คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
- รายได้ตอนนี้ 12,000 บาท ดึงออกมา 30% >> 3,600 บาท คิดกลับเป็นวงเงินกู้ได้ประมาณ 5-6 แสนบาทครับ
- รายได้พิเศษเป็นค่าอะไรครับ ถ้ามีใบเสร็จรับเงินชัดเจนสม่ำเสมอ ก็อาจจะเอามาคิดได้ ไม่แน่ใจว่าธุรกิจส่วนตัวหรือเปล่า หรือเป็นค่าพิเศษจากที่ทำงาน ถ้ามีลงไปสลิปเงินเดือนด้วยก็จะเอามาคิดเพิ่มได้ครับเป็น 15,000 >> กู้ได้ 7-8 แสนบาท
- จะกู้ได้เท่าไหร่จริงๆต้องรอธนาคารมาประเมินหลังจากยื่นกู้ไปแล้วครับ ถ้าอยากกู้มากกว่าที่เขาประเมินให้ก็อาจจะต้องใช้เทคนิคพิเศษนิดหน่อย ($$$)
- จริงๆเงินฝากไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ครับ แต่เก็บไว้ก็ดีเพราะต้อนซื้อจริงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วเอามาเป็นส่วนตกแต่งห้องด้วยครับ
- ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือรายได้ที่รับทุกเดือน ห้ามถอนออกมาใช้จนหมดครับ เหลือติดบัญชีไว้อย่างน้อยสัก 4,000 บาท (ใกล้เคียงกับค่างวด) เพราะธนาคารจะได้เห้นว่าคุณยังมีเงินเหลือมาผ่อนอยู่ครับ ทำแบบนี้สม่ำเสมอทุกเดือนไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบปีครับ
- บัตรเครดิตปิดหมดแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ รอเอกสารรับรอง แต่ในระบบบูโรก็ยังจะมีข้อมูลเครดิตสกอร์ที่ไม่ดีอยู่ครับ ต้องรอเวลาประมาณ 6 เดือน - 1 ปีอย่างน้อย เพื่อที่คะแนนจะได้ดีขึ้นครับ
- บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นครับ และจ่ายให้ตรงเวลา จ่ายให้เต็มจำนวน เครดิตสกอร์จะได้ดีน่าเชื่อถือครับ ถ้าจ่ายช้าหรือไม่เต็ม จะกลายเป็นข้อเสียทันทีที่ทำให้คุณมีประวัติไม่ดี แสดงถึงไม่มีวินัยในการผ่อนชำระ ซึ่งถ้าธนาคารเห็นจะไม่เสี่ยงปล่อยกู้ให้ครับ
- เรื่องที่ว่าจะกู้ได้เท่าไหร่อย่าเพิ่งกังวลไปครับ เพราะรอดูตอนกู้จริงๆดีกว่า ว่าธนาคารจะประเมินให้มาเท่าไหร่และตอนนั้นคุณก้อาจจะได้เงินเดือนเพิ่มมากขึ้นก็จะกู้ได้มากขึ้นตามไปอยู่แล้วครับ แต่ถ้าธนาคารเสนอวงเงินกู้อีกวงให้เป้นค่าตกแต่ง ก็ต้องดูให้ละเอียดครับว่าอัตราดอกเบี้ยอันนี้เท่ากับอัตราดอกเบี้ยของวงเงินกู้บ้านไหม เพราะปกติแล้วดอกอันนี้จะแพงกว่าเพราะจัดอยู่ในสินเชื่อเอนกประสงค์ ไม่ใช่สินเชื่อกู้บ้านครับ
ช่วงนี้เก็บเงินและสร้างเครดิตไปก่อนนะครับ พยายามทำให้สม่ำเสมอครับ ตอนกู้ก็จะได้ง่ายครับ ถ้ารีบซื้อแนะนำว่ารอเร็วสุดสัก 6 เดือนค่อยยื่นกู้ใหม่ครับ อีกช่องทางคือลองติดต่อกับบริษัทที่ทำงานก่อนว่าเขามีสวัสดิการกู้บานกับธนาคารไหนเป็นพิเศษไหม เพราะว่าถ้ามีก็จะกู้ง่ายเลยครับ ดอกถูก ได้วงเงินสูง โปรโมชันดีครับ แต่ถ้าไม่มีก็ลองกู้กับธนาคารของรัฐก่อนเช่น ธอส ออมสิน กรุงไทย และค่อยธนาคารเอกชนครับ เพราะดอกจะแพงกว่าแต่ก็จะยืดหยุ่นเรื่องวงเงินและเอกสารมากกว่าด้วยเช่นกัน แต่ดูแล้วของคุณไม่มีปัญหาเรื่องเอกสาร จะมีแค่เรื่องเครดิตสกอร์ ก็ต้องใจเย็นค่อยๆใช้เวลาสร้างเครดิตใหม่ขึ้นมาครับ และช่วงนี้อย่าเพิ่งไปสร้างหนี้เพิ่มหรือผ่อนอะไรอีกนะครับ ไม่งั้นจะกลายเปนรายจ่ายตอนยื่นกู้จริง ทำให้รายรับสุทธิน้อยลง และก็จะได้วงเงินที่น้อยตามไปด้วยครับ
