ก็ได้แต่เก็บความรู้สึกที่ใจเต้น ตาร้อนผ่าวนั้นไว้ในใจคนเดียวเวลาที่เราเผลอมองกันบ้าง แถมตอนนั้นเอง เราก็ไม่แน่ใจด้วย ว่า พี่คนนี้สนใจเราไหม เราชอบเขาจริง หรือป่าว

ถ้าจะให้พูด "พี่ไก่" ขอแทนพี่เขาว่า ไก่ เพราะเขาเกิดปีระกาค่ะ ชอบแต่งออกแนวผู้หญิงที่มีความมั่นใจทะมัดมะแมง ออกเปรี้ยวด้วยนะคะ ประมาณแนวโกธิคค่ะ แล้วบ้านพี่เขาก็ทำธุรกิจส่วนตัว พี่เขาเป็นลูกคนเดียวที่จะต้องสืบทอดธุรกิจของบ้านนี้ โปรไฟล์จบปริญญาโท พูดได้สี่ภาษา บุคลิกเป็นผู้นำ     ขับมินิคูเปอร์

จัดว่า เป๊ะมาก...... และยังโสดนะคะ

ผู้หญิงที่โปรไฟล์ดีขนาดนี้หายากมากในปัจุบัน ช่างแตกต่างจากแมวน้อยอย่างเรา เป็นมนุษย์เงินเดือนสูงธรรมดา เราก็รุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันปกติ มีบ้างที่กลุ่มเรากับพี่เขา ก็ไปกินข้าวด้วยกัน หลังๆบ่อย

มีหลายครั้งที่พี่เขามองเราเหมือนตะลึงๆ เวลาเราเข้ามาเรียนปกติ คิดในใจมันคง ไม่มีอะไรหรอกๆ


แต่วันแห่งโชคชะตาก็วนมาหา คือ ทุกยกเลิกนัดไปดูหนังหมดเลยค่ะ เหลือแค่เรากับพี่ไก่ แต่สุดท้ายก็ไปนะ  ใครจะยอมปล่อยโอกาสที่จะได้ใช้เวลากับคนที่ชอบหลุดมือไปกัน

พี่ไก่ เขาจับมือเราค่ะ ขอย้ำ จับมือ แบบดึงแขนทั้งแขนไปถือไว้ แล้วจับมือเราไปมา ตอนนั้นบอกเลย มีความสุขมาก
สวรรค์ชัดๆ แถมตอนนั่งกินข้าว เขาพี่ไก่ก็เก็บกระเป๋าให้เราด้วย เวลานั่งในโรงหนัง เราก็นั่งแนบชิด

เหมือนวันนั้น เป็นวันจุดประกายความรู้ของเราทั้งคู่ เรารู้สึกถึงเขานะ เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกบางอย่างจากเขา

พี่รู้สึกเหมือนเรารึเปล่า.......


ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  เราก็ขวนเขิน ทำอะไรด้วยกันได้ไม่เหมือนเดิม แต่เขาเป็นผู้ใหญ่ เก็บอาการเก่งมากๆ หรือเราคิดไปเองก็ไม่แน่ใจ

มันมีพี่อีกคนในกลุ่มที่เป็นผู้หญิงแมนๆเหมือนกัน คนนี้เหมือนทอมมาก แต่บรรยากาศคือ ผู้หญิงปกติ เรารู้สึกได้ ต่างจากพี่ไก่ของเรา ฉันขอถือว่าพี่เป็นของตัวเองไปเรียบร้อยแล้วนะคะ
เราก็เล่น เกาะกอดกับเขาบ่อยๆ เขาก็ไม่ว่านะ เขาจะเอ็นดูเรา เพราะเราอายุน้อยสุดในกลุ่ม รวมเพื่อนสนิทเรา 1 คนที่อายุเท่ากัน นอกนั้น 35 อัพทุกคนค่ะ พี่ที่เราเล่นด้วยนะ เขาระดับมาเนเจอร์บริษัท อีกคนเป็นอาจารย์ เพื่อนเราก็มีธุรกิจบ้าน ทุกคนตำแหน่งดีเลิศ

วันนั้นเป็นวันแรกที่เห็น พี่ไก่โกรธ.....

ตอนที่เราเกาะเกี่ยวแขนพี่อีกคนหนึ่งอยู่ พี่เขาตะโกนขึ้นมาลั่นห้อง

"พี่บอกแล้วใช่ไหมว่า อย่าเล่นแบบนี้ "  ตอนนั้น นี่คือ เรากับพี่เมเนเจอร์ต้องผละออกจากกันแบบเหวออ่ะ คือ งง เป็นอะไร

แต่มันคงจะเป็นความโชคร้ายที่เราสื่อใจให้ถึงกันไม่ได้

เขาไปเที่ยวต่างประเทศ กลับมา เขามาเราในห้องเรียนก่อนคนแรกเลยด้วยสีหน้าที่ดีใจมากๆ แต่เรากลับนิ่ง เพราะเราขี้อายค่ะ
กล้าทุกอย่าง แต่ไม่กล้าแสดงความรู้สึก

