เห็นกระทู้แนะนำของน้องที่ตั้งครรภ์สามเดือนกับการโดนจอดรถปิดท้าย แล้วก็เหนื่อยใจ....เลยขอมาแชร์เรื่องตัวเองที่เพิ่งเจอมาบ้างค่ะ
........ว่าบางครั้งท้องเล็ก ท้องโต ถ้าเพื่อนมนุษย์เรามองว่าไม่ใช่สิ่งน่าเห็นใจ.....ยังไงเค้าก็จะปฏิบัติกับเราเหมือนกันค่ะ
ดิฉันสูงประมาณ 170 เซ็น ท้องประมาณ 7 เดือนครึ่งค่ะ บวกกับท้องแฝด ไม่ต้องบรรยายนะคะว่าตัวและท้องจะดูใหญ่ เดินคล้ายกอลิลร่าขนาดไหน ^ ^
ตั้งแต่ท้องได้สี่เดือนไม่ค่อยได้ออกไปไหนค่ะ ขนส่งมวลชนไม่ค่อยได้ใช้เพราะกังวลเรื่องความไม่พร้อมของตัวเอง กับไม่แน่ใจว่าคนทั่วไป
จะรู้สึกเห็นใจคุณแม่ร่างยักษ์ๆ อย่างดิฉันรึเปล่า
แต่ทุกครั้งที่ไปนอกบ้านบอกได้เลยค่ะว่า ยังรู้สึกว่าคนไทยเรายังมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
และช่วยเหลือคนที่ไม่พร้อมกว่าเสมอๆค่ะ ทั้งกดลิฟท์ให้ เปิดประตูให้ สละที่นั่งให้ ซื้ออาหาร ขนมก็เลือกที่ดูดีและน่ากินให้ พบแต่เรื่องดีๆคะ...สุขใจ
จนเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ไปซื้อของใช้ประจำเดือนกับแม่และสามีที่ ท๊อป วงเวียนใหญ่ค่ะ ถ้าใครอยู่แถวฝั่งธนฯ และเคยใช้บริการตึกจอดรถที่นี่จะทราบว่า...
ซองแคบ เนื่องจากตึกสร้างมานานและเก่ามากแล้ว
ดิฉันซื้อของเสร็จ สิบโมงนิดๆ...ตอนนั้นห้างยังไม่เปิดค่ะจะเปิดแต่ส่วนซุปเปอร์....ที่จอดรถยังเงียบเหงาอยู่
ซื้อของเสร็จแล้ว กำลังเก็บของท้ายรถกับแม่และสามี รถดิฉันเป็นรถเก๋งคันเล็กค่ะ จอดทางด้านขวา
(ด้านคนขับติดเสา)ฝั่งซ้ายของรถว่าง 1 ช่อง (เป็นช่องที่จอดได้แค่สองคันค่ะ)
ตอนเก็บถุงของใส่ท้ายรถใกล้เสร็จเห็นรถป้ายแดง Camry hybrid สีขาวคันใหญ่ กำลังถอยหลังจะเข้าจอดข้างๆด้วยความเร็ว
ตอนนั้นประตูด้านข้างคนขับและด้านหลังเปิดอยู่เพื่อเก็บของค่ะ ดิฉันจึงรีบเดินไปเพื่อจะขึ้นรถ แต่ด้วยท้องโตจึงเดินได้ค่อนข้างช้า
คุณแม่ดิฉันเดินไปเปิดประตูอ้าเพิ่มให้ด้วยความเคยชิน พอดิฉันไปถึงก็ยืนข้างที่นั่งเพื่อค่อยๆขยับตัวเข้ารถ แต่มองไปก็เห็นว่า
รถที่กำลังถอยก็ไม่ได้พยายามชลอ หรือจอดรอที่หน้าซองแต่อย่างใดค่ะ จึงต้องบอกแม่ให้รีบขึ้นที่นั่งของตัวเอง
แล้วก็รีบเข้านั่งรถไป....ผลเลย...เจ็บก้นกบและปวดหน่วง(ไม่มากค่ะ)...เฮ้อ
จากนั้นสามีตามขึ้นรถมาค่ะ แต่เรายังไม่สามารถออกรถได้ทันทีเพราะเค้าจอดยังไม่เสร็จ....ด้วยความที่รถเค้าใหญ่ซองเล็ก....
เค้าต้องขยับออกไปอีกครั้งหลังจอดเสร็จ เพื่อให้คนข้างคนขับและคนนั่งหลังลง ก่อนถอยกลับเข้าซองค่ะ....
พอกลับเข้าซองมาปรากฏว่า ด้านคนขับของรถเค้าห่างจากรถเราแค่ประมาณฟุตเดียว.....หลังจากพยายามเปิดประตูอยู่สองครั้ง...เค้าลงไม่ได้ค่ะ....