โชคดีครับ
- รายได้พิเศษเป็นค่าอะไรครับ ถ้ามีใบเสร็จรับเงินชัดเจนสม่ำเสมอ ก็อาจจะเอามาคิดได้ ไม่แน่ใจว่าธุรกิจส่วนตัวหรือเปล่า หรือเป็นค่าพิเศษจากที่ทำงาน ถ้ามีลงไปสลิปเงินเดือนด้วยก็จะเอามาคิดเพิ่มได้ครับเป็น 15,000 >> กู้ได้ 7-8 แสนบาท
- จะกู้ได้เท่าไหร่จริงๆต้องรอธนาคารมาประเมินหลังจากยื่นกู้ไปแล้วครับ ถ้าอยากกู้มากกว่าที่เขาประเมินให้ก็อาจจะต้องใช้เทคนิคพิเศษนิดหน่อย ($$$)
- จริงๆเงินฝากไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ครับ แต่เก็บไว้ก็ดีเพราะต้อนซื้อจริงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วเอามาเป็นส่วนตกแต่งห้องด้วยครับ
- ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือรายได้ที่รับทุกเดือน ห้ามถอนออกมาใช้จนหมดครับ เหลือติดบัญชีไว้อย่างน้อยสัก 4,000 บาท (ใกล้เคียงกับค่างวด) เพราะธนาคารจะได้เห้นว่าคุณยังมีเงินเหลือมาผ่อนอยู่ครับ ทำแบบนี้สม่ำเสมอทุกเดือนไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบปีครับ
- บัตรเครดิตปิดหมดแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ รอเอกสารรับรอง แต่ในระบบบูโรก็ยังจะมีข้อมูลเครดิตสกอร์ที่ไม่ดีอยู่ครับ ต้องรอเวลาประมาณ 6 เดือน - 1 ปีอย่างน้อย เพื่อที่คะแนนจะได้ดีขึ้นครับ
- บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นครับ และจ่ายให้ตรงเวลา จ่ายให้เต็มจำนวน เครดิตสกอร์จะได้ดีน่าเชื่อถือครับ ถ้าจ่ายช้าหรือไม่เต็ม จะกลายเป็นข้อเสียทันทีที่ทำให้คุณมีประวัติไม่ดี แสดงถึงไม่มีวินัยในการผ่อนชำระ ซึ่งถ้าธนาคารเห็นจะไม่เสี่ยงปล่อยกู้ให้ครับ
- เรื่องที่ว่าจะกู้ได้เท่าไหร่อย่าเพิ่งกังวลไปครับ เพราะรอดูตอนกู้จริงๆดีกว่า ว่าธนาคารจะประเมินให้มาเท่าไหร่และตอนนั้นคุณก้อาจจะได้เงินเดือนเพิ่มมากขึ้นก็จะกู้ได้มากขึ้นตามไปอยู่แล้วครับ แต่ถ้าธนาคารเสนอวงเงินกู้อีกวงให้เป้นค่าตกแต่ง ก็ต้องดูให้ละเอียดครับว่าอัตราดอกเบี้ยอันนี้เท่ากับอัตราดอกเบี้ยของวงเงินกู้บ้านไหม เพราะปกติแล้วดอกอันนี้จะแพงกว่าเพราะจัดอยู่ในสินเชื่อเอนกประสงค์ ไม่ใช่สินเชื่อกู้บ้านครับ
ช่วงนี้เก็บเงินและสร้างเครดิตไปก่อนนะครับ พยายามทำให้สม่ำเสมอครับ ตอนกู้ก็จะได้ง่ายครับ ถ้ารีบซื้อแนะนำว่ารอเร็วสุดสัก 6 เดือนค่อยยื่นกู้ใหม่ครับ อีกช่องทางคือลองติดต่อกับบริษัทที่ทำงานก่อนว่าเขามีสวัสดิการกู้บานกับธนาคารไหนเป็นพิเศษไหม เพราะว่าถ้ามีก็จะกู้ง่ายเลยครับ ดอกถูก ได้วงเงินสูง โปรโมชันดีครับ แต่ถ้าไม่มีก็ลองกู้กับธนาคารของรัฐก่อนเช่น ธอส ออมสิน กรุงไทย และค่อยธนาคารเอกชนครับ เพราะดอกจะแพงกว่าแต่ก็จะยืดหยุ่นเรื่องวงเงินและเอกสารมากกว่าด้วยเช่นกัน แต่ดูแล้วของคุณไม่มีปัญหาเรื่องเอกสาร จะมีแค่เรื่องเครดิตสกอร์ ก็ต้องใจเย็นค่อยๆใช้เวลาสร้างเครดิตใหม่ขึ้นมาครับ และช่วงนี้อย่าเพิ่งไปสร้างหนี้เพิ่มหรือผ่อนอะไรอีกนะครับ ไม่งั้นจะกลายเปนรายจ่ายตอนยื่นกู้จริง ทำให้รายรับสุทธิน้อยลง และก็จะได้วงเงินที่น้อยตามไปด้วยครับ
โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากกู้ห้องชุดเอื้ออาทร ย่านปากเกร็ดค่ะ