สวัสดีค่ะ จากมนุษย์แม่คนหนึ่ง
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าเป็นคนทำงานคนหนึ่งที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะมาโดยตลอด และเป็นคนที่ Fastest life มากๆ ไม่ว่าจะ Bts หรือรถเมลล์เรายืนได้ตลอดเพราะด้วยความที่ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ แต่ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือหลังมือเลยค่ะ กลายเป็นคน Slow life อย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะ......
ตอนนี้ตั้งท้องได้ 4 เดือนแล้วค่ะ กำลังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คนเป็นแม่ทุกคนคงเข้าใจ ชีวิตมนุษย์แม่อย่างเราต้องตื่นเช้าแพ้ท้อง ออกมาทำงานด้วยร่างกายเหนื่อยล้า ทำงานๆๆๆ จนเย็น ช่วงเย็นนี้ถือว่าเป็นช่วงพีคสุดของวันเลยค่ะ เหนื่อย หอบ เดินช้า มีอาการหน่วง ตึงที่ท้อง ต้องเดินอย่างระวัง แต่ด้วยความที่สภาวะสังคมไม่เอื้ออำนวย ทุกคนต่างเร่งรีบกลับบ้านกัน เราทนได้ถึงไม่ได้นั่งขอแค่ไม่ชนกันก็พอ
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า...เมื่อวานวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 18.30 น.
เรารอ Bts เพลินจิต รอคนแรกฝั่งซ้าย ซึ่งเราเห็นแล้วว่ามีที่นั่งอยู่ด้านซ้ายเหมือนกัน และคนที่รอด้านขวาเราถ้าสังเกตุเราดีดีจะเห็นว่าเราเอามือลูบท้องบ่อยมาก และติดเข็มกลัดไว้ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าคนที่ติดเข็มกลัดที่ท้อง นั่นคือสัญลักษณ์นะคะ คุณจะได้มั่นใจว่าคุณสามารถลุกให้คนที่ติดเข็มกลัดนั่งได้ เค้าไม่ใช่คนอ้วนค่ะ ซึ่งเมื่อวานเราใส่ชุดรัดรูปที่ท้องยื่นออกมาแบบไม่ใช่คนอ้วนแน่ๆ มาต่อกันตอนที่รถ Bts จอดค่ะ ผู้หญิงด้านขวาเดินไปตรงที่นั่งที่ว่าง เค้าไวกว่าเราค่ะ เค้านั่งลงโดยหันไปยิ้มๆ มองกับเพื่อนที่เดินตามเข้ามา เราบอกเลยค่ะ เราไม่พอใจมาก เพราะโดยมารยาทคุณเข้าด้านซ้าย ก็ต้องชิดด้านซ้ายใช่ไหม๊คะ แต่พอเห็นที่ว่างด้านขวาคุณเดินปาดหน้าคนท้องโดยไม่ใยดี เราเลยยืนหันหน้าเข้ากระจกค่ะ มีผู้ชายสองคนยื่นหน้ามามองท้องเราแล้วก้มหน้าไปต่อ มีทอมหนึ่งคนตรงหน้าเราก็มองแต่ไม่สนใจ เอาจริงๆ เราไม่รู้หรอกค่ะว่าคุณป่วยเป็นอะไรกันบางคนโลกสวยอาจบอกว่า เค้าอาจเป็นมะเร็ง เนื้องอกก็ได้เค้าเลยลุกให้คุณนั่งไม่ได้ แต่เท่าที่ดูอาการก็นั่งเล่นเกมส์ มือถือไม่มีใครที่แสดงอาการว่าป่วยเลย ยอมรับนะคะว่าเสียใจ เพราะป้ายมันก็มีบอกไว้ว่า กรุณาเอื้อเฟื้อแก่ พระ เด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์ แต่สุดท้ายก็ยืนจนมาถึงอนุเสาวรีย์ค่ะ เรายอมรับนะคะว่าอยากนั่งมากๆ อยากเดินเข้าไปบอกคนตรงป้ายค่ะ ชี้ป้ายให้ดูแล้วบอกว่า ดิฉันท้องค่ะ ขอนั่งได้ไหม๊? แต่ด้วยความที่ไม่เป็นไรมันมีที่เกาะแล้วก็ไม่ได้โลดโผนเหมือนรถเมล์ เลยอดใจไว้ค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าคนท้องใช้ลูกเป็นโอกาสหาที่นั่ง
ขอเลยนะคะ ต่อจากนี้ถ้าเห็นคนที่เหมือนจะอ้วนแล้วติดเข็มกลัดที่ท้อง คิดไปเลยนะคะว่านั่นแหละค่ะ คนท้องไม่ต้องอายที่จะช่วยเค้าเลยค่ะ
เรื่องยังไม่จบเท่านี้นะคะ
เมื่อต่อรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่อาคารจอดแล้วจร เพื่อรอรถเมล์ค่ะ มีรถร่วมบริการสาย 182 เบอร์ 182-4 ของบริษัทเชาว์ กระแสร์ชล (จากชื่อบริษัท ดูน่านั่งนะคะ น่าจะขับแล้วเย็นสบายเรื่อยๆ)
แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ เราอุตส่าห์หลีกเลี่ยงสาย 8 ซึ่งทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นยังไง เอาวะสาย 182 คนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ขึ้นไปก็ยืนหันหน้าออกหระจกฝั่งประตู ช่วงหน้าตรงห้องเครื่อง ไม่ได้นั่งไม่เป็นไร ไม่กี่ป้ายก็ลง แต่พอไฟเขียวเท่านั่นค่ะ คนขับเหมือนทะเลาะกับสาย 8 เรื่องที่ว่าเค้าโบกมือขอทางแล้วไม่ให้ จึงเกิดการขับบี้ เบียด และปาดกันเกิดขึ้น เราไม่ไหวค่ะ ที่เกาะข้างบนก็อยู่ไกล เกาะได้แค่ตรงที่นั่ง เห็นตรงห้องเครื่องไม่มีคนนั่ง และเขียนไว้ว่าห้ามเอาเท้าเหยียบ ช่วงนั้นไม่คิดอะไรแล้วค่ะ รีบแซกสองคนไปนั่งเลย น้องผู้ชายคนที่ยืนข้างๆ เราน่ารักมากค่ะ ตอนเราจะเดินเหมือนจะล้มเค้าก็ช่วยจับ จนเราได้นั่ง โอเคก็โล่งใจ ทันใดนั้น....
กระเป๋ารถเมล์สาว : ห้องเครื่องนั่งไม่ได้นะคะคุณ รถเค้ามีแม่ย่านาง
คุณแม่ท้องสาว : ยืนไม่ได้หรอกค่ะ ขับรถแบบนี้ คนท้องยืนไม่ได้
กระเป๋ารถเมล์สาว : ท้องก็ไปขึ้นคันหลังดิวะ.....รถเค้ามีแม่ย่านาง (คิดได้นะคะ งั้นก็รบกวนอย่าเก็บตังค์คนท้องนะคะ ก็ไล่ลงไปเลยตั้งแต่ทีแรก)
คุณแม่ท้องสาว : ก็ขับดีดีหน่อยสิคะ คนท้องจะได้ยืนได้
- ทันใดนั้นก็มีผู้ชายตรงที่นั่งข้างหน้าเรา ลุกให้เราไปนั่งตรงนั้นแทน ต้องขอบคุณนะคะที่คุณมีน้ำใจ อาจกลัวเราโดนกระเป๋าหรือคนขับทำร้าย
กระเป๋ารถเมล์สาว : บ่นไม่หยุดค่ะ ด่าคนท้องมาเรื่อยๆ บอกไปฟ้องเลย เอาเลขทะเบียนไปเลย
- ตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์นี้ คนขับก็ไม่ได้ขับดีขึ้นนะคะ ยังปาดไปปาดมา ขนาดคนไม่ท้องยังยืนกันแทบไม่ได้ ถามหน่อยถ้าชั้นยืนแล้วล้มไป เป็นอะไรขึ้นมาใครรับผิดชอบไม่มีหรอกค่ะ ขนาดข่าวที่ผ่านๆ มารถร่วมชนคนตายมาเท่าไหร่ ปัญหานี้ก็ยังไม่หมดไปสักที
กระเป๋ารถเมล์สาว : เดินมานั่งตรงห้องเครื่องค่ะ แล้วก็มองเราแบบไม่พอใจ (ในใจก็คิดนะคะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะมีใครช่วยเราไหม๊ และแม่ย่านางที่บอกล่ะหรือคุณนั่งได้คนเดียว เอาจริงๆ คุณขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยคนอื่นแบบนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ไม่คุ้มครองหรอกค่ะ)
- ถึงโชคชัย 4 เราก็เตรียมลงไปค่ะ รอรถจอดดีดีค่อยเดินไป ทีนี้เราลงคนสุดท้ายแน่ๆ แต่ยังโชคดีค่ะ น้องผู้ชายคนที่ช่วยเราตอนล้มตอนแรก เค้ายืนรอให้เราลงก่อน เพราะเค้าคงกลัวว่าถ้าเราลงทีหลัง รถเมล์อาจแกล้งได้
เราลงมาถึงป้ายด้วยน้ำตาคลอๆ นึกย้อนว่าทำไมสังคมเรา เป็นแบบนี้ ผู้หญิงคนนึงเค้าขอแค่เวลา 9 เดือนเพื่อที่เค้าจะเรียกร้องสิทธิ์ความน่าสงสารนี้ สังคมให้เค้าไม่ได้เลยหรือ
สุดท้าย มนุษย์แม่ค่ะ ติดเข็มกลัดที่ท้องกันนะคะ ให้มันเป็นสัญลักษณ์ที่ต่อไปทุกคนจะได้เข้าใจและช่วยเหลือเราค่ะ
คนท้องไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากความเห็นใจเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าเป็นคนทำงานคนหนึ่งที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะมาโดยตลอด และเป็นคนที่ Fastest life มากๆ ไม่ว่าจะ Bts หรือรถเมลล์เรายืนได้ตลอดเพราะด้วยความที่ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ แต่ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือหลังมือเลยค่ะ กลายเป็นคน Slow life อย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะ......
ตอนนี้ตั้งท้องได้ 4 เดือนแล้วค่ะ กำลังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คนเป็นแม่ทุกคนคงเข้าใจ ชีวิตมนุษย์แม่อย่างเราต้องตื่นเช้าแพ้ท้อง ออกมาทำงานด้วยร่างกายเหนื่อยล้า ทำงานๆๆๆ จนเย็น ช่วงเย็นนี้ถือว่าเป็นช่วงพีคสุดของวันเลยค่ะ เหนื่อย หอบ เดินช้า มีอาการหน่วง ตึงที่ท้อง ต้องเดินอย่างระวัง แต่ด้วยความที่สภาวะสังคมไม่เอื้ออำนวย ทุกคนต่างเร่งรีบกลับบ้านกัน เราทนได้ถึงไม่ได้นั่งขอแค่ไม่ชนกันก็พอ
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า...เมื่อวานวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 18.30 น.