คนขับเป็นผู้ชายคาดว่าอายุ 40- 50 ปี มากับภรรยาและลูกชายค่ะ.....
สามีกะแม่เราโมโห....เราก็รู้สึกแย่ค่ะ...ไม่กล้าบอกแม่กับสามีว่าหน่วงท้อง เพราะกังวลว่าจะทำให้เรื่องบานปลาย
เงาในรถเห็นได้ว่าเค้านั่งตัวตรงติดเบาะ ไม่ได้พยายามหันมามองหรือพยายามสื่อสารว่าเค้าลงไม่ได้กับเราค่ะ
สามีเราจอดรถแช่อยู่ประมาณเกือบสองนาทีค่ะ พร้อมกับหันไปมองเค้านิ่งๆ(ไม่ได้เปิดหน้าต่างรถนะคะ)....
ผู้หญิงกับเด็กผู้ชายที่ลงมาก่อนไปยืนหลบๆอยู่ข้างรถเค้า....
.......เราอยากให้อย่างน้อยคนในบ้านเค้ารู้สึก...หรือฉุกคิดนะคะว่าสามีหรือพ่อเค้าทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม....
ท้ายสุดสามีเราก็ออกรถมาพร้อมกับจอดรออยู่หน้าซอง...ทำเหมือนรอเค้าลงจากรถค่ะ....เค้านิ่งไม่เคลื่อนไหว
ซัก 30 วิ เราก็ขับออกไป.....ทั้งรถเงียบกันไปอีกพักใหญ่.....เหมือนไม่มีใครอยากพูดอะไรออกมาให้ไม่สบายใจกัน
.....เรื่องที่มาเล่า ณ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือแย่กับเหตุการณ์แล้วหล่ะค่ะ....เพียงแต่จำได้ไม่ลืม...ฮาาาา
อยากให้การใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม แบ่งปัน ช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจกันอย่างเหมาะสมบ้างค่ะ....ไม่ต้องสงสารหรือเห็นใจแค่คนท้องหรอกค่ะ....
ทุกคนที่ไม่พร้อม ด้อยกว่าเราก็สมควรได้รับความช่วยเหลือนะคะ
ไม่ต้องมากมาย....แค่ให้พอรู้สึกหรือสัมผัสได้ก็ดีมากกกกกแล้วค่ะ.....
ปล.ขอบคุณที่พยายามอ่านกันจนจบนะคะ....ยาว...น้ำจิ้มมากไปหน่อย...
อย่าเพิ่งเบื่อเรื่องคนท้องกับที่จอดรถนะคะ ^ ^
........ว่าบางครั้งท้องเล็ก ท้องโต ถ้าเพื่อนมนุษย์เรามองว่าไม่ใช่สิ่งน่าเห็นใจ.....ยังไงเค้าก็จะปฏิบัติกับเราเหมือนกันค่ะ
ดิฉันสูงประมาณ 170 เซ็น ท้องประมาณ 7 เดือนครึ่งค่ะ บวกกับท้องแฝด ไม่ต้องบรรยายนะคะว่าตัวและท้องจะดูใหญ่ เดินคล้ายกอลิลร่าขนาดไหน ^ ^
ตั้งแต่ท้องได้สี่เดือนไม่ค่อยได้ออกไปไหนค่ะ ขนส่งมวลชนไม่ค่อยได้ใช้เพราะกังวลเรื่องความไม่พร้อมของตัวเอง กับไม่แน่ใจว่าคนทั่วไป
จะรู้สึกเห็นใจคุณแม่ร่างยักษ์ๆ อย่างดิฉันรึเปล่า แต่ทุกครั้งที่ไปนอกบ้านบอกได้เลยค่ะว่า ยังรู้สึกว่าคนไทยเรายังมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
และช่วยเหลือคนที่ไม่พร้อมกว่าเสมอๆค่ะ ทั้งกดลิฟท์ให้ เปิดประตูให้ สละที่นั่งให้ ซื้ออาหาร ขนมก็เลือกที่ดูดีและน่ากินให้ พบแต่เรื่องดีๆคะ...สุขใจ
จนเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ไปซื้อของใช้ประจำเดือนกับแม่และสามีที่ ท๊อป วงเวียนใหญ่ค่ะ ถ้าใครอยู่แถวฝั่งธนฯ และเคยใช้บริการตึกจอดรถที่นี่จะทราบว่า...
