ความสำคัญในการนั่งเบาะหน้า เบาะหลัง ปัญหาแม่สามี ลูกสะใภ้ ที่ครองโลก

ขอเกริ่นก่อนว่า เพิ่งซื้อรถใหม่ แล้ววันรับรถ เราได้ไปรับรถกับสามี แต่ตัวแม่สามีอยู่ที่รัชดา วันรับรถบอกก่อนเลยว่าไม่รู้ต้องเตรียมอะไรบ้าง
เราดูแค่ฤกษ์ออกรถ พอตรงเวลาก็ขับออกไปรับแม่สามี ไม่ได้ดูว่าต้องเตรียมอะไรนอกเหนือจากนั้นไหม พวกพิธีกรรมต่างๆ เราไหว้แต่แม่ย่านาง

พอถึงรัชดากระเป๋าสัมภาระของเราก็อยู่เบาะหน้า พวกของกินเราก็โยนไว้เบาะหลังวางอยู่ตรงช่วงประตูหลังพอดี

สามีเราก็ไม่รู้ว่าธรรมเนียมการออกรถสมัยโบราณต้องให้ผู้ใหญ่นั่งหน้าเป็นการเจิมรถ เราก็ไม่รู้เพราะไม่ได้ศึกษา สามีเราก็นั่งนิ่งเตรียมออกรถ
เราก็นั่งเบาะหน้าตามปกติ รอแม่สามีขึ้นรถ สักพักก็เห็นแม่สามีหน้านิ่วคิ้วขมวด เปิดประตูรถแล้วบอกเราว่า ไปนั่งข้างหลัง ออกรถมาใหม่ต้องให้แม่นั่งหน้า ไม่ใช่ให้นั่งหลัง

เราก็บอกแม่สามีไปว่า โอเค บวกกับความงงนิดๆ เราก็ค่อยๆย้ายกระเป๋า แล้วค่อยๆลุก ลุกเร็วไม่ได้ค่ะ เพราะกำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน ท้องมันก็จะโย้ๆตึงๆหน่วงๆหน่อย

เราก็ลุกไปเปิดเบาะหลัง แล้วโยนกระเป๋าไปด้านข้างแล้วพวกของกินที่เราซื้อไว้ แม่สามีก็หันกลับมาเขาก็คงคิดว่าเราไม่พอใจ คืออารมณ์นั้นยอมรับเลยค่ะ ว่าหลายอารมณ์มาก เราก็ก้มๆเงย ท้องก็หน่วง นั่งก็ลำบาก

พอออกรถไปซักพัก ก็ชวนคุยกันตามปกติ เราก็มีคุยบ้างประปราย สามีก็มองเราผ่านกระจกหลังเป็นพักๆ แต่อารมณ์นั้นคือ หน่วงท้องมาก นั่งลำบากมาก คือพอเรานั่งตามปกติของเบาะมันจะปวดหลัง แล้วด้านหลังเบาะมันนิ่มมาก สามีเราเลี้ยวทีเราก็จะเอนไปตามเขาเลี้ยว อยากจะนั่งเอาหลังพิงประตูแล้ว
เยียดขา ก็เกรงใจแม่สามี

เราเป็นคนขายาวนิดนึง เวลานั่งเบาะหน้า เราจะปรับเบาะออก แล้วเอนพนักพิงไปด้านหลัง เพราะมันคือท่าที่เราสบายที่สุดได้ยืดขาให้เลือดไหลเวียน
แล้วส่วนช่วงอกไม่ไปกดทับลูกทำให้เราหายใจลำบาก และที่สำคัญเมื่อลูกเอาหัวลง เราจะนั่งหนีบหรือนั่งไขว่ห้างแบบเดิมไม่ได้ เราเลยต้องนั่งแบบถ่าง 390 องศา ให้ลูกและเราสบายที่สุด และไม่หน่วงท้องที่สุด

บนรถวันนั้นเราเลยต้องเอามือนึงพยุงท้องไว้ อีกมือยันตัวเองไว้ ให้ตัวเราเอนไปด้านหลังให้มากที่สุด เพราะยิ่งท้องแก่ ยิ่งเจ็บหลังมาก เพราะเราต้องรับน้ำหนักลูก ทั้งขาและหลังจะปวดไปหมด ก็นั่งแบบนั้นจนถึงบ้าน

ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กันนะคะ จนวันอาทิตย์ เราต้องไปส่งแม่สามีที่รัชดา เราก็เอากระเป๋าเราไปไว้ด้านหน้า แล้วทำการปรับเบาะ แล้วเอาหมอนมาหนุนช่วงหลังไว้ แม่สามีก็เอาของของเขาไว้เบาะหลัง เราก็เห็นแกคิ้วขมวดนิดๆ ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป จนเราขึ้นรถ สามีก็ขับรถของเขาไป แม่สามีก็นั่งนิ่ง
คิ้วขมวดตลอดเวลา พอครึ่งทางสามีเราก็หันไปหาแม่เขา แล้วเอ่ยแซวว่า นี่ถ้าแม่เป็นไรคงต้องสร้างอนุสาวรีย์คิ้วขมวดให้แม่

แม่เขาก็เลยพูดกลับไปว่า ไม่ต้องมายุ่งกับกู ทำเรื่องของให้ดีเถอะ เรากับสามีก็เลยเงียบไม่พูดอะไร เรากับสามีก็คุยกันตามปกติเรื่องงานบ้าง เรื่องรถติดบ้าง แม่สามีก็เงียบตลอดทาง จนถึงที่หมายเรากับสามีก็ลงไปส่ง แล้วก็ลากลับ

ออกรถมาได้ซักพัก เราก็ถามสามีว่าแม่พี่เครียดอะไร ตัวสามีเองก็ยังไม่รู้ เรื่องนี้ก็เงียบไป จนล่วงเลยเลยมา 3 วัน สามีทักไลน์มาช่วงเที่ยง บอกแม่ไลน์มาสั่งสอนพี่เรื่องการนั่งเบาะหน้า เบาะหลัง สามีบอกแม่ไม่ได้ว่าเรานะ เขาว่าพี่ ว่าวันที่ไปรับแม่ที่รัชดา พี่ไม่เชิญเขาขึ้นรถ แล้วนั่งทำหน้าเชิด

ณ ตอนนั้นคือ เราไม่ได้คิดคำนึงตรงนั้นว่า จะต้องมีพิธีการอะไรใดๆในการขึ้นรถเลย ก็ถ้าใครพร้อมก็ขึ้นรถตามปกติ อันนี้ไม่รู้ว่าเราเข้าใจถูกมั้ยนะคะ
ส่วนสามีเราที่เขานั่งนิ่ง งงแบบนั้น ในวันที่ไปรับแม่ที่รัชดา คือเขาคิดอยู่ว่าจะไปทางไหนเพื่อเลี่ยงทางรถติด

ตกเย็นเราก็เปิดไลน์ของสามีอ่าน บทสนทนาในนั้นก็ประมาณว่า
แม่สามี : ต้องเชิญผู้ใหญ่นั่งข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นพ่อเรา แม่เรา หรือตัวแม่สามีเอง เพราะเขาอาวุโสกว่า
             ไม่ใช่ให้แม่ไปนั่งหลัง เพราะแม่ไม่ใช่คนใช้มันอยู่ที่ความสำคัญของคน.....
สามี :     มันไม่เกี่ยวแม่ วันรับรถเออต้องให้แม่นั่งหน้า หลังจากนั้นก็ตามสะดวกมากกว่า ตอนที่หนูไปแข่งแบดกับอาจารย์ หนูเปิดประตูจะไปนั่งหลัง
             แต่อาจารย์พูดมาว่า มานั่งหน้า ฉันไม่ใช่คนขับรถเธอนะ หนูว่ามันอยู่ที่ความคิดคนมากกว่านะแม่
แม่สามี : ก็นั่นมันอาจารย์ นี่แม่ ไม่เหมือนกัน

แล้วเขาก็ให้สามีมาสอนเรา ว่าเขาควรนั่งหน้า เพราะเขาอาวุโสกว่า

เราเลยอยากรู้ว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวหรือไปไหนกับแม่สามี เราควรนั่งตรงไหน ควรนั่งเบาะหลังเยียดขาออกไปตามยาวเบาะไม่ต้องเกรงใจแม่สามี
หรือว่าเราควรนั่งหน้ากับสามีตามปกติ จะได้ช่วยมองทาง แล้วป้อนขนมป้อนน้ำเขา ช่วยเขาดู GPS
และช่วงตั้งครรภ์แบบนี้เราควรนั่งตรงไหน ให้เราสบายที่สุด

ถ้าเราให้แม่สามีนั่งหลัง เขาจะคิดว่าเขาเป็นคนใช้อีกอ่ะคะ เราเลยไม่รู้ว่าเราควรบอก หรือ แนะนำอะไรเขาดี เพราะดูทรงแล้ว คงแก้ยาก เพราะเชื่อคนง่าย คิดเล็กคิดน้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่