เรารอ Bts เพลินจิต รอคนแรกฝั่งซ้าย ซึ่งเราเห็นแล้วว่ามีที่นั่งอยู่ด้านซ้ายเหมือนกัน และคนที่รอด้านขวาเราถ้าสังเกตุเราดีดีจะเห็นว่าเราเอามือลูบท้องบ่อยมาก และติดเข็มกลัดไว้ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าคนที่ติดเข็มกลัดที่ท้อง นั่นคือสัญลักษณ์นะคะ คุณจะได้มั่นใจว่าคุณสามารถลุกให้คนที่ติดเข็มกลัดนั่งได้ เค้าไม่ใช่คนอ้วนค่ะ ซึ่งเมื่อวานเราใส่ชุดรัดรูปที่ท้องยื่นออกมาแบบไม่ใช่คนอ้วนแน่ๆ มาต่อกันตอนที่รถ Bts จอดค่ะ ผู้หญิงด้านขวาเดินไปตรงที่นั่งที่ว่าง เค้าไวกว่าเราค่ะ เค้านั่งลงโดยหันไปยิ้มๆ มองกับเพื่อนที่เดินตามเข้ามา เราบอกเลยค่ะ เราไม่พอใจมาก เพราะโดยมารยาทคุณเข้าด้านซ้าย ก็ต้องชิดด้านซ้ายใช่ไหม๊คะ แต่พอเห็นที่ว่างด้านขวาคุณเดินปาดหน้าคนท้องโดยไม่ใยดี เราเลยยืนหันหน้าเข้ากระจกค่ะ มีผู้ชายสองคนยื่นหน้ามามองท้องเราแล้วก้มหน้าไปต่อ มีทอมหนึ่งคนตรงหน้าเราก็มองแต่ไม่สนใจ เอาจริงๆ เราไม่รู้หรอกค่ะว่าคุณป่วยเป็นอะไรกันบางคนโลกสวยอาจบอกว่า เค้าอาจเป็นมะเร็ง เนื้องอกก็ได้เค้าเลยลุกให้คุณนั่งไม่ได้ แต่เท่าที่ดูอาการก็นั่งเล่นเกมส์ มือถือไม่มีใครที่แสดงอาการว่าป่วยเลย ยอมรับนะคะว่าเสียใจ เพราะป้ายมันก็มีบอกไว้ว่า กรุณาเอื้อเฟื้อแก่ พระ เด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์ แต่สุดท้ายก็ยืนจนมาถึงอนุเสาวรีย์ค่ะ เรายอมรับนะคะว่าอยากนั่งมากๆ อยากเดินเข้าไปบอกคนตรงป้ายค่ะ ชี้ป้ายให้ดูแล้วบอกว่า ดิฉันท้องค่ะ ขอนั่งได้ไหม๊? แต่ด้วยความที่ไม่เป็นไรมันมีที่เกาะแล้วก็ไม่ได้โลดโผนเหมือนรถเมล์ เลยอดใจไว้ค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าคนท้องใช้ลูกเป็นโอกาสหาที่นั่ง
ขอเลยนะคะ ต่อจากนี้ถ้าเห็นคนที่เหมือนจะอ้วนแล้วติดเข็มกลัดที่ท้อง คิดไปเลยนะคะว่านั่นแหละค่ะ คนท้องไม่ต้องอายที่จะช่วยเค้าเลยค่ะ
เรื่องยังไม่จบเท่านี้นะคะ
เมื่อต่อรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่อาคารจอดแล้วจร เพื่อรอรถเมล์ค่ะ มีรถร่วมบริการสาย 182 เบอร์ 182-4 ของบริษัทเชาว์ กระแสร์ชล (จากชื่อบริษัท ดูน่านั่งนะคะ น่าจะขับแล้วเย็นสบายเรื่อยๆ)
แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ เราอุตส่าห์หลีกเลี่ยงสาย 8 ซึ่งทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นยังไง เอาวะสาย 182 คนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ขึ้นไปก็ยืนหันหน้าออกหระจกฝั่งประตู ช่วงหน้าตรงห้องเครื่อง ไม่ได้นั่งไม่เป็นไร ไม่กี่ป้ายก็ลง แต่พอไฟเขียวเท่านั่นค่ะ คนขับเหมือนทะเลาะกับสาย 8 เรื่องที่ว่าเค้าโบกมือขอทางแล้วไม่ให้ จึงเกิดการขับบี้ เบียด และปาดกันเกิดขึ้น เราไม่ไหวค่ะ ที่เกาะข้างบนก็อยู่ไกล เกาะได้แค่ตรงที่นั่ง เห็นตรงห้องเครื่องไม่มีคนนั่ง และเขียนไว้ว่าห้ามเอาเท้าเหยียบ ช่วงนั้นไม่คิดอะไรแล้วค่ะ รีบแซกสองคนไปนั่งเลย น้องผู้ชายคนที่ยืนข้างๆ เราน่ารักมากค่ะ ตอนเราจะเดินเหมือนจะล้มเค้าก็ช่วยจับ จนเราได้นั่ง โอเคก็โล่งใจ ทันใดนั้น....