ซองแคบ เนื่องจากตึกสร้างมานานและเก่ามากแล้ว
ดิฉันซื้อของเสร็จ สิบโมงนิดๆ...ตอนนั้นห้างยังไม่เปิดค่ะจะเปิดแต่ส่วนซุปเปอร์....ที่จอดรถยังเงียบเหงาอยู่
ซื้อของเสร็จแล้ว กำลังเก็บของท้ายรถกับแม่และสามี รถดิฉันเป็นรถเก๋งคันเล็กค่ะ จอดทางด้านขวา
(ด้านคนขับติดเสา)ฝั่งซ้ายของรถว่าง 1 ช่อง (เป็นช่องที่จอดได้แค่สองคันค่ะ)
ตอนเก็บถุงของใส่ท้ายรถใกล้เสร็จเห็นรถป้ายแดง Camry hybrid สีขาวคันใหญ่ กำลังถอยหลังจะเข้าจอดข้างๆด้วยความเร็ว
ตอนนั้นประตูด้านข้างคนขับและด้านหลังเปิดอยู่เพื่อเก็บของค่ะ ดิฉันจึงรีบเดินไปเพื่อจะขึ้นรถ แต่ด้วยท้องโตจึงเดินได้ค่อนข้างช้า
คุณแม่ดิฉันเดินไปเปิดประตูอ้าเพิ่มให้ด้วยความเคยชิน พอดิฉันไปถึงก็ยืนข้างที่นั่งเพื่อค่อยๆขยับตัวเข้ารถ แต่มองไปก็เห็นว่า
รถที่กำลังถอยก็ไม่ได้พยายามชลอ หรือจอดรอที่หน้าซองแต่อย่างใดค่ะ จึงต้องบอกแม่ให้รีบขึ้นที่นั่งของตัวเอง
แล้วก็รีบเข้านั่งรถไป....ผลเลย...เจ็บก้นกบและปวดหน่วง(ไม่มากค่ะ)...เฮ้อ
จากนั้นสามีตามขึ้นรถมาค่ะ แต่เรายังไม่สามารถออกรถได้ทันทีเพราะเค้าจอดยังไม่เสร็จ....ด้วยความที่รถเค้าใหญ่ซองเล็ก....
เค้าต้องขยับออกไปอีกครั้งหลังจอดเสร็จ เพื่อให้คนข้างคนขับและคนนั่งหลังลง ก่อนถอยกลับเข้าซองค่ะ....
พอกลับเข้าซองมาปรากฏว่า ด้านคนขับของรถเค้าห่างจากรถเราแค่ประมาณฟุตเดียว.....หลังจากพยายามเปิดประตูอยู่สองครั้ง...เค้าลงไม่ได้ค่ะ....
คนขับเป็นผู้ชายคาดว่าอายุ 40- 50 ปี มากับภรรยาและลูกชายค่ะ.....
สามีกะแม่เราโมโห....เราก็รู้สึกแย่ค่ะ...ไม่กล้าบอกแม่กับสามีว่าหน่วงท้อง เพราะกังวลว่าจะทำให้เรื่องบานปลาย
เงาในรถเห็นได้ว่าเค้านั่งตัวตรงติดเบาะ ไม่ได้พยายามหันมามองหรือพยายามสื่อสารว่าเค้าลงไม่ได้กับเราค่ะ
สามีเราจอดรถแช่อยู่ประมาณเกือบสองนาทีค่ะ พร้อมกับหันไปมองเค้านิ่งๆ(ไม่ได้เปิดหน้าต่างรถนะคะ)....
ผู้หญิงกับเด็กผู้ชายที่ลงมาก่อนไปยืนหลบๆอยู่ข้างรถเค้า....
.......เราอยากให้อย่างน้อยคนในบ้านเค้ารู้สึก...หรือฉุกคิดนะคะว่าสามีหรือพ่อเค้าทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม....
ท้ายสุดสามีเราก็ออกรถมาพร้อมกับจอดรออยู่หน้าซอง...ทำเหมือนรอเค้าลงจากรถค่ะ....เค้านิ่งไม่เคลื่อนไหว
ซัก 30 วิ เราก็ขับออกไป.....ทั้งรถเงียบกันไปอีกพักใหญ่.....เหมือนไม่มีใครอยากพูดอะไรออกมาให้ไม่สบายใจกัน
.....เรื่องที่มาเล่า ณ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือแย่กับเหตุการณ์แล้วหล่ะค่ะ....เพียงแต่จำได้ไม่ลืม...ฮาาาา
อยากให้การใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม แบ่งปัน ช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจกันอย่างเหมาะสมบ้างค่ะ....ไม่ต้องสงสารหรือเห็นใจแค่คนท้องหรอกค่ะ....
ทุกคนที่ไม่พร้อม ด้อยกว่าเราก็สมควรได้รับความช่วยเหลือนะคะ
ไม่ต้องมากมาย....แค่ให้พอรู้สึกหรือสัมผัสได้ก็ดีมากกกกกแล้วค่ะ.....
ปล.ขอบคุณที่พยายามอ่านกันจนจบนะคะ....ยาว...น้ำจิ้มมากไปหน่อย...