ในวันวาเลนไทน์ พี่เขาเอาช็อคโกแลตมาให้เรา คือ ให้ทุกคนในกลุ่มนะ

แต่ของเราเขียนว่า LOVE YOU

วันนั้น เรากลับบ้านมา สับสนไปสองวัน มันเข้าช่วงวันหยุดของโรงเรียนพอดี

สุดท้าย  เรากลั้นใจเขียนบน Time line เฟสบุ๊คว่า Love you too. ถือเป็นการตอบรับ


แต่พอมาที่สถาบันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตกลงมันยังไง แล้วเรื่องราวของเรากับพี่เขาก็ต่อกันไม่ติดอีกเลย จนซาลงไป
เราเจ็บมาก มันเกิดอะไรขึ้น

มีช่วงหนึ่งที่เราประสบปัญหาบางอย่าง ถูกหาว่าเป็นคนขโมยกระเป๋าเงินคนในสถาบันค่ะ แล้วก็มีพี่ กับ เพื่อนๆในกลุ่มนี่แหละช่วยเราไว้ ว่าเราไม่ได้เป็นคนทำแน่นอน คนที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเหลือเรา แนะนำให้เราไปแจ้งความว่า เราโดนใส่ความ ก็คือ พี่ไก่ คนที่เราชอบเนี่ยแหละค่ะ
ช่วงนั้น พี่ไก่เขาไปประสานงานต่างประเทศเพราะธุรกิจของบ้านเขา พี่ในกลุ่มโทรบอกเขาว่าเรากำลังเดือดร้อน
เห็นพี่คนที่คุยบอกว่า พี่ไก่ตอนคุยในสายโกรธมากเลย คือ ไม่เคยเจอเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน เขาเองยังตกใจ

เราเองก็ซึ้งใจ และยิ่งชอบพี่เขายิ่งขึ้นไปอีก ถลำลงลึกจนหยุดชอบพี่เขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่เราก็ไม่เคยรู้ว่าพี่เขาคิดยังไงกับเรามาตลอด

แต่เราก็ยังต่อกันไม่ติดค่ะ คือ ที่รู้มาพี่เขาเป็นครอบครัวคนจีนนะคะ ยิ่งเป็นลูกสาวเดียวแล้ว หรือว่าบ้านเขา อยากให้พี่เขาแต่งงานรึเปล่า เราเคยคิดนะ
ที่พี่เขาเปลี่ยนไป ไม่เป็นเหมือนเดิม เพราะเรื่องนี้ด้วยไหม ไม่อาจทราบได้

วันสุดท้ายเป็นงานเลี้ยงปาร์ตี้จบ ตอนนั้นดึกมาก พี่เขาชวนเราไปนอนพักที่บ้านค่ะ

สถานการณ์หมิ่นแหม่มาก......

บ้านเขายิ่งใหญ่อลังการมาก หลังละไม่ต่ำกว่า 15 ล้านแน่นอน โอ้ววว

ขนาดห้องนอนนะเป็นบิ้วอิน และห้องน้ำแบบในตัวแบบที่ไม่มีขายทั่วไป โห แต่ตอนนั้นเก็บอาการ

พี่ไก่ให้เราไปอาบน้ำก่อน พอออกมา พี่แกเอาตุ๊กตาที่เราชอบมาวางบนหัวนอนเราให้

เรานะ ตอนนั้น อยากจะสารภาพรักพี่เขามาก.....สุดท้ายก็ไม่ได้บอก แค่ได้นอนใกล้ๆเขาเป็นคืนสุดท้ายค่ะ

ฮืออออออออออออออ

ก่อนนอน พี่เขาบอกว่าเป็นคนกลัวผี ชอบเอาหมอนข้างมาโอบรอบตัวให้รู้สึกปลอดภัย

แต่วันนี้ มีเราแล้ว คงไม่จำเป็น ใช้เราแทนหมอนข้าง

กรี๊ดดดดดดดดด อึ้งค่ะอึ้ง หน้าเราเหวอไป เขาก็เหมือนจะหัวเราะนะ เขาเป็นผู้ใหญ่คงไม่มีวันที่จะไม่รู้ความรู้สึกเราแน่

คิดว่าเรา นอนหลับไหม.......แน่นอนว่าไม่


แต่ทุกอย่างก็มาพังในตอนเช้า เรากลับมาบ้าน และคิดว่าเราคงจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วใช่ไหม

เลยไปบอกชอบเขาผ่านไลน์แบบแข็งๆ กระโตกกระตากไปมา คื่อ แบบเกร็งๆ อ่ะค่ะ

"พี่เขาตอบมาแค่ว่า คิดกับเราแค่น้องสาว พี่ไม่เคยมีความคิดอื่นนอกจากนั้นเลย"

อ้าวววววววววววววววว.......(ที่มาของหัวข้อค่ะ)


เรื่องของเราก็เลยจบเพียงแค่นี้ค่ะ

ตอนนั้น เราเจ็บมาก....และตอนนี้เราก็ยังลืมพี่เขาไม่ได้ค่ะ ถ้าเขารู้ เขาคงตกใจนะที่เรายังชอบเขาอยู่เหมือนเดิมฃ

คิดว่าสักวัน ถ้ามีใครบางคนเข้ามา เราคงจะลืม "พี่ไก่" บนดวงจันทร์ของเราได้ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่