กระเป๋ารถเมล์สาว : ห้องเครื่องนั่งไม่ได้นะคะคุณ รถเค้ามีแม่ย่านาง
คุณแม่ท้องสาว : ยืนไม่ได้หรอกค่ะ ขับรถแบบนี้ คนท้องยืนไม่ได้
กระเป๋ารถเมล์สาว : ท้องก็ไปขึ้นคันหลังดิวะ.....รถเค้ามีแม่ย่านาง (คิดได้นะคะ งั้นก็รบกวนอย่าเก็บตังค์คนท้องนะคะ ก็ไล่ลงไปเลยตั้งแต่ทีแรก)
คุณแม่ท้องสาว : ก็ขับดีดีหน่อยสิคะ คนท้องจะได้ยืนได้
- ทันใดนั้นก็มีผู้ชายตรงที่นั่งข้างหน้าเรา ลุกให้เราไปนั่งตรงนั้นแทน ต้องขอบคุณนะคะที่คุณมีน้ำใจ อาจกลัวเราโดนกระเป๋าหรือคนขับทำร้าย
กระเป๋ารถเมล์สาว : บ่นไม่หยุดค่ะ ด่าคนท้องมาเรื่อยๆ บอกไปฟ้องเลย เอาเลขทะเบียนไปเลย
- ตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์นี้ คนขับก็ไม่ได้ขับดีขึ้นนะคะ ยังปาดไปปาดมา ขนาดคนไม่ท้องยังยืนกันแทบไม่ได้ ถามหน่อยถ้าชั้นยืนแล้วล้มไป เป็นอะไรขึ้นมาใครรับผิดชอบไม่มีหรอกค่ะ ขนาดข่าวที่ผ่านๆ มารถร่วมชนคนตายมาเท่าไหร่ ปัญหานี้ก็ยังไม่หมดไปสักที
กระเป๋ารถเมล์สาว : เดินมานั่งตรงห้องเครื่องค่ะ แล้วก็มองเราแบบไม่พอใจ (ในใจก็คิดนะคะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะมีใครช่วยเราไหม๊ และแม่ย่านางที่บอกล่ะหรือคุณนั่งได้คนเดียว เอาจริงๆ คุณขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยคนอื่นแบบนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ไม่คุ้มครองหรอกค่ะ)
- ถึงโชคชัย 4 เราก็เตรียมลงไปค่ะ รอรถจอดดีดีค่อยเดินไป ทีนี้เราลงคนสุดท้ายแน่ๆ แต่ยังโชคดีค่ะ น้องผู้ชายคนที่ช่วยเราตอนล้มตอนแรก เค้ายืนรอให้เราลงก่อน เพราะเค้าคงกลัวว่าถ้าเราลงทีหลัง รถเมล์อาจแกล้งได้
เราลงมาถึงป้ายด้วยน้ำตาคลอๆ นึกย้อนว่าทำไมสังคมเรา เป็นแบบนี้ ผู้หญิงคนนึงเค้าขอแค่เวลา 9 เดือนเพื่อที่เค้าจะเรียกร้องสิทธิ์ความน่าสงสารนี้ สังคมให้เค้าไม่ได้เลยหรือ
สุดท้าย มนุษย์แม่ค่ะ ติดเข็มกลัดที่ท้องกันนะคะ ให้มันเป็นสัญลักษณ์ที่ต่อไปทุกคนจะได้เข้าใจและช่วยเหลือเราค่